#นิ่วในถุงน้ำดี เป็นโรคในระบบทางเดินอาหารที่พบได้บ่อย และอาจมีอันตรายรุนแรงถึงชีวิตหากไม่รีบรักษา ซึ่งจากสถิติพบว่าคนที่มีนิ่วในถุงน้ำดี 1 ใน 3 ไม่มีอาการแสดง
นิ่วในถุงน้ำดีเกิดจากการตกตะกอนของหินปูน(แคลเซียม) หรือคอเลสเตอรอลที่อยู่ในน้ำดี สาเหตุที่ทำให้เกิดการตกตะกอนของสารเหล่านี้เชื่อว่าเกี่ยวกับการติดเชื้อของทางเดินน้ำดีและความไม่สมดุลของสารประกอบในน้ำดี จึงทำให้เกิดเป็นก้อนนิ่วเล็กๆ ก้อนเดียว หรือหลายๆ ก้อนก็ได้
หากก้อนนิ่วไปอุดตันท่อทางเดินน้ำดี จะส่งผลทำให้ถุงน้ำดีอักเสบเกิดความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร ถ้าไม่รุนแรงมักจะมีอาการจุก เสียด แน่นท้องหรือท้องอืด หลังทานอาหาร เป็นอาการเตือนทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารซึ่งในบางคนอาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากการที่ถุงน้ำดีอักเสบได้ เช่น เกิดอาการปวดบริเวณใต้ชายโครงขวา มีไข้ร่วมกับคลื่นไส้ อาเจียน
หรือหากมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงกว่านั้น เช่น ก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่และหลุดผ่านท่อของถุงน้ำดีออกไป ก็จะไปอุดตันท่อน้ำดีส่วนต้นก่อนที่จะลงไปถึงลำไส้เล็ก ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการจุกแน่นบริเวณลิ้นปี่รุนแรง ทะลุไปบริเวณด้านหลัง บริเวณสะบักด้านขวา ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อบริเวณถุงน้ำดี มีไข้ขึ้น หนาวสั่น ถึงขั้นช็อกจากภาวะติดเชื้อได้
และที่อันตรายกว่านั้นคือ เนื่องจากทางเดินของท่อน้ำดี ท่อของตับอ่อน สัมพันธ์กัน หากท่อน้ำดีอุดตันจากนิ่ว ก็จะทำให้การระบายของน้ำย่อยกับตับอ่อนมีปัญหาระบายไม่ได้ ทำให้มีภาวะตับอ่อนอักเสบเกิดร่วมด้วย ซึ่งภาวะตับอ่อนอักเสบที่เกิดจากนิ่วในถุงน้ำดี เป็นภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่อันตรายถึงเสียชีวิตได้
📌ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติที่ชวนสงสัย ”นิ่วในถุงน้ำดี” ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาการอาจรุนแรงเกิดภาวะแทรกซ้อน และยากต่อการรักษาได้ครับ
นิ่วในถุงน้ำดีเหมือนระเบิดเวลา... แต่เราตรวจพบและป้องกันได้ง่ายด้วยการตรวจอัลตราซาวด์เป็นวิธีที่ง่าย รวดเร็ว ไม่เจ็บปวด ซึ่งหากตรวจพบตะกอนในถุงน้ำดี หรือก้อนนิ่วขนาดเล็ก อาจรักษาด้วยการคุมอาหาร ทานยา หรือใช้กล้องส่องทางเดินอาหารเพื่อคีบนิ่วออกโดยไม่ต้องผ่าตัด
วิธีการรักษานิ่วในถุงน้ำดีโดยการส่องกล้องผ่าตัด https://bit.ly/2HiGr2w
สายด่วนสุขภาพโทร 0 2743 9999 ต่อ 2999