ยุง ยุง ยุง ภัยร้ายใกล้ ใกล้ ตัว
เมื่อพูดถึงยุง คุณพ่อคุณแม่ทุกทุกคนก็ต้องบอกว่า...ใช่เลย ว่าไม่อยากให้เข้ามาใกล้กรายลูกรัก นอกจากว่าจะทำความรำคาญ อาจทำให้เกิดผื่นแพ้จากยุงกัด แล้วที่สำคัญก็คือ โรคร้ายที่อาจะเยือนลูกสุดที่รักได้ไข้เลือดออก... แค่ฟังเพียงชื่อ ก็บอกได้เลยว่า อย่าดีกว่า ไข้เลือดออกนี้มักจะระบาดในฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงพฤศจิกายน แต่ก็เกิดขึ้นได้ ประปรายทุกเดือน มักมีการระบาดทุกปีเว้นปี พบส่วนมากในเด็กอายุ 5-14 ปี ในเด็กอายุต่ำกว่า 4 เดือน พบน้อยมาก เชื้อที่เป็นสาเหตุ ก็คือ เชื้อเดงกี ไวรัส (Dengue Virus) โดยยุงลาย (Aedes aegypti) เป็นพาหะนำเชื้อที่สำคัญ เจ้ายุงลายที่กัดคนนี้เป็นยุงตัวเมีย ชอบกัดเวลากลางวัน ช่วงเวลาที่ชอบกัด คือ 9.00 - 11.00 น. และตอนบ่าย 14.00 - 16.00 น. นั่นแน่ สงสัยกลางคืนจะนอนพักผ่อนละซิ ในกรุงเทพฯ มียุงลายมากเกือบตลอดปี เพราะแหล่งเพาะยุงอยู่ในตุ่มน้ำ ในแจกันต่าง ๆ แต่การที่ยุงจะกัดคนมากหรือน้อย ขึ้นกับอุณหภูมิด้วย ถ้าอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 28-35 องศาเซลเซียส ยุงจะชอบ แต่ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส ยุงก็จะกัดคนน้อยลง
ไข้เลือดออกนี้ มีระยะฟักตัวหลังจากได้รับเชื้อแล้ว ประมาณ 2-6 วัน สำหรับอาการแสดงแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะด้วยกัน คือ 1. ระยะไข้สูง ผู้ป่วยมักจะมีไข้ขึ้นสูงเฉียบพลัน เบื่ออาหารและอาเจียน ในวันที่ 2-3 ของระยะนี้เด็กมักจะซึมลง และหน้าตาแดง หรือเป็นผื่นแดงนูน และอาจมีจุดเลือดออกเล็ก ๆ ตามผิวหนัง อาการไข้จะคงอยู่ประมาณ 3-7 วัน ช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่มักจะกังวลเรื่องไข้มาก ๆ ข้อสำคัญก็คือ ห้ามให้ยาลดไข้ประเภทแอสไพริน เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ 2. ระยะทอกซิก, ช็อก และหรือระยะเลือดออก อาการจะเกิดขึ้นประมาณวันที่ 3-6 ของโรค ผู้ป่วยจะมีไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว แต่อาการทั่วไปจะเลวลง มีอาการกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นเร็ว ผู้ป่วยจะมีอาเจียนมากขึ้น และปวดท้อง บางรายอาจมีอาการซึม และเข้าสู่สภาวะช็อก บางรายอาจมีอาเจียนเป็นเลือด ระยะนี้จะอยู่ประมาณ 24-48 ชั่วโมง ถ้าไม่เสียชีวิตหรืออยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างดี จะเข้าสู่ระยะที่ 3 3. ระยะฟื้น ผู้ป่วยจะเริ่มรับประทานอาหารได้ ลุกขึ้นนั่งได้ อาการตับโตจะค่อยลดลงเป็นปกติใน 1-2 สัปดาห์ เห็นไหมละว่า ไข้เลือดออกนี้น่ากลัวขนาดไหน มิหนำซ้ำการรักษา ก็ยังไม่มียารักษาเฉพาะเจาะจง ส่วนใหญ่แล้ว ก็ต้องให้การรักษาประคับประคองตามอาการ และระวังเรื่องภาวะแทรกซ้อน ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก การป้องกันโรคจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด อาจทำได้ 2 วิธีคือ 1. ป้องกันอย่าให้ถูกยุงกัด โดยการใช้มุ้งลวด กางมุ้ง หรือให้ยาทากันยุง 2. ปราบและทำลาย ยุงลาย.......ตัวนำโรค โดยการกำจัดแหล่งวางไข่ ภาชนะที่ใส่น้ำทั้งหลายควรมีฝาปิด อย่าให้มีน้ำขังอยู่ในกระป๋อง กะลาหรือแจกัน จะเป็นวิธีลดจำนวนยุงลง และไม่สามารถแพร่โรคต่อไป นอกจากนี้ โรคร้ายอื่น ๆ ที่อาจมากับยุงได้ เช่น ไข้สมองอักเสบ ไข้มาลาเรีย ก็มีความร้ายแรงไม่แพ้กัน ฉะนั้นแล้วทางที่ดีก็คือ อย่าดีกว่า อย่าให้ยุงกัดจะดีกว่า และดีที่สุด //ram-hosp.co.th
Create Date : 27 เมษายน 2554 |
Last Update : 27 เมษายน 2554 9:26:38 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1290 Pageviews. |
|
|
|
|