All Blog
อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว ตอนที่ 21 (ต่อ2)



อสูรน้อยในตะเกียงแก้ว ตอนที่ 21 (ต่อ2)

การประชุมวิสามัญของนครเวทมนตร์ดำเนินมาได้สักครู่แล้ว ผู้นำแม่มดถือไม้เท้าประจำตำแหน่งยืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางที่ประชุม ทาฮิร่ากับบาบาร่ายืนปะปนอยู่กับ พ่อมดแม่มดเมืองเวทย์

“พวกเราทุกคนต้องเร่งหาตำราพิฆาตอสูรให้ทันรอบวรรษ (วัด-สะ) นี้ ตำราเล่มนี้เท่านั้นที่จะล้างเผ่าพันธุ์อสูรสิ้นซาก ช่วยให้เผ่าพันธุ์ของเรา ดำรงคงอยู่ไปชั่วกัลปาวสานต์”
ทาฮิร่า บาบาร่าและพ่อมดแม่มดคนอื่นๆ ออกความเห็นกันไปมา
“มันจะหาทันได้ทันการณ์หรือเปล่า ใครที่ขโมยไปมันจะทำลายแทงไว้ให้เหรอว่ามันเอาไปซ่อนไว้ที่ไหน” บาบาร่าเอ่ยขึ้นกับทาฮิร่า
ทาฮิร่ารู้สึกหมั่นไส้ “จะหาเจอหรือไม่เจอ ลงมือหาก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรซะเลย แทนที่จะมาจิกกัดลมฟ้าอยู่แบบนี้ เริ่มต้นช่วยเพื่อนพ้องเราหาได้แล้ว”
“ได้ทีจิกตีเลยเชียวนะ” บาบาร่าบ่นด้วยความเขม่น

เวลาเดียวกันในเมืองมนุษย์ อสูรในร่างสดับอยู่ในห้องพิธีกรรม และกำลังใช้สองมือปล่อยพลัง ดูดดึงอะไรบางอย่างจากผนังห้อง

ที่บริเวณผนังห้อง มีสิ่งหนึ่งรูปทรงคล้ายหนังสือ ค่อยๆ นูนขึ้นๆ จนหลุดออกมาจากผนัง มันคือตำราพิฆาตอสูร ซึ่งภายในมีคาถาบทสำคัญ อสูรพิลาป เล่มขนาดเท่ากับตำราเวทมนตร์ของแนนนี่
ตำราลอยมาใส่มือสดับ
“ตำราพิฆาตอสูร คิดว่าจะพิฆาตกันง่ายๆเหรอนังแม่มด อยากดูหนัง หน้าพวกแกว่าถ้าไม่มีตำราพวกแกจะมีปัญญาพิฆาตอสูรมั้ย” หันมาทางตำรา “มาดูกันอีกทีว่าข้าจะเอาชนะแกได้หรือยัง”
อสูรสดับเคยทำลายมาหลายครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ
ตำราเวทย์ดิ้นพรวดจนหลุดจากมือสดับ ราวกับมีชีวิต สดับวาดมือพรวดกลางอากาศปล่อยเปลวไฟใส่ตำรา ตำราติดไฟลุกโชนทั้งเล่ม

การประชุมวิสามัญของเมืองเวทย์ยังดำเนินต่อไป
“อย่าลืมว่าความสมัครสมานสามัคคีของพวกเราจะช่วยให้บ้านเมืองอันเป็นที่รักยิ่งของเรา และเผ่าพันธุ์แม่มดของเราอยู่รอด ขอปิดประชุมเพียงเท่านี้”
ท่านผู้นำกล่าวปิดประชุม ทุกคนแยกย้ายสลายตัวด้วยท่าทีเป็นกังวล
ทาฮิร่าออกเดินไป บาบาร่าตามพูดน้ำเสียงเยาะหยัน
“เธอมัวแต่จิกกัดคนอื่น หลานตัวเองน่ะระวังให้ดีเถอะ จะทำงามไส้”
ทาฮิร่าชะงักกึก
“พูดดีๆ ไม่ต้องมีนัย หลานฉันจะทำอะไรงามไส้”
“โฮะ โฮะ โฮะ หูตามืดบอดเพราะรักหลานจนไม่ลืมหูลืมตาละสิ”
“จะบอกหรือไม่บอก ไม่บอกฉันจะไป รำคาญ”
“ฉันได้กลิ่นมนุษย์ชายหญิงที่บ้านเธอ” บาบาร่าเล่าเรื่องที่แวะไปหาที่บ้านทาฮิร่าวันก่อน
ทาฮิร่ารู้อยู่แล้วว่าแนนนี่พาภวัตมาเมืองเวทย์ จึงเยาะกลับ “แค่เนี้ย”
“กลิ่นพันพัวนัวเนียแนบแน่นกันเป็นเกลียวเป็นกลิ่นเดียวกัน”
คราวนี้ทาฮิร่าชักเริ่มร้อนรุ่ม บาบาร่าสะใจ
“ชายหญิงพันเกลียวกันขนาดนั้น มันบอกถึงอะไรน้า”
ทาฮิร่าหายตัวฟึ่บไปเลย
บาบาร่าหัวเราะชอบใจ “คราวนี้ฉันชนะ”

ส่วนภายในห้องพิธีกรรมบ้านสดับ อสูรร้ายยังคงทำลายตำราพิฆาตอสูร ซึ่งเวลานี้มีไฟลุกท่วม แต่ก็ไม่อาจทำให้ตำราไหม้ได้ แล้วจู่ๆ ไฟดับพึ่บ ตำรายังอยู่ดีสภาพเดิม อสูรสดับโกรธสุดๆ
“มันทำด้วยอะไร ลงเวทมนตร์อะไรไว้วะ ไม่ว่าจะเผา จะสับ จะทุบ..มันไม่เป็นอะไรสักเท่าแมวข่วน”
ตำรานิ่งสนิท เหมือนเหนื่อยแบบคนถูกทำทารุณ มือสดับเข้ามากระชากตำรา เหวี่ยงเข้าข้างฝาอย่างแรงที่เดิม
“เข้าไป”
ตำราจมหายเข้าไปในผนัง ผนังเรียบดังเดิมสดับหงุดหงิดเอามากๆ
“มีวิธีไหนจะทำลายมันได้นี่

ทาฮิร่ากลับจากเมืองเวทย์ ตรงเข้ามาในตะเกียงอยู่แล้ว อาการร้อนรุ่มจากที่บาบาร่าพูดเป็นนัยเรื่องแนนนี่กับภวัต
“แนนนี่”
“จ๋ายาย” แนนนี่ลุกขึ้นมาจากพื้นด้านหลังเตียง
“มานี่”
แนนนี่รู้จากท่าทางและน้ำเสียงว่าเป็นเรื่องไม่ดีแน่นอน
“แนนนี่เจอข้อหาอะไรอีกล่ะจ๊ะคราวนี้”

ส่วนทางด้านไทเกอร์หมอบรอบาบาร่า สักครู่บาบาร่าเดินเข้ามาในมือยังถือไม้กวาดคาอยู่ โดยไม่รู้ว่าอิงอรค่อยๆโผล่หน้าจากที่ซุ่มมามองแล้วตกใจกับชุดและไม้กวาด ไทเกอร์ถามขึ้นทันที
“เป็นไงมั่งคุณยายบาร์”
อิงอรได้ยินเสียงแว่วๆ ยังฟังไม่ค่อยชัดถนัดหูว่าเป็นภาษพูด แต่ก็ตาโตตกใจ
บาบาร่าเดินไปเรื่อย ไม้กวาดหายวับ อิงอรตกใจขึ้นมาอีก
บาบาร่าเดินๆ อยู่ ชุดก็เปลี่ยนเป็นชุดแม่บ้านบานเย็นต่อหน้าต่อตา อิงอรอึ้ง เหวอ ตกใจสุดๆ ช็อกคาที่ไปเลย
อิงอรร้องลั่น “อ๊าาาาาาา....อ๊ายยย” แล้วหมดสติ
บาบาร่าตกใจหันไปมอง
“ไอ๊หยา” ไทเกอร์ร้อง
บาบาร่าว่าคาถา “เมื่อฟื้นขึ้นมาคุณอิงจะลืมที่เห็นวันนี้”
บาบาร่ากับไทเกอร์เดินออกไปไป สักครู่จักรวาลก็วิ่งออกมาดู เพราะเสียงร้องของอิงอร
จักรวาลตกใจ “คุณอิง คุณอิง”
อิงอรงัวเงีย ค่อยๆ ลืมตาตื่นในอาการงงๆ
“อิงมานอนอยู่ที่นี่ได้ไงคะ”
“ผมก็ไม่ทราบครับ ผมได้ยินเสียงร้อง วิ่งออกมาดูก็เจอคุณอิงนอนอยู่แล้วครับ เกิดอะไรหรือครับ คุณอิงร้องซะดังเลย”
อิงอรเริ่มออกอาการคิกคักตามปกติ มั่วสวาทต่อ เอนซบอ้อมแขนจักร
“กำลังจะเกิดเดี๋ยวนี้ค่ะ ขอนอนต่ออีกเดี๋ยวนะคะ”
แต่เป็นจังหวะพอดีที่จักรวาลจะประคองลุกขึ้น แต่เมื่ออิงอรซบ จึงเสียหลักรูดกองอยู่กับพื้นต่อ
“ว้าย”

ส่วนในตะเกียงแก้วแนนนี่ตาโตตื่นตกใจ
“คนใจร้ายใส่ร้ายแนนนี่อีกแล้ว”
ทาฮิร่ารู้สึกเริ่มโล่งใจนิดๆ
“แนนนี่สาบาน แนนนี่ไม่มีอะไรกับพี่ภวัตจริงๆ ค่ะยาย”
แนนนี่อยู่ในอารมณ์เกือบๆ จะร้องให้ ทากอดแนนนี่ปลอบ แนนนี่กอดยายแน่น
“ยายเชื่อแนนนี่จ้ะ”
“แนนนี่รักยาย รักคุณแม่ปัทมน แนนนี่ไม่มีวันทำเรื่องเสียหายร้ายแรง แบบนั้นให้ยายกับคุณแม่เสียชื่อเสียง”
ทาฮิร่าลูบผมแนนเบาๆ แนนนี่ผละพรวดออกจากอกทาฮิร่า กลายเป็นแนนนี่จอมวีนเหวี่ยงตามเดิม
“ถ้าแนนนี่รู้ว่าเป็นใครที่ใส่ร้ายแนนนี่ละก็...ฮึ่...เจ็บ !”
ทาฮิร่าส่ายหน้าอย่างระอา แต่เจือความเอ็นดู นึกสยองแทนบาบาร่า

จู่ๆ บาบาร่าก็จาม 3 ครั้งติดๆ
“อากาศเมืองมนุษย์นี่สกปรกจริงๆ ยาอายุวัฒนะของเมืองแม่มดยังเอาไม่อยู่”
บาบาร่าในร่างบานเดินมา เห็นดารกา ถือกล่องกำมะหยี่ใส่เครื่องประดับมาด้วย ส่งยิ้มสดใสมาให้
“คุณหนูน้องดา”
“น้องดาซื้อของมาฝากค่ะ”
บาบาร่าเปิดดู เป็นเข็มกลัดสวยงาม ชอบมากมาย “อุ๊ย สวยจัง ขอบคุณนะคะ”
บาบาร่าเป็นปลื้มกับของฝาด ทั้งสวยงาม ดูมีราคา เหมาะกับแม่บ้านบานเย็น
บาบาร่านึกได้ “คุณน้องดามาหาคุณหมอภวัตหรือคะ”
“ค่ะ พี่โป่งบอกยังไม่กลับ”
“จะรอมั้ยคะ ป้าจะอยู่คุยเป็นเพื่อน”
“ดีเหมือนกันค่ะ”

เวลาเดียวกันทาฮิร่าเดินเข้าครัวบ้านปัทมน มองสำรวจอะไรอยู่ตรงไหน
“ผาด พรยังไม่กลับ แนนนี่จะไปสมัครงาน ฉันต้องลงมือทำอาหารสุดอร่อยให้หลานฉันเอง”
“มีหลานตั้งสามรุ่นมาแล้ว ไม่เคยเห็นฝีมือจะพัฒนา” ชิกเก้นแขวะขึ้น
“แกกินแต่ข้าวคลุกปลาทู จะรู้อะไร” ทาฮิร่าเยาะ

ส่วนบาบาร่าคุยกันอยู่กับดารกาอย่างชื่นมื่น ทั้งสองคนคุยกันถูกคอ บาบาร่ายิ่งเอ็นดูดารกามาก แรกๆ เป็นการคุยกันปกติ จนต่อมาบาบาร่าหลุดปากพูดออกมาเองเรื่องเวทมนตร์ค่างๆ เพราะความขี้อวด
จึงเข้าทางที่ดาอยากรู้ที่ตั้ง ดาเลยหลอกล่อให้พูดต่อไป)
“เรื่องไสยศาสตร์เวทมนตร์นี่มีจริงนะคะ”
ดารกาแกล้งปั้นหน้าใสซื่อแบ๊วใส่ “น้องดาไม่เชื่อหรอกค่ะ เรื่องแบบนี้มีแต่ในนิทาน ไม่มีในชีวิตจริงหรอกค่ะ”
บาบาร่าชักจะเริ่มอวดของ “ถ้าเกิดมีจริงที่ไหนสักแห่ง ล่ะคะ”
ดารกาสะดุดใจซักต่อ “ที่ที่คนมีเวทมนตร์ เหาะเหินเดินอากาศได้น่ะหรือคะ”
“ค่ะ”
ดารกามองบาบาร่าอย่างสะใจ จึงพยายามที่จะยั่วมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยใบหน้าใสซื่อน่ารัก
บาบาร่ามองตอบดารกา หน้าตามั่นอกมั่นใจเกินร้อย ดารกาทำเป็นหัวเราะไม่เชื่อยั่วยุคนขี้อวดอย่างบาบาร่ามากขึ้นๆ
“น้องดาขอเป็นคนแรกที่เหาะได้ ใช้คาถาเสกอะไรต่ออะไรได้ แต่...เป็นไปไม่ได้แน่ๆ ค่ะ”
บาบาร่าเริ่มถูกยั่วก็เริ่มของขึ้นอยากอวด “เป็นไปได้แน่ๆค่ะ”
“ถ้าเป็นไปได้ก็ต้องพิสูจน์ได้สิคะ”
“พิสูจน์ได้แน่คะ”
ดารกาทำเป็นมองไปทั่วๆ “ไหนล่ะคะ อยู่ไกลแค่ไหนน้องดาก็จะไปพิสูจน์นะคะ”
“อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เพียงใจเราคิดก็ไปถึงแล้ว”
ดารกาหัวเราะร่วนเหมื่อกำลังฟังเรื่องขำขัน “แบบ... ที่ที่มีแม่มดขี่ไม้กวาด มังกรบินได้พ่นไฟ... น่ะนะคะ” ใส่จริตยั่วมากขึ้นๆ “นิทานหลอกเด็กทั้งนั้นเลยค่ะ”
ได้ผลเกินคาดบาบาร่าของขึ้นจะเอาชนะให้ได้ “เป็นเรื่องจริงค่ะ”
“ แล้วอยู่ที่ไหนล่ะคะ ที่บ้านต่างจังหวัดของป้าบานเย็นเหรอคะ”
ในที่สุดบาบาร่าก็ตกหลุมพราง “ที่เมืองเวทมนตร์สิคะ” แล้วนึกได้ว่าหลุดไปแล้ว รีบอุด
ปากแน่นทันที “อุ๊บ”

จู่ๆ ทาฮิร่าก็ทำจานที่ถืออยู่หล่นแตก
“ว้าย”
“เวรก๊ำ...เวรกรรม ซุ่มซ่ามมาตลอดสามพันปี”
“หยุดพูดไปเลย ...นี่เสมือนเป็นลางไม่ดี ต้องมีอันตรายอะไรแน่ๆ” ฉุกใจถึงแนนนี่ รู้สึกห่วงหลานสาว “แนนนี่”

แนนนี่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการเลือกชุดที่จะไปทำงาน ทั้งที่จะออกไปสมัครงาน ดูเรียบร้อยสวยสมวัย ทาฮิร่าเดินเข้ามา
“ยาย...ช่วยแนนนี่เลือกชุดไปทำงานหน่อยค่ะ”
ทาฮิร่าอดขำไม่ได้ “ยังไม่ได้ไปสมัครงานเลย เลือกชุดไปทำงานแล้ว
“เดี๋ยวปีเตอร์มารับไปยื่นใบสมัครค่ะ”
ปีเตอร์เข้ามา แต่งตัวเรียบร้อย หล่อเนี้ยบเป็นพิเศษ แต่ไม่ได้ใส่สูทผูกไทด์
“มาแล้วจ้า...” เห็นชุดที่แนนนี่เลือก “ชุดสวยจัง”
“ชุดไปทำงาน” แนนนี่บอก
“ยังไม่ได้สมัครเลย” ปีเตอร์งง
“พูดเหมือนยายเปี๊ยบเลย เตรียมไว้ก่อนซี”
“ถ้าเขาไม่รับล่ะ”
“มันต้องมีที่ไหนรับสักแห่งแหละน่า คนอย่างแนนนี่ไม่มีเตะฝุ่นนานอยู่แล้ว ไป..ไปเลย พี่ธานีเป็นคนตรงเวลากว่านาฬิกา”
ทาฮิร่าห่วงว่าจะมีอันตรายกับแนนนี่ “ยายไปด้วย”
“ดีจัง ปีเตอร์มีสาวให้จับตัวไปขายสองคนเลย” ปีเตอร์เย้ายายหลาน
ทาฮิร่ากลับชอบใจคิดเอาเองว่าปีเตอร์ชมว่าสาว จึงทำท่าสาววัยใสขึ้นมา
“อุ๊ย พ่อเปอร์ตี้ พูดจาน่าเอ็นดู๊...”
แนนนี่กระซิบทาฮิร่า “ห้ามสะกดจิตเขารับแนนนี่เข้าทำงานนะคะ แนนนี่อยากได้ด้วยฝีมือตัวเอง”
ทาฮิร่ากระซิบตอบ “แนนนี่จะโชว์ฝีมือสะกดจิตเขาเอง”
“ยายอ้ะ” แนนนี่ขำ
ปีเตอร์ให้ทฮิร่าาเกาะแขนแบบสุภาพบุรุษ
“เชิญครับคุณยาย”
แนนนี่เล่นด้วย ถอนสายบัว ผายมือให้ยายกับปีเตอร์เดินไปก่อน
“เชิญค่า...”

ทางด้านดารกาแอบดีใจสุดๆ ดารกาพูดกับตัวเอง
“ไม่นึกว่าจะโชคดีขนาดนี้ คนรู้เรื่องเมืองเวทมนต์อยู่ใกล้เราแค่นี้เอง
ดารกาหันมาหา เห็นบาบาร่า ในร่างบานเย็นอาการวุ่นวายใจนิดหน่อยที่หลุดปากชื่อเมืองเวทมนต์ออกไป ดารการับประจบ อ่อยเหยื่อต่อ
“น้องดาไม่ได้ลบหลู่ความเชื่อส่วนตัวของใครนะคะ น้องดายังยืนยันไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ”
บาบาร่าของขึ้น ปรี๊ดขึ้นมาอีก ไม่ได้โกรธดารกา แต่อยากแสดงว่าตัวเองรู้จริง!
“ยังไงๆ คุณน้องดาก็ไม่เชื่อป้าใช่ไหมคะ”
“น้องดากำลังจะบอกว่า หากเป็นคนอื่นพูด น้องดาไม่เชื่อค่ะ แต่เป็นป้าบานเย็น น้องดาต้องรับฟัง”
แม่มดสามพันปีผู้บ้ายอ เป็นปลื้ม เดินยืด
“แล้วน้องดาเชื่อป้าบานเย็นได้แน่ใช่มั้ยคะ น้องดาไปบอกใครๆ ว่าเรื่องนี้มีจริง แล้วน้องดาจะไม่หน้าแตกใช่มั้ยคะ”
บาบาร่าพูดน้ำเสียงหนักแน่นมาก “ไม่มีวันแตกแน่นอนที่สุดค่ะ”
“แปลว่า....” ดารกาทอดระยะ กะว่าบาบาร่าต้องตกหลุมแน่
“ป้าจะพาคุณน้องดาไปดูค่ะ”
ดารกาเนื้อเต้น ดีใจสุดๆ โดยไม่ได้เสแสร้ง
บานเย็นเดินถือผ้าเช็ดหน้าสวยๆ จะผูกตาดารกา
“ต้องผูกตาก่อนนะคะ”
“ยังไงก็ได้ทั้งนั้นค่ะ น้องดาตื่นเต้นมาก อยากไปเร็วๆ” ดารกาเนื้อเต้น ยินดีอย่างไม่เสแสร้ง
บาบาร่าผูกตาดารกาเสร็จ ใบหน้าดารกาดีใจเอามากๆ
บาบาร่าดีดมือ เปลี่ยนเป็นชุดแม่มดบาบาร่า กำลังจะดีดมือเรียกไม้กวาด
เสียงภวัตพูดอย่างอารมณ์ดีเข้ามา “น้องดา เล่นอะไรอยู่หรือครับ”
ดารกาเปิดผ้าผูกตารวดเร็ว บาบาร่าตกใจดีดมือ ชุดเปลี่ยนเป็นชุดคุณแม่บ้านบานเย็น ทันเวลาฉิวเฉียดก่อนที่ดารกาจะได้เห็น
ภวัตสะดุดใจว่ามีอะไรวับๆ ที่บ้านบานเย็น ตอนเปลี่ยนจากชุดแม่มด แต่เร็วมากจนอาจดูเป็นแสงสะท้อน
“เอ๊ะ ป้าบานเย็น...”
บาบาร่ายืนแบ๊วอินคาแร็คเตอร์แม่บ้านบานเย็นหน้าตาใสซื่อเป็นผู้บริสุทธิ์มาก
ขณะมองจ้องหน้า ภวัต เริ่มนึกถึงภาพเหตุการณ์วับๆ ตอนที่ภวัตเห็นบาบาร่า 2-3 ครั้งที่เมืองแม่มด
“พี่ภวัต”
เสียงเรียกของดารกา ปลุกภวัตจากภวังค์ ที่จ้องมองบานเย็น และคิดว่าน่าจะไม่ใช่แม่มดที่เคยเห็น
บาบาร่าบานเย็นยังตีหน้าซื่อตาใส ดารกาขยับถึงตัวภวัต ภวัตหลุดจากภวังค์ ยิ้มให้ดารกา
“น้องดามานานแล้วเหรอครับ”
“ไม่นานค่ะ”
ภวัตกับดารกาเดินออกไป บาบาร่าถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ความลับคุณแม่บ้านบานเย็นหวิดแตก”
ภวัตหันมองบานเย็นอีกครั้งอย่างคาใจ บาบาร่าสะดุ้ง รีบยิ้มให้ ภวัตยิ้มรับ เดินไปต่อ
บานโล่งอก แล้วมีอะไรที่เคยค้างคาใจผุดขึ้นมา
“แต่คุณหมอภวัตนี่...นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกสักทีว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า นึกจากเมืองมนุษย์ไปเมืองแม่มด จากเมืองแม่มดมาเมืองมนุษย์ก็ยังนึกไม่ออก แปลกจริงๆ”
ไทเกอร์โผล่ฟึ่บมาแขวะทันที “ไม่แปลกหรอก ก็หัวขี้เลื่อยน่ะสิถึงนึกไม่ออก”
“อาหารมื้อเย็น ฉันจะทำเนื้อแมวย่างให้แกกิน ไอ้ไทเกอร์”
“พูดความจริงก็โกรธ จะพูดเท็จไทเกอร์ก็อายปาก”
บาบาร่าโกรธจนลมออกหู “ไอ้ไทเกอร์ !!!”
ไทเกอร์หายวับไป

เวลาต่อมาภวัตขยับกล่องขนมไปวางไว้อีกที่
“ฝากน้องดาจำให้พี่ด้วยนะครับ กล่องนี้ให้ที่บ้านน้องดา”
“เดี๋ยวน้องดาถือไปเองก็ได้ค่ะ”
“ไม่เป็นไร พี่จะเดินไปส่งน้องดาอยู่แล้ว”
ดารกาสุดจะปลื้มมองภวัตอย่างรักมากมาย
“ป้าบานเย็นครับ”
“ขา....” บาบาร่าบานเย็นเดินเข้ามา
“อยากเลี้ยงกุ้งเผาน้องดา” หันมาพูดกับดารกา “พี่จำไม่ผิดใช่มั้ยครับ น้องดาชอบทานกุ้งแม่น้ำเผา”
ดารกาใจละลายสุดๆ คิดในใจช่างแสนดี น่ารักน่าหลงเหลือเกินพี่ชายแสนดีคนนี้
“ค่ะ” ดารกามองภวัตไม่วางตา
ภวัตควักหยิบเงินส่งให้ “รบกวนนะครับ ขอปลากะพงด้วย ป้าบานเย็นอยากทานอะไรเป็นพิเศษซื้อมาเลยนะครับ”
“ค่ะ” บาบาร่าเดินออกไป
ภวัตหันกลับ ดารกายังมองตาหวานฉ่ำ ตกอยู่ในห้วงเหวแห่งรัก
“น้องดาครับ” ภวัตเห็นดารกานิ่งจึงเรียก
ดารกาสะดุ้ง “คะ”
“คิดอะไรเพลินเลย”
ดารกาเขิน

เวลาต่อมา มาลีอยู่ที่แผงปลาในตลาดสด กำลังช่วยลูกค้าเลือกปลา ชี้ชวนให้ซื้อ บาบาร่ในคราบบานเย็น กำลังเลือกกุ้ง ปู ปลา อยู่อีกแผง ยังห่างจากมาลีพอประมาณ เมื่อ เลือกของที่ต้องการให้แม่ค้าชั่ง ระหว่างรอแม่ค้า บานเย็นเดินมองซื้อผักซื้อ ไปทำน้ำจิ้ม
บาบาร่าบานเย็นเดินมาใกล้มาลีพอประมาณ หยุดกึกทันใด หน้าตาเข้มเครียดแบบเจอเรื่องคอขาดบาดตาย ใบหน้าตื่นตระหนก

“กลิ่นอสูร !!”

บาบาร่ในร่างแม่บ้านบานเย็นทำจมูกฟุดฟิด สูดกลิ่นทางโน้นทางนี้ แต่เพราะลมยังหวนไปมา กลิ่นยังอยู่ทิศทางที่ไม่แน่นอน บาบาร่าแอบทำมือร่ายคาถา
“ลมจงนิ่ง”

บาบาร่า ตะลึงรู้แล้วว่ากลิ่นมาจากทางไหน หันขวับไป แล้วเห็นมาลีกำลังขายปลาง่วน ทักทายพูดจาเล่นหัวอย่างสนิทสนมกับคนซื้อที่ผ่านไปมาบ้าง สัญญาณบ่งชี้บางอย่าง ทำให้บาบาร่ารีบรุดเข้าสำรวจมาลี
บาบาร่าตาลุกวาวแบบเจอศัตรูคู่แค้น จะไปที่มาลี แต่มีเสียงเรียกไว้
“ได้แล้วค่ะคุณ พันสามร้อยเจ็ดสิบค่ะ”
บาบาร่าเซ็ง หันกลับไปจ่ายเงิน รอตังค์ทอน โดยสายตายังคอยมองไปที่มาลี
“รู้จักแม่ค้าปลาคนนั้นมั้ย”
แม่ค้ามองตามบาบาร่าบานเย็นชี้ “อ๋อ...นังมาลี เมียไอ้ดับ มีอะไรเหรอจ๊ะ”
“บ้านเขาอยู่ไหน”
แม่ค้าบอกที่อยู่มาลี บาบาร่ายิ้มพอใจ บาบาร่าจะเดินไปที่มาลีอีก โดยยังไม่ได้เอาเงินทอน แต่ต้องชะงักกึก เมื่อตรงหน้าบาบาร่าตอนนี้คืออสูรในร่างสดับยืนอยู่
บาบาร่าตกตะลึงตาค้าง แทบไม่มีเสียง “อะ...อสูร !!!”
สดับเดินไปอีก 2-3 ก้าวแล้วหยุดกึกทันใด สูดจมูกฟืดๆ แล่วหันขวับมาทางบาบาร่า อสูรสดับจ้องบาบาร่าตาดุ มองอย่างสำรวจ ใบหน้านิ่ง บาบาร่าจ้องสดับ หวาดระแวง แต่คุมอาการอยู่ ไม่ท้าทาย สดับจ้องตอบ
ทั้งสองคนจ้องมองกัน จังหวะนั้นอสูรสดับเห็นร่างของบาบาร่าที่ซ่อนอยู่ใต้รูปลักษณ์บานเย็น
บาบาร่าบานเย็นแล้วค่อยๆ กลายเป็นบาบาร่าเครื่องแต่งกายแม่มดเต็มยศ แล้วสักครู่กลายกลับมาเป็นบานเย็นตามเดิม
แม่ค้าร้องเรียกอยู่นานแล้ว “คุณคะ คุณคะ คุณลืมตังค์ทอนค่ะ”
บาบาร่าบานเย็นรีบหันกลับไปที่แม่ค้ารับเงินทอนแล้วเดินไป อสูรสดับยังมองตาม หน้าตาดุ อย่างครุ่นคิด

ที่มุมลับตาในตลาดแห่งนั้น บาบาร่ารีบร้อนเข้ามาแล้วหายตัวไป

ค่ำคืนนั้นภวัตเดินมาส่งดารกาที่หน้าตึกบ้านปัทมน ถือกล่องขนมมาด้วย ภวัตส่งกล่องขนมให้ดารกา
“พี่ส่งแค่นี้นะครับ”
“ขอบคุณค่ะ วันนี้น้องดาทานอิ่มแปร้เลย”
“อย่าลืมคิดเรื่องที่คุยกันด้วยนะ”
“ค่ะ”
ภวัตเดินออกไป ดารกามองตาม สีหน้าแวววตารักใคร่หนักหนา พรเดินเข้ามา
“ของทานหรือเปล่าคะ พี่พรเอาไปแช่ตู้เย็นให้มั้ยคะ”
เมื่อคนเดียว ประกายตาดารกาฉายแววร้ายกาจออกมา สีหน้าหมายมาดอะไรบางอย่าง ดารกาส่งกล่องขนมให้พร
“ขอบคุณค่ะของแนนนี่ พี่ภวัตซื้อมาฝาก”
พรรับกล่องไป

คืนเดียวกันบาบาร่าในชุดแม่มด เดินพล่านรออย่างจดจ่อ รอมานานแล้ว
“ไปไหนของเค้าเนี่ย”
ทาฮิร่าปรากฏตัวขึ้น
“โอ๊ย...ยัยทาฮิร่า เที่ยวไกลเหลือเกินนะยะ ฉันร้อนใจจนอกจะระเบิดอยู่แล้ว”
“เรื่องอะไร”
“ฉันเจออสูร” บาบาร่าทำเสียงตื่นเต้นโครตๆ
“ฮะ เธอก็เจออสูรแล้วเหรอ” ทาฮิร่าแปลกใจ แต่ไม่ตกใจ เพราะเคยเจอแล้ว
บาบาร่าหุบยิ้มทันควัน “อ้าว เธอเคยเจอแล้วงั้นเหรอ”
ทาฮิร่าอึกอัก พูดเลี่ยง “ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันตกใจจนพูดผิดพูดถูก เธอเจอที่ไหน”
“ที่ตลาด”
ทาฮิร่าบ่นงึมงำ ไม่ให้บาบาร่าได้ยิน “ตัวเดียวกันแน่”
บาบาร่ามองทาฮิร่าเขม็ง อย่างจ้องจับผิด
“แน่ใจนะว่าเธอไม่เคยเจออสูร ไม่ใช่เจอแล้วปิดบังฉัน เพราะเท่ากับเธอปิดบังพี่น้องแม่มดพ่อมดของเรา เธอคือผู้ทรยศ! เธอจะถูกลงโทษขั้นสูงสุด” บาบาร่ายกกฎเมืองเวทย์มาขู่
“ไม่ ไม่ ฉันไม่เคยเจอ” ทาฮิร่าหันหน้าหนีมาแอบพูด “แค่เคยแอบไปที่สำนักของมันแค่นั้น”
บาบาร่าจ้องทาฮิร่าอย่างไม่เชื่อใจ แต่ทาฮิร่าควบคุมสีหน้ากิริยานิ่งไว้เต็มที่
“ฉันไม่เชื่อเธอเลยทาฮิร่า แต่ฉันยังจับโหกเธอไม่ได้แค่นั้นเอง ระวังไว้ก็แล้วกัน ฉันไม่วางมือจากเธอแน่”
ทาฮิร่าคุมสีหน้าเต็มที่ ไม่ได้กลัวบาบาร่า แต่รู้สึกผิด

ส่วนดารกากำลังนั่งฝันหวานอยู่บนเตียง ใบหน้าสุขล้ำ ดารกานึกถึงสิ่งที่พูดคุยกับภวัต เมื่อช่วงหัวค่ำ ที่ผ่านมา
“น้องดาเลือกหรือยังครับว่าจะเป็นเรซิเดนซ์ที่รงพยาบาลไหน”
“ยังเลยค่ะ”
“จริงๆ พี่อยากให้น้องดาพิจารณาโรงพยาบาลของพี่หมอไชยเหมือนกันแต่...” ทิ้งระยะค้างไว้อย่างเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย
“น้องดาเข้าใจค่ะ และไม่โกรธทางนั้นด้วย หากเขาไม่รับน้องดา”
“โรงพยาบาลของพี่หมอไชยเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ทันสมัยที่สุดในภาคพื้นเอเชีย พี่อยากให้น้องดามีประสบการณ์ที่นั่น หากน้องดาจะทบทวน พี่จะพูดกับพี่หมอไชยและบุษ”
“สองคนนั้นเขาคงเกลียดน้องดาไปจนวันตายละค่ะ”
ภวัตนิ่งอึ้ง รู้เรื่องดี
“แต่น้องดาอยากอยู่โรงพยาบาลเดียวกับพี่ภวัต น้องดาจะลองคิดดูนะคะหากน้องดาขอขมาเขาแล้วเขายอม น้องดาก็ยินดีจะขอขมาค่ะ”
“ต้องถึงขนาดนั้นเลยเหรอ”
ดารกานิ่งไป

นึกมาถึงตอนนี้แล้วความสุขยังฉาบที่ใบหน้าดารกาเด่นชัด
“ความรักทำให้น้องดายอมทุกอย่างค่ะพี่ภวัต”
“ดารกา...”
จังหวะนั้นเสียงอสูรสดับเรียก ดารกามีสีหน้าขรึมลง

วันนี้ทั้งวัน แนนนี่สอดสร้อยกันอสูร เพราะวันนี้ไปสมัครงาน จึงแต่งตัวเรีบร้อย ไม่ใส่เครื่องประดับ
เวลานั้น แนนนี่กับปีเตอร์ทานเพิ่งอาหารเย็นเสร็จ ลุกจากโต๊ะ ผาดเข้าไปเก็บจานชาม แนนนี่ไหว้ขอบคุณแบบวัยรุ่น ย่อเข่าผลุบผลับ ปีเตอร์พลอยไหว้ไปด้วย
“ขอบคุณค่ะน้าผาด” / “ขอบคุณครับน้าผาด”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไหว้ทุกมื้อ น้าชักจะผมร่วงไปทุกวัน”
“งั้นให้น้าผาดไหว้คืนครับ” ปีเตอร์จอมเว่อร์ว่า
แนนนี่รีบลากปีเตอร์ออกไป “พูดงี้ เก็บปากไว้กินหนมเหอะ”
พรถือจานขนมไปวางให้ที่มุมนั่งเล่น แล้วไปช่วยผาดเก็บโต๊ะ
“คุณภวัตซื้อฝากคุณแนนนี่ค่ะ”
“เย้” แนนนี่รีบกินเลย “ทานสิปีเตอร์ อร่อยมากมาย”
“ขนมอะไร ไม่รู้จัก”
“ไม่ต้องรู้จักหรอก รู้ว่ากินได้ก็พอ”
แนนนี่กินขนมอย่างเอร็ดอร่อยชิ้นต่อชิ้น แทบไม่ไม่หยุดปาก
“กินทุกอย่างที่ขวางหน้าจริงๆคุณหนูแนนนี่”
“แน่น้อน...โดยเฉพาะอะไรที่เป็นของพี่ภวัต อร่อยที่สุดในโลก”
ทันใดนั้น แนนนี่เริ่มรู้สึกผิดปกติ เหมือนถูกวางยา ร้อนไปทั้งตัวราวโดนไฟเผา กินเข้าไปเยอะแล้วด้วย
“พี่ภวัตเอาอะไรให้แนนนี่กิน”
ปีเตอร์อ้าปากจะกินขนมคำแรก
แนนนี่ร้องลั่น “อย่า!!!!!”
แนนนี่ฟาดหลังปีเตอร์ แรงด้วยพลังแม่มดที่ออกมาโดยยังบังคับไม่ได้ ปีเตอร์กระเด็น สำลัก ขนมกระเด็นออกจากปาก เพราะขนมชิ้นนั้นสัมผัสปาก ลิ้น คอไปแล้ว แต่ยังไม่ทันกลืน แต่พิษไม่ร้ายแรงต่อปีเตอร์ เพราะเป็นคนธรรมดา
แนนนี่โดนพิษหนักมาก สลบตกจากโซฟา ปีเตอร์เริ่มเบลอ แต่ยังมีสติ ช้อนรับร่างแนนไว้ให้ตกลงบนร่างของตัวเอง
ปีเตอร์ตกใจ “แนนนี่...”
แนนนี่และปีเตอร์สลบไปทั้งคู่ ปีเตอร์ยังกอดแนนนี่ไว้แน่น
ผาดพรวี๊ดว๊ายกันลั่น พรหันรีหันขวางทำอะไรไม่ถูก
“ในขนมมีอะไร คุณแนนนี่กับคุณปีเตอร์จะตายมั้ย” ร้องไห้ด้วยความกลัว
“โทร.เรียกรถพยาบาลเร็วนังพร” ผาดตั้งสติแล้วรีบบอกพร
ธานีกับรัดเกล้าเข้ามา ตกใจสุดๆ กับภาพที่เห็น ธานีทิ้งของทั้งหมดวิ่งไปที่น้อง รัดเกล้าวิ่งตามไปช่วย

“แนนนี่!!!”








Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 2:36:38 น.
Counter : 356 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]