Group Blog
 
All Blogs
 
เรื่องของบุญรอด

เรื่องสั้น

เรื่องของบุญรอด

เพทาย

เมื่อเช้าของวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๔๘ เวลาประมาณ ๐๖.๓๐ น. ผมจะออกจากบ้านไปใส่บาตร และซื้อแกงถุงมาเป็นอาหารเช้าตามปกติ ก็เห็นก้อนดำ ๆเล็กนิดเดียวกองอยู่ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ จึงรู้ว่าเป็นลูกแมวเพิ่งคลอดใหม่ ๆ ผมนึกว่ามันตายแล้ว จึงออกจากบ้านไป กะว่ากลับมาจะจัดการศพให้

เมื่อผมกลับมาปรากฏว่า มันกระดุกกระดิกได้ และแถกพื้นหมุนตัวไปรอบ ๆ ผมกลัวว่ามดจะรุมกัดจึงเอาไปใส่ตะกร้าเล็ก ๆ เอาเศษผ้ารองพื้นไว้ รอเผื่อแม่มันจะกลับมาคาบเอาไปเลี้ยง

ผมกินข้าวแล้วก็เขียนหนังสือ จนกินข้าวกลางวันแล้วก็นอนหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาตอนประมาณ บ่ายสองโมง ก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้องระงม จึงนึกถึงลูกแมวสีดำตัวนั้นได้ และเดินออกไปดูที่ตะกร้าซึ่งวางไว้หน้าห้องรับแขก ปรากฏว่าไม่มีในตะกร้า มันหลุดไปได้อย่างไรไม่ทราบ ไปนอนแอ้งแม้งอยู่ในรางระบายน้ำเสีย ที่เผอิญน้ำแห้งแต่ไม่ได้แห้งสนิท มันจึงเปียกเปื้อนไปทั่วตัว ระหว่างนั้นมันก็กลิ้งไปกลิ้งมาพร้อมกับส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร

ผมต้องเก็บมันขึ้นมาจากรางนั้น แล้วหาอ่างเก่า ๆ ที่ใบโตกว่าตะกร้า เอาผ้าผืนเก่าปูรองแล้ววางมันลงไปตามเดิม พร้อมกับเอากระดาษเช็ดมือซับน้ำบนตัวจนค่อยแห้งลง มันจึงเงียบเสียง

แต่ปรากฏว่ามีเสียงลูกแมวร้องดังมาจากอีกทิศทางหนึ่ง คือข้าง ๆ บ้านซึ่งมีพงหญ้ารกรุงรัง ผมเดินไปดูก็เห็นลูกแมวอีกตัวหนึ่งสีขาว กำลังล้มลุกคลุกคลานกลิ้งเกลือกอยู่ จึงบุกพงหญ้าเข้าไปเอามันมาวางไว้ในกะละมังเดียวกันกับเจ้าดำ มันจึงเงียบเสียงลงไปได้เหมือนกัน

ผมวางกะละมังไว้ใต้โต๊ะหน้าห้องรับแขก เผื่อฝนตกจะได้ไม่เปียก รอให้แม่มันมาดูแล แต่แม่ของมันก็ไม่ได้มาคาบไปเหมือนแม่แมวตัวอื่น ๆ ที่ผมเคยเห็นมาเลย ผมไม่เคยเลี้ยงแมว เพียงหาอาหารเม็ดให้แมวพเนจรหน้าบ้านกินเท่านั้น แล้วผมจะทำอย่างไรดี

มันเพิ่งเกิดมายังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง มันควรจะกินอะไรหรือยัง ผมควรจะเอาน้ำให้มันกินได้ไหม มันยังไม่ลืมตาจะป้อนอย่างไร ถ้าแม่มันทิ้งไปเลย ผมมิต้องเลี้ยงมันไปจนกว่าจะโตหรือ แล้วผมจะทำอย่างไร ในเมื่อผมไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อนเลย

ใครก็ได้ที่ผ่านมา ช่วยผมด้วยครับ นึกว่าเวทนาแกสัตว์ผู้ยาก..... ช่วยด้วยครับ......ช่วยด้วย

ผมร้องตะโกนลงไปในอินเตอร์เนต และในไม่ช้า ก็มีผู้เมตตากรุณาต่อแมว ส่งความคิดเห็น คำแนะนำ คำปลอบใจและเห็นใจ ด้วยความเอื้ออารีมากมาย ตลอดทั้งวัน

ต่อมาผมจึงได้ทราบว่า ข้างบ้านมีลูกแมวอยู่อีกตัวหนึ่ง จึงไปถามเขาว่าเห็นแม่มันไหม เขาว่ามันมาออกลูกตอนสาย ๆ แล้วก็หายไปเลย ทิ้งลูกไว้ในที่โล่ง ๆ สายสะดือยังไม่หลุด เขาจึงหา กล่องเปล่ามาใส่มันไว้ ตัวนี้ด่างขาวน้ำตาล และเห็นแม่มันซึ่งด่างขาวดำ มาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่เหมือนกัน

ผมจึงขอเอาเจ้าสองตัวที่บ้านผมมาไว้รวมกัน โดยเอากะละมังของผมทิ้งไว้ให้ เผื่อแม่มันจะมาดูลูกบ้าง หรืออาจจะคาบเอาไปทั้งสามตัวก็ได้

พอทุ่มกว่า ๆ ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ผมจึงสวมหมวกออกไปดูพวกมันที่บ้านนั้น ปรากฏว่าเขายกกะละมังเข้าไปไว้ใต้หลังคาแล้ว เป็นอันว่าคืนนี้ผมจะได้นอนตาหลับเสียที

แต่เมื่อผมนอนหลับไปได้สักพัก หลังฝนหายแล้วก็ยังได้ยินเสียงลูกแมวร้องวี๊ด ๆ อยู่อีก แต่ผมก็หลับต่อไปได้ แม้เมื่อลุกขึ้นมาฉี่ตอนตีสามครึ่ง ก็ยังได้ยินเสียงลูกแมวร้องอยู่อีก แต่ด้วยความง่วงงัวเงีย ผมก็หลับต่อไปจนถึงหกโมงเช้า

๑๔ พฤษภาคม ๒๕๔๘ เมื่อผมตื่นล้างหน้าล้างขี้ตาแล้ว ก็ออกไปใส่บาตรกลับมา จึงรู้ว่าลูกแมวที่มันร้องมาตลอดคืนนั้น ไม่ใช่ลูกแมวที่อยู่บ้านโน้น ที่จริงมันร้องอยู่ในพงหญ้าที่เดิม ตัวมันเป็นสีขาว ผมจึงเข้าใจว่าเป็นตัวเดิม แม้จะสงสัยว่ามันกลับมาได้อย่างไรตั้งไกล จากกะละมังที่อยู่บ้านโน้น ผมจึงเอากะละมังแตกอีกใบหนึ่ง เอาผ้าขี้ริ้วรองพื้น แล้วก็ไปจับตัวลูกแมวที่กำลังดิ้นกระแด็ก ๆ อยู่ในพงหญ้ามาใส่ไว้อีก มันจึงเงียบเสียงลงไปได้

ผมรออยู่จนสายจึงไปสั่นกระดิ่งเรียกบ้านที่ฝากแมวไว้เมื่อเขาเปิดให้เข้าไปก็พบว่าลูกแมวสีดำได้ตายไปแล้ว แต่ที่เหลือสองตัวคือเจ้าขาวกับเจ้าด่าง ผมจึงรู้ว่าเจ้าตัวสีขาวที่ได้มาเมื่อเช้านี้ เป็นตัวที่สี่ มันคงจะต้องตากฝนอยู่ตลอดคืนทีเดียว

คุณป้าเจ้าของบ้านมีอาชีพร้อยพวงมาลัยขาย แกบอกว่าไม่มีเวลาที่จะมานั่งดูแลลูกแมวเหล่านี้ได้ แม่ของมันก็ไม่มาเลย ในไม่ช้ามันก็จะตายหมด ผมจึงว่าขอให้ผมเอามันไปไว้ที่บ้านผมเถอะ ถ้าตายก็จะฝังถ้ายังก็จะเลี้ยงเอง ผมต้องทำอะไรให้มากกว่าที่จะรอให้มันตายไปต่อหน้า ทีละตัวอย่างแน่นอน ซึ่งแกก็ยกให้ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ผมจึงเอากะละมังที่มีแมวสองตัวกลับมารวมกับเจ้าน้องใหม่ เป็นสามตัวขาวสองด่างหนึ่ง

จากนั้นผมก็แต่งตัวออกไปโรงพยาบาลสัตว์ ที่ถนนราชวิถีใกล้ทางรถไฟ เมื่อปรึกษาคุณหมอผู้หญิงท่าทางใจดี ท่านก็บอกว่าขวดนมลูกแมวไม่มี แต่มีขวดนมลูกหมา ผมดูด้วยตาแล้วเห็นว่าหัวนมมันใหญ่กว่าปากของลูกแมวแน่ จึงถามหาอุปกรณ์อย่างอื่น

คุณหมอก็เอาหลอดสำหรับดูดยาฉีดมาให้ โดยไม่คิดเงิน ผมจึงถามหานมที่จะให้ลูกแมวเพิ่งเกิดกิน หมอก็หยิบเอามาให้ดูเป็นกระป๋องโตพอสมควร ราคาสามร้อยบาท ผมก็อึ้งอยู่นิดหนึ่ง หมอก็เอาอย่างเป็นซองมาให้ แต่ก็ใหญ่พอดูหนักสามร้อยกรัม ราคาสองร้อยบาท

ผมจึงเกี่ยงว่านมสดตราหมีแมวกินได้ไหม หมอว่านมวัวไม่เหมาะสำหรับแมว ผมเลยถามต่ออีกว่า ถ้าแมวกินไม่หมดผมจะกินต่อได้ไหม หมอไม่ตอบแต่หัวร่อกี๊กไปเลย ความจริงผมถามไปงั้นเอง เพื่อคลายเครียด

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็จัดแจงชงนมใส่ขวดเล็ก ๆ แล้วแบ่งใส่ถ้วยเอาหลอดดูยาฉีดที่หมอให้มา ดูดนมไปจ่อที่ปากลูกแมว มันก็ไม่ยอมอ้าปาก ต้องอุ้มมันขึ้นมามันจึงจะอ้าปากร้อง ผมก็เอาปลายหลอดแหย่เข้าไปในปากของมัน และกดให้น้ำนมไหล มันก็พอจะกลืนได้บ้างหกเสียบ้าง เพราะไปกล้ากดแรงกลัวนมจะพุ่งเข้าหลอดลม ดูท่าว่ามันไม่เคยดูดนมแม่มาก่อนเลย

ผมลองให้นมมันทั้งสามตัว พอรู้รสนมเสียก่อน แล้วบ่าย ๆ จึงจะลองใหม่ แล้วผมก้เอานมที่เหลือไปเทใส่จานอาหารแมวที่หน้าบ้าน พอดีเจ้าสีอ่อนท้องโตเดินพุงโย้ผ่านมา ก็เข้ามาเลียกิน ผมก็บอกมันไปว่า เวลาออกลูกไปออกที่บ้านอื่นบ้างนะ แล้วจะเอาเจ้าสามตัวนี้ไปฝากให้เลี้ยง มันก็ไม่ว่าอะไร ก้มหน้าเลียนมจนหมดเกลี้ยง

จนถึงบ่ายสองโมงผมก็ชงนมใส่ขวดใหม่ แล้วก็แบ่งใส่ถ้วยมาป้อนเจ้าสามตัว ด้วยหลอดดูดยาฉีดเช่นเดิม คราวนี้มันพอจะดูดปลายหลอดได้บ้าง แต่ไม่มากนักก็หันหน้าหนี จนถึงสี่โมงเย็นก็ป้อนมันอีกรอบหนึ่ง นมที่เหลือก็เก็บเข้าตู้เย็นไว้

คราวนี้เจ้าขาวตัวหนึ่งนอนนิ่งเสียแล้ว หยอดนมใส่ปากก็ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ สงสัยจะเป็นตัวที่ตากฝนเมื่อคืน ส่วนอีกสองตัวยังส่งเสียงร้องและดูดนมกลืนได้มากขึ้น

หลังจากนั้น เมื่อผมออกจากบ้านจะไปถ่ายเอกสาร ก็พบแมวด่างดำขาวหางกุดซึ่งเคยท้องป่อง คราวนี้ท้องมันยุบลงไปและเห็นหัวนมห้อยอยู่ จึงเรียกเพื่อนบ้านออกมาดูว่าเจ้าตัวนี้ใช่ไหมที่เป็นแม่เจ้าตัวเล็ก ซึ่งเขาเห็นมันขระที่กำลังคลอดลูก เขาก็ยืนยันว่าใช่แน่ ผมจึงวานให้เขาเอากะละมังใส่ลูกแมวสามตัวไปวางไว้ใกล้ ๆ มัน เพราะปกติมันขี้ระแวงไม่ยอมให้ผมเข้าใกล้ แล้วผมก็ไปถ่ายเอกสาร

เมื่อกลับมาก็เห็นว่า เจ้าด่างหางกุดตัวนั้นนอนอยู่ใกล้ ๆ กะละมังลูก แต่ก็ไม่ได้เข้ามาดมหรือมาเลีย หรือคาบไปไว้ที่อื่น ผมไม่กล้าจะทิ้งกะละมังไว้นอกบ้านได้ จึงยกเข้ามาวางไว้ในบ้านตามเดิม

เมื่อแม่มันไม่ยอมเลี้ยง ผมก็จำต้องเลี้ยงเจ้าสามตัวนี้ต่อไป เพราะเราคงมีกรรมผูกพันต่อกันอยู่ก็ได้ ผมจะพยายามทำหน้าที่ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของผมนี้ ให้ดีที่สุดทั้ง ๆ ที่ไม่มีความรู้มาก่อนเลย ก็สุดแล้วแต่เวรกรรมเท่านั้น ผมคิดได้ดังนี้แล้ว จึงสามารถทำใจให้เป็นปกติได้ ไม่กระวนกระวายเดือดร้อนใจเท่าใดนัก วันนี้ผ่านไปแล้ว พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ถึงไม่รู้มันก็เข้ามาหาเราจนได้

ก่อนจะสิ้นสุดวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พอถึงตอนค่ำผมให้นมอีกรอบหนึ่ง จึงเห็นว่าเจ้าตัวขาวที่นอนนิ่งนั้น ได้สิ้นลมหายใจไปอีกตัวหนึ่งแล้ว จึงเหลือเพียงสองตัว ขาวกับด่าง

๑๕ พฤษภาคม ๒๕๔๘ เป็นวันที่สามแล้ว ที่เก็บเจ้าลูกแมวกำพร้ามาเลี้ยงไว้ เมื่อให้อาหารเม็ดแก่แมวหน้าบ้านก็มีเจ้าด่างดำขาวหางขอดโผล่เข้ามาอีกตัวหนึ่ง พร้อมกับเจ้าด่างหางกุดตัวเดิม และมีลักษณะเป็นแมวแม่ลูกอ่อนเหมือนกัน เลยไม่แน่ใจว่าตัวไหนเป็นแม่ที่แท้จริง ของไอ้เจ้าสองตัวในกะละมัง

ตลอดวันนี้ก็ยังมีผู้อ่านในเนตมาให้ความเห็น และส่งกำลังใจให้เป็นระยะ ๆ และบางท่านก็แนะนำมาหลังไมค์ ซึ่งทำให้ผมซาบซึ้งในน้ำใจไมตรีของท่านเหล่านั้นเป็นอย่างยิ่ง ผมให้นมประมาณสองชั่วโมงต่อครั้ง โดยเปลี่ยนจากหลอดดูดยาฉีด เป็นหลอดดูดหมึกพิมพ์คอมพิวเตอร์ ที่มีลูกยางสำหรับบีบด้านท้าย ทำให้ป้อนง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก เจ้าขาวกินน้อยนอนมาก เจ้าด่างดูดกินได้มากขึ้น ดิ้นมากขึ้น และร้องถี่ขึ้น ทำให้ผมมีความหวังว่ามันจะรอด จึงตั้งชื่อเจ้าขาวว่า บุญเหลือ เจ้าด่างชื่อ บุญรอด กลางคืนก็ยกกะละมังเข้ามาไว้ในห้องรับแขก เพื่อป้องกันภัยจากสัตว์ร้าย กลางวันก็เอาออกไปไว้หน้าห้อง ให้นมกินมันก็หลับ พอหิวก็ลุกขึ้นร้องเป็นวัฏฏะจักรไปเช่นนี้ทั้งวัน จนผ่านวันที่ ๑๖ ไปได้อีกวันหนึ่ง

๑๗ พฤษภาคม ๒๕๔๘ เวลาประมาณ ๐๖.๔๐ น. ยกกะละมังออกมาจะให้นมเจ้าสองตัว ก็พบว่าเจ้าขาวหรือบุญเหลือ ไม่หายใจไปอีกตัวหนึ่งแล้ว คงเหลือเจ้าด่างหรือบุญรอด เพียงตัวเดียว กินนมครั้งละสองหลอด

๑๘ พฤษภาคม ๒๕๔๘ วันนี้มีผู้ใจบุญแจ้งว่าจะส่งขวดนมลูกแมวมาให้ ผมก็ดีใจและขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง เจ้าบุญรอดตอนเช้ายังแหกปากร้อง และไต่ไปตามผ้าขนหนูที่เอามามัดให้เป็นชะนีที่เขาใช้ห้อยผ้าป่าได้อย่างแข็งแรง อ้าปากดูดนมได้มากขึ้น แต่พอตกเย็นเสียงร้องก็ชักอ่อยลง และดูซึม ๆ ไป ยิ่งดึกเสียงยิ่งเบาลง ต้องลุกมาดูที่กะละมังเห็นนอนเงียบก็ไม่สบายใจ อยากให้มันร้องทั้งคืนอีก

๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๘ เวลาตีห้ากว่า ๆ ผมมาดูบุญรอดที่กะละมังเพื่อให้นม เพราะแปลกใจที่ไม่มีเสียงร้อง หยิบตัวมันขึ้นมาจึงร้องเพียงค่อย ๆ เมื่อเอานมป้อนให้ก็ไม่ยินดีที่จะกลืน ทั้ง ๆ ที่เมื่อวานกินได้ถึงสามหลอด เมื่อเห็นว่าไม่เอาแน่แล้วผมก็วางลงตามเดิม มันก็ไม่ตะเกียกตะกายเหมือนเช่นเคย เป็นสัญญาณว่ามันไม่อยากจะอยู่กับผมเสียแล้ว ถ้าอยู่ได้ถึงพรุ่งนี้เช้า ก็คงจะมีปาฏิหาริย์เท่านั้น

ถึงเวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. บุรุษไปรษณีย์ก็นำพัสดุมาส่งให้ ภายในเป็นขวดนมลูกแมว ที่มีผู้ใจบุญส่งมาตามที่บอก ผมรีบล้างทำความสะอาดแล้วกรอกนมใส่ อุ้มบุญรอดขึ้นมา เอาหัวนมใส่ปาก แต่บุญรอดไม่ดูดเสียแล้ว.......... อนิจจา

พอถึงเวลาประมาณ ๑๘.๓๐ น.บุญรอดก็นอนนิ่งเงียบ ไม่ขยับเขยื้อน และไม่มีเสียงร้อง ผมต้องยกกะละมังขึ้นมาดูอย่างใกล้ชิด จึงจะเห็นว่าท้องยังกระเพื่อมอยู่ จึงไม่อยากจะแตะต้องตัว ให้เกิดเวทนา ทั้งผมและบุญรอด ขอให้จากไปอย่างสงบเถิด...........ลูกเอ๋ย

เมื่อเวลาผ่านไปอีกไม่นาน ประมาณ ๑๙.๐๐ น. ผมเข้ามาเขียนรายงานในเนตแล้ว ก็ออกไปดูบุญรอด ปรากฏว่านอนนิ่งเฉย พอเอานิ้วเขี่ยก็เขยื้อนไปทั้งตัว แสดงว่าหมดลมหายใจ ปราศจากวิญญาณเสียแล้ว ไม่นึกเลยว่าจะเร็วอย่างนี้ รู้สึกใจหายไปวูบหนึ่ง

ชีวิตของบุญรอด ตั้งแต่เกิดมาเมื่อ ๑๓ พฤษภาคม จนถึง ๑๙ พฤษภาคม เป็นชีวิตที่สั้นมาก ยังไม่ทันจะลืมตาขึ้นดูโลกใบนี้เสียด้วยซ้ำ แต่ในโลกของความเป็นจริง ทุกสิ่งย่อมเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น บุญรอดจึงต้องตายตามพี่น้องของมันไป เป็นตัวสุดท้าย โดยไม่มีปาฏิหาริย์

หน้าที่ของผมจึงสิ้นสุดลงเพียงนี้ ขอบุญกุศลที่ผมได้ทำแล้ว จงคุ้มครอง บุญรอด บุญเหลือ เจ้าขาว และเจ้าดำ ให้ไปสู่สุคติ ในสัมปรายภพนั้นเถิด

และถ้าได้ใช้หนี้เวรกรรมหมดแล้ว ก็จงไปเกิดเป็นคนเสียเลย

และอย่าถูกแม่ใจร้าย ทอดทิ้งเหมือนชาตินี้อีก.

############

ถนนนักเขียน ห้องสมุดพันทิป
๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๘





Create Date : 20 กันยายน 2550
Last Update : 20 กันยายน 2550 9:14:52 น. 10 comments
Counter : 147 Pageviews. Add to






อรุณสวัสดิ์ค่ะ

สวัสดียามเช้าๆ วันที่ฝนตกค่ะ

อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

ขอให้มีความสุขค่ะ

โดย: ทิวาจรดราตรี วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:6:25:16 น.




ขอบคุณครับ
ฝนตกนอนหลับสบายดีมากครับ.

โดย: เจียวต้าย (เจียวต้าย ) วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:6:21:08 น.




เมื่อก่อนเคยเช่าบ้านอยู่ที่ภูเก็ต มีหมาจรจัดชื่อไอ้จ๋อย มาออกลูกทิ้งไว้พุ่มไม้หน้าบ้าน ฝนตกลูกหมาก้อร้องใหญ่เลย พอออกไปดูไอ้จ๋อยขุดหลุมให้ลูกมันนอนแต่ฝนตกหนักมากเลยเปียกทั้งแม่ทั้งลูก
เรียกเพื่อนไปช่วยกันจับลูกหมามาไว้ใต้ชายคาหน้าบ้าน มีทั้งหมดเจ็ดตัว รุ่งขึ้นลูกหมาเป็นหวัดน้ำมูกไหลทุกตัวโพดเลยไปซื้อยาทิฟฟี่เด็กเอามาหยอด ทุกตัวพ่นยาใส่หน้าโพดเลอะเทอะไปหมด แต่ก้อบังคับให้กินจนหมดทุกตัว
ป้อนยาอยู่สามสี่วันก้อหายสบายดี
เลี้ยงได้อาทิตย์กว่าบางวันก้อเอาลูกหมามาเล่นในบ้าน ตั้งชื่อให้เสร็จสรรพ
วันนึงไปทำงาน พอเลิกงานกลับบ้านเจอแต่ไอ้จ๋อยนั่งหน้าเศร้าอยู่หน้าบ้าน แต่ไม่มีลูกหมาซักตัว
คนข้างบ้านมาบอกว่าเจ้าของบ้านเค้าจับไปปล่อยหมดแล้ว แต่ไอ้จ๋อยมันหมาโตเค้าไม่กล้าจับกลัวมันกัด
พอได้ฟังแล้วสงสารไอ้จ๋อยมากนั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้าน
ไอ้จ๋อยมันคงรับรู้ว่าโพดก้อเศร้ามันเข้ามานั่งข้างๆเอาหัวมาซบขา ทั้งที่ปกติมันไม่เคยให้จับตัวเลย

โดย: ข้าวโพด IP: 121.55.242.19 วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:14:14:43 น.




นี่คือข้อมูลที่คุณจะเอาไปเขียนเป็นเรื่องสั้นได้สบาย

ลงมือเลยครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:20:10:04 น.




ขอบคุณคุณเจียวต้ายมากๆ ที่เป็นกำลังใจให้โพดค้าบ และโพดจะพยามต่อไป สู้สู้

โดย: ข้าวโพด IP: 202.123.145.203 วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:11:32:56 น.




ยังมีอีกหลายเรื่องครับ มาถูกทางแล้ว
ทำต่อไปครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:22:03:58 น.




แมวเลี้ยงยากขนาดนี้เลยหรือครับ

บังเอิญเจอแต่แม่แมวเลี้ยงลูกเป็น เลยไม่เคยเห็นมันตายสักตัว

โดย: พี่แต้ วันที่: 14 มีนาคม 2551 เวลา:22:35:58 น.




โชคดีที่ไม่ต้องเศร้าใจครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:9:59:28 น.




แม่แมวคงรู้ด้วยสัญชาตญาณว่าลูกมันคงไม่รอด มันก็เลยไม่ยอมเลี้ยงน่ะครับ

โดย: วิรุฬห์ IP: 124.120.232.203 วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:19:50:41 น.




มันคงเหมือนแม่ใจร้ายบางคนกระมังครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:8:23:28 น.





Create Date : 23 สิงหาคม 2554
Last Update : 23 สิงหาคม 2554 14:18:25 น. 5 comments
Counter : 740 Pageviews.

 
วันก่อนไปตีกอล์ฟ เจอลูกแมวสูงน่าจะ 4 นิ้ว น่าจะถูกเอามาปล่อยไว้กลางสนามกอล์ฟ เพราะมันไม่น่ามาจากไหนได้

เลยให้แค้ดดี้ก็เลยอุ้มมันไปที่โรงเลี้ยงของทหาร หวังว่าเขาคงรอด ที่บ้านเลี้ยงหมาตัวใหญ่ ชอบไล่แมวเสียด้วย


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:14:02:40 น.  

 
โมทนาสาธุด้วยครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:6:53:55 น.  

 
เรื่องนั้นที่น้ำลายไหลน่ะค่ะ
เพิ่งจะแวะไปอ่านอีกรอบ ก็เห็นพ้องกับคุณเจียวต้าย
สงสัยว่าตอนที่เขียน ด้นกันสดๆรวบรัดไปหน่อย
ลืมเล่าว่า คนที่นั่งด้านในลุกเดินออกไป
สาวเจ้าขยับไปนั่งด้านในชิดหน้าต่าง
ชายนุ่มก็มานั่งแทนที่

ขอบคุณนะคะ ที่กรุณาตรวจทานให้ค่ะ


แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 21 ตุลาคม 2554 เวลา:10:03:33 น.  

 
อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้นึกถึงเจ้าก้านธูป
เป็นนกที่ตกลงมาทั้งรัง ในช่วงที่ฝนฟ้าคะนอง
ต้องมาขอความรู้จากเพื่อนๆในบล็อกเหมือนกันค่ะ
กำลังหัดบินเลยทีเดียว แต่ตอนนี้เขาไปดีแล้วค่ะ



แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 21 ตุลาคม 2554 เวลา:10:40:30 น.  

 
บุญรอดและพี่น้องของมันทำให้ผมเป็นทุกข์อยู่หกวัน
แต่ก็ได้เห็นน้ำใจในความเมตตากรุณาของเพื่อนในห้องจตุจักรหลายรายครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 21 ตุลาคม 2554 เวลา:17:11:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.