ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง
ป่วนกระแสกับบุญชิต ฟักมี ว่าด้วย “ประจุพลัง” ทั้งหลายที่วนเวียนในประเทศนี้

บุญชิต ฟักมี

พลังบวก

หนึ่งปีที่ผ่านมา ไม่มีวาทกรรมใดฮิตไปกว่า “คิดบวก” “มองโลกในแง่บวก” หรือ “ปลุกพลังบวก”

เรียกว่า แทบจะเป็นคัมภีร์ประจำชีวิตของประชาชนคนไทยไปแล้ว กลายเป็นเครื่องประดับติดตัว คล้ายๆรองเท้าฟลิบฟลอบทางปัญญา สำหรับคนรุ่นใหม่จิตใจงามไปทีเดียว

ฟลิบฟลอบนั้นเขาเอาไว้รองตีน แต่คิดบวกนั้นเอาไว้รองความคิดและอุดมการณ์

แนวคิดบวกนี้มาจากความคิดที่ว่า สิ่งใดๆที่เกิดขึ้นในโลกนี้ จะร้ายจะดี มันเกิดจาก “ความคิด” (หรือถ้าแนวพุทธๆหน่อยเขาเรียก “จิต”) ของเราเองทั้งสิ้น

เรียกว่า เหตุการณ์หรือสถาวะทั้งหลายนั้นไม่มี “ค่า” อะไร เรานั้นเองที่ไปกำหนดค่าให้มัน ติดสลากกำหนดว่ามันเป็นเรื่องดีหรือร้าย

ดังนั้นเราจึงควรเอา “เครื่องหมายบวก++” ไปแปะไว้ที่อะไรๆก็ตามที่เราเห็นว่ามันร้าย มันแย่ มันไม่ดี

ตัวอย่างหรือครับ

- เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ

- เวลาเจอคำตำหนิ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ

- เวลาเจอความป่วยไข้ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการเตือนให้เห็นคุณค่าของการรักษาสุขภาพให้ดี

ฯลฯ

บางอันมันหนักข้อไปถึงขั้นว่า

- บ้านไฟไหม้ ขอให้ดีใจว่าได้รู้คุณค่าของการมีที่ซุกหัวนอน

- พ่อตาย ให้บอกตัวเองว่า ต่อไปนี้จะได้เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวสักที

- ถูกไล่ออกจากงาน จะได้ยินดีว่าชีวิตจะมีอิสรภาพ มีเวลาว่าง ได้ลองเปลี่ยนอาชีพใหม่

- หนังสือตกรอบไม่ได้เข้าชอร์ตลิสต์ ให้คิดว่า เราควรเปลี่ยนแนวไปเขียนเรื่องตลกลามกเหมือนเดิมดีไหม (ข้าพเจ้าเอง)

จนกระทั่งในที่สุด เส้นแบ่งระหว่างการ “คิดบวก” กับการ “หลอกตัวเอง” ก็พร่าเลือน

เจองานหนักแล้วบอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมเข้าสู่มืออาชีพ สมมติว่าคุณเป็นผู้ช่วยทนายความ แล้วรุ่นพี่คุณใช้ให้ไปถ่ายเอกสารสำนวน 500 หน้า 500 ชุดเป็นเวลาสามเดือนติดต่อกัน อืม... ถามตัวเองว่าอยากเป็นมืออาชีพด้านการถ่ายเอกสารหรือเปล่า

เจอคำตำหนิ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ ปรากฎว่า ถ่ายเอกสารผิดขาดไปสามชุด รุ่นพี่ด่าว่า “ไอ้ควาย !” - จบ อืม อันนี้สงสัยชี้ให้เห็นขุมทรัพย์สัตว์สี่เท้าในตัวเรา

พอป่วยไข้เพราะแพ้ผงหมึกเครื่องถ่ายเอกสารหรือเพราะทำงานควงกะถึงตีสอง ก็ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการเตือนให้เห็นคุณค่าของการรักษาสุขภาพให้ดี แล้วที่สอนให้ตูเตรียมพร้อมเป็นมืออาชีพล่ะครัฟ !

หรือบางคนบางกลุ่ม ไปจำคำพระมา บอกว่า ความเจ็บความปวดนั้นมันเป็นเพราะเราดันไปถือไปยึดมันเอาไว้เอง ปวดหัว ปวดหลัง ปวดท้อง นั่นเพราะเราคิดว่า มันคือ หัวของเรา หลังของเรา ท้องของเรา ถ้ามีหาง หางก็คงปวด แต่เพราะเราไม่มีหาง เราถึงไม่ปวดหาง

น่าท้าให้พวกชอบพูดแนวนี้ทดลองว่า เวลาปวดขี้ ให้นึกว่า ขี้ไม่ใช่เรา ตูดไม่ใช่เรา แล้วค่อยมาทบทวนอีกทีเวลากางเกง (ที่ก็คงไม่ใช่ของเรา) เลอะเพราะขี้ราด

(อึราดก็เป็นเรื่องดี เพราะแปลว่าระบบขับถ่ายเรายังทำงานได้ - มาสเตอร์ออฟคิดบวกท่านหนึ่งกล่าวตอบ … สาธุว์)

บางครั้งวาทกรรมคิดบวกถูกใช้เพื่อเป็นเครื่องปลุกใจสำหรับธุรกิจขายตรง หรือหัวหน้างานที่จะหลอกให้ลุกน้องอุทิศเวลาและพลังให้

“อย่าคิดว่าเราทำไม่ได้ ถ้าไม่ได้ทำ”

“ทุกสิ่งเป็นไปได้ภายใต้ความพยายาม”

“ความสำเร็จทั้งหลาย เป็นไปได้ถ้าคุณเชื่อว่าคุณจะมี คุณจะเป็น”

… ดีมาก ไปหาลูกข่ายให้ได้ 46 คน ใน 8 วัน ! รายงานชิ้นนี้ 500 หน้า ลูกค้าจะเอาเช้า ไหวนะ ปิดงานนี้ให้ได้ก่อนเที่ยง ไม่มีโอทีให้ เอาใจแลกมาถือเป็นทีมเดียวกัน ปลุกพลังบวกในตัวคุณขึ้นมา โย่ว์ โย่ว์

ในที่สุดพลังบวกก็กลายมาเป็นยากล่อมประสาทไม่ให้คนรู้สึกว่าถูกเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งการคิดบวกนี้ถ้ากินคู่กับยาอีกขนานหนึ่งจะมีประสิทธิภาพในการกล่อมหลอนมาก คือยาจีนที่ชื่อ “ปางหว่อย” - หรือภาษาไทยแปลว่า “ปล่อยวาง”

ปัญหาอะไร เราแก้ไม่ได้ ใหญ่เกินตัว จงวางมันลง - คีย์เน้นคำหลักของลัทธิปางหว่อย

ลูกปวดท้องตัวงอ พาไป รพ. รัฐ คิวยาวขนาดไปรอคิวตอนตีห้าได้รักษาสิบเอ็ดโมง แถมต้องพาเดินจากตึกโน้นไปตึกนี้ต่อตึกนั้นแล้วค่อยกลับมาจ่ายเงินที่เดิม ก็คิดบวกว่า ลูกปวดท้องทำให้เราต้องระวังเรื่องอาหารการกินของลูกให้มากกว่านี้ ลูกปวดท้องยังดีว่ายังมีลูก และระบบโรงพยาบาลสับสนห่วยแตกก็ เป็นปัญหาใหญ่เกินตัว เราแก้ไขไม่ได้ แต่เราวางมันลงได้

เอ้าวาง... ลงไปข้างๆ ปัญหาการใช้งานเกินเวลาโดยไม่จ่ายโอทีด้วย เพราะถือเป็นการฝึกตนให้เป็นมืออาชีพ วางลงข้างๆปัญหาอาชญากรรมเพราะเราทำอะไรไม่ได้ ระวังตัวเองไว้เป็นพอ

ชาวพลังบวกที่ถือลัทธิปางหว่อย เห็นว่า เราไม่จำเป็นต้องเรียกร้องเพื่อแก้ปัญหาใดๆ ในเชิงโครงสร้างหรือความไม่เป็นธรรมในสังคมเลย เพราะแทบทุกปัญหาแก้ไขได้ด้วยการคิดบวกและปล่อยวาง ปัญหาทั้งหลายแก้ไขได้จากตัวเราเองไม่ต้องไปเรียกร้องในสิ่งเกินตัว “เพียงตัวเราเป็นคนดีเท่านี้พอ”

และแน่นอน อะไรก็ตามที่ “เยอะ” เกินไป มันก็จะดีดกลับ พลังบวกที่ท่วมท้น ส่งผลให้เกิดกระแสมุมกลับ คือ “พลังลบ”

พลังลบนี้เป็นมุมกลับของพลังบวก คือ มองหาจุดพลาดจุดพร่องของสรรพสิ่ง มองให้เห็นว่า ไอ้ที่บอกกันว่า “ดี” ทั้งหลายน่ะ “ดี” จริงหรือ คุณรู้ได้ไงว่าดี

การตั้งคำถามเช่นนี้ทำให้รอบคอบไม่หลงกลกับภาพลวงตาพลังบวก หรือวาทกรรมกล่อมประสาท แต่กระนั้นก็เถอะ – มากไปมันก็ “เยอะ” อีกแบบ คือ มึงจะดาร์กอะไรหนักหนากับชีวิต

- งานรับปริญญา คือความฟุ่มเฟือยโง่งม ถูกครอบงำด้วยกระแสที่สุดแห่งการศึกษาคือปริญญา สิ้นเปลืองเสียเปล่า ทั้งดอกไม้ ของขวัญ และเวลา

- เห็นพ่อใช้แม่ขี่มอเตอร์ไซด์ไปซื้อหมูปิ้งปากซอย ก็น้ำตาร่วงด้วยรู้สึกถึงการกดขี่ทางเพศและการครอบงำของค่านิยมชายเป็นใหญ่ในครัวเรือน

- เห็นลูกวัยสองขวบยกมือไหว้โทรทัศน์ รู้สึกอนาถว่าตกเป็นเหยื่อพรอบพากันด้าตั้งแต่เยาว์วัย

ฯลฯ

ไม่ว่าจะมองโลกในแง่บวก แง่ลบเกินไป สุดท้ายเราก็จะติดกับดัก “พลังคูณ” เข้าให้

พลังคูณ คือเห็นอะไร “มาก” เกินจริงไปโข

อย่างที่ยกตัวอย่างไป ไฟไหม้บ้าน พ่อตาย ก็หาข้อดีมาสนับสนุนพลังบวก

หรือบางเรื่องเราก็มองเสียลบแบบ โล้บบบ ลบบบ จนกระทั่งว่า เฮ้ย เรื่องมันเลวร้ายปานนั้นเลยรึ หรือมันมีการหลอกลวงครอบงำเอารัดเอาเปรียบกันเสียทุกเรื่องขนาดนั้นเลยหรือ

สุดโต่งกันเสียทุกทางเช่นนี้ อยากขอแนะนำทั้งฝ่ายคิดลบ คิดบวก ว่า ให้หา “พลังหาร” ติดตั้งในใจลงไปถ่วงดุลย์เสียหน่อย ว่าเรา “เยอะ” ไปไหม

เรามองอะไรในแง่ “คิดบวก” จนหลอกตัวเองถึงระดับ พ่อตายก็ดีใจ หรือถูกใช้งานอย่างไม่เป็นธรรมก็รู้สึกดี หรืออดทนกับความไม่เข้าท่าของระบบแบบไม่คิดตั้งคำถามหรือเปล่า ?

หรือเรา “คิดลบ” จนมันเบี้ยวไปอีกข้างไปไหม ? แม่ขี่มอ’ไซด์ ไปซื้อหมูปิ้งให้พ่อ อาจจะไม่ใช่เรื่องกดขี่ทางเพศตะหวักตะบวยอะไรหรอก เพราะถ้าพ่อกลับบ้านช้าหรือเมากลับมายังต้องมากราบไหว้แม่ประหลกๆ ขอเข้าบ้านอยู่เลย ไอ้เรื่องที่ลูกไหว้ทีวีก็อาจจะแค่ เห็นในทีวีเขาไหว้เขากราบก็ไหว้ตามกราบตาม หรืองานรับปริญญามันก็แค่พ่อแม่ฉลองว่า ที่กูส่งๆจ่ายๆ ไปหลายปี มันไม่เสียเปล่าโว้ย ต่อไปกูไม่ต้องส่งแล้วโว้ย - แค่นั้นเอง

พยายามหารออกมา จนกระทั่งอะไรๆ มันเหลือเท่าที่มันเป็น ไม่ติดบวก ไม่ติดลบได้ เป็นดีที่สุด

ปวดอึก็ไปเข้าส้วม ทำงานหนักก็พักบ้าง งานยากทำไม่ไหวก็ไปบอกเขาตรงๆไม่ต้องกระแดะคิดว่าได้ฝึกฝีมือ (เดี๋ยวงานเสียขึ้นมารับผิดชอบไม่ไหว) ถ้าเห็นว่าถูกเอาเปรียบก็โวย ป่วยก็หาหมอ หมอช้าก็ไปถามว่าทำไมช้า ถ้าไม่ไหวจริงๆเพราะปัญหาโครงสร้างก็เขียนร้องเรียน ญาติตายก็เอาไปเผา เศร้าได้ บ้านไฟไหม้โทรเรียกประกัน แต่ไม่ต้องดรามา ไม่ต้องหาข้อดีของการญาติเสียหรือบ้านวอด ฯลฯ

เจอคนคิดบวก คิดลบ คิดคูณยกกำลังจนชักจะ “เยอะ” เมื่อไร

ติด “พลังหาร” เอาไว้ในใจเราก็ดีครับ

(บทความนี้พัฒนาความคิดมาจากงาน “นรกพลังบวก” ในนิทรรศการ “ตรรกะสังสรรค์” ที่แอบหนีเมียไปกับชมกับหลิ่มหลีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา – ใครอย่าไปฟ้องเมียผมเข้าเชียว เดี๋ยวจะเจอ “พลังบวก” ระหว่างสากกะเบือกับกบาลกระผม)

ที่มา ประชาไท


Create Date : 02 สิงหาคม 2554
Last Update : 2 สิงหาคม 2554 17:03:24 น. 0 comments
Counter : 503 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.