เมื่อGoogle VS. Microsoft ความมันส์จึงบังเกิดขึ้น(ตอนที่4)
หกเดือนที่ทีมนี้ซื้อเซิฟเวอร์ของตัวเอง รันและเฝ้าสังเกตเซิฟเวอร์ฟาร์ม (กลุ่มของเครื่องเซิฟเวอร์จำนวนมาก ๆ) อย่างถี่ถ้วน มันใช้เวลามาก --กินเวลามหาศาล ทีมของเพนย์รับรู้ว่า --ต้องใช้ความพยายามสูงและมากเพื่อจะตั้งระบบสืบค้นขึ้นมา (กูเกิลได้รับการประเมินกว้าง ๆ ว่าใช้เซิฟเวอร์ 250,000 เครื่องเพื่อสนับสนุนระบบสืบค้น) เทคโนโลยีที่พวกเพนย์เปิดเผย ในที่สุดคือการโมดิฟายด์เครื่องเซิฟเวอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโด้อย่างหนัก องค์ประกอบอื่น ๆ ทั้งหมดออกแบบด้วยพวกเขาเอง ทำงานด้วยซอฟท์แวร์ที่เขียนด้วยตัวเอง
ความมั่นใจพุ่งสูงขึ้น ผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟท์กล่าวกับบุคคลสำคัญเกี่ยวกับการต่อสู้กับกูเกิล "จะจบลงเหมือนกับเรื่องของเนตสเคปอีกครั้งหนึ่ง" ไมโครซอฟท์มีประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่งและยาวนานในการไล่กวดคู่แข่งที่รวดเร็ว เริ่มต้นเข้าสู่ตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ในท้ายที่สุดก็จะสร้างโซลูชั่นที่ดีและใช้งานได้เหมาะสมออกมา จากนั้นเบียดคู่แข่งออกจากตลาด บริษัทไม่ได้เล่นตามกฏเสมอไป แต่เมื่อมันไล่ตามคู่แข่งในตลาด ไมโครซอฟท์ทำได้รวดเร็วและก้าวร้าวมาก ผู้บริหารของบริษัทรุ่นปัจจุบันและรุ่นก่อนหน้า เช่น Apple, WordPerfect, Lotus, Novell, และแน่นอน Netscape สามารถยืนยันเรื่องดังกล่าวได้
เช่นเดียวกับกูเกิล เนตสเคปคุกคามระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์ ในกรณีของเนตสเคป เวบบราวเซอร์ที่สร้างโดยมาร์ค แอนเดรียเซน ราคา 39.95 เหรียญ ในปี 1994 เนตสเคปเปิดเผยว่า จะทำให้ผู้ใช้ ใช้งานแอพพลิเคชัน เช่นเวิร์ดโปรเซสเซอร์ และสเปรดชีทจากเครื่องเซิฟเวอร์บนอินเตอร์เนต ไม่ต้องใข้งานบนฮาร์ดดิสในเครื่องของผู้ใช้งานเอง หากทำได้จะทำให้ความต้องการใช้วินโดว์หรือชุดออฟฟิศน้อยลง ค่อย ๆ ทำลายธุรกิจของไมโครซอฟท์ แต่เกตส์ระดมพลไมโครซอฟท์ให้พัฒนาบราวเซอร์ของตัวเอง แถมฟรีไปกับวินโดว์ จากนั้นส่วนแบ่งทางการตลาดของเนตสเคปจึงลดฮวบ และขายกิจการให้กับ AOL ไปอย่างรวดเร็ว 3 ปีหลังจากนั้น (เช่นเดียวกับสำนักพิมพ์ฟอร์จูน ส่วนหนึ่งของไทม์ วอร์เนอร์)
ความพยายามสร้างเครื่องมือที่ฆ่ากูเกิล สำหรับไมโครซอฟท์ ไม่ว่าจะแอบทำเงียบ ๆ แค่ไหน ด้วยการทดลองที่ยากลำบาก ต้องอาศัยเวลายาวนาน ใช้เงินจำนวนมาก ก็เปิดเผยให้เห็นปัญหาของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ มากกว่าผู้ใดจะเคยจินตนาการ ดังที่เพนย์คาดการณ์ไว้ การโฆษณาออนไลน์เป็นขุมทองจริง ๆ แม้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจที่ร้อนแรงที่สุดในธุรกิจไฮเทค 5 พันล้านต่อปี และตลาดเติบโต 40% ทุก ๆ ปี ไม่ว่าสิ่งที่เพนย์และคณะทำอะไร กูเกิลและยาฮูดูเหมือนจะทำได้ดีกว่า "ผมจำได้ว่าเมื่อ [ทีมงานของเพนย์] แสดงต้นแบบของเขาในราวปี 2004 --คนหัวเราะเยาะเพราะมันเหมือนของกูเกิลมาก" อดีตผู้บริหารของไมโครซอฟท์กล่าว "พวกเราก็อปปี้เขา แล้วจะเป็นผู้นำได้อย่างไร"
ความกลัดกลุ้มของเพนย์คือ ไมโครซอฟท์ไม่คล่องแคล่วว่องไวเท่าคู่แข่งที่หนุ่มแน่นกว่า ดังเช่นกูเกิลและยาฮู ตัวอย่างคือ ที่กูเกิล วิศวกรรับผิดชอบซอฟท์แวร์เฉพาะส่วนที่พวกเขาเขียนขึ้น พวกเขาไม่ต้องปล่อยให้ทีมงาน "จับฉ่าย" เข้าไปจัดการเรื่องบัก เมื่อบางอย่างผิดพลาด ทีมที่เขียนซอฟท์แวร์เองและรู้เรื่องดีที่สุดเป็นผู้รับผิดชอบแก้ไขมัน
ด้วยระบบบริหารแบบพิธีรีตรองและด้วยตัวเกตส์เอง ยื่นมือเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานของเพนย์ Underdog ดำเนินการไปเชื่องช้า ด้วยการขัดแย้งภายใน MSN และระหว่างกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ 6 หน่วยในบริษัท ผู้บริหารของไมโครซอฟท์ตอบสนอง Underdog ด้วยการยึดหลักผลสำเร็จขององค์กรตัวเองมาก่อน อดีตผู้บริหารรายหนึ่งเล่าให้ฟัง ซึ่งนั่นหมายความว่า ทุก ๆ การทำงานจากทีมของเพนย์ร่วมกับฝ่ายอื่น ๆ จะต้องผูกติดกับกลุ่มธุรกิจวินโดว์ เพนย์และทีมของเขาพยายามเร่งความเร็วในการพัฒนาด้วยการหาทาง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระบบสืบค้น แต่ก็เจอสิ่งกีดขวางอยู่เสมอ ในฤดูใบไม้ผลิของปี 2003 เพนย์บอกให้เกตส์ซื้อกิจการ Overture ซึ่งจะช่วยให้เทคโนโลยีเซิร์สเอ็นจินของไมโครซอฟท์ก้าวล้ำหน้าไปกว่า Altavista และจะช่วยให้ธุรกิจโฆษณาสร้างผลกำไรมหาศาล แต่เกตส์ล้มเลิกแผนการนี้ ชักจูงว่าไมโครซอฟท์สามารถทำงานนี้เองได้ดีกว่าด้วยเงินที่น้อยกว่า ยาฮูเข้ามาแทนที่ด้วยการซื้อ Overture ไป ความเคลื่อนไหวนี้รวมกับการซื้อ Inktomi ไปก่อนหน้า ทำให้ยาฮูก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างรวดเร็วเพียงช่วงระยะเวลาปีเดียว ในการแข่งขันกันให้บริการระบบสืบค้น
ในฤตูใบไม้ร่วงของปี 2003 ไมโครซอฟท์พิจารณาจะซื้อกูเกิล เพียงเพื่อจะเข้าใจว่าแม้ บริน, เพจ, และเหล่าผู้บริหารจะถูกเกลี้ยกล่อมให้ขาย --ก็คงไม่ขาย
ไมโครซอฟท์ต้องออกมาอธิบายกับชาวโลกว่า ทำไมปัจจุบันจึงใช้ลินุกซ์สำหรับงานระบบสืบค้นของตนเองแทนที่จะเป็นวินโดว์ แม้เมื่อไมโครซอฟท์ซื้อบริษัท Lookout ในเดือนมิถุนายน 2004 (Lookout เป็นผู้เชี่ยวชาญการค้นหาอีเมล์ outlook) ไมโครซอฟท์ก็ไม่ได้เพิ่มความสามารถให้ซอฟท์แวร์ค้นหาข้อมูลทั้งหมดในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ค่าตอบแทนที่ไมโครซอฟท์ขยับตัวเชื่องช้า ปรากฏผลชัดเจนเมื่อฤดูฝนที่ผ่านมา กูเกิลโจมตีตลาดของโมโครซอฟท์ ด้วยโปรแกรม desktop-search ก่อนหน้าไมโครซอฟท์สองเดือน ข่าวนี้ฉีกหน้าไมโครซอฟท์ขนานใหญ่ ทุก ๆ คนตั้งแต่เกตส์ลงมา รีบเร่งเปิดประชุมเพื่อประเมินว่าผลิตภัณฑ์ของกูเกิลดีอย่างไร พวกเขาคิดว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แม้กระนั้น มันก็ลดความภาคภูมิใจของพวกเขาลง "ที่นี่ ไมโครซอฟท์จ่ายเงิน 600 ล้านเหรียญต่อปีเพื่อการวิจัยและพัฒนา MSN, 1 พันล้านเหรียญต่อปีสำหรับชุดออฟฟิศ, และกูเกิลเปิดตัว desktop search ก่อนเรา? มันเป็นการตะโกนปลุกให้ตื่นขึ้นจริง ๆ" ผู้บริหารคนหนึ่งพูด "มันเป็นครั้งแรกที่คนจำนวนมากในบริษัทเข้าใจว่ากูเกิลเป็นมากกว่าเครื่องมือสืบค้นข้อมูล คนพูดกันว่า ถ้าพวกเขาสามารถทำ desktop-serach ได้ จะมีอะไรขัดขวางไม่ให้เขาทำซอฟท์แวร์อย่างเช่น Excel, PowerPoint หรือ Word หรือซื้อ Star Office [จาก Sun Microsystem]?"
Create Date : 03 สิงหาคม 2548 |
Last Update : 3 สิงหาคม 2548 17:28:13 น. |
|
2 comments
|
Counter : 477 Pageviews. |
|
|
|
ทีมงาน
//www.tismarketing.com
//www.tistranslation.com
//www.tisprinting.com
//www.tisphot.net