Q[-___-Q ma leaw ja
Group Blog
 
All Blogs
 

การดูแลผมแตกปลาย..

ผมแตกปลายเกิดขึ้นเมื่อชั้นของเซลล์ของเส้นผมแตกแยกตัวออกจากกัน ไม่มีวิธีที่จะทำให้ชั้น ที่แตกแยกออกจากกันนี้กลับมาสมานสนิทได้ถาวร ครีมนวดผม (conditioner) จะทำให้เส้นผมที่ แตกปลายกลับมาสมานกันได้เพียงชั่วคราวเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมง หรืออย่างมากก็แค่ไม่กี่วัน โดยทั่วไปเมื่อสระผมครั้งต่อไปผมก็จะแตกปลายอีก

จึงต้องใช้ครีมนวดผมอย่างสม่ำเสมอ วิธีใช้ครีมนวดผมคือใช้หลังสระผมแล้วชโลมครีมนวดผมทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วล้างออก หรือครีมนวดผมอีกแบบที่ใช้หลังสระผมโดยซับผมให้หมาดๆ แล้วชโลมครีมทิ้งไว้เลยโดยไม่ต้องล้างออก นอกจากนั้นหลังสระผม อย่าขยี้ผมแรงๆ ให้ใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับผมให้แห้ง อย่าหวีผมหรือแปรงผมขณะที่ผมยังเปียกอยู่

ถ้าจะใช้เครื่องเป่าผมก็อย่าตั้งอุณหภูมิสูง เพราะจะทำลายเส้นผมทำให้ผมแตกปลายได้ง่ายขึ้น อย่าย้อมผม ดัดผม ยืดผมบ่อยเกินไปเพราะทำให้เส้นผมแตกปลายได้ง่าย โดยทั่วไปเส้นผมของคนเราหลังตัดครบ 1 เดือนจะเริ่มยาวไม่สม่ำเสมอ และมีผมแตกปลาย ดังนั้นการไปพบช่างตัดผมอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้เรือนผมดูสวยงามอยู่เสมอนะครับ วิธีแก้ไขผมแตกปลายที่ดีที่สุดก็คือตัดส่วนปลายผมที่แตกปลายออก ดังนั้นคนที่ไว้ผมสั้นจะมีปัญหาเรื่องผมแตกปลายน้อยกว่าคนที่ไว้ผมยาว

ส่วนอาหารวิตามินและเกลือแร่ที่ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ได้แก่

ธาตุเหล็ก - พบในเนื้อสัตว์ ถั่วเหลือง ข้าวสาลี ผักขม

กลุ่มของวิตามินบี - พบในจมูกข้าว ถั่ว ไข่ ถั่วเหลือง กล้วย

กรดอะมิโน เช่น ซิสเตอีนและเม็ทไทโอนีน ซึ่งมีส่วนประกอบของกำมะถันที่ จะทำให้เซลล์ เส้นผมเชื่อมติดกันแน่น พบในถั่ว เม็ดธัญพืช ไข่ เนื้อ

สังกะสี - พบในเนยแข็ง ข้าวซ้อมมือ ปลาซาร์ดีน และขนมปังข้าวไรย์

ซีลีเนียม - พบในเนยแข็ง Cheddar กุ้ง แครอท

สำหรับวิธีการสระผมที่ถูกต้องนั้น มีขั้นตอนคือ

1. ปล่อยให้ผมสยายลงมาตามธรรมชาติขณะสระผม นั่นคือสระผมในท่ายืนสระใต้ฝักบัว หรือก้มสระในอ่างอาบน้ำ

2. ใช้น้ำอุ่นชะล้างเส้นผมก่อนที่จะลงแชมพู

3. เอาแชมพูใส่ฝ่ามือ กะปริมาณแชมพูให้พอเกิดฟองได้หมดทั้งศีรษะ

4. ฟอกเส้นผมและหนังศีรษะด้วยแชมพู เริ่มที่หนังศีรษะก่อนใช้ปลายนิ้วนวดหนังศีรษะเบาๆ อย่าเกาหนังศีรษะหรือขยี้แรงๆ

5. ใช้น้ำสะอาดล้างแชมพูออก โดยใช้นิ้วมือล้างแชมพูออกตั้งแต่โคนเส้นผมไปสู่ปลายเส้นผม ห้ามขยี้แรงๆ เพราะเส้นผมจะได้รับอันตรายจากแรงเสียดสี

สำหรับการใช้ครีมนวดผมนั้น มีขั้นตอนดังนี้

1. สระผมล้างแชมพูออกอย่างหมดจด อย่าให้มีฟองแชมพูตกค้าง

2. เทครีมนวดผมใส่ฝ่ามือ

3. ฟอกครีมนวดผมกับเส้นผม ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ครีมนวดผมให้ทั่วเส้นผมแล้วทิ้งไว้ 1-2 นาที

4. ล้างครีมนวดผมออก โดยให้น้ำชะล้างครีมนวดผมตั้งแต่โคนไปสู่ปลายเส้นผม ห้ามขยี้เส้นผมขณะผมเปียก

สำหรับการเช็ดผมให้แห้ง มีขั้นตอนคือ

1. ใช้ผ้าขนหนูสะอาด ที่แห้งสนิท ซับเส้นผมที่เปียกน้ำ

2. ในขณะที่ผมยังชื้นอยู่ ใช้แปรงหรือหวีสางผมที่พันกันหรือยุ่งเหยิง โดยแปรงเบาๆ จากปลายเส้นผม และค่อยๆ สูงขึ้นไปสู่โคนเส้นผม

3. ใช้มูสหรือเจลตามที่ชอบ แต่อย่าใช้มากเกินไป

4. ควรปล่อยให้เส้นผมแห้งสนิทตามธรรมชาติ

5. หากมีเวลาจำกัด ไม่สามารถรอให้ผมแห้งตามธรรมชาติได้ ก็ต้องใช้เครื่องเป่าผม โดยใช้เครื่องเป่าผมเมื่อซับผมด้วยผ้าขนหนูก่อน

6. ควรใช้ความร้อนและความแรงของเครื่องเป่าที่สปีดต่ำสุด

7. การเป่าผมต้องเคลื่อนไหวไปทั่วศีรษะ อย่าจ่อเป่าให้แห้งทีละจุดๆ เพราะจะทำให้ เส้นผมและหนังศีรษะเกิดอันตราย

เส้นผมของคุณจะแลดูสวยเป็นเงางามก็ต่อเมื่อได้รับการดูแลบำรุงรักษาทุกวัน ร่วมไปกับการกินอาหารที่ดีและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม รวมถึงพยายามลดความเครียดลงด้วย เพราะความเครียดทำให้ผมหลุดร่วงได้

ส่วนวิธีปฏิบัติเพื่อให้เส้นผมไม่แตกหักง่ายและดูเงางามอ่อนนุ่มสลวยอยู่เสมอมีดังนี้

1 หวีและแปรงผมให้น้อยลง ความเชื่อที่ว่าควรแปรงผมวันละ 100 ครั้ง นั้นเป็นความเชื่อ ที่ผิด และไม่ควรใช้หวีหรือแปรงที่มีขนแหลมคม หรือที่ทำจากโลหะหรือพลาสติก ควรใช้หวีที่ทำจากขนสัตว์ธรรมชาติ

2. ไม่ควรแปรงผมย้อนไปด้านหลังหรือยีผมแรงๆ (ควรหวีผมตามแนวเส้นผม)

3. ไม่รัดผมให้แน่นหรือถักเปียแน่นจนเกินไปนัก รวมทั้งการสวมหมวกที่คับเกินไป หรือพันผ้าคาดศีรษะจนแน่น

4. ควรใช้แชมพูอ่อนๆ สระผม หลังสระควรใช้ครีมนวดหรือครีมปรับสภาพเส้นผม และไม่ควรสระผมและเป่าผมให้แห้งบ่อยครั้งเกินไป

5. เล็มปลายเส้นผมที่แตกปลายทิ้ง

นอกจากนี้ยังพบว่าสารเคมีเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นผมหักได้บ่อยที่สุด เพราะเมื่อชั้นนอกสุดของเส้นผมถูกสารเคมีอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะจากยาย้อมผม ยากัดสีผม ยาดัดผม หรือยาเหยียดผม ยายืดผมตรง สารเคมีในตัวยาเหล่านี้จะทำให้เส้นผมแห้งและแข็งกระด้าง จึงควรใช้น้ำยา เหล่านี้เมื่อจำเป็นและไม่ควรใช้บ่อยครั้ง




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2551    
Last Update : 23 สิงหาคม 2551 22:19:43 น.
Counter : 530 Pageviews.  

17 เรื่องน่ารู้ คู่ความงาม!?


1. ช๊อกโกแลตนี่แหละ ที่มาของใบหน้ามีสิว

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการศึกษาหรืองานวิจัยใดๆที่สนับสนุนว่าความเชื่อดังกล่าวเป็นจริง

ในต่างประเทศได้มีการทดลองทฤษฎีนี้โดยแบ่งคนเป็นสิวที่มีความรุนแรงเท่าๆกันออกเป็นสองกลุ่ม ให้กลุ่มแรกงดกินช๊อกโกแลตเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม

ส่วนกลุ่มหลังให้กินช๊อกโกแลต 3 แท่งต่อสัปดาห์ติดต่อกันเป็นเวลานาน 4 สัปดาห์

ผลการทดลองพบว่าไม่มีความแตกต่างระหว่างคนทั้งสองกลุ่ม จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการกินช๊อกโกแลต

เป็นสาเหตุหนึ่งซึ่งไปกระตุ้นให้เกิดสิวขึ้นจริงเหมือนอย่างที่หลายคนเชื่อกัน...แต่ทำให้อ้วนได้แน่นอนเชียวค่ะ


2. ค่า SPF ในครีมกันแดดยิ่งสูงยิ่งกันแดดได้ดี

SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor เป็นค่าที่บอกว่าผิวของคุณสามารถทนต่อแสงแดดได้นานเท่าไหร่โดยไม่เกิดผิวไหม้

เช่น ถ้าคุณไปตากแดดแล้วเกิดผิวไหม้ภายใน 15 นาที หลังใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 15 แล้วจะช่วยทำให้ผิวของคุณทนต่อการไหม้ของแดดได้นานขึ้นถึง 15x15=225 นาที

ส่วนค่า SPF ที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้ผิวป้องกันแสงแดดได้มากขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่น SPF 30 กันแดดได้ 97% SPF 60 กันได้ 98-98.5% จะเห็นว่า SPF จาก 30 เป็น 60

ช่วยกันแดดได้เพิ่มขึ้นเพียง 1-1.5% เท่านั้นซึ่งถือว่าน้อยมาก ดังนั้น ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆจึงไม่ได้ดีกว่าเสมอไป


3. วิตามินและอาหารเสริมเพิ่มความสวย

การรับประทานวิตามินและอาหารเสริมกลายเป็นกระแสนิยมไปแล้วในขณะนี้ เนื่องจากมีโฆษณาชวนเชื่อมากมาย

อ้างว่าสามารถทำให้ผิวสวยสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกได้ หากคุณอยู่ดีกินดีไม่ได้อดมื้อกินมื้อ วิตามินและอาหารเสริม

ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็น เพราะการรับประทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่และผักผลไม้สดๆย่อมได้คุณค่าทางอาหารมากกว่าอยู่แล้ว แถมราคายังถูกกว่าอีกด้วย จริงไหมคะ



4. ย้อมผมอย่างไรให้ปลอดภัย

ยาย้อมผมเป็นเครื่องสำอางที่มีสารเคมีบางชนิดซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้หากใช้ผิดวิธี

เพื่อความปลอดภัยควรทดสอบอาการแพ้โดยทาบนท้องแขนก่อนใช้ 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการคัน บวม แดงจึงย้อมได้

ห้ามใช้ถ้ามีผื่นผิวหนังอักเสบ แผลเปิดหรือรอยถลอกบนหนังศรีษะ ไม่ควรเกาหรือนวดศรีษะก่อนและระหว่างย้อม

อย่านำไปย้อมขนที่อื่น เช่น ขนตา ขนคิ้ว ระวังไม่ให้น้ำยาย้อมกระเด็นเข้าตาเด็ดขาด หากมีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน

มีผื่นแดงให้หยุดใช้ทันทีแล้วล้างออกด้วยน้ำปริมาณมากๆก่อนไปพบแพทย์


5. ทำอย่างไรดีเมื่อเล็บเปราะบาง

เล็บเปราะเกิดจากการขาดความชุ่มชื้นซึ่งมักพบในคนที่ล้างมือบ่อยๆหรือขาดแร่ธาตุบางชนิด

เช่น ไบโอติน แคลเซียม การใช้ครีมบำรุงผิวเข้มข้นหลังล้างมืออาจทำให้ดีขึ้นบ้าง ควรตัดเล็บให้สั้นเพื่อป้องกันเล็บฉีกเมื่อต้องหยิบจับของแข็ง

หมั่นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงเล็บ เช่น ตับ เนื้อสัตว์ ข้าวกล้อง และถั่ว

ถ้ายังไม่ดีขึ้นลองรับประทานไบโอตินขนาด 2.5 มิลลิกรัมกต่อวัน จะช่วยให้เล็บแข็งแรงขึ้นได้



6. สนไหม..สมุนไพรพอกหน้าให้ด่างดำ

การใช้สมุนไพรพอกหน้าจากสถานเสริมความงามหรือทำด้วยตัวเองต้องระวังมากเป็นพิเศษ

เพราะหากโชคไม่ดีแทนที่จะได้หน้าขาวใสกลับได้รอยด่างดำแทน เพราะพืชสมุนไพรบางชนิด เช่น มะนาว มะกรูด

มีสารที่ทำให้เกิดผื่นผิวหนังอักเสบและรอยดำหลังจากสัมผัสสารนั้นแล้วไปตากแดด ดังนั้น ถ้าไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงดีกว่าค่ะ



7. ที่มีของปัญหาผิวแตกลาย

ผิวแตกลาย เป็นปัญหาที่พบบ่อยในวัยรุ่นที่โตเร็ว นักกีฬาเล่นกล้าม หญิงตั้งครรภ์และโรคที่มีความผิดปกติของฮอร์โมน

การที่ร่างกายมีขนาดโตขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ผิวหนังขยายตัวยืดตามไม่ทันจึงเกิดเป็นรอยแผลย่นขึ้น

ระยะแรกผิวแตกลายมีสีแดงและจะกลายเป็นสีขาวออกวาวๆในระยะหลัง การทายาในกลุ่มกรดวิตามินเออาจทำให้ดีขึ้นได้บ้าง

ส่วนการรักษาเลเซอร์ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งและมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง



8. มอยส์เจอไรเซอร์จำเป็นมากขาดไม่ได้

มอยส์เจอไรเซอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณซึ่งมีหลากหลายชนิดให้เลือกใช้

โลชั่นเหมาะสำหรับคนที่มีผิวผสมหรือผิวแห้งในบางพื้นที่ ครีมเหมาะกับคนผิวแห้งซึ่งควรเลือกชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิวอุดตันภายหลัง ส่วนผิวแพ้ง่ายให้เลือกชนิดที่ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม และระบุว่าเป็น Hypoallergenic

ใครที่หน้ามันอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เลยก็ได้ เพราะผิวมีความชุ่มชื้นอยู่แล้ว



9. เหงื่อออกมากผิดปกติที่รักแร้

ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ เป็นภาวะที่ระบบประสาทซึ่งควบคุมการหลั่งของเหงื่อทำงานมากกว่าปกติ

ตำแหน่งที่พบบ่อยคือ รักแร้ ฝ่ามือและฝ่าเท้า คนประสบปัญหานี้จะมีซอกรักแร้เปียกชื้นตลอดเวลาและอาจทำให้มีกลิ่นตัวได้

บางคนไม่กล้าใส่เสื้อผ้าสีอ่อนๆเพราะกลัวจะเห็นเป็นรอยเปียกเหงื่อ การรักษามีหลายวิธี เช่น

การทายา Aluminium chloride 20% การรับประทานยาที่มีผลระงับเหงื่อ การฉีดโบท๊อกซ์ และการผ่าตัดต่อมเหงื่อ



10. ยาสีฟันใช้ทาแผลน้ำร้อนลวกได้จริงหรือ

ยาสีฟันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดฟันซึ่งมีส่วนประกอบของสารขัดสี สารควบคุมความเป็นกรด-ด่าง

สารที่ทำให้เกิดฟองและสารกันบูด ยังมีคนอีกมากที่ปฐมพยาบาลแผลน้ำร้อนลวกเบื้องต้นด้วยการทายาสีฟัน

ความจริงแล้วไม่มีส่วนผสมใดๆในยาสีฟันที่สามารถช่วยรักษาหรือสมานแผลได้เลย

แต่อาจทำให้เกิดแผลลุกลามจากการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนยากต่อการรักษาและทิ้งรอยแผลเป็นมากกว่าปกติได้



11. ถ้าไม่อยากแก่เร็วอยู่ให้ไกลจากบุหรี่

ทราบไหมคะว่าการสูบบุหรี่นอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคถุงลมโป่งพองและมะเร็งปอดแล้ว

ยังมีผลกระทบต่อระบบผิวหนังอีกด้วย สารนิโคตินในบุหรี่จะทำให้เส้นเลือดเกิดการหดตัวจึงส่งผลให้การหมุนเวียนของเลือดไปเลี้ยงผิวหนังลดลง แถมยังมีสารอะซีตาลดีไฮด์

ซึ่งถูกปล่อยออกมากับควันบุหรี่ไปรบกวนทำให้ผิวหนังอ่อนแอลง นานๆเข้าสีผิวจะกลายเป็นสีเหลืองอมเทา เกิดรอยย่นและแก่ก่อนวัยได้



12. ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการต่อเล็บ

การต่อเล็บต้องใช้กาวเป็นตัวเชื่อมระหว่างเล็บจริงกับเล็บปลอม สารประกอบที่สำคัญของกาวเชื่อม

คือ เอทธิลไซยาโนอะคริเลท มีคนจำนวนหนึ่งซึ่งมีปฎิกิริยาแพ้สารตัวนี้ทำให้ผิวหนังรอบเล็บเป็นผื่นแดง บวม คันมาก

และยากต่อการรักษา ดังนั้น การต่อเล็บจึงเป็นทางเลือกของความสวยที่มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน



13. ครีมกันแดดสำหรับวันที่มีแดดเท่านั้น

เป็นที่ทราบกันดีว่ารังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดสามารถทำให้ผิวหนังไหม้ เกิดริ้วรอย กระ ฝ้าและมะเร็งผิวหนังได้

มีคนจำนวนไม่น้อยคิดว่าถ้าแดดไม่ออกหรือเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ

ที่มีเมฆครึ้มหิมะตกก็ไม่ต้องทาครีมกันแดดซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะถึงแม้ว่าเมฆจะหนาทึบเพียงใด 80%

ของรังสีอัลตร้าไวโอเลตยังคงลอดผ่านลงมาอยู่ดี หรือแม้แต่แสงจากไฟในห้องก็ตามค่ะ



14. ขนคุด ที่มาและวิธีกำจัด

ขนคุดเกิดจากเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วอุดตันอยู่ในรูขุมขน ทำให้ขนไม่สามารถงอกออกมาได้อย่างปกติ

มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเม็ดเล็กๆ คลำแล้วรู้สึกสากๆ บริเวณที่พบบ่อยคือต้นแขนและต้นขา

ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ บางครั้งอาจมีการอักเสบร่วมด้วยทำให้เห็นเป็นตุ่มแดง พบว่ามีความสัมพันธ์กับโรคภูมิแพ้

การทายาประเภทอนุพันธ์ของกรดวิตามิน AHA หรือ BHA จะทำให้ดีขึ้นได้ แต่ถ้าหยุดก็มีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ได้อีก



15. นอนผิดท่าใบหน้ามีริ้วรอย

เคยไหมคะว่าที่คุณพบว่าใบหน้ามีรอยย่นหลังตื่นนอนขึ้นมาตอนเช้าหรือว่าร่องแก้มด้านหนึ่งมีรอยลึกมากกว่าอีกด้าน

ริ้วรอยที่เกิดขึ้นนี้มีผลมาจากการนอนในท่าที่มีการกดทับติดต่อกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมงที่เรียกว่า "สลีฟ ลายน์"

คนที่ชอบนอนคว่ำหรือนอนตะแคงอาจเกิดรอยแบบนี้ได้มาก หากคุณเป็นคนหนึ่งซึ่งประสบปัญหานี้ให้ลองฝึกนอนหงายดูนะคะ

เพราะการนอนหลับในท่านอนหงายจะดีที่สุดสำหรับผิวหน้าของคุณค่ะ



16. จุดซ่อนเร้นสะอาดเกินจำเป็น...อันตราย

จุดซ่อนเร้นหรือช่องคลอดของผู้หญิงจะมีสภาวะเป็นกรดอ่อนๆจากเชื้อจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ซึ่งมีผลดีต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา

การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะที่เป็นประจำอาจทำให้สมดุลของความเป็นกรดด่างนี้เสียไป

ส่งผลให้เชื้อราเติบโตขึ้นมาแทน บางรายอาจเกิดการแพ้และระคายเคืองจากน้ำหอมที่ผสมอยู่

โดยทั่วไปการทำความสะอาดช่อ่งคลอดด้วยน้ำเปล่าและสบู่ธรรมดาก็เพียงพอแล้ว



17. เรื่องของส้นเท้าแตก แห้งและเจ็บ

ส้นเท้าแตกเป็นอาการของผิวหนังที่แห้งและขาดความชุ่มชื้นอย่างมากทำให้ผิวหนังส่วนนอกหนา

และแตกเป็นร่องคล้ายกับผิวดินที่แตกระแหง บางคนพยายามจะดึงหนังที่แข็งๆออก

แต่กลับทำให้หนังฉีกลึกลงไปถึงเนื้อด้านในซึ่งจะเจ็บมากเวลาเดิน การรักษาต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์ชนิดเข้มข้นร่วมกับยาทาที่มี

ส่วนผสมของยูเรียและกรดซาลิไซลิกทาเป็นประจำทุกวันจึงจะดีขึ้น






 

Create Date : 23 สิงหาคม 2551    
Last Update : 23 สิงหาคม 2551 22:19:13 น.
Counter : 518 Pageviews.  

นิสัยต้องห้าม ศัตรูของความงาม



เลียริมฝีปาก

เมื่อน้ำลายแห้ง มันจะดูดความชื้นจากริมฝีปาก (การเลียปากยังทำให้ลิปบาล์มหายไปด้วย) ริมฝีปากมักโดนแสงแดดอยู่เสมอ จึงง่ายที่จะถูกแดดเผา

น้ำลายของคุณจะไปสร้าง "เลนส์" รูปแบบหนึ่ง ที่ยิ่งดูดแสงแดดยิ่งขึ้น ดูดแสงแรงแค่ไหนน่ะหรือ? ก็ลองนึกถึงว่าคุณสามารถเผามดได้ด้วยการใช้แว่นขยายส่องสิ

ดัดนิสัย ทาลิปบาล์มแทนที่จะใช้น้ำลายเคลือบริมฝีปาก และทาซ้ำเมื่อรู้สึกว่าปากแห้ง ลองมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่มีสูตรเฉพาะสำหรับเคลือบริมฝีปากเพื่อช่วยบาล์มเกาะทนนานขึ้น หรือทาเป็นลิปกลอสใสที่ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นขึ้นด้วย


แปรงผมขณะผมเปียก

นี่ถือเป็นการทำร้ายผมอย่างรุนแรง เส้นผมประกอบด้วยอนุกรมของโปรตีนซึ่งเกาะตัวรวมกันด้วยการประสานรวมตัวของซัลไฟต์และไฮโดรเจน การรวมตัวของไฮโดรเจนจะถูกทำลายเมื่อผมเปียกและกลับสู่สภาพเดิมเมื่อผมแห้ง

ด้วยความที่ขาดการรวมตัวของไฮโดรเจน ผมเปียกจึงเปราะบางกว่าผมแห้งถึง 30% ผมที่ผ่านการใช้สารเคมีจะมีการรวมตัวของไฮโดรเจนน้อยกว่าแม้ในขณะผมแห้งก็ตาม การดึงทึ้ง หรือแปรงผมขณะเปียกจะไปยืดเส้นผมและทำให้ผมขาดในที่สุด

วิธีดัดนิสัย ห้ามแปรงผมขณะเปียก ถ้าจำเป็นก็ให้ใช้หวีซี่ห่างเพื่อสางผม เป่าผมให้แห้งและต้องมั่นใจว่าแห้งสนิทถึงจะแปรงผมหรือนอน

ฟื้นฟูความเสียหาย ใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมให้แห้งเท่าที่ทำได้ บรรจงบีบหรือกดเส้นผมด้วยผ้าขนหนูแทนที่จะขยี้แรงๆ จากนั้นเป่าผมด้วยไดร์เป่าผมความร้อนสูงเพื่อให้ใช้เวลาเป่าน้อยที่สุดถ้าคุณเร่งรีบ ระวังถือไดร์เป่าผมห่างสักหน่อยเพื่อความร้อนจะไม่ทำร้ายเส้นผม และแนะนำให้ลองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผมไว้ด้วย


ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหน้าขวดเดียวเท่านั้น




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2551    
Last Update : 23 สิงหาคม 2551 22:18:29 น.
Counter : 578 Pageviews.  

เคล็ดลับแต่งตาสวย กลมโต แบบสาวญี่ปุ่น...

เทรนด์เมคอัพปีนี้ต้องยกให้ สาวตาโตแบบญี่ปุ่น ที่มาแรงสุดๆ และการจะทำให้ตาแบบอาหมวย กลมโตได้อย่างไร งานเปิดตัวมาสคาร่า “เดจาวู ไฟเบอร์วิก” ขนตาปลอมแบบปัด มีคำตอบให้ โดย เมคอัพอาร์ติสต์แดนปลาดิบบินลัดฟ้ามาตอบคำถามสาวไทยถึงที่ ณ ร้านอาหารญี่ปุ่น KOI RESTAURANT เมื่อสัปดาห์ก่อน

มร. ทาเคฮิโกะ โนดะ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส เพียส คอร์ปอเรชั่น กล่าวต้อนรับแขกเหรื่อและแนะนำ เดจาวู ไฟเบอร์วิก ว่า “มีสุภาพสตรีกลุ่มหนึ่ง ที่รู้จักผมในฐานะที่ผมทำงานในบริษัทเครื่องสำอาง ส่วนใหญ่บ่นให้ฟังเกี่ยวกับปัญหาการใช้มาสคาร่าและปัดมาสคาร่าให้ออกมาสวยอย่างที่ต้องการไม่ได้ เนื่องจากมาสคาร่าที่ใช้อยู่นั้นไม่สามารถต่อขนตาให้ยาวอย่างที่ต้องการ และยังทิ้งรอยเปื้อนให้อีก บางครั้งเมื่อคุณปัดมาสคาร่ามากกว่า 1 ครั้ง หรือ 1 ชั้น ขนตาจะดูเป็นก้อนและไม่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคุณจำเป็นต้องรีบออกจากบ้านในตอนเช้า หรือเตรียมตัวออกเดท คงไม่เสียเวลามากถ้าคุณจะปัดขนตาให้สวยก่อนออกจากบ้าน เราจึงมีความยินดีแนะนำ เดจาวู ไฟเบอร์วิก ให้สาวๆ ยุคนี้”

เมคอัพอาร์ติสต์ มร.เซอิจิ โคร่า Chief Make up Artist จากบริษัท เพียส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เดินทางมาอวดลีลาการปัดมาสคาร่าให้กับวีเจสาว พิตต้า ณ พัทลุง ซึ่งเคล็ดลับการแต่งดวงตากลมโตนั้น แม้จะเป็นสาวหมวย หรือสาวตาเล็ก หากรู้จักแต่งตาเพื่อให้โดดเด่นก็ทำได้ง่าย เริ่มจากการวาดเฟรมตาโดยอายไลเนอร์ ให้เนียนตลอดทั้งตาบน และกึ่งกลางด้านหางตาของขอบตาล่าง จากนั้นแต่งแต้มสีสันของอายแชโดว์ ให้ทั่วเปลือกตา และก็ถึงเวลาเนรมิตขนตาให้งามงอนด้วยมาสคาร่า

เริ่มจาก ปัดมาสคาร่าให้กับขนตาบนเป็นวง 360 องศา โดยปัดลงก่อน จากนั้นปัดขึ้น และปัดไปด้านข้างซ้ายขวา จากนั้นก็ปัดลงอีกทีให้ขนตาเข้ม และปัดขึ้นอีกครั้งเพิ่มความงามงอน เมื่อได้ความเข้มและความงอนเท่าที่ต้องการแล้ว ก็ถึงเวลาต่อขนตาให้ยาวจรดฟ้า ด้วยการตั้งแปรงปัดขึ้น และปัดชี้ขึ้นให้ตลอดทั้งขนตาบน ขนตาล่างก็เช่นเดียวกัน ตั้งแปรงปัดแล้วใช้หัวแปรงปัดไปมาทั้งซ้ายและขวาให้ทั่ว

เพียงเท่านี้ ก็ได้ดวงตากลมโตสมใจ มร. เซอิจิ โคร่า ฝากทิ้งท้ายไว้ว่า การปัดมาสคาร่านั้น ควรปัดซ้ำหลายๆ ครั้ง แม้จะมาสคาร่าที่ปัดจะแห้งแล้ว ก็ต้องปัดซ้ำอีก เพื่อให้ดวงตาดูเข้มและชัด สำหรับผู้ที่เริ่มต้นปัดมาสคาร่าและยังไม่ชำนาญ วิธีทำง่ายๆ เพียงถือกระจกไว้ในมุมตัก จากนั้นก้มมองกระจก และปัดขนตาขึ้น เพราะวิธีนี้ทำให้เห็นขนตาเด่นชัด และควรเลือกมาสคาร่าที่มีคุณภาพ และลบออกง่าย เพราะจะได้ไม่ต้องกลัวเลอะ

ที่สำคัญอย่าลืมปิดมาสคาร่าให้สนิททุกครั้งหลังใช้ เพื่อให้สามารถเก็บไว้ใช้ได้นาน ซึ่งโดยเฉลี่ยการใช้มาสคาร่าของสาวๆ จะใช้ได้ประมาณ 3 เดือนต่อแท่ง เพียงเท่านี้ สาวๆ ก็มีทั้งตากลมโต และมีมาสคาร่าเก็บไว้ใช้ได้นานๆ




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2551    
Last Update : 23 สิงหาคม 2551 22:15:43 น.
Counter : 510 Pageviews.  

อยากผอม...อย่ากินอาหารเป็นกลุ่ม!?


"กินเป็นกลุ่มกินได้มากขึ้น"

กินอาหารเป็นกลุ่ม จะยิ่งกินได้มากขึ้น

การศึกษาครั้งนี้ ทำให้พี่ตินตาโตขึ้นมาหน่อย

เมื่อนักวิจัย พบว่าการที่เด็กๆ ได้กินอาหารรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่

พวกเขาดูจะกินได้มากกว่า การที่เขาอยู่คนเดียว เป็นจำนวนถึงสามเท่า!!!!!

จากการทดลองในเด็กจำนวน 54 คน อายุ 2-6 ขวบ

ได้พบว่า เมื่อเข้ามารวมกลุ่มกันหลายๆ คน

เด็กๆ จะมีแนวโน้มที่จะหยิบอาหาร หรือขนมเข้าปากกว่าเมื่อให้พวกเขากินคนเดียว

และนอกจากจะกินเยอะแล้ว พวกเขายังกินเร็วขึ้นอีกด้วย

แต่ที่แปลกคือ พวกเขาจะไม่ค่อยทำความรู้จักกัน

ในขณะที่ ถ้าให้พวกเขาอยู่กันแค่สองหรือสามคน

การรับประทานอาหารจะลดลง แต่จะเน้นไปทางด้านการทำความรู้จักกันมากกว่า






"เป็นได้ทุกวัย"

พฤติกรรมการกินได้มากขึ้นเมื่ออยู่ในกลุ่มนื้ ไม่ได้เกิดแค่ในเด็กเท่านั้น

แต่ยังเกิดในผู้ใหญ่ และสัตว์ต่างๆ อีกด้วย

เนื่องจากการที่คนเราได้อยู่ในที่ๆ มีเสียงเยอะๆ และมีจำนวนคนที่มาก

จะช่วยกระตุ้นความอยากอาหารให้เพิ่มมากขึ้น

ยิ่งได้เห็นคนอื่นกินอย่างน่าอร่อย ก็จะยิ่งทำให้เราอยากจะกินตามไปด้วย

เพราะฉะนั้น การทดลองนี้ จึงสรุปได้ว่า

ถ้าใครที่อ้วนอยู่แล้ว และอยากจะลดความอ้วน

ก็ควรจะกินข้าวคนเดียวอยู่ที่บ้าน

แต่ถ้าใครผอม และอยากจะกินข้าวได้เยอะขึ้น

ก็ควรจะออกไปข้างนอก หาที่ที่มีคนเยอะๆ เพื่อจะกระตุ้นความอยากรับประทานอาหารให้มากขึ้น




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2551    
Last Update : 23 สิงหาคม 2551 22:14:27 น.
Counter : 494 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  

นากาชิม่า
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Tried to take a picture
Of love
Didn't think I'd miss her
That much
I want to fill this new frame
But it's empty

Tried to write a letter
In ink
It's been getting better
I think
I got a piece of paper
But it's empty
It's empty

Maybe we're trying
Trying too hard
Maybe we're torn apart
Maybe the timing
Is beating our hearts
We're empty

And I even wonder
If we
Should be getting under
These sheets
We could lie in this bed
But it's empty
It's empty
Friends' blogs
[Add นากาชิม่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.