Q[-___-Q ma leaw ja
Group Blog
 
All Blogs
 

18 สูตรลับไขรหัสความสวย!?




"18 เคล็ดลับความสวย"

1. กลิ่นหอม เจลอาบน้ำหรือแชมพูที่มีสารสกัดจากส้ม มะนาวหวาน มิ้นต์ หรือโรสแมรี่จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เพราะจมูกจะทำหน้าที่ส่งกลิ่นหอมสดชื่นไปสู่สมองเพื่อปลุกคุณให้ตื่นจากความซึมเซา หรือลองแชมพูหรือเจลอาบน้ำกลิ่นผลไม้หวานของ St´ Eve ก็ไม่เลวนะคะ

2. ดวงตาสดใส การกดจุดจุช่วยให้ดวงตาสดใส ให้คุณใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือกดที่มุมตาด้านใน 3 ครั้ง ครั้งละ 30 วินาทิ จากนั้นรองพื้นขนตาและแต่งขนตาด้วยมาสคาร่าให้สวยงอนงาม

3. แสงเงาแห่งความงาม เมื่อคุณแต่งหน้า ควรส่องกระจกที่หน้าต่างเพื่อให้ได้แสงเงาที่ถูกต้อง ใบหน้าที่เติมแต่งด้วยเครื่องสำอางจะได้ไม่ดูหลอกตา จากนั้นใช้พู่กันหนาปัดบลัชออนสีทองที่หน้าผาก จมูก และแก้ม จะทำให้ได้ใบหน้ารูปสวย สดชื่นแจ่มใส

4. ทดลองเครื่องสำอางแกะกล่องในบ้าน เมื่อคุณต้องไปงานเลี้ยง ไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่เพิ่งซื้อมาเพราะคุณอาจแพ้เครื่องสำอาง ควรใช้เครื่องสำอางแกะกล่องในวันที่ไม่ได้ไปไหนจะดีกว่า

5. พกเครื่องสำอางไปพักร้อน แสงแดดแรงกล้าจะทำให้ผิวหน้าของคุณสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย หากคุณไปพักร้อนในระยะเวลาสั้นๆ อย่าลืมนำเครื่องสำอางบำรุงผิวไปด้วยและคุณควรนำหลอดใส่เครื่องสำอางไปใช้จะดีกว่า เพราะพกง่าย สะดวก และเป็นการยืดอายุเครื่องสำอางในกระปุกของคุณอีกด้วยนะ

6. การนวดหน้าด้วยครีม 46% ของผู้หญิงมีริ้วรอยอันเนื่องมาจากการลดน้ำหนักหรือการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ดังนั้นคุณจึงควรนวดหน้าด้วยครีมทุกวัน โดยนวดเป็นวงกลมจากข้างล่างขึ้นข้างบน

7. กระดาษซับหน้าใส ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สวยได้ทั้งวัน ฉะนั้นอย่าลืมพกกระดาษซับมันติดกระเป๋าไว้เสมอ

8. ปกปิดจุดด่างดำ สำหรับสาวๆที่ธรรมชาติไม่เป็นใจให้คุณสวยสมบูรณ์ โดยเฉพาะใบหน้าที่มีรอยกระ จุดด่างดำ ปัจจุบันมีครีมที่ทาปกปิดรอยเหล่านี้ได้ ให้คุณทาครีมที่ปีกจมูก สันจมูกและโหนกแก้ม จากนั้นใช้นิ้วมือเกลี่ยเบาๆให้ทั่ว หากอยากให้ดูสวยเด่นขึ้นก็ใช้แป้งโปร่งใสทาทับอีกที

9. เคล็ดลับอกสวย การใช้ผลิตผลจากธรรมชาติดูแลผิวพรรณทำให้ไม่ต้องจ่ายเงินไปมากและผักบางชนิดให้ความชุ่มชื้นมากด้วย เช่น แตงกวา ให้ฝานเปลือกแตงกวา (อย่าหั่นเป็นชิ้น) แล้วนำมาแปะที่บริเวณทรวงอกเพราะเนื้อแตงกวาหรือแอปเปิ้ลที่อยู่ใต้เปลือกให้ความชุ่มชื้นกับผิวมาก

10. ริมฝีปากมีเลือดฝาด ใช้แปรงสีฟันที่เปียกชื้นนวดริมฝีปากให้หลุดออกเบาๆเป็นวงกลม เป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและมีผลทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้การทาลิปสติกติดริมฝีปากง่ายขึ้นอีกด้วยนะ

11. ข้อศอกอ่อนนุ่มด้วยมะนาว สำหรับผู้ที่มีวัยต่ำกว่า 30 ปี ผิวจะผลัดเวลล์ใหม่ๆทุกๆ 28 วัน หากอายุยิ่งมากขึ้นเท่าไรผิวก็จะยิ่งทำการผลัดเซลล์ใหม่ช้าลงเรื่อยๆ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องช่วยผิวผลัดเซลล์ เช่นผิวที่ตายด้านบริเวณข้อศอกให้ใช้น้ำมะนาว เอ็นไซม์และกรดจากมะนาวจะทำให้ผิวที่แข็งกระด้างอ่อนนุ่มลง ให้คุณหั่นมะนาวสองซีกแล้วนำแต่ละซีกประคบข้อศอกทั้งสองข้างไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออก หลังจากนั้นจึงทาครีมบำรุง

12. ขจัดขนบนใบหน้า สำหรับผู้หญิงที่มีขนบริเวณเหนือริมฝีปากและข้างแก้ม สามารถขจัดขนได้ด้วยแผ่นขจัดขนโดยไม่เจ็บ จากนั้นต้องบำรุงด้วยโลชั่นบำรุงผิว

13. บำรุงผิวด้วยแอปเปิ้ล ล้างแอปเปิ้ลให้สะอาด 2 ลูก แล้วนำมาขูดทั้งเปลือกให้ละเอียด ใส่น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลลงไปผสม 3 ช้อนโต๊ะ จากนั้นทาผิวทิ้งไว้ 15 นาที

14. ผ่อนคลายผิว ริ้วรอยย่นบนใบหน้าเริ่มมาเยือนตามวัยที่มากขึ้น โดยเริ่มที่บริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ดังนั้นจึงมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายเพื่อใช้ป้องกันและลดริ้วรอยย่น ก่อนซื้อเครื่องสำอางมาใช้ควรดูคุณสมบัติด้วยนะจ๊ะ

15. เล็บงาม





 

Create Date : 23 สิงหาคม 2551    
Last Update : 23 สิงหาคม 2551 22:13:32 น.
Counter : 478 Pageviews.  

ใส่น้ำหอมยังไง ให้หอมนาน



"เคล็ดลับให้หอมยาวนาน"

ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งฮอลล์ ออฟ เฟรม สยามพารากอน น้ำหอมแฮปปี้ จากคลีนิกข์ จัดงาน Senses of Happiness with Clinique Happy ไปเมื่อไม่นานนี้ โดยมีเหล่าเซเลบริตี้จากหลายแวดวงควงคู่คล้องแขนกันมาร่วมงานและร่วมเผยประสบการณ์ความสุขกันอย่างมากมาย โดยคลีนิกข์ยังได้เผยเคล็ดลับให้กับเหล่าผู้พิสมัยในกรุ่นกลิ่นความหอมให้ยืดเวลาให้ยาวนานยิ่งขึ้น

เคล็ดที่ว่าก็คือ นอกจากจะฉีดน้ำหอมในอากาศแล้ว เดินผ่านให้ลองฉีดสเปรย์ลงบนเส้นผม เพราะเส้นผมสามารถเก็บกลิ่นไว้ได้นานกว่า เนื่องจากเส้นผมเต็มไปด้วยโพรงเล็กๆ ที่กลิ่นสามารถแทรกซึมผ่านได้เป็นอย่างดี ยิ่งกว่านั้นวิธีนี้ยังช่วยให้กลิ่นหอมนุ่มนวลยิ่งขึ้น เนื่องจากโมเลกุลของน้ำหอมจะถูกปล่อยออกมาในอากาศเวลาที่เส้นผมเคลื่อนไหวไปมา

"เคล็ดลับหอมหลายชั้น"

เรายังสามารถเพิ่มระดับความหอมได้อีกหลายๆ ชั้นด้วยผลิตภัณฑ์ในรูปแบบอื่น คือวิธีที่จะทำให้กลิ่นหอมติดทนนานตลอดทั้งวัน เริ่มจากการใช้เครื่องอาบน้ำที่มีกลิ่นน้ำหอมอาบน้ำ ตามด้วยบอดี้ครีม กลิ่นเดียวกัน จากนั้นจึงฉีดสเปรย์น้ำหอมในขั้นตอนสุดท้าย โดยหลีกเลี่ยงการฉีดสเปรย์บนเครื่องประดับ

ส่วนการฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจรต่างๆ เช่น ข้อมือ และหลังใบหู ก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า จะช่วยให้กลิ่นหอมติดทนนานยิ่งขึ้น แต่ยังมีอีกหลายจุดที่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมได้อีกเช่นกัน ได้แก่ หลังคอ บนเสื้อเปิดไหล่ เส้นผม หรือแม้กระทั่งข้อพับหลังหัวเข่า นอกจากนั้นยังมีเรื่องของปัจจัยจากสีผิว ซึ่งปริมาณน้ำมันตามธรรมชาติบนผิวของแต่ละคนมีผลต่อลักษณะของกลิ่นและความคิดทนของน้ำหอม

"ความร้อนในร่างกาย"

โดยทั่วไปคนผิวขาวและค่อนข้างแห้ง จะมีปริมาณน้ำมันน้อยทำให้กลิ่นติดไม่ดีเท่ากับคนผิวคล้ำ และมีความมันมากกว่า และผิวยังมีผลมาจากสิ่งที่กินเข้าไป ซึ่งกลิ่นกระเทียมหรือปลาในอาหารจะส่งผลต่อกลิ่นน้ำหอมที่ใช้ในวันรุ่งขึ้นอีกด้วย รวมถึงสภาพอากาศที่จะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมเข้มข้นขึ้นหากมีอากาศที่อบอุ่น เช่น เวลาที่สวมใส่เสื้อสเวตเตอร์หรือเวลาที่ร่างกายอยู่ในภาวะตื่นตัว ความร้อนในร่างกายจะเร่งปฏิกิริยาการแพร่กระจายของกลิ่นน้ำหอมให้ออกมามากขึ้นกว่าปกติ

สุดท้ายการเก็บรักษาน้ำหอมในที่เย็น ห่างไกลจากแสงแดด และอุณหภูมิร้อนจัด ปิดฝาให้สนิททุกครั้งเพื่อป้องกันการเปลี่ยนกลิ่นของน้ำหอม และไม่ควรเก็บไว้นานเกินกว่าหนึ่งปีครึ่ง ลองทำตามเคล็ดลับขั้นตอนง่ายๆ เท่านี้ก็จะได้แฮปปี้ไปกับน้ำหอมกลิ่นโปรดในแต่ละวันได้ยาวนานยิ่งขึ้น

.........




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2551    
Last Update : 23 สิงหาคม 2551 22:12:45 น.
Counter : 1197 Pageviews.  

ใส่ยีนส์ยังไงให้ดูผอมเพรียว!?




"ใส่แบบไหนคุณดูดี"

กางเกงยีนส์ดูจะเป็นเครื่องแบบมาตรฐานในการแต่งกายของผู้คนในสมัยนี้ไปแล้วก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นคนเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด หรือสาวคอนเซอร์เวทีฟ นอกจากนั้นยีนส์ยังหยิบมาใช้ได้ในทุกสถานการณ์ (จะทางการ หรือไม่ทางการก็ได้ทั้งนั้น) ขอเพียงคุณรู้จักมิกซ์แอนด์แมตช์อย่างเหมาะสม แต่ถึงอย่างนั้นยีนส์ก็สร้างปัญหาให้สาว ๆ ไม่น้อยเหมือนกัน โดยเฉพาะกับสาวเจ้าเนื้อ เคยไหมคะ ? ... ที่เลือกยีนส์แล้วพลาด ใส่ออกมาอ้วนกว่าเดิมซะอีก... เคล็ดลับเหล่านี้ช่วยได้ค่ะ

ยีนส์สีเข้มดี

กางเกงยีนส์สีเข้มนั้นจะช่วยอำพรางรูปร่างให้คุณดูเพรียวขึ้น และยิ่งถ้าคุณนำมาจับคู่กับรองเท้าหรือบู๊ตโทนเข้มเหมือนกัน ก็จะยิ่งทำให้คุณเพรียวขึ้นอีกเท่าตัว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะให้คุณใส่บลูยีนส์สีเข้มกับรองเท้าบู๊ตสีเดียวกันนะคะ เพราะโทนเข้มที่ว่านี้หมายถึงสีเข้มที่เข้ากับกางเกงต่างหากล่ะคะ

มองหาเฉดสว่างที่อยู่บนกางเกง

เฟดดิ้งลุค (Fading look) ที่ไล่โทนสีขาวสว่าง หรือสีซีดขาวบาง ๆ ที่ปรากฏอยู่บนด้านหน้าของขากางเกงสีเข้มนั้นช่วยลวงตาให้คุณดูผอมอย่างมหัศจรรย์

สวมรองเท้ามีส้น

มีความลับอยู่อย่างหนึ่ง คือรองเท้ามีส้นแม้จะสูงเพิ่มขึ้นเพียง 1 นิ้วก็สามารถทำให้ขาคุณดูยาว และรูปร่างคุณดูเพรียวขึ้นได้

เลือกกระเป๋าให้เหมาะสม

ขนาดของกระเป๋ากางเกงถือว่าสำคัญมาก กฎหลักคือควรเลือกขนาดของกระเป๋าให้มีความสัมพันธ์กับยีนส์ ถ้ากางเกงตัวใหญ่กระเป๋ากางเกงก็ควรจะใหญ่ด้วยเช่นกัน เพราะถ้ากระเป๋าขนาดเล็กมาอยู่บนกางเกงตัวใหญ่กางเกงตัวนั้นจะยิ่งบิ๊กเบิ้มเขาไปใหญ่

ตะเข็บช่วยได้

แนวการเย็บตะเข็บข้างที่เย็บให้เห็นเป็นแนวทางด้านหน้านั้นช่วยให้คุณดูผอม เพราะสายตาผู้คนที่มองดูเส้นตรงของแนวตะเข็บนั้นช่วยพราง ให้ผู้สวมใส่ดูเพรียว และเป็นการเพิ่มรายละเอียดของกางเกงยีนส์ให้น่าสนใจมากขึ้นยามเคลื่อนไหว

ปลายขากางเกงยาว ๆ ดีกว่า

ช่วงระยะความห่างระหว่างปลายขากางเกงกับรองเท้าของคุณนั้นมีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน เพราะขากางเกงที่ยาวจนเหลือช่องว่างระหว่างกางเกงกับรองเท้าน้อย คุณก็จะยิ่งดูเพรียวมากขึ้น

อย่าสวมกางเกงไซส์เล็กกว่าตัว

อย่าพยายามแสร้งว่าคุณสวมไซส์ 27 ทั้งที่คุณมีไซส์ 29 ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นแนะนำ แต่ถ้าคุณรู้สึกแย่กับตัวเลขสูง ๆ ละก็ แนะว่าให้ตัดป้ายไซส์ออกซะ และเหตุผลที่คุณไม่ควรสวมยีนส์เล็กกว่าตัว เพราะมันจะทำให้คุณดูอ้วนเตี้ย ตัน แถมยีนส์ตัวเล็กยังทำให้พุงคุณปลิ้น ช่วงเข่าปริอย่างน่าเกลียดด้วยสิคะ

เป็นไงกันบ้างคะสำหรับเคล็ดลับดีที่นำเสนอไป ที่นี้คุณก็ใส่ยีนส์ได้อย่างสบายใจแถมยังช่วยให้คุณดูผอมเพรียว ชวนมองกว่าแต่ก่อนเป็นไหนๆ แล้วใช่ไหมล่ะคะ





 

Create Date : 23 สิงหาคม 2551    
Last Update : 23 สิงหาคม 2551 22:12:01 น.
Counter : 524 Pageviews.  

10 วิธี สร้างเสน่ห์... ขนตางอนงามสวย


ปัดขนตาไม่ให้เลอะเพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้กับดวงตา



ดวงตาเป็นดั่งหน้าต่างของหัวใจ ดวงตาที่สวยใสย่อมสร้างเสน่ห์และดึงดูดใจคนที่พบเจอเสมอ ซึ่งเครื่องสำอางที่ช่วยเพิ่มความงามให้กับดวงตาก็คือ มาสคาร่า แต่สาวๆ ส่วนมากมักจะเจอกับปัญหา เช่น ปัดขนตาเสร็จแล้วเลอะบ้าง หรือปัดเสร็จแล้วรู้สึกไม่สวย จนต้องเช็ดออกแล้วปัดใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องกวนใจสาวๆ ที่ใช้มาสคาร่าอยู่เป็นประจำ ลองหันมาทำตามวิธีที่แนะนำทั้ง 10 วิธีดู




1.ถ้าแปรงปัดชุ่มไปด้วยเนื้อมาสคาร่า ให้ใช้กระดาษทิชชูซับขนแปรงก่อน จะทำให้มาสคาร่าไม่เลอะขณะปัดตา

2.ควรหลีกเลี่ยงการชักแปรงเข้าออกจากหลอด เพราะจะทำให้เนื้อมาสคาร่าแห้งเร็ว

3.ถ้าอยากให้เนื้อมาสคาร่าติดเปรงปัดมากขึ้น ให้หมุนแปรงขณะที่อยู่ข้างในหลอด

4. ควรปัดมาสคาร่าเคลือบขนตามากกว่า 1 ครั้ง เพื่อให้ขนตาดูหนาและยาวขึ้น ควรปัดซ้ำอีกรอบโดยปัดจากโคนขนตาไปถึงปลายขนตา หากปัดพลาด ให้ปัดซ้ำครั้งที่ 3 เฉพาะตรงปลายขนตาเท่านั้น และควรรอให้มาสคาร่าครั้งแรกแห้งก่อนแล้วจึงปัดซ้ำอีกครั้ง

5.การปัดมาสคาร่าที่ขนตาล่างให้ปัดแปรงไปตามแนวขวางเพื่อไม่ให้เนื้อมาสคาร่าเลอะเกินไป ช่วยให้ขนตาไม่ติดกันเป็นแพและแข้งกระด้าง

6.อายุของมาสคาร่าอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ถ้าทิ้งไว้นานกว่านี้เนื้อมาสคาร่าจะแห้งและเกาะกันเป็นก้อน

7. ถ้ามีรอยคล้ำที่ดวงตา ให้ปัดเฉพาะขนตาบนเพราะจะทำให้ดวงตาเปล่งประกายสดใส

8.ถ้าเป็นคนที่มีตาชิด ให้ปัดมาสคาร่าเฉพาะด้านหางตาทั้งขนตาบนและล่าง

9.ถ้าคนมีดวงตาโตลึก ให้ปัดมาสคาร่าทั้งขนตาบนและล่าง และแปรงตาให้เรียงเส้นสวยงา

10. ถ้าเป็นคนตาเล็ก ให้ปัดมาสคาร่าเฉพาะขนตาบนและเน้นที่ขนตาด้านนอก



คงจะหายกังวลแล้วใช่ไหมค่ะวิธีทั้ง10 วิธีที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับดวงตาของคุณ ต่อไปว่าปัดขนตาอย่างไรไม่ให้เลอะ และดวงตาดูสวยเป็นที่สะดุดตาของคนที่มองคุณ




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2551    
Last Update : 23 สิงหาคม 2551 22:10:17 น.
Counter : 541 Pageviews.  

4 วิธีเปลี่ยน"ผมเสีย"เป็น"ผมสวย"

สาวผมแห้ง ยัยหัวแดง คุณผมเสีย"

แย่แน่ๆ หากใครถูกเพื่อนๆ หรือคนรอบข้างมอบฉายาดังกล่าวให้ เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน "โดฟ" มีวิธี "กู้ชีวิตผมเสีย" มาบอกต่อ

ขั้นตอนแรก "ปฐมพยาบาล" ดูว่าเส้นผมส่วนไหนแห้งเสียมากที่สุด กรณีปลายผมที่แตกแดงหรือฉีกขาด ก็ควรเล็มออกทุก 2-4 สัปดาห์ อย่าปล่อยไว้ทิ้งไว้เด็ดขาดเพราะจะทำให้ผมเสียมากขึ้น

ต่อด้วย "เยียวยา" เหมือนคนไข้อาการหนัก ที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง ผมที่แห้งเสียสะสมมานานจะขาดความชุ่มชื้นและอ่อนแอ ควรหาแชมพูและครีมนวดผมที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีแรงๆ แต่บำรุงได้อย่างเข้มข้นเพื่อคืนความชุ่มชื้นให้กับผม หลีกเลี่ยงน้ำร้อนสระผม และควรสระอย่างเบาๆ บีบครีมนวดผมใส่ฝ่ามือถูเข้าด้วยกันแล้วลูบตามเส้นผม เน้นบริเวณปลายผม ส่วนโคนผมอย่าใส่ครีมมากจะทำให้ผมลีบแบน ที่สำคัญควรหมักทิ้งไว้สัก 2 นาที เพื่อให้ครีมบำรุงผมได้เต็มที่ แล้วล้างออกให้หมด ใช้ผ้าขนหนูเช็ดเบาๆ

ขั้นตอนที่สาม "ฟื้นฟู" บำรุงผมด้วยทรีทเมนท์ที่มีมอยซ์เจอไรเซอร์เข้มข้นเป็นประจำ ประมาณอาทิตย์ละครั้ง ชโลมให้ทั่วตลอดเส้นผม เน้นปลายผมและหมักทิ้งไว้อย่างน้อย 5 นาที หรือยิ่งนานยิ่งดี

สุดท้าย "ป้องกัน" แม้ว่าการใช้แชมพู ครีมนวดผม ทรีทเมนท์ อาจช่วยฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมได้ แต่ถ้าผมยังถูกทำร้ายไม่หยุดหย่อน คงเป็นการยากหรือต้องใช้เวลานานที่จะทำให้เส้นผมกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม จึงควรจะหลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆ ที่เป็นการทำร้ายเส้นผมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าจำเป็นต้องไดร์ผม ไม่ควรใช้ความร้อนสูง ถือไดร์ให้ห่างจากศีรษะ และหมั่นขยับไดร์ตลอดเวลา พร้อมหลีกเลี่ยงการเป่าบริเวณรากผม หรือควรใส่ลีฟออนมอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมบำรุงผมเข้มข้น ก่อนไดร์ผมหรือก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพื่อเป็นการปกป้องเส้นผมจากความร้อนและแสงแดด

เท่านี้จาก "ยัยผมเสีย" ก็แปลงโฉมเป็น "สาวผมสวย" แล้ว




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2551    
Last Update : 23 สิงหาคม 2551 22:09:11 น.
Counter : 550 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  

นากาชิม่า
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Tried to take a picture
Of love
Didn't think I'd miss her
That much
I want to fill this new frame
But it's empty

Tried to write a letter
In ink
It's been getting better
I think
I got a piece of paper
But it's empty
It's empty

Maybe we're trying
Trying too hard
Maybe we're torn apart
Maybe the timing
Is beating our hearts
We're empty

And I even wonder
If we
Should be getting under
These sheets
We could lie in this bed
But it's empty
It's empty
Friends' blogs
[Add นากาชิม่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.