Q[-___-Q ma leaw ja
Group Blog
 
All Blogs
 

พอกันที พุงป่อง

เคยเป็นบ้างไหมว่า แม้เราจะลดน้ำหนักสักแค่ไหน หน้าท้องของเราก็ยังป่องไม่เรียบตึงเช้งกะเด๊ะซะที คุณควรรู้ไว้ว่าสาเหตุของพุงป่องไม่ใช่จากการรับประทานเพียงอย่างเดียว และคนพุงป่องก็ไม่ได้แปลว่าอ้วนด้วย แต่อาจเป็นเพียงอาการบวมน้ำเท่านั้น ลองเรียนรู้สักนิดเพื่อหาทางกำจัดพุงป่องๆ แบบถาวรกันดีกว่า

1. การแพ้อาหาร
บางครั้งอาการท้องบวมอาจเกิดจากอาการระคายเคืองหรือการติดเชื้อของระบบย่อยอาหารในช่องท้อง หรืออาจรวมถึงการรับประทานยาบางชนิดที่ทำให้บวมน้ำและยังรวมไปถึงการมีรอบเดือนด้วย แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าหน้าท้องของคุณบวมขึ้นผิดปกติหลังทานอาหารบางชนิด ให้สันนิษฐานได้ว่าคุณน่าจะมีอาการแพ้อาหารเข้าให้แล้ว จากสถิติพบว่าอาหารจำพวกแป้งและนมมีโอกาสทำให้เกิดอาการแพ้และบวมมากที่สุด


2.อาหารลดน้ำหนัก
คนที่ชอบหวังพึ่งอาหารลดน้ำหนักจำพวกโลว์-แฟ้ต หรือแฟ้ต-ฟรีมักจะมีปัญหาพุงป่อง เนื่องจากคุณจะคิดว่ามันเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำ จึงสามารถกินมากกว่าปกติ อาหารพวกนี้อาจมีพลังงานน้อยกว่าปกติ แต่มันก็ไม่ได้น้อยขนาดนั้น ทางที่ดีหันมารับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้นจะดีกว่า รวมทั้งรับประทานอาหารที่มีเอนไซม์ช่วยย่อย อาทิ น้ำมะนาว น้ำส้มสายชูสกัดจากแอ๊ปเปิ้ล หรือผักสดต่างๆ


3.กินช้าๆ แต่บ่อยๆ
เลิกนิสัยรีบกินรีบไปซะที ค่อยๆ เคี้ยวอาหารช้า ๆ เพื่อให้ประสาทรับรู้ของเราค่อยๆ รู้สึกอิ่ม และในแต่ละมื้ออย่ากินให้เยอะจนอิ่มแน่นท้อง คุณควรแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อย่อย ๆ แต่อย่ากินขนมจุบจิบจำพวกขนมนมเนยต่าง ๆ เลือกกินผลไม้หรือธัญพืช เมื่อหิวระหว่างมื้อจะดีกว่า


4.ขจัดสารพิษ
แอลกอฮอล์ คาเฟอีน และนิโคตินในบุหรี่มีผลร้ายต่อระบบเผาผลาญอาหารของร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายบวมน้ำและยังก่อให้เกิดเซลลูไลท์อีกด้วย ดังนั้นเมื่อรู้เหตุดังนี้แล้วก็แค่ลดละเลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนต่าง ๆ และเลิกสูบบุหรี่ไปซะด้วยเลยในเวลาเดียวกัน


5.หัดกินสักนิด
ในกระเพาะของเราจะมีแบคทีเรียอาศัยอยู่เพื่อช่วยในการย่อยอาหาร แต่บางครั้งแบคทีเรียเหล่านี้ก็อาจถูกกำจัดไปจากสภาวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยหรือการรับประทานอาหารบางชนิด แนะนำให้คุณรับประทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติเป็นประจำเพื่อปรับสมดุลแบคทีเรียกลุ่มที่เป็นประโยชน์ จะช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและช่วยให้หน้าท้องของคุณบวมน้อยลงด้วย


6.ดื่มน้ำให้มาก
น้ำเป็นเสมือนขุมทรัพย์แห่งความงามจริงๆ รวมไปถึงอาการบวมน้ำนี้ด้วยคุณควรดื่มน้ำให้ได้อย่างต่ำ 8 แก้วต่อวัน แต่วิธีการดื่มนั้นอย่าดื่มหมดแก้วในคราวเดียวควรจิบน้ำบ่อยๆ เรื่อยๆ เพราะการที่คุณดื่มน้ำแก้วใหญ่ในคราวเดียว จะทำให้กระเพาะปัสสาวะของคุณขยายใหญ่ ถ้าจะให้ดีลองเลือกดื่มขาสมุนไพร อาทิ ชาเป็ปเปอร์มินต์ หรือชาคาโมไมล์แทนน้ำเปล่า โดยเฉพาะการดื่มในช่วงหลังอาหาร จะช่วยให้อาหารที่คุณรับประทานเข้าไป ย่อยได้ดีขึ้นด้วย


7. บริหารกล้ามเนื้อหัวใจ
ผู้หญิงหลายคนเชื่อว่าการซิตอัพทุกวันจะช่วยให้หน้าท้องแบนเรียบแต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย แม้ว่าการซิตอัพจะช่วยสร้างกล้ามท้อง แต่ถ้าร่างกายของคุณนั้นยังปกคลุมด้วยชั้นไขมันแล้วล่ะก็ หน้าท้องเรียบตึงก็จะไม่มีวันโผล่มาให้เห็นหรอก ดังนั้นจึงจำเป็นที่คุณจะต้องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างต่ำ 3 วันต่อสัปดาห์เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันออกไป ผนวกกับการซิตอัพ คราวนี้แหละสวยตึงแน่นอน


8. หายใจลึกๆ
เมื่อคุณหายใจเข้าออกแบบลึกๆ จะช่วยให้ร่างกายจะคลายความตึงเครียดออกมา รวมทั้งยังช่วยในการเติมอ็อกชิเจนและพลังชีวิตให้ร่างกายด้วย ทุกครั้งที่คุณหายใจให้พยายามหายใจให้ลึกเข้าไปยังท้อง อย่าหยุดเพียงแค่เก็บลมไว้ในช่องอกการหายใจเข้าออกจากท้องเป็นนิสัยจะช่วยกระชับให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงมากยิ่งขึ้น


9. นวดกระชับหน้าท้อง
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการนวดช่วยได้ จริงๆ เนื่องจากการนวดท้องนั้น ช่วยไล่ลมที่กักเก็บไว้ในช่องท้องได้ และช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นด้วย ณ วิธีการนวดก็ไม่ยาก เพียงวางฝ่ามือลงบนท้องแล้วนวดวนตามเข็มนาฬิกา ถ้าอยากเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น คุณอาจใช้ครีมจำพวกกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องร่วมด้วยก็ได้




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2551 12:43:30 น.
Counter : 615 Pageviews.  

3 วิธีง่ายๆ เมื่อสิวมา

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ดูแลตัวเองแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่าต้องมีสักวันหนึ่งที่สิวมาเยือน นอกจากทำใจว่าเป็นเรื่องธรรมชาติแล้ว มี 3 วิธีในการดูแล (สิว) ง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ


1. ทำความสะอาด... ล้างทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนกับผิวพรรณ ปราศจาก น้ำหอม และมีค่า pH ที่สมดุล ถ้าคุณเป็นคนผิวหน้ามันมาก ให้ใช้คลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมของ Benzoyl per-oxide หรือ Salicylic acid แต่อย่าสครับหน้าเด็ดขาด! เพราะเป็นการรบกวนผิวให้เกิดความระคายเคืองโดยเฉพาะบริเวณที่เกิดสิว จากนั้นให้ใช้โทนเนอร์ ถ้าหน้าคุณมัน ถ้าไม่ก็ข้ามไปได้ค่ะ


2. ดูแล...ใช้ทรีตเม้นท์รักษาสิวที่มีส่วนผสมของ Benzoyl peroxide, Glycolic acid หรือ Salicylic acid ทาให้ทั่วผิวหน้า และในช่วงเวลากลางคืน ให้ใช้ยาแต้มสิว ในบริเวณที่เกิดสิว ตามด้วยม้อยส์เจอร์ไรเซอร์แบบออยล์ฟรีในบริเวณที่ผิวแห้ง และอย่าลืมทาครีมกันแดด แบบออยล์ฟรีให้ทั่วใบหน้าในตอนเช้าด้วยนะคะ


3. ใช้คอนซีลเลอร์ในการปกปิด...ในระหว่างวันคุณสามารถใช้แปรงเมกอัพเล็ก ๆ หรือนิ้วมือนี่แหละค่ะ แต้มคอนซีลเลอร์ หรือครีมฟาวน์เดชั่นปกปิดรอยสิวที่เกิดขึ้นได้ เลือกสีที่เข้ากับผิวคุณ แต่ปกปิดได้ดี จากนั้น ค่อยตามด้วยแป้งฝุ่นที่เข้ากับสีผิวอีกทีหนึ่ง


แล้วสิวก็จะไม่เป็นปัญหากับคุณอีกต่อไป




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2551 12:43:00 น.
Counter : 513 Pageviews.  

Nice Girl, white Smile





ถ้ารอยยิ้มของสาวๆ ดูไม่สดใส เพราะเต็มไปด้วยคราบเหลือง
เชื่อหรือไม่ว่ารอยยิ้มจากฟันขาวทำให้ใครๆ หลงมานักต่อนักแล้ว ด้วยเหตุว่าฟันขาว ๆ ทำให้หนุ่ม ๆ อนุมานถึงความสะอาดของช่องปากไปด้วย ที่สำคัญฟันขาว ๆ ทำให้ใบหน้าของเราสดใสขึ้นมาได้อีกต่างหาก แต่ต้นเหตุของฟันไม่ขาว หรือฟันมีคราบเหลืองนั้น ก็มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ได้แก่

- เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสีฟันเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะทำให้มองเห็นเนื้อฟันสีเหลืองมากขึ้น

- เกิดจากปัจจัยภายใน เช่น การดื่มน้ำหรืออาหารที่มีฟลูออไรด์ ผลจากการกินยาพวกเตตราไซคลิน และวัสดุอุดฟันที่มีส่วนผสมของโลหะ

- เกิดจากปัจจัยภายนอก นั่นคือ การสะสมของคราบบุหรี่ คราบชา กาแฟ หรือหินปูน ซึ่งส่วนใหญ่ก็สะสมมานานนับปี

แต่ก่อนที่ความไม่สดใสทั้งหลายจะสนิทสนมกับฟันของเราไปมากกว่านี้เห็นทีต้องโบกมืออำลาและคืนความขาวสะอาดให้กับฟันกันบ้างแล้วละ ด้วยวิธีการที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ นั่นคือ การฟอกสีฟัน ซึ่งทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำไว้ดังนี้
1. การฟอกสีฟันที่คลินิก
การฟอกสีฟันที่คลินิกมีขั้นตอนการทำคือ ทาน้ำยาบริเวณเหงือกเพื่อป้องกันสวนที่อ่อนโยน หลังจากนั้นจึงทาน้ำยาฟอกทีฟัน แล้วกระตุ้นการทำงานด้วยแสงเลเซอร์ หรืออาจจะเป็นแสงสีฟ้า (Blue Light) หรือไม่ก็แสงเย็น (Cold Light) ซึ่งขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่คลินิก และดุลยพินิจของทันตแพทย์ด้วย

ข้อดี
- เห็นผลชัดเจนภายหลังจากการทำ
- ใช้เวลาน้อย ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
- ลดปัญหาเสียวฟันหลังการทำได้

ข้อเสีย- ต้องใช้น้ำยาเข้มข้นมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงทำให้เสียวฟันระหว่างทำได้

2. การฟอกสีฟันที่บ้าน
ทันตแพทย์จะพิมพ์ฟันเพื่อทำถาดใส่น้ำยาฟอก แล้วพิจารณาระดับความเข้มข้นของน้ำยาฟอกให้เรานำกลับไปทำที่บ้าน โดยจะให้แต้มน้ำยาลงในถาดฟัน และครอบฟันทิ้งไว้ขณะนอนหลับ วันละประมาณ 5-8 ชั่วโมงซึ่งตองทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

ข้อดี- เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
- เป็นวิธีที่ให้ผลดีและคงประสิทธิภาพได้นาน
- จะมีอาการเสียวฟันเล็กน้อยขณะทำใน 2-3 วันแรก แต่หลังจากนั้นจะดีขึ้น
ข้อเสีย
- ยุ่งยากและเห็นผลช้ากว่าการฟอกสีฟันที่คลินิก


ทันตแพทย์บอกว่าการฟอกสีฟันสามารถทำให้ฟันของเราขาวขึ้นได้จริงแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสีฟันเดิมของเราด้วย ดังนั้นความขาวที่ได้ของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน และหลังจากฟอกสีฟันแล้วก็ต้องเอาใส่ใจเป็นพิเศษด้วย

โดยทั่วไปหลังจากการฟอกสีฟันแล้ว สีฟันใหม่จะอยู่กับเราได้ประมาณ 1-4 ปีซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลด้วย รวมทั้งการรับประทานอาหารทีมีสีเข้ม ชา กาแฟหรือไวน์แดงก็มีส่วนทำให้ฟันขาว ๆ จากเราไปเร็วขึ้นด้วย และถ้าตอนนี้ คุณได้เป็นเจ้าของฟันขาว ๆ แล้ว ก็ถึงคราวที่จะออกไปอวดยิ้มกับหนุ่มๆ ได้เลย




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2551 12:42:29 น.
Counter : 565 Pageviews.  

เคล็ด(ไม่)ลับดูแล "หล่อ" ของผู้ชาย

ใช่ว่าผู้หญิงจะให้ความสำคัญกับการดูแลอย่างเดียว ทุกวันนี้หนุ่มๆ ก็หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองเหมือนกัน จนกลายเป็นกระแส "เมโทร เซ็กช่วล" ที่ระบาดกันในหมู่ผู้ชายที่หันมาดูแลตัวเอง ด้วยเหตุนี้ออริจินส์จึงขอแนะนำ "save the Males" ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย พร้อมกับแนะนำเคล็ดลับการดูแลผิวพรรณสำหรับผู้ชายหลายวัย เพราะอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้องรับมือกับปัญหาของผิวที่แตกต่างกันไล่ไปตั้งแต่

ช่วงวัย 20 มักมีปัญหา "สิวและน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า" ในช่วงอายุขึ้นเลข 2 ยังไม่ค่อยมีเรื่องผิวหน้าให้ต้องกังวล จึงเป็นช่วงการดูแลรักษาผิวให้แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นทำความสะอาดผิวหน้าด้วยครีมหรือโฟมล้างหน้าสูตรละเอียดอ่อน ปราศจากน้ำหอม มีความเป็นกรดอ่อนๆ และอาจใช้เจลแต้มสิวที่มีส่วนผสมของกรดซาลิซิลิคแต้มสิววันละ 2 ครั้ง และควรใช้ครีมกันแดดเป็นประจำด้วย

ช่วงวัย 30 ปัญหา "ผิวหน้าหมองคล้ำแลดูหม่นหมอง สีผิวไม่สม่ำเสมอ ฝ้า จุดด่างดำ ริ้วรอยบนใบหน้าและรอบดวงตา" แก้ไขด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องแสงแดดเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนทำกิจกรรมกลางแจ้ง และควรสครับผิวหน้าเป็นประจำ 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์ เพื่อการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพแล้ว ริ้วรอยและจุดด่างดำจึงและดูจางลง

ช่วงวัย 40 ปัญหา "ริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของใบหน้า เช่น ริ้วรอยจากการขมวดคิ้ว รอยที่เกิดจากการกดทับจากการนอน ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้นไม่สดใส หย่อนคล้อยไม่เรียบตึงเหมือนเคย" เพื่อเป็นการปกป้องริ้วรอยที่เกิดจากการกดทับของการนอนควรฝึกนิสัยการนอนหงาย และใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อมอบความชุ่มชื้นและปกป้องจากแสงแดด

ช่วงวัย 50 ปัญหา "ร่างกายเริ่มผลิตน้ำมันในบริเวณชั้นผิวน้อยลง ส่งผลให้ผิวหนังแห้งกร้าน ผิวหนังมีความไวต่อแสงมากขึ้น ฝ้า กระ จุดด่างดำมีมากขึ้น" แก้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและป้องกันแสงแดดเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อผิวขาดความชุ่มชื้น และผิวหนังที่ไวต่อแสงมากขึ้น หมายความว่า ผิวหนังอ่อนแอ และต้องการการดูแลมากขึ้นเป็นพิเศษ

เป็นวิธีง่ายๆ ที่ผู้ชายนำไปทำได้ไม่ยาก




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2551 12:40:22 น.
Counter : 416 Pageviews.  

อาหารที่เหมาะกับสภาพผิว

คนผิวแห้ง
ให้กินเพิ่ม : ปลาที่มีน้ำมัน เช่น ปลาแมคคอเรล ปลาแซลมอน ปลากะตัก เมล็ดธัญพืช ถั่วเปลือกแข็งชนิดต่างๆ เพื่อให้ผิวได้รับไขมัน "ชนิดดี" ที่สำคัญหลายชนิด

และลด : ไขมันประเภทมาร์การีน ฟาสต์ฟู้ด และอาหารสำเร็จรูปเลิกกินมันฝรั่งทอด บิสกิต และน้ำตาลขัดขาว

เหตุผล : ผิวขาดกรดไขมันชนิดดีสำคัญหลายตัว ที่รักษาความนุ่มชุ่มชื่นของผิวเอาไว้ อาหารที่แนะนำให้เพิ่มจะมีไขมันหลัก 2 ชนิด คือ โอเมก้า 3 และ โอเมก้า 6



คนผิวมัน
เพิ่ม : ผลไม้ ผักสดเพื่อทำให้ผิวชุ่มชื่นโดยเฉพาะ สับปะรด และมะละกอ อะโวคาโด ถั่วเปลือกแข็ง และเมล็ดธัญพืช

และลด : อาหารอุดมด้วยไขมันอิ่มตัว ผลิตภัณฑ์นมเนย เนื้อแดง และของทอด "อาหารเลว" เหล่านี้จะยิ่งทำให้สภาพผิวแย่ลง

เหตุผล : ที่แนะนำให้กินอาหารพวกนี้น้อยลง เพราะมันรบกวนสมดุลของไขมันในเยื่อหุ้มเซลล์ผิวหนังที่ละเอียดอ่อน ซึ่งจะไปกระตุ้นผิวผลิตไขมันมากเกินไป



ส่วนผิวแพ้ง่าย
ให้เพิ่ม : วิตามิน เอ และซี พบมากในแครอต มะม่วง กีวี กินเนื้อสัตว์ ข้าวโอ๊ต และถั่วเปลือกแข็งให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มธาตุสังกะสี

ลด : อาหารรสจัด เช่น พริก การแพ้อาหารอาจเป็นผลเสียต่อผิว จึงควรปรึกษานักโภชนาการ

เหตุผล : อาหารรสจัดทำให้ระบบการย่อยของร่างการระคายเคือง ทำให้เยื่อบุอักเสบได้ ผลคือทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตื่นตัวซึ่งเป็นสาเหตุของอาการหน้าแดง และผดผื่น การแพ้อาหารชนิดอื่นก็ทำให้เกิดปัญหา




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2551 12:38:30 น.
Counter : 386 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  

นากาชิม่า
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Tried to take a picture
Of love
Didn't think I'd miss her
That much
I want to fill this new frame
But it's empty

Tried to write a letter
In ink
It's been getting better
I think
I got a piece of paper
But it's empty
It's empty

Maybe we're trying
Trying too hard
Maybe we're torn apart
Maybe the timing
Is beating our hearts
We're empty

And I even wonder
If we
Should be getting under
These sheets
We could lie in this bed
But it's empty
It's empty
Friends' blogs
[Add นากาชิม่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.