|
สวรรค์ยังปราณี
เรื่องสั้น
สวรรค์ยังปรานี
เพทาย
ผมความหานาฬิกาพกในกระเป๋าถือใบเล็ก อย่างขะมักเขม้น เพราะมันรวมอยู่กับสิ่งของจิปาถะที่คิดว่าจำเป็นสำหรับผม เมื่อได้มาแล้วก็เห็นว่าเป็นเวลาอีกห้านาทีจะสี่โมงเย็น อันเป็นเวลานัดที่ผมจะต้องมาพบกับคนที่ไม่เคยรู้จักหน้าค่าตามาก่อนเลยในชีวิต
ผมเงยหน้าขึ้นมองอักษรตัวเอ็ม อันเป็นยี่ห้อของร้านรับประทานด่วนร้านนี้ ว่าใช่แน่นอนแล้ว ผมก็เอื้อมมือไปดึงประตูกระจกหนาตึ้กที่ค่อนข้างจะหนักเกินแรงของผู้อาวุโสบานนั้น
เมื่อนานมาแล้ว ผมเคยมารอคอยพบคนที่ไม่เคยรู้จักแบบนี้ ที่ภัตตาคารแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถึงสองครั้ง แต่ผมมีความมั่นใจกว่าครั้งนี้มาก และผมก็ประสบความสำเร็จ คือได้พบและได้คุยกับเพื่อนในถนนนักเขียน ห้องสมุดพันทิป มีจำนวนรวมกันแล้วกว่าสิบคน
แต่คราวนี้ผมหวั่นใจว่าจะผิดหวัง หรือที่เขาเรียกกันว่าแห้ว นั่นแหละ สาเหตุก็เพราะร้านอาหารที่ได้นัดหมายกันนี้ เป็นร้านที่ผมไม่เคยเข้ามาใช้บริการเลย แม้ว่าจะอยู่ไม่ห่างไกลจากบ้านที่อยู่อาศัยของผมมากนัก ทำให้ผมไม่รู้ว่าเขาขายอะไร และผมจะกินอะไรในร้านของเขาได้บ้าง
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ผมเขียนเรื่องสามก๊กลงในถนนนักเขียนมาได้ร่วมปี ห้องสมุดพันทิปก็มีการเปิดคลับสามก๊กขึ้น ผมก็ยินดีที่จะได้มีสนามลงเป็นหลักเป็นแหล่งเสียที ไม่ต้องเอาเรื่องพงศาวดารจีนเข้าไปเบียดแทรกในถนนนักเขียน ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องยาวเรื่องสั้นที่น่าอ่านมากมายก่ายกอง แต่แม้ว่าจะมีผู้อ่านที่สนใจเรื่องที่เกี่ยวกับพงศาวดารจีนเรื่องสามก๊กอยู่มาก แต่เรื่องที่ผมเขียนก็ยังได้รับความสนใจน้อยเช่นเดียวกับที่ได้รับ ในถนนนักเขียนเหมือนกัน ซึ่งผมก็ไม่ได้ท้อถอยที่จะนำเรื่องราวที่ผมคิดว่าน่าสนใจในสามกีก มาเสนอติดต่อกันอยู่เป็นแรมปี
แล้วก็มีผู้คิดว่าผู้ที่สนใจเรื่องสามก๊กด้วยกัน ควรจะได้พบปะพูดคุยกันตามประสาคนที่มีรสนิยมเดียวกัน เช่นที่คลับอื่น ๆ เขาทำกันบ้าง ก็มีผู้สนับสนุนพอสมควรม ผมก็รอฟังว่าเขาจะเริ่มกันเมื่อไร ที่ไหน และด้วยวิธีใด
แต่รออยู่เป็นเวลานานพอสมควร ก็ได้แต่วันที่นัดเจอกัน โดยไม่มีรายละเอียดใด ๆ ทั้งสิ้น ผมอดรนทนไม่ได้ก็ติดต่อกับผู้ที่ถือว่าเป็นหัวแรงของงานนี้ ว่าจะเอายังไงกันแน่ ก็มีผู้เสนอสถานที่ว่าควรจะอยู่ใกล้หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี ถนนสามเสน ผมก็ดีใจว่าใกล้บ้านผมมาก และเป็นสถานที่ซึ่งผมคุ้นเคยเพราะใช้บริการติดต่อกันมากว่าสิบปีแล้ว แต่จะเอาร้านไหนดีล่ะ
เพื่อนคนหนึ่งก็เสนอร้านอาหาร เชิงสะพานพระรามแปดฝั่งธนบุรี ผมก็ไม่เห็นด้วยเพราะเป็นหนทางที่ไม่มีรถเมล์ผ่าน ผมจึงเสนอร้านอาหารหัวมุมสี่แยกวัดตรี หรือหัวมุมสี่แยกบางขุนพรหม แล้วก็เงียบหายไปอีกพักหนึ่ง ผมก็เลยตัดสินใจว่าเอายังไงก็เอากัน ผมจะรออยู่ที่ร้านหัวมุมสี่แยกบางขุนพรหมนี่แหละ เมื่อได้เวลานัดที่ไหนผมก็จะไปที่นั่นเอง เพราะผมคิดว่าคงจะนัดกลางวัน
ผมจึงติดต่อกับเพื่อนที่อยู่ทางดอนเมือง ให้มานั่งจิบเบียร์เป็นเพื่อนผม ในวันนัดเวลาห้าโมงเช้า แล้วจะพาไปรู้จักกับเพื่อนใหม่ในคลับสามก๊กตามเวลาที่เขานัด ซึ่งอยู่แถวหอสมุดแห่งชาตินี่เอง
แต่เมื่อรอจนถึงวันก่อนวันนัดวันเดียว จึงได้ทราบว่าทางคลับสามก๊กนัดพบที่ร้านเอ็มนี้ เวลาสี่โมงเย็น แผนของผมก็ล่มซีครับ ขืนนั่งจิบเบียร์ตั้งแต่ห้าโมงเช้า ถึงสี่โมงเย็นผมก็คงไม่เป็นผมแล้วละ
ผมรีบติดต่อไปยังเพื่อนที่ดอนเมือง เพื่อขอเปลี่ยนเวลา ปรากฏว่าเขาก็บังเอิญติดธุระมาไม่ได้ทั้งวัน ผมจึงเกิดอาการจะหัวเราะก็ไม่ได้ จะร้องไห้ก็ไม่ออกขึ้นมาทันที นึกทอดอาลัยว่าเป็นกรรมของตนเองที่จะต้องผิดหวัง แต่ยังไงก็คงไม่พลาดรายการนัดพบคราวนี้แน่ เมื่อถึงเวลาก็คงหาทางออกที่เหมาะสมให้แก่ตนเองได้เอง
ผมจึงต้องมาแหงนคอมองยี่ห้อของร้านที่ว่านั้น ตรงเวลาที่นัดพอดี เมื่อเข้าไปในร้านแล้วผมก็สอดส่ายสายตาไปทั่ว ๆ และเริ่มเดินเลียบไปทางซ้าย ผมเอาถุงพลาสติกใสที่ใส่หนังสือของขวัญวันปีใหม่ห้าเล่ม ซึ่งกะว่าจะเอามาฝากเพื่อนใหม่ โดยหันเอาปกสีเขียวออกด้านนอก ให้สังเกตเห็นได้ง่าย เผื่อเพื่อนที่เคยได้รับหนังสือรวมเล่มสามก๊กฉบับลายครามของผมไปแล้ว จะเกิดเอะใจว่าน่าจะเป็นตัวผมได้ง่าย
โต๊ะแรกที่ผมให้ความสนใจนั้นมีหญิงสาวผู้หนึ่งสวมเสื้อยืดสีแดงดูเด่น นั่งอยู่กับเด็กชายที่กำลังทำการบ้าน ผมเดินเลยไปแล้วก็ชำเลืองมามอง ถ้าเธอมองตามผมมาก็จะได้เข้าไปทักทันที
แต่เปล่าเลย เธอคงสาละวนอยู่กับการช่วยดูการบ้านของเด็กชายตรงหน้า อย่างไม่สนใจใครทั้งสิ้น ผมจึงเดินเรื่อยเปื่อยต่อไปจนครบรอบร้าน โดยไม่เห็นมีผู้ใดที่น่าสนใจอีกเลย และก็ไม่รู้ว่าจะนั่งโต๊ะไหนดี และจะสั่งอะไรมาดื่มแก้เก้อดี เพราะผมไม่มีความรู้ว่าร้านประเภทนี้เขาขายอะไรที่กินได้ และเครื่องดื่มอะไรบ้าง ที่ผมควรจะดื่ม ซึ่งถ้าเป็นร้านอาหารธรรมดาผมก็คงไม่ยุ่งยากลำบากใจขนาดนี้
ผมไม่กล้าเดินเตร่เพื่อหาความรู้ให้นานเกินไปจนเป็นที่ผิดสังเกตของลูกค้าในร้านนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยเด็กชายเด็กหญิง ผู้ปกครองทั้งชายหญิง และหนุ่มสาวที่นั่งคุยกันอย่างใกล้ชิด เพราะตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนชายชื่อดัง กับมหาวิทยาลัยราชภัฏเก่าแก่แห่งนี้ จึงจำใจต้องเดินออกมาตั้งหลักข้างนอก
ผมยึดได้มุมหนึ่งของป้ายรถเมล์หน้าร้านนั้น ที่พอมีร่มเงาให้ยืนได้นานสักหน่อย แล้วก็พินิจพิจารณาผู้คนที่เดินผ่านหน้าผม เข้าไปในร้านนั้นอย่างถี่ถ้วน
คนแรกที่ผมสนใจเป็นชายสวมเสื้อสีเขียวหม่น เขายืนลังเลอยู่หน้าประตูร้านนิดเดียวแล้วก็เปิดประตูเดินเข้าไปอย่างไม่สทกสท้าน ต่อมาอีกพักหนึ่งก็มีชายอีกคนหนึ่งสวมเสื้อสีน้ำตาลคล้ำ เดินเหลียวซ้ายแลขวา ผ่านเข้าไปในร้านอีกคนหนึ่ง
ผมรอต่อไปอย่างอดทน จนมีชายอีกคนหนึ่งสวมเสื้อสีน้ำเงินแก่ ขึ้นบันไดไปยืนอยู่หน้าประตูร้าน ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา แล้วก็ควักโทรศัพท์ส่วนตัวออกมากดพูด สักครู่ก้เข้าไปในร้านอีกคน
ผมยืนรออยู่จนชักเมื่อยขา ก็ไม่เห็นมีใครที่น่าจะเป็นเพื่อนในคลับสามก๊กเลย ผมกะว่าถ้าเป็นผู้ที่มาตามนัด ก็น่าจะประพฤติอย่างผมคือเที่ยวเดินหาเพื่อนในร้าน เมื่อไม่เจอก็ออกมายืนรอข้างนอกไม่ให้ห่างไกลนัก พอที่จะสังเกตการณ์หน้าร้านได้อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่มีผู้ใดทำแบบนั้นเลย
ผมแกว่งสายตาตามนาฬิกาข้อมือของผู้ที่เดินผ่านไปมา สองสามคนก็ประเมินได้ว่าขณะนั้นเป็นเวลาเกือบจะสี่โมงครึ่งแล้ว ท้องของผมกำลังร้องทุกข์ว่าเลยเวลาอาหารเสริมตอนเย็นแล้ว
พอดีขณะนั้นหญิงสาวที่สวมเสื้อสีแดงกับเด้กชายตัวเล็ก ก็เดินออกจากร้านนั้นผานหน้าผมไป แต่จะไปทางไหนก็ไม่ได้ตามดู เพราะผมตัดสินใจก้าวขึ้นรถเมล์คันที่แล่นเข้ามาจอดตรงหน้า เพื่อไปลงที่บางลำพู เสียแล้ว
เมื่อถึงที่หมายก็เดินย้อนกลับมาทางสี่แยกบางขุนพรหม จนถึงร้านอาหารที่ผมตั้งใจจะมานั่งตั้งแต่ห้าโมงเช้า เห็นร้านว่างโล่งโถงไม่มีคนนั่งเลยแม้แต่โต๊ะเดียว ก็ชะงักอยู่ชั่ววินาที คิดว่าจะเข้าไปนั่งอาศัยความเย็นจากแอร์บรรเทาความผิดหวังให้สบายใจสักพัก แล้วค่อยคิดการณ์ต่อไป
เมื่อเด็กเสริฟหญิงวัยรุ่นเดินเข้ามาหา ผมก็สั่งเบียร์โซดาน้ำแข็งตามความเคยชิน เธอควักโทรศัพท์คู่มือขึ้นมากดดูเวลาแล้วบอกว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะขายเบียร์ได้ ผมก็ลองถามว่าจะรออีกสักกี่นาทีล่ะ เธอบอกว่าอีกหนึ่งชั่วโมง
ผมก็ท้วงว่าเมื่อกี้ก่อนจะมาก็สี่โมงครึ่งแล้ว เวลานี้ก็น่าจะจวนห้าโมงเย็นซึ่งเป็นเวลาที่ทางราชการกำหนด เธอดูแล้วดูอีกก็บอกว่าอีกครึ่งชั่วโมง ผมก็เลยบอกว่าจะออกไปเดินเล่นก่อน เธอก็ไม่ว่าอะไร
ผมเดินเลี้ยวไปตามถนนวิสุทธิกษัตริย์ เพียงไม่กี่คูหาก็เจอร้านข้าวต้มโต้รุ่งเจ้าเก่าเล่ายี่ห้อ ยังตั้งอยู่เหมือนเดิมเมื่อยี่สิบปีก่อน ยังไงยังงั้น สิ่งที่ทำให้ดีใจมากก็คือ ในร้านนี้มีลูกค้าเป็นชาย นั่งอยู่สองโต๊ะห่าง ๆ กัน
แต่ทั้งสองโต๊ะเหมือนกันตรงที่มีขวดเบียร์ยี่ห้อที่ผมชอบ ตั้งอยู่บนโต๊ะทั้งคู่
โอ......สวรรค์ยังปรานีผมอยู่นะ.
####
ถนนนักเขียน ห้องสมุดพันทิป ๑๓ พศจิกายน ๒๕๔๙
Create Date : 01 กันยายน 2554 |
Last Update : 23 กันยายน 2558 10:50:56 น. |
|
2 comments
|
Counter : 426 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เจียวต้าย วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:18:45:29 น. |
|
|
|
| |
|
|