Q[-___-Q ma leaw ja
Group Blog
 
All Blogs
 

แต่งหน้าสวยรับวาเลนไทน์

เนื่องในวันแห่งความรักทั้งทีคุณสาวๆ หลายคนคงมีนัดพิเศษกับหวานใจ สิ่งที่จะพลาดไม่ได้สำหรับวันสำคัญเช่นนี้ก็คือเรื่องของการแต่งหน้าเพื่อให้คุณสวยเต็มที่กับค่ำคืนวันพิเศษ ด้วยการเติมเสน่ห์แบบเย้ายวนด้วยเมกอัพลุคต้อนรับวันแห่งความรักภายใต้บรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก จนคนพิเศษของคุณจะต้องลืมไม่ลง

เทคนิคการแต่งหน้าจากกรุงโตเกียว สไตล์ ชู อูเอมูระ เหมาะสำหรับสาวๆ ที่กำลังอินเลิฟ ด้วย 3 ลุคกับ 3 ผิวสีที่กำลังอินเทรนด์ต้อนรับปี 2008 กันได้เลย






** ลุคที่ 1 สาวผิวแทนตากลม
สำหรับลุคนี้ คือ การแต่งหน้าที่เหมาะกับสาวตากลมผิวแทน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในหมู่สาววัยรุ่นญี่ปุ่น สำหรับสาวผิวแทนส่วนใหญ่ มักจะคิดว่าการที่เป็นคนผิวคล้ำจะทำให้สีสันของเมกอัพดูไม่สวยและแต่งยาก นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด

สำหรับสาวสวยดวงตากลม กับเทรนด์การแต่งหน้าที่หนุ่มๆ จะต้องยอมสยบอย่างแน่นอน เริ่มจาก

- ใบหน้า ทารองพื้นด้วย shu uemura face architect smoothing fluid foundation No. 754/Pro concealer 7 medium light

- ดวงตา ไลต์อายแชโดว์ด้วย Pressed Eye Shadow Rainbow 900 Y ให้ทั่วกระบอกตาตามด้วย Pressed Eye Shadow M Brown 860 เขียนอายไลเนอร์ชนิดน้ำจะช่วยให้ดวงตาดูเฉี่ยวและเก๋ขึ้นด้วย Liquid Eye Liner สี Black และเขียนคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้ว Hard formula 9 เบอร์ 03 และแปรงปัดคิ้ว Eyebrow Manicure Brown 02 ดัดขนตา ปัดมาสคาราสีดำ

- พวงแก้ม ปัดแก้มด้วย Glow On M Peach 44 หรือบรัชออนสีชมพูอมส้มสีใดก็ได้ให้ทั่วพวงแก้ม

- เรียวปาก ทา Rouge Unlimited สี Beige 920 ตามด้วยลิปกลอสสีนู้ด Gloss Unlimited สี Beige 952


* เคล็ดลับสำหรับสาวผิวแทน
- ควรเลือกสีรองพื้นให้พอดีกับสีผิวมากที่สุด และควรทารองพื้นเรื่อยลงมาจนถึงคอเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ

- ไม่ควรปัดแก้มด้วยบลัชออนสีชมพูอ่อน เพราะเวลามองที่ตลับจะเหมือนสีสวย แต่ปัดบนแก้มแล้วจะดูเหมือนคนป่วย ดังนั้นจึงควรปัดแก้มด้วยบลัชออนสีชมพูอมส้มหรือสีพีช

- สามารถเลือกใช้อายแชโดว์ที่มีประกายชิมเมอร์หรือประกายมุกที่จะทำให้ดวงตาดูโดดเด่น

- ใช้เบสปรับสีผิวโทนสีทองหรือมุกให้ทั่วร่างกาย เพื่อเพิ่มเสน่ห์เย้ายวน ชวนหลงใหล


** ลุคที่ 2 - สาวผิวขาว

ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวผิวขาวมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะคุณสามารถเลือกสีสันแต่งเติมใบหน้าของคุณได้อย่างไร้ขีดจำกัด เทรนด์ล่ามาแรงที่จะขอแนะนำก็คงไม่พ้น คอลเลกชัน spring/summer 2008 ที่มีชื่อว่า Rebirth โดยจะเน้นโทนสีพาสเทลที่บ่งบอกความร่าเริงจนคนใกล้ตัวจะต้องรักคุณเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

- ใบหน้า ทารองพื้นด้วย shu uemura face architect smoothing fluid foundation No. 764/Pro concealer 7 medium light

- ดวงตา ไลต์อายแชโดว์ด้วย Tri Color Eye Pencil สีขาวทั่วกระบอกตาและตามแนวขอบตาล่างเพื่อเป็นการไฮไลต์ดวงตาให้สว่างสดใส และเพิ่มสีสันด้วยอายแชโดว์สีเขียว IR pristine green – พลังและความมีชีวิตชีวาของสัญญาณแรกแห่งฤดูใบไม้ผลิ ดัดขนตา ปัดมาสคาราสีดำ ตามด้วย Pressed Eye Shadow M Brown 860 เพิ่มความโดดเด่นให้ดวงตาดูเฉี่ยวและเก๋ขึ้นด้วยการเขียนอายไลเนอร์ชนิดน้ำ Liquid Eye Liner สี Black และเขียนคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้ว Hard formula 9 เบอร์ 03 และแปรงปัดคิ้ว Eyebrow Manicure Brown 02

- พวงแก้ม ปัดแก้มด้วย Glow On M Peach 44 หรือบลัชออนสีชมพูอมส้มสีใดก็ได้

- เรียวปาก ทา Rouge Unlimited สี Pink Bloom ตามด้วยลิปกลอส Gloss Unlimited สี Pink 365


* เคล็ดลับสำหรับสาวผิวขาว

- สำหรับสาวผิวขาวไม่ควรเลือกสีแป้งและสีรองพื้นที่ขาวจนเกินไป เพราะจะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ

- การปัดแก้มแบบเป็นปื้นนี่เอาต์มากๆ เทคนิคของ ชู อูเอมูระ มีอยู่ว่า ควรเลือกปัดแก้มสีอ่อนก่อนหลังจากนั้นใช้บลัชออนสีที่เข้มกว่าปัดบริเวณโหนกแก้มด้านหน้า

- เพื่อการปกปิดจุดด่างดำได้ดี สำหรับคนผิวขาวจะมองเห็นชัด เลือกคอนซีลเลอร์สีเข้มกว่าผิวหนึ่งเฉด

- ถ้าต้องการลงสีตาหลากสี แนะนำให้ลงสีอ่อนที่หัวตาก่อนเสมอ เพราะถ้าลงสีเข้มก่อนอาจทำให้สีเปรอะได้ง่าย


** ลุคที่ 3 ลุคสาวเปรี้ยวจี๊ด

สาวเปรี้ยวเข็ดฟันกับผิวสองสี แน่นอนว่าพวกเธอย่อมพกความมั่นใจเกินร้อย ไม่มีอะไรจะเหมาะยิ่งกว่าสโมคกีอายส์ เทรนด์คลาสสิกที่กี่รุ่นก็ยังหลงรัก

- ใบหน้า ทารองพื้นด้วย shu uemura face architect smoothing fluid foundation No. 764/ Pro concealer 7 medium light

- ดวงตา ไลต์อายแชโดว์ด้วย Pressed Eye Shadow ME Brown 850 สีน้ำตาลเมทัลลิกทั่วกระบอกตา ตามด้วยการไลต์อายแชโดว์สีดำ M Black 990 โดยเริ่มจากบริเวณชิดรากขนตาไลต์ขึ้นด้านบน และใช้อายแชโดว์สี P Brown 820 เกลี่ยเพิ่มเพื่อให้สี ดัดขนตา ปัดมาสคาราสีดำ ตามด้วย Pressed Eye Shadow M Brown 860 เพิ่มความโดดเด่นให้ดวงตาดูเฉี่ยวและเก๋ขึ้นด้วยการเขียนอายไลเนอร์ชนิดน้ำ Liquid Eye Liner สี Black และเขียนคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้ว Hard formula 9 เบอร์ 06 และแปรงปัดคิ้ว Eyebrow Manicure Brown 02 /ติดขนตาปลอมรุ่นที่ มร. ชู อูเอมูระ ได้ออกแบบให้กับขนตาปลอมรุ่นซูเปอร์สตาร์มาดอนนา Dazzling Diamante เพิ่มความแวววาว ประกายวิ๊งวิ๊งจนหนุ่มๆ วิ่งตามเป็นพรวนเลยทีเดียว

- พวงแก้ม ปัดแก้มด้วย Glow On M Brown 76 และสี M Peach 40

- เรียวปาก ทา Rouge Unlimited สี Beige 920 ตามด้วยลิปกลอส Gloss Unlimited สี OR 580

ปิดท้ายด้วยการปัดไฮไลต์ที่โหนกแก้ม สันจมูก หน้าผาก และเนินคอ ประกายระยิบระยับจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ผิวหน้าดูสว่างใส


* เคล็ดลับสำหรับสาวเปรี้ยว

- การปัดไฮไลต์จะช่วยให้ใบหน้าดูสว่างขึ้น ปัดเบาๆ ตามจุดที่แสงตกกระทบ โดยเฉพาะบริเวณหน้า โหนกแก้ม สันจมูก ควรใช้แปรงขนาดใหญ่มากกว่าขนาดเล็ก เพราะแปรงขนาดเล็กจะทำให้แป้งไฮไลต์รวมตัวเป็นกระจุกเกิดรอยด่างแทน

- ควรลงเบสปรับสิผิวก่อน เพราะเบสจะช่วยให้เมกอัพติดทนนานตลอดวัน

- สำหรับการแต่งตาแนวสโมคกีอายส์ ควรทาแป้งบริเวณใต้ตาก่อนลงอายแชโดว์สีดำ ทั้งนี้ สีดำจะได้ไม่ตกลงมาเปรอะเปื้อนบริเวณใต้ตาจนกลายเป็นหมีแพนด้าไปแทน

- การแต่งตาสโมคกีอายส์สำหรับคนเอเชีย เพราะว่าถ้าเป็นคนยุโรปมักจะมีบล็อกตาอยู่แล้ว สาวหมวยอย่างเรา ชู อูเอมูระ ขอแนะนำว่า ควรไล้สีน้ำตาลอ่อนเพื่อสร้างโครงตาให้การแต่งแบบสโมคกีอายส์ดูง่ายขึ้น




** เคล็ดลับสวยด่วน

แถมท้ายด้วย 9 ขั้นตอนและเคล็ดลับการแต่งหน้าให้สวยด่วนภายใน 30 นาที ก่อนออกเดตกับหนุ่มๆ ต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์ในค่ำคืนแสนหวาน กับเทคนิคง่ายๆ ดังนี้

Step 1: ลงรองพื้นให้ทั่วใบหน้า หลังจากนั้นลงคอนซีลเลอร์บริเวณใต้ตาเพื่อปกปิดรอยหมองคล้ำ สำหรับคนที่ต้องการปกปิดจุดบกพร่อง ควรใช้รองพื้นชนิดน้ำสำหรับการปกปิดเฉพาะจุด หรือรอยแผลเป็นจากสิว ฝ้า กระ ซึ่งควรใช้ปลายนิ้วหรือหัวแปรงขนาดเล็ก ตามด้วยการลงแป้งรองพื้นให้ทั่วใบหน้า

Step 2: ลงครีมอายแชโดว์สีนู้ดบริเวณใต้ตาเพื่อให้สีตาติดทนนาน

Step 3: หลังจากนั้นไลต์อายแชโดว์สีอ่อนเพื่อสร้างโครงสร้างตา

Step 4: ตามด้วยการใช้อายแชโดว์สีเข้มและเกลี่ยให้สวยงามเพื่อสร้างมิติให้แก่ดวงตา *ข้อควรระวัง อย่าทาเกินปลายหางตาให้เส้นทแยงมุม 45-60 องศา ขึ้นอยู่กับลักษณะดวงตาของแต่ละคน

Step 5: ดัดขนตาและใช้มาสคาราปัดขนตาบนให้งอนงามเพิ่มความหวานเชื่อมให้กับดวงตาของคุณ

Step 6: เน้นปัดบริเวณปลายหางตาเพื่อเพิ่มมิติให้กับดวงตา อย่าลืมปัดขนตาล่าง เพราะบางคนอาจมองข้ามไป

Step 7: เขียนคิ้วโดยเลือกใช้สีที่ไม่ขัดกับสีผม แต่ที่สำคัญควรเขียนให้หัวคิ้วอ่อนกว่าหางคิ้ว เพื่อสร้างความสมดุลเวลาที่แสงตกกระทบมาที่ใบหน้า

Step 8: ใช้บลัชออนสีชมพูหรือสีส้ม เลือกให้เหมาะกับสีผิว จากนั้นใช้ชิมเมอร์ปัดที่โหนกแก้มด้านบนอีกครั้ง หน้าจะได้ดูมีมิติขึ้น

ข้อควรระวัง ควรเลือกปัดแก้มสีอ่อนก่อนหลังจากนั้นใช้บลัชออนสีที่เข้มกว่าปัดบริเวณโหนกแก้มด้านหน้า เพื่อกันการปัดแบบเป็นปื้นๆ

Step 9: ทาลิปสติกสีแดงหรือชมพูตามใจชอบ แล้วเน้นอีกครั้งที่กึ่งกลางริมฝีปาก สุดท้ายใช้ลิปกลอสทับอีกครั้งให้ปากเป็นประกายแวววาว


วันแห่งความรักทั้งทีอยากเห็นผู้หญิงทุกคนสวยขึ้นกว่าเดิม ด้วยการลองเปลี่ยนลุคการแต่งหน้า เพื่อค่ำคืนแสนพิเศษ


ขอบคุณข้อมูลจาก : //www.posttoday.com




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2551 12:03:33 น.
Counter : 647 Pageviews.  

อยากลองเขียนอายไลเนอร์ขอบตาล่าง

Q : เขียนอายไลเนอร์บนเปลือกตามานานจนเริ่มเบื่อหน้าตัวเอง อยากลองเขียนอายไลเนอร์ขอบตาล่างบ้าง ทำได้ไหมคะ

A : ได้ค่ะ แต่ต้องให้ความสำคัญกับอุปกรณ์นิดหนึ่ง เพราะอายไลเนอร์แต่ละตัวมีความแตกต่างกัน เช่นอายไลเนอร์แบบหมึกเหมาะจะใช้เขียนตาบนมากกว่า เพราะเส้นคมชัด ไม่ไหลเยิ้มง่าย และติดทนนาน แต่ถ้าใช้เขียนตาล่างจะทำให้เส้นตาดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ

แนะนำว่า ถ้าต้องการเขียนเส้นขอบตาล่าง ให้ใช้อายไลเนอร์แบบพู่กันหรือดินสอเขียนดีกว่า จะะช่วยให้เส้นตาดูฉ่ำละมุน ทั้งเส้นก็ดูไม่เป็นพลาสติกแบบอายไลเนอร์หมึกด้วย

ส่วนเทคนิคการเขียนจะเขียนเต็มจากหัวตาถึงหางตา หรือเขียนแค่ครึ่งตาก็ได้ทั้งสอบแบบ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ที่ต้องการ ถ้าเขียนเต็มตาจะดูเป็นสาวเซ็กซี่ ลึกลับน่าค้นหา หากต้องการแต่งดวงตาให้ดูโฉบเฉี่ยวขึ้น เขียนแค่ครึ่งตาก็เอาอยู่แล้วค่ะ

เคล็ดลับสำหรับสาวตาโต ให้เขียนเส้นใต้ตาให้เต็ม จะช่วยให้ตาดูเล็กลง

สำหรับสาวตาเล็ก จะเขียนเต็มหรือครึ่งตาก็ได้ แต่ต้องไล้อายไลเนอร์ให้เลยหางดวงตาออกมานิดหน่อย เพื่อให้กลมตาดูกลมโตขึ้น




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2551 12:01:45 น.
Counter : 430 Pageviews.  

เปลี่ยนสีผมอย่างปลอดภัย

ปัจจุบันการเปลี่ยนสีผมเป็นแฟชั่นยอดฮิต มีให้เลือกหลากสี บางคนเปลี่ยนสีผมเพื่อเสริมสร้างบุคลิกใหม่ ในขณะที่บางคนเปลี่ยนสีผมเพื่อให้ทันสมัยตามกระแสนิยม แต่เบื้องหลังสีผมสวยโดดเด่นเป็นสง่า คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำยาเปลี่ยนสีผมหรือยาย้อมผมมีกี่ชนิด? และแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร? มีคุณสมบัติอะไรที่ทำให้เปลี่ยนสีผมเราได้? และที่สำคัญก่อนตัดสินใจเปลี่ยนสีผมเราควรระวังอะไรบ้าง?

น้ำยาเปลี่ยนสีผมหลากประเภท หลายจุดเด่น
น้ำยาเปลี่ยนสีผมหรือยาย้อมผมแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามความคงทนของสีผมที่เปลี่ยน ได้แก่ ยาย้อมผมชนิดชั่วคราว กึ่งถาวรและถาวร
• ยาย้อมผมชนิดชั่วคราว มีโมเลกุลขนาดใหญ่ สีจึงเคลือบบนชั้นนอกของเส้นผมเท่านั้น ล้างออกได้ง่ายหลังจากสระผมด้วยแชมพูครั้งแรก ผลิตภัณฑ์น้ำยาเปลี่ยนสีผมชนิดนี้มักเป็นแบบพร้อมใช้ไม่ต้องผสมเองให้ยุ่งยาก มักเป็นเฉดแม่สี มีจำหน่ายในรูปแบบคัลเลอร์ รินส์ (Color Rinse) สามารถทาหรือพ่นบนผมที่แห้ง ชโลมหรือทาทิ้งไว้ประมาณ 2-5 นาทีและล้างออก เช่นเดียวกับรูปแบบสเปรย์ (Color Sprays)

• ยาย้อมผมชนิดกึ่งถาวร มีโมเลกุลขนาดเล็ก สีจึงเคลือบบนชั้นนอกและกลางของเส้นผม แต่ไม่ซึมลึกถึงโปรตีนของเส้นผม อันจะมีผลเปลี่ยนสีผมเดิมตามธรรมชาติได้ ยาย้อมผมกึ่งถาวรจึงติดคงทนในการสระผมอยู่ประมาณ 6-8 ครั้ง มีจำหน่ายในรูปแบบแชมพ
ูสระผม แวกซ์ โลชั่น โฟมย้อมสี ทั้งนี้วิธีใช้ก็แตกต่างกันตามลักษณะของผลิตภัณฑ์

• ยาย้อมผมชนิดถาวร ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยการสระผม สีจะติดคงทนและไม่ซีดจางง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการย้อมผมขาว แบ่งประเภทหลักๆ ออกเป็น 2 ชนิดคือ

* ยาเคลือบผม (Coating Tints) เช่น สมุนไพรย้อมผม (Vegetable Dyes) เปลี่ยนสีผมด้วยการเคลือบเฉพาะบนชั้นนอกของเส้นผมแต่ไม่ทำลายโครงสร้างของเส้นผม ได้มาจากการสกัดของสมุนไพรตามธรรมชาติ เช่น เฮนนา ซึ่งจะให้สีแดงอมส้มหรือน้ำตาล และดอกคาโมมายด์ ที่ให้สีทอง

• ยาย้อมผลชนิดซึมสู่เส้นผม เป็นน้ำยาเปลี่ยนสีผมที่คนส่วนใหญ่คุ้นตากัน ภายในกล่องประกอบด้วยน้ำยา 2 ขวด คือ สีออกซิเดชั่นและน้ำยาโกรก หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

• สีออกซิเดชั่น (Colorant) หรือสีพารา เป็นครีมหรือของเหลวบรรจุในหลอด มีโมเลกุลขนาดเล็ก ไม่มีสี มีแอมโมเนียเป็นส่วนผสมหลักเพื่อให้มีสภาวะเป็นกรด-ด่างประมาณ 8-11 ความเป็นด่างของแอมโมเนียนี้มีคุณสมบัติทำให้เส้นผมชั้นนอกบวมและพองขึ้นมาก เมื่อบวกกับส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิวจะทำให้สีซึมเข้าไปสู่เส้นผมได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้หากสีออกซิเดชั่นมีความเป็นด่างมากก็จะทำลายส่วนชั้นนอกของเส้นผมบางส่วนทำให้ผมหยาบ กระด้าง สีออกซิเดชั่นที่นิยมใช้ในประเทศไทยคือ พาราฟีนีรีนไดอะมีนและพาราโทลูอีนไดอะมีน

น้ำยาโกรก (Developer) หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ มีลักษณะเป็นครีมหรือของเหลวใส ซึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้ขนาด 6% เพราะหากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มากกว่า 6% จะทำให้ผมแห้ง อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองที่หนังศีรษะ แต่ถ้าไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์น้อยกว่า 6% ก็จะไม่สามารถออกซิไดซ์สีอย่างมีประสิทธิภาพ

หลักการเกิดสีผมสวย
หลักการทำงานพื้นฐานของน้ำยาเปลี่ยนสีผมชนิดถาวร ที่ทำให้สีผมของเราเปลี่ยนไปคือ การทำปฏิกิริยาระหว่างสีออกซิเดชั่น (ขวดที่1) กับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (ขวดที่2) หลังจากเทส่วนผสม 2 ชนิดและเขย่าให้เป็นเนื้อเดียวกันจนข้นแล้วนำไปชโลมบนเส้นผม สารประกอบที่อยู่ในน้ำยา 2 ขวดจะเกิดปฏิกิริยาต่อกันทำให้เกิดออกซิเจน เปลี่ยนขนาดโมเลกุลของสีให้จับตัวใหญ่ขึ้น มีผลทำให้สีที่ได้ถูกกักเก็บอยู่ในชั้นกลางของเส้นผม นอกจากนี้ออกซิเจนยังทำปฏิกิริยากับสีผมตามธรรมชาติ เกิดเฉดสีที่อ่อนลง ทำให้สีที่ผสมขึ้นใหม่ตามความเข้ม-อ่อนบนฉลากผลิตภัณฑ์เห็นเด่นชัดเจนขึ้น

ข้อควรระวังที่ต้องรู้ก่อนทำสีผมทุกครั้ง
ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมไม่ว่าจะมาจากการสังเคราะห์ทางเคมี หรือได้มาจากสารสกัดจากธรรมชาติ หากต้องสัมผัสต่อผิวหนังหรือเยื่อบุโดยตรง ร่างกายของเราอาจต่อต้านก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ทั้งสิ้น แต่จะแพ้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ทั้งนี้อาการแพ้ก็ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยเวลา เช่น บางคนเคยใช้น้ำยาชนิดนี้เป็นประจำแต่อยู่ๆ เกิดแพ้ขึ้นมา หรือเคยใช้น้ำยานานแล้วแต่อยู่ดีๆ ก็แพ้ขึ้นมา สรุปแล้วอาการแพ้ไม่สามารถทำนายล่วงหน้าได้ ดังนั้นก่อนใช้น้ำยาเปลี่ยนสีผมโดยเฉพาะยาย้อมผมชนิดกึ่งถาวรและชนิดถาวร เราจึงจำเป็นต้องทดสอบอาการระคายเคืองก่อนทุกครั้งดังนี้

• ถอดต่างหูออกและทำความสะอาดบริเวณหลังใบหูและเช็ดให้แห้ง
• บีบสีออกซิเดชั่นและน้ำยาโกรกออกมาเล็กน้อยนำมาผสมกัน และใช้สำลีพันปลายไม้จุ่มน้ำยาที่ได้ทาบริเวณหลังใบหูประมาณ 1 ตารางเซนติเมตร ทิ้งไว้ 48 ชั่วโมง โดยไม่ต้องล้างออกหรือใช้ผ้าปิดทับ
• ถ้าเกิดรอยแดง รอยไหม้ คัน พุพองหรือบวมในบริเวณสีที่ทาทิ้งไว้ แสดงว่าแพ้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมนั้นๆ ไม่ควรใช้อีกต่อไป
• ห้ามใช้น้ำยาเปลี่ยนสีผม เปลี่ยนสีขนคิ้ว ขนตา เพราะอาจทำให้ตาบอดได้
• เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรใช้น้ำยาย้อมผม
ขั้นตอนต่อไปหลังจากการทดสอบการแพ้หรือระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมคือ การเตรียมความพร้อมก่อนใช้ ได้แก่
• ไม่เกา หรือแกะหนังศีรษะจนเป็นแผลหรือรอยถลอกก่อนทำสีผม รอจนกว่าสภาพหนังศีรษะจะเป็นปกติจึงค่อยเปลี่ยนสีผม
• สระผมก่อนทำสีผม เพื่อขจัดความสกปรกบนหนังศีรษะหรือน้ำมันบนเส้นผม เพื่อให้แน่ใจว่าสีผมจะซึมถึงเส้นผมอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ไดร์เป่าผมด้วยลมเย็นจนแห้งหมาดๆ แบ่งผมออกเป็นช่อๆ
• สวมถุงมือทุกครั้ง เพื่อป้องกันน้ำยาสัมผัสถูกผิวหนังโดยตรง
• บีบสีออกซิเดชั่นผสมกับน้ำยาโกรก เขย่าแรงๆ จนสีเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน และตั้งทิ้งไว้ 3 นาที หรือจะเทส่วนผสมทั้งหมดลงชามผสมสี และใช้แปรงทาคนผสมให้เข้ากันก็ได้
• จับผมที่แบ่งไว้เป็นช่อๆ ดึงขึ้นด้านบน แล้วทาน้ำยาเปลี่ยนสีผมจากโคนผมถึงปลายผม ในทิศทางออกนอกตัว ห้ามขยี้หรือถูน้ำยาบนหนังศีรษะแรงๆ และเว้นการทาน้ำยาห่างจากหนังศีรษะประมาณ 1 นิ้ว จนกระทั่งครบทั้งศีรษะ สุดท้ายค่อยหันกลับมาทาน้ำยาเปลี่ยนสีผมบริเวณโคนที่เว้นไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์นั้นๆ
• ใช้ก้อนสำลีชุบน้ำอุ่น เช็ดทำความสะอาดน้ำยาเปลี่ยนสีผมที่เลอะบนผิวหนังออกให้หมด
• ล้างผมด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด โดยใช้มือนวดศีรษะเบาๆ สระผมให้สะอาดด้วยแชมพูทั่วไป หรือน้ำยาปรับสภาพเส้นที่บรรจุมาในกล่องผลิตภัณฑ์ประมาณ 2 ครั้ง เช็ดผมให้แห้งและไดร์ตามปกติ

ป้องกันตนเองจากการใช้ยาย้อมผมอันตราย
การซื้อสินค้าทุกชนิดเพื่อความปลอดภัยต่อตัวเอง นอกจากจะอ่านวิธีใช้อย่างละเอียดแล้ว ก็ควรตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีส่วนประกอบอะไรบ้าง มีชื่อผู้ผลิตหรือไม่ และที่สำคัญมีมาตรฐานหรือผ่านการควบคุมและตรวจสอบโดยหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบหรือไม่ มิฉะนั้นแล้วเมื่อเกิดอาการแพ้หรือปัญหาทางสุขภาพใดๆ ก็ยากต่อการฟ้องร้องหรือหาผู้รับผิดชอบมาลงโทษเอาผิดได้

สำหรับน้ำยาเปลี่ยนสีผมก็ใช้หลักการพิจารณาเดียวกัน โดยเฉพาะก่อนซื้อควรสังเกตเครื่องหมาย อย. จากคณะกรรมการอาหารและยาเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยอย่างถูกต้อง และเพื่อเพิ่มความมั่นใจทางคณะกรรมการอาหารและยาได้ประกาศเตือนเกี่ยวกับน้ำยาเปลี่ยนสีผมที่ปลอดภัย ต้องไม่มีส่วนผสมของสารเคมีเหล่านี้
• 4 methoxy-m-phenylenediamine หรือ 4-MMPD
• 4-chloro-m- phenylenediamine
• 2,4 toloene diamine
• 2-nitro-p- phenylenediamine
• 4-amino-2-nitrophenol

ที่ผ่านมามีงานวิจัยและการศึกษาในห้องทดลองกับหนู ปรากฎว่าเมื่อให้สารนี้ หนูมีอาการระคายเคืองบนผิวหนังและเป็นมะเร็ง ซึ่งแม้ว่าจะมีผลในระดับหนูทดลอง แต่การหลีกเลี่ยงสารพวกนี้ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ดังนั้นครั้งต่อไปเมื่อคุณหยิบน้ำยาเปลี่ยนสีผม อย่าลืมเรื่องสำคัญเหล่านี้ด้วยนะคะ นอกจากผมจะสวยแล้ว สุขภาพยังดีอีกด้วย

เรื่องน่ารู้สำหรับการใช้น้ำยาย้อมผม
• สำหรับคนที่พื้นผมเป็นสีขาว หลังการย้อมผมอาจไม่มีปัญหาสีผมผิดเพี้ยนจากสีตัวอย่างบนกล่อง แต่สำหรับคนที่มีผมเข้มตามธรรมชาติ เช่น ผมสีดำ หรือสีน้ำตาลเข้ม ให้เลือกเฉดสีที่อ่อนกว่าสีที่ต้องการประมาณ 1-2 เบอร์ เพื่อสีผมที่เด่นชัดสวย
• ไม่ควรเก็บน้ำยาเปลี่ยนสีผมที่ผสมเสร็จแล้ว เพื่อใช้ในครั้งต่อไป อย่าเสียดายเก็บไว้ เพราะภาชนะบรรจุอาจระเบิดหรือแตกได้
• หลังการทำสีผม หลีกเลี่ยงการดัดหรือย้อมซ้ำ เพราะจะทำให้สภาพเส้นผมถูกทำลายมาก ทางที่ดีควรเว้นระยะห่างประมาณ 2-3 อาทิตย์




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2551 12:00:29 น.
Counter : 489 Pageviews.  

ครีมนวดผม... โยเกิรต์

ผมแห้งเสีย ไม่มีน้ำหนัก ขาดชีวิตชีวาลองบำรุงผมด้วยสูตรธรรมชาติด้วย



โยเกิรต์ 5 ช้อนโต๊ะ


ไข่ไก่ 1 ฟอง


น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

1. นำส่วนผสมทั้งหมดมาตีให้เข้ากัน

2. นำมานวดหมักผมทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที

3. แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า


ทำเป็นประจำประมาณอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อปรับสภาพผมเสียให้กลับมีสุขภาพดี ไม่แห้งเสียอีกต่อไปค่ะ




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2551 11:59:16 น.
Counter : 459 Pageviews.  

นมสดมะละกอ..ผิวสวยใส ท้องไม่ผูก

สุดสัปดาห์นี้หากคุณมีเวลาพักผ่อนอยู่กับบ้านไม่ได้ออกไปกรำแดด ท้าทายสายฝนผจญมลภาวะที่ไหน นอกจากร่างกายจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว ถ้าคุณอยากได้เครื่องดื่มที่รับประทานแล้วอร่อยมากคุณค่าและกากใย





ลองทำน้ำผลไม้ปั่นสูตรนี้ดูสิคะ


มะละกอสุก ชิ้นพอประมาณนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ


เติมนมสดลงไปประมาณครึ่งแก้ว


เติมน้ำมะนาว คั้นสด 1 ผล


น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ


นำส่วนผสมทั้งหมดไปแช่เย็นให้เย็นจัดแล้วนำมาปั่นให้เข้ากัน


ง่าย ๆ ใช้เวลาไม่นานคุณก็จะได้เครื่องดื่มรสชาติอร่อย อุดมไปด้วยวิตามิน เอ จากมะละกอ แคลเซียมจากนม และวิตามิน ชี จากมะนาวช่วยให้ผิวสวยใส ท้องไม่ผูกอีกด้วยค่ะ




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2551 11:58:47 น.
Counter : 558 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  

นากาชิม่า
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Tried to take a picture
Of love
Didn't think I'd miss her
That much
I want to fill this new frame
But it's empty

Tried to write a letter
In ink
It's been getting better
I think
I got a piece of paper
But it's empty
It's empty

Maybe we're trying
Trying too hard
Maybe we're torn apart
Maybe the timing
Is beating our hearts
We're empty

And I even wonder
If we
Should be getting under
These sheets
We could lie in this bed
But it's empty
It's empty
Friends' blogs
[Add นากาชิม่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.