Group Blog
 
All Blogs
 
คิดถึงแมว (๑)

เรื่องสั้น

คิดถึงแมว (๑)

เพทาย

เมื่อผมยังแข็งแรงก็ออกจากบ้านทุกวัน ไปหาข้อมูลมาเขียนหนังสือ เวลานี้ความขี้เกียจเข้ามาครอบงำ ขี้เกียจเดินแล้วเมื่อยขา ขึ้นสะพานลอยไม่ไหว โหนราวรถเมล์ก็เจ็บหัวไหล่ ขึ้นแท็กซี่ก็เสียดายเงิน จึงออกจากบ้านเพียงวันอาทิตย์ที่ไปทำบุญตามวัดวาอารามต่าง ๆ เท่านั้น แล้วอยู่บ้านไม่รู้จะทำอะไรก็ง่วงนอน วิธีที่จะแก้ง่วงนั้นมีวิธีเดียว คือนอนเสีย เลยต้องนอนหลังอาหารเช้า นอนหลังอาหารกลางวัน และนอนหลังอาหารเย็นแต่หัวค่ำ

ถ้าไม่นอนก็ต้องนั่งคุยกับแมว ซึ่งมีอยู่สามตัว ที่แก่กว่าเพื่อนอายุสี่ปี อีกสองตัวก็อ่อนลงมาตามลำดับ ดูเหมือนจะห่างกันประมาณตัวละห้าเดือนเป็นอย่างน้อย นึกไม่ถึงว่าในชีวิตจะมีอายุยืนอยู่ถึงขั้นต้องคุยกับแมว เหมือนตาแก่ของฝรั่งในภาพยนตร์ที่เคยดูเมื่อหนุ่ม ๆ

แม้จะเป็นคนที่ไม่เคยรักแมว แต่ก็มีกรรมต้องเลี้ยงแมวมาสิบกว่าตัวแล้ว ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยอยู่พร้อมหน้ากันถึงสิบตัวเลย มาแล้วก็จากไป พบแล้วก็พลัดพราก เกิดมาแล้วก็ตายไป หมุนเวียนอยู่เป็นเวลากว่ายี่สิบปี ตั้งแต่ก่อนเกษียณอายุ จนใกล้จะถึงกำหนดที่จะต้องเกษียณจากโลกไปเหมือนกัน

ถ้าวันไหนไม่นอนกลางวัน ก็จะได้นั่งรำลึกถึงเรื่องราวชีวิตของแมว แต่ละตัวที่ได้ผ่านเข้ามาในวงจรชีวิตของเราดูบ้าง แล้วก็จะทำให้รู้สึกภูมิใจในความอดทนของตนเอง ที่สามารถทำให้แมวรัก และตนเองก็รักแมวเข้าจนได้ ในวัยที่เพื่อนเหลือน้อยลงทุกที อย่างในทุกวันนี้.

เมื่อรำลึกถึงแมวตัวแรก ก็ต้องนึกถึงตัวที่ชื่อไม่ไพเราะ ผมตั้งชื่อมันว่าอีแหว่ง แม่ของมันตัวดำสนิทตั้งแต่หัวจรดหาง ดูเหมือนมันจะมาตายให้เราต้องฝังที่โคนต้นไม้หน้าบ้าน ทิ้งลูกสีดำด่างขาวที่ปลายหางไว้ให้ดูตั้งแต่วัยรุ่น จนโตเป็นสาวแล้วไปถูกใครกัดมา คอด้านหลังเป็นแผลเหวอะหวะและเลียไม่ถึง ต้องซื้อยาจากร้านเป็นสีม่วง เหมือนยากวาดลิ้นทารกมาป้ายให้ จนหายแต่ขนไม่ขึ้นเป็นรอยแหว่ง จึงเรียกอีแหว่งตั้งแต่นั้นมา รู้สึกจะไม่สุภาพเพราะตอนนั้นยังไม่รักแมวเลย หายามาทาให้มันเพราะเวทนาเท่านั้น

นังแหว่งมีลูกตัวเมียสองตัว ตัวหนึ่งสีขาวด่างดำที่หางกลับกันกะแม่ อีกตัวเป็นสามสีขาวเหลืองและดำ มันทำความรำคาญให้เราหลายอย่าง เที่ยวสร้างความสกปรกเลอะเทอะทั่วบ้าน ต้นไม้ เล็ก ๆ ปลูกไว้ในกระถางก็เหี่ยวเฉาหักงอ ก็ต้องไล่ตีกันไม่เว้นแต่ละวัน จนมันหายไปจากบ้าน แต่ไม่ยักพาลูกไปด้วย ต่อมาจนลูกตัวสามสีหายไปก่อน แล้วก็ตัวขาวหางดำก็ออกจากบ้านไปบ้าง ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร

จนนานนับสิบปี นังขาวหางดำ จึงกลับมาหาเราโดยที่ร่างกายทรุดโทรมเต็มที เราก็ดีใจหาข้าวให้กิน เพราะคิดถึงมันเหมือนกัน แต่ก็อยู่เพียงสองสามวัน แล้วก็ไปนอนตายในบ้านข้างเคียง มันคงมาลาเราก่อนตายก็ไม่รู้

ในระหว่างที่นังขาวยังอาศัยอยู่ในบ้าน ก็มีแมวข้างบ้านตัวเมียสองตัว สีน้ำตาลเข้มชื่อทอง สีขาวชื่อเงิน เจ้าของเลี้ยงด้วยอาหารเม็ดจนกินข้าวคลุกปลาทูไม่เป็น มันเพียงเข้ามานอนเล่นใต้ร่มไม้ พอถึงเวลากิน เจ้าของตะโกนเรียก ทองเอ๊ย เงินเอ๊ย มันก็มุดรั้วกลับไปกินอาหาร พอว่างก็มานอนใหม่

จนกระทั่งผู้เลี้ยงซึ่งมีอายุคราวน้าของเผม ถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจอย่างกะทันหัน ก็เลยไม่มีใครให้อาหารเจ้าสองตัว เพราะเป็นบ้านแบ่งห้องเช่า คนที่อยู่ต่อไปก็ไปทำงานเช้าเย็นกลับ ถึงเดือนลูกสาวคุณน้าแกก็มาเก็บค่าเช่า นังทองและนังเงิน ก็เข้ามาจ้องหน้าร้องขอกินอาหาร เอาข้าวคลุกอะไรให้ก็ไม่กิน จึงต้องลงทุนไปซื้ออาหารเม็ดมาให้ และนับว่าเป็นการรับเลี้ยงแมวด้วยความสงสารเวทนา โดยไม่เจตนาเป็นครั้งแรกในชีวิตเมื่ออายุประมาณ ๖๐ ปี โดยตั้งชื่อนังดำว่าทองดำ และนังเงินว่าน้ำเงิน

และแล้วนังดำก็อาศัยอยู่ในบ้านเป็นสุขสืบมา เหมือนตอนจบของนิทาน ส่วนนังน้ำเงินมากินอย่างเดียว ทั้งเช้าและเย็น แต่ตอนกลางคืนไม่รู้ว่าไปนอนที่ไหน ทั้งสองไม่ค่อยลงรอยกัน คือไม่ชอบหน้ากัน แต่ไม่ถึงกับทะเลาะกัน และไม่มีลูกเพราะเจ้าของเดิมได้ทำหมันแล้วทั้งคู่ จนมีแมวมาอาศัยกินอาหารเพิ่มขึ้นอีกหลายตัว ทั้งหน้าประตูบ้านและหลังบ้าน อาหารแมวก็ต้องซื้อมากขึ้น จากเดือนละถุงสองถุง จนในที่สุดประมาณสี่ห้าถุง จะเลิกเลี้ยงก็ไม่ได้เพราะมันไม่ยอมไปไหน ถึงเวลาเช้าเย็นก็มารวมร้องประชันเสียงกันทุกวัน

แมวที่อยู่นอกบ้านมีอยู่หลายตัว ทั้งสีดำขาว ที่เรียกว่านังอ้วน ทั้งสีเขาปนน้ำตาล เรียกนังสีอ่อน ส่วนสีขาวเหลืองดำ เรียกนังสามสี และสีน้ำตาลอ่อนทั้งตัว เรียกว่านังสีเทา ทั้งสี่ตัวนี้ในเวลาต่อมาได้เป็นต้นตระกูลของแมวในบ้านทั้งหมด

แมวที่เข้ามาทางหลังบ้าน เพื่อกินอาหารอย่างเดียว เป็นตัวผู้ มีเจ้าลายเสือ เจ้าเหลือง เวลาเข้ามาเห็นเราก็จะถอยไป พอเราให้อาหารไว้ในจานแล้ว มันก็จะเข้ามาข่มขู่นังทองดำให้ถอยไป แล้วก็รีบ ๆ กิน ถ้าเจอกันระหว่างสองตัว ก็ต้องลองกำลังกันเอง ตัวไหนชนะก็ได้กินก่อน ตัวไหนสู้ไม่ได้ก็ออกไป แล้วค่อยย่องมากินทีหลัง

วันหนึ่งมีแมวลายเสืออีกตัวหนึ่ง แต่หางสั้นลงมาครึ่งหนึ่ง และปลายขอด แอบมานอนอยู่ใต้พุ่มไม้ เวลาเราเดินเข้าไปใกล้ก็จะร้องอ่อย ๆ น่าสงสาร เรียกให้ออกมากินข้าวก็ไม่กล้าออกมา ต้องเอาใส่จานไปวางไว้ใกล้ ๆ จึงจะกิน เราเรียกว่าเจ้ากุด

เจ้ากุดอยู่ได้ไม่นาน ด้วยการหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากเจ้านักเลงสองตัวนั้น เพราะอ่อนแอสู้ใครไม่ไหว นังทองดำก็ยังไม่กลัวเลย ลงท้ายมันก็ป่วยแสดงอาการให้เห็น เราก็ให้มันกินอาหารกินน้ำตามปกติ เพราะคิดว่าไม่ใช่แมวเลี้ยง ลงท้ายก็กินอะไรไม่ได้น้ำลายไหลยืด จึงต้องพาไปหาหมอที่คลินิกรักษาสัตว์ ได้ยาน้ำมาหยอดให้กิน แต่สายเสียแล้ว รุ่งขึ้นเช้าก็เห็นเจ้ากุดนอนตายตัวแข็งอยู่หลังบ้าน

เจ้ากุดจึงเป็นแมวตัวแรกที่นอนตายให้เราเห็น.



Create Date : 09 กันยายน 2553
Last Update : 9 กันยายน 2553 12:55:20 น. 7 comments
Counter : Pageviews. Add to





อ่านบล็อกนี้บล็อกเดียว ก็คิดว่า สำนวนโวหารแบบนี้น่าจะเป็นนักเขียว

เล่าเรื่องสนุกดีค่ะ

ว่างๆจะตามไปอ่านบล็อกเก่าๆค่ะ



หลังจากอ่านคอมเม้น เนตรได้เข้าไปอธิบายเพิ่มเติม

ขอเชิญเข้าไปอ่านอีกครั้งเพื่อความกระจ่างค่ะ


//www.bloggang.com/mainblog.php?id=sunet&month=09-09-2010&group=5&gblog=65







โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:18:40:31 น.




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมครับ
ลองอ่านเรื่องอื่น ๆ ด้วยนะครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:20:22:24 น.




ไปดูแล้วได้ผลอย่างนี้ครับ
ผลการค้นหา
ไม่พบเว็บ Blog ของสมาชิก ชื่อ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=sunet&month=09-09-2010&group=5&gblog=65
เนื่องจากสมาชิกชื่อ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=sunet&month=09-09-2010&group=5&gblog=65 อาจจะยังไม่ได้เปิดเว็บ Blog
หรืออาจจะไม่มีชื่อ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=sunet&month=09-09-2010&group=5&gblog=65 เป็นสมาชิกอยู่ในระบบ

โดย: เจียวต้าย วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:20:29:36 น.




สวัสดียามเช้าค่ะ มีเรื่องมากมายให้อ่าน เช้าวันนี้อ่านเรื่องแมวค่ะ เคยเลี้ยงค่ะเเต่มันหายไป ถ้าว่างก็ขอเชิญ ไปฟังเพลงที่ Blog บ้างนะค่ะ

โดย: jamaica วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:8:06:52 น.




เข้าไปฟัง my way เป็นเพลงแรกเลยครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:13:34:50 น.






สวัสดีค่ะ
วันนี้มีธุระที่อยุธยา พอเสร็จงานก็ได้แวะเข้าไปไหว้พระทำบุญ
ที่วัดพุทไธสวรรค์ จากนั้นก็ไหว้ท่านพ่อจตุคามรามเทพ
เอาบุญมาฝากนะค่ะ
ขอให้หลับฝันดีนะค่ะคืนนี้


โดย: แม่หมู (jamaica ) วันที่: 22 กันยายน 2553 เวลา:21:56:39 น.




ขอบคุณครับ
เมื่อคืนนอนหัวค่ำแค่ทุ่มครึ่ง แต่ตืนตีสามครึ่ง เลยต่อจนถึงหกโมงครึ่งครับ.

โดย: เจียวต้าย วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:10:16:07 น.





Create Date : 07 กันยายน 2554
Last Update : 7 กันยายน 2554 8:02:20 น. 3 comments
Counter : 748 Pageviews.

 
เข้ามาอ่านเรื่องของแมวต่อค่ะ


ที่บ้านก็มีแมวเลี้ยงไว้ หนึ่งตัว

ตอนที่เขาตายไปนะ ร้องให้ขี้มูกโป่งไปหลายลูกเหมือนกันค่ะ

ตอนนี้ไม่เลี้ยงอีกแล้วค่ะ ไม่อยากเจอแบบนั้นอีก


โดย: Katai_Akiko วันที่: 26 กันยายน 2554 เวลา:20:07:43 น.  

 
ผมเองไม่เคยคิดว่าจะเลี้ยงแมวเลย
แต่เมื่อเขามาขออาศัยอยู่ด้วยก็อดหาอาหารมาให้ไม่ได้
แล้วเขาก็พากันมาออกลูกออกหลาน เพิ่มพลเมือง
แล้วก็ล้มหายตายจากกันไป ตามกรรมของแต่ละตัว
เดี๋ยวนี้เหลืออยู่สามตัวในบ้าน และหวงบ้าน
ไม่ยอมให้ใครมาอาศัยเพิ่มอีก ขอกินหน้าบ้านได้ไม่ว่าครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 27 กันยายน 2554 เวลา:7:39:14 น.  

 
หวัดดีครับ 10ปีแล้วแมวเป็นยังไงบ้างน้อครับ


โดย: pom IP: 1.20.25.77 วันที่: 20 กรกฎาคม 2565 เวลา:15:43:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.