Group Blog
 
All blogs
 
เพลงผีบอก

หลังจากเสร็จสิ้นการสอนติวเตอร์สาวก็ถูกคุณหนูไฮโซควบคุมไปแต่งองค์ทรงเครื่องณ ร้านหรูในห้างดัง

เมื่อลูกค้าคนสำคัญมาพนักงานก็มะรุมมะตุ้มตามตำแหน่งหน้าที่ของตน จนคนถูกรุมชักปวดหัวก็ตั้งแต่เกิดมาเคยต้องมาทำอะไรยุ่งยากแบบนี้ที่ไหน

“เอ่อ เอาแต่พองามนะคะคือไม่ชอบให้จัดมาก”

“แต่งหน้าไม่จัดหรอกค่ะเพราะมีพื้นฐานสวยอยู่แล้ว แค่เขียนคิ้ว กรีดตา และลงสีแก้มกับปากอีกนิดหน่อยจะเน้นที่ทรงผมมากกว่า” เมคอัพอาร์ตติสมือหนึ่งของร้านรีบชี้แจง

“ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ ร้านนี้เขารับแต่งเฉพาะงานใหญ่หรือคนสำคัญฝีมือเป็นแชมป์ระดับโลกค่ะ” ดุจดาวให้เครดิต ซึ่งถ้าหากครอบครัวเธอไม่มีเงินเป็นถุงเป็นถังก็อย่าฝันว่าที่นี่จะต้อนรับพรพิสุทธิ์เพียงถอนหายใจเบาๆแต่ก็สุดจะหนักอกกับชีวิตที่วุ่นวาย

“เรียบร้อยแล้วค่ะ” ได้ยินแบบนี้เด็กเจ้ากี้เจ้าการรีบวางหนังสือเรียนปรี่เข้ามาดูติวเตอร์ส่วนตัวที่บัดนี้ได้กลายเป็นนางฟ้าส่วนตัวไปแล้ว

"พี่แจน..สวยเหมือนนางฟ้าเลยค่ะ” คนถูกชมยิ้มเก้อๆ

“เวอร์ไปแล้ว ชุดล่” ยังไม่ทันจะขาดคำแมสเซนเจอร์ก็เอาชุดเดรสมาส่ง พรพิสุทธิ์สังเกตเห็นว่ามีมาเพียงชุดเดียว

“ทำไมมีชุดเดียว“

“ของเค้าไปแต่งที่งานน่ะ ตอนนี้พี่รีบไปแต่งตัวเถอะเดี๋ยวจะสายเอาน้า"ดุจดาวรีบดุนหลังพี่สาวให้เข้าไปเปลี่ยนชุด เธอยังอยากอุบบางเรื่องเอาไว้ก่อน โชคช่วยพอประมาณที่พี่สาวสนใจอยู่กับชุดมลังเมลืองณ เบื้องหน้า

พรพิสุทธิ์หอบเอาชุดราตรียาวVersace สีม่วงสุดหวานไปเปลี่ยนในห้องแต่งตัวบรรจงสวมใส่อาภรณ์ด้วยความระมัดระวังก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพินิจเรือนกายของตนด้วยความตะลึงงัน หากแต่มิใช่เพราะหลงรักรูปลักษณ์ของตนเองจากกระจกเงาแบบNarcissus ที่หลงในความงามของตนจากเงาสะท้อนของผืนน้ำอันเป็นที่มาของปมหลงตนเอง (NarcissusComplex) แต่เพราะเธอไม่คิดฝันมาก่อนต่างหากว่าชีวิตนี้จะได้มีโอกาสมาแต่งโฉมแต่งหน้าทำผมไปออกงานสังคมของชนชั้นสูงที่ล้วนมีทรัพย์มหาศาล แค่จินตนาการถึงขาก็สั่นใจเต้นระรัวแล้ว

ร่างสูงเพรียวในชุดแสนงามยืนหมุนตัวสำรวจความเรียบร้อย

“เสร็จหรือยังเจ้าคะ My tutor เค้ารอดูอยู่นะ"เด็กแสบมาเคาะประตูร้องเรียกแซวพี่สาวสนุกปาก ตื่นเต้นไม่แพ้กัน

พรพิสุทธิ์เปิดประตูออกมายืนประจันหน้ากับลูกศิษย์สาวจอมป่วน

“แฟนดาวสวยจัง” ดุจดาวยื่นหน้าเข้ามากระซิบกระซาบเมื่อผู้ใหญ่ได้ยินแบบนั้นก็อดหมันไส้ในความก๋ากั่นไม่ได้ ตีแขนให้พอรู้สึกไปซะ1ที

“โอ้ย! เค้าเจ็บนะ” ตามเคยกับการร้องโอดโอยเกินอาการ

“แก่แดดแก่ลมนะเราใครมาได้ยินเข้ามันไม่ดี”

“ก็เค้าถึงกระซิบไง แหมเค้ารู้หรอกน่า” เด็กสาวแสนงอนแต่แค่ผู้ใหญ่ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มก็อดไม่ได้ที่ต้องหลุดยิ้มออกมา

“ทีตัวเองนะทำยิ่งกว่าพูดซะอีก ชิส์” ดุจดาวกุมแก้มข้างที่ถูกหอมไม่ทิ้งท่าแสนงอน ก่อนจะดันร่างพี่สาวให้กลับเข้าไปในห้องมือน้อยๆเปิดกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินออกเผยให้เห็นสร้อยมุกเส้นใหญ่

“เค้าเห็นว่าที่คอมันดูโล่งไปนะ พี่แจนสวมสร้อยเส้นนี้มันน่าจะลงตัว”

พรพิสุทธิ์ส่ายหน้าสวยไหวๆ ใจคิดว่ามันคงหนักพิลึกอีกทั้งเธอไม่อยากจะให้ตัวเองดูอลังฯไปมากกว่านี้แล้ว

“เดี๋ยวเค้าใส่ให้นะ“คุณหนูผู้ที่ไม่เคยผิดหวังจากความต้องการของตนเอื้อมมือไปคล้องสร้อยบนคอพี่สาว พรพิสุทธิ์เองก็จนใจหมดทางแข็งขืน

“เหมาะกับพี่แจนมาก นี่คุณแม่ตั้งใจให้เป็นของขวัญเชียวนา“

“หือ ของขวัญอะไร พี่ขอปฏิเสธไม่รับนะ” ติวเตอร์สาวรู้สึกลำบากใจขึ้นมาทันที ก็เธอเป็นแค่ติวเตอร์ทำหน้าที่เป็นผู้สอนแม้จะเข้ามาแล้วไม่คิดจะลาจากอยากจะสานสัมพันธ์ต่อก็ตาม แต่นี่มันก็มากเกินไปที่จะมารับของมูลค่าสูงเช่นนี้ไว้

“เอาไว้เคลียร์กับคุณแม่เองแล้วกัน”เด็กสาวตอบตัดบทง่วนอยู่กับการจัดแจงเครื่องประดับให้เข้าที่ความใกล้ชิดเพียงระยะลมหายใจราดรดกันทำให้เกิดความหวั่นไหวอีกครา ร่างที่สูงกว่าอดใจไมได้ที่จะยื่นปลายจมูกไปแตะแก้มใสแต่กลับต้องสะดุดหยุดกึก เพราะบางสิ่งที่ไม่มีชีวิตสัมผัสเข้ากับแขนของ พรพิสุทธิ์ คือมือเย็นเฉียบของเดือนดารานั่นเอง

“ยัยจอมฉวยโอกาส เสร็จก็ออกไปได้แล้ว” โดนผีจอมจุ้นตำหนิเอาครูสอนพิเศษจึงได้แต่เซ็ง

“พี่แจนเป็นอะไรรึเปล่า” ดุจดาวสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ

“ป่าวนี่” พรพิสุทธิ์ปฏิเสธหน้าตาเฉย ดุจดาวเองที่ไม่รู้ความจึงปล่อยผ่านไปโดยง่าย

ดุจดาวพานางฟ้าเดินดินมาขึ้นราชรถที่จอดรอไว้แล้ว

เมื่อมาถึงงานที่โรงแรมหรูใจกลางเมืองที่ห้องบอลรูม พรพิสุทธิ์เดินเข้ามาในงานพร้อมกับน้องน้อย ความประหม่ามาเต็มในความรู้สึกสายตากวาดมองไปรอบๆเห็นประดาแขกเหรื่อที่แต่ละคนนวลผ่องรัศมีเปล่งประกาย แต่งองค์ทรงเครื่องกันเต็มยศทั้งเสื้อผ้าแพรพรรณอลังการ เครื่องประดับกายระยิบระยับยิ่งกว่าแสงแฟลช

“นี่คือสถานที่โคจรมารวมกันของดาวฤกษ์ทั่วฟ้าเมืองไทยหรือยังไงนะหิ่งห้อยอย่างพี่ที่ต้องคอยรับแสงอีกทอดของอีกทอดของอีกทอดน่ะหรือจะ ริอาจไปเทียบเคียงเขาได้ ดาวพาพี่มาอยู่ผิดที่ผิดทางแล้วล่ะ” พรพิสุทธิ์เปรยขึ้นอย่างเห็นความจริง ตอนนี้สาวมั่นผู้ไม่เคยหวาดหวั่นชักเกร็งๆกับบรรยากาศและผู้คนที่ไม่คุ้นเคยขาชักจะก้าวไม่ค่อยออก เส้นสายในร่างกายดูติดขัดไปหมด

“พี่แจนคนเก่งของเค้า พี่เคยสอนไว้นี่ว่าทุกอย่างคือการเรียนรู้ถ้าไม่มาอยู่ตรงนี้แล้วจะเข้าใจได้ยังไงว่าคนพวกนี้เขาใช้ชีวิตกันแบบไหน” ลูกศิษย์ถึงคราวย้อนคำครู

“ดาว..ดีใจจังที่มา พี่นึกว่าจะไปอีกงานเสียอีก” ยังไม่ทันจะต่อความให้รู้ผลคุณหนูก็มีคนรู้จักซึ่งเป็นคนในแวดวงเดียวกันมาทักทาย

"อ้าว..ปุ๊กลุ๊กโลกกลมจัง” พรพิสุทธิ์ได้เจอคนรู้จักคนเดียวกับที่เดินเข้ามาทักดุจดาวสืบสาวกันพอเป็นพิธีก็รู้ได้ว่าหญิงสาวนามปุ๊กลุ๊กคือเพื่อนที่เรียนปริญญาโทมาด้วยกันกับพรพิสุทธิ์อีกทั้งยังรู้จักสนิทสนมกับครอบครัวของ ดุจดาวเป็นอย่างดี

“รู้จักกันก็ดีแล้วเดี๋ยวดาวขอตัวไปกราบท่านผู้หญิงจรัสลักษณ์ประธานของงานก่อนคุณแม่ท่านฝากเงินมาทำบุญด้วย พี่แจนอยู่แถวๆนี้นะ เดี๋ยวจะมี staff มาดูแลและพาไปนั่ง” เด็กสาวสบโอกาสชิ่งเมื่อเห็นพี่สาวมีเพื่อน

“หือ…จะมาทิ้งกันไว้กลางงานแบบนี้นี่นะ” พรพิสุทธิ์ตีหน้ายักษ์โวยใส่น้องน้อย

“แจนดูโน่นสิ นางในชุดเหลืองเหมือนแหนมตุ้มเลยเนอะ คริคริ” ปุ๊กลุ๊กเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการสะกิดเพื่อเริ่มปฏิบัติการซุบซิบชี้ชวนให้มองดูสาวร่างอวบระยะสุดท้ายที่แต่งกายในชุดรัดติ้ว พรพิสุทธิ์ที่ปกติไม่ค่อยวิพากษ์ใครเห็นเข้าก็อดขันไม่ได้เหมือนกัน

“เราว่าเหมือนลูกขนุนกลิ้งหลุนๆมากกว่า ไม่มีใครเตือนนางเรื่องการแต่งตัวเลยหรือไง”

“นางคงคิดว่าเด่นไง เดินไปไหนก็มีแต่คนมอง” พรพิสุทธิ์พยักหน้าเห็นด้วยแต่ก็นะคนมีเงินทำอะไรก็มักดูดีเสมอ มีสติคิดได้หันมาอีกทีน้องสาวตัวแสบก็หายเข้ากลีบเมฆไปแล้วพรพิสุทธิ์ชักจะเคืองใจเด็กที่ทำอะไรปุบปับนึกจะทิ้งก็ทิ้งกันไปไม่สนใจคนที่ไม่รู้ที่ทางบ้าง

“ไม่ต้องมองหาดาวหรอก” เสียงของเดือนดาราดังแว่วเข้ามานี่ก็เป็นอีกหนึ่งความขุ่นใจ ดูเหมือนวิญญาณของเดือนดาราจะตามติดชีวิตเธอไปมันทุกที่เลยซิน่า

“เป็นผีนี่ดีจังเนาะ ไปได้ทุกที่แม้ไม่มีใครอนุญาตหรือเชิญชวน” พรพิสุทธิ์แดกดัน

“ลองมาเป็นผีไหมล่ะ กำลังหาเพื่อนมาอยู่ด้วยเชียว”

"ฉันไม่รีบ อย่ามาชวนซะให้ยาก” พรพิสุทธิ์หยุดการต่อปากต่อคำเมื่อนึกได้ว่าเพื่อนสาวตัวเป็นๆยืนอยู่ด้วย

สักพักก็มีทีมงานพาพรพิสุทธิ์ไปนั่งประจำที่ติวเตอร์สาวขอร้องแกมบังคับให้เพื่อนสาวปุ๊กลุ๊กมานั่งด้วยกันเพื่อความอุ่นใจ

“สวัสดีค่ะท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ณ โอกาสนี้สมาคมฯขอต้อนรับทุกท่านอย่างเป็นทางการ…” เสียงใส ที่คุ้นหูประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้เลยนอกเสียจาก…

“น้องดาวนี่มืออาชีพเลยนะแจน งานไหนงานนั้น”ปุ๊กลุ๊กชื่นชมจริงใจ พรพิสุทธิ์เพียงรับทราบไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด หากในหัวมีแต่ภาพของ เด็กแสบจอมป่วน ยียวนก็ที่หนึ่ง ซ้ำยังเถียงคำไม่ตกฟากเอาแต่ใจก็ชนะเลิศ ง้องแง้งไร้สาระ ข้อเสียช่างเยอะแยะมากมาย แต่มันแพ้คำๆเดียว

‘ก็คนมันชอบ

แต่นี่ก็ถือได้ว่าเป็นsurprise ย่อมๆจากดุจดาว

“บรรดาหนุ่มๆลูกท่านหลานเธอทั้งหลายหมายตาอยากสอยน้องดาวกันทั้งนั้นก็อย่างว่านะ ทั้งสวยแถมยังฉลาด ใครได้ควงแขนออกงานหน้าคงบานจนแทบจะผ่านประตูเข้างานไม่ได้” ปุ๊กลุ๊กพูดไปเรื่อยตามความรู้สึกแต่คนฟังนี่ซิแอบจี๊ดในใจไม่อยากให้หนุ่มหน้าไหนมาสนใจหรือวอแวกับคนของตนจากใบหน้าผ่องแผ้วกลายเป็นมู่ทู่หัวคิ้วขมวดจนคิ้วแทบจะรวมเป็นเส้นเดียวกัน

ทีมงานเดินเข้ามาบอกกำหนดการกับพรพิสุทธิ์ว่าหลังจากพิธีมอบโล่เกียรติคุณและร่วมถ่ายรูปหมู่แล้ว พรพิสุทธิ์จะต้องขึ้นไปแสดงเดี่ยวเปียโนต่อทันทีร่างเพรียวในชุดหวานรู้สึกร้อนรุ่มแทบนั่งไม่ติด เหงื่อซึมออกที่มือและตามไรผมทั้งๆที่อุณหภูมิภายในห้องเย็นยะเยือกในใจนึกเค่นแค้นเด็กสาวที่พาตนมาอยู่ในบรรยากาศที่ชวนท้องไส้ปั่นป่วนแบบนี้

“แจนกังวลมากเลยเหรอ แต่เราว่านะตอน defend thesis ยากกว่านี้หลายขุมไม่ต้องตื่นเต้นนะท่องไว้ๆ ความสวยชนะทุกสิ่ง” ปุ๊กลุ๊กใช้วาทศิลป์เข้าปลุกปลอบให้กำลังใจหลังจากที่เห็นอาการขาดความมั่นใจของเพื่อนคนฟังยิ้มรับเป็นการขอบคุณ

ม่านของเวทีเปิดขึ้นเสียงดนตรีเปิดงานดังกระหึ่มแปรผันตรงกันกับความระทึกขวัญของพรพิสุทธิ์ ตามาด้วยเสียงปรบมือพร้อม spotlight สาดส่องมายังกลางเวที ภาพเบื้องหน้าคือนางเอกของงาน ‘ดุจดาว’ เป็นการเปิดตัวที่เรียบง่ายแต่โดดเด่นยิ่งพิธีกรวัยใสปรากฏกายด้วยชุดราตรียาวสีชมพู คราวนี้ติวเตอร์สาวได้ตาค้างกับความงามของศิษย์…ที่รัก

“แจนรู้หรือเปล่าว่าชุด Prada ที่น้องดาวใส่มันเป็น collection เดียวกับ KatyPerry เลยนะ ในเมืองไทยมีแค่ 2ตัวคือที่ชมพู่ อารยาและที่น้องดาวใส่อยู่” ปุ๊กลุ๊กชื่นชมออกนอนกหน้าแต่เหมือนพรพิสุทธิ์สูญเสียความสามารถในการรับฟังไปเสียแล้วเพราะกำลังจดจ่ออยู่กับสาวสวยบนเวทีก็จริงดั่งที่เพื่อนสาวพูดทุกประการนะ ดุจดาวดูเฉิดฉายมากเวลาอยู่บนเวที ดูมีชีวิตชีวาเปล่งประกายเจิดจรัสวาจาฉะฉานชัดทุกอักขระ ท่าทางคล่องแคล่วประหนึ่งได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี คมในฝักมันเป็นแบบนี้นี่เอง

งานดำเนินไปตามกำหนดการวินาทีสุดตื่นเต้นใกล้เข้ามาทุกขณะจิต ติวเตอร์สาวมือเย็นเฉียบแทบไร้ความรู้สึก

“ณ บัดนี้ น้องดาวขอนำทุกท่านพบกับการแสดงเดี่ยว piano โดยคุณพรพิสุทธิ์บุศยมาศ บุตรสาวบุญธรรมของคุณหญิงประภาศรี บุศยมาศ พี่สาวคนใหม่ของน้องดาวเองค่ะ” เจ้าของชื่อยังนั่งนิ่งเพราะไม่คิดว่าเป็นตน ก็นามสกุลมันไม่ใช่!

“แจน ขึ้นเวทีซิ” ปุ๊กลุ๊กหันมาสะกิดเพื่อนสาวให้ตื่นจากภวังค์แม้จะออกมาภวังค์แล้วแต่ก็ยังดูงงๆ

“เขาหมายถึงแกนั่นแหละ”

“ฉันเนี่ยนะลูกบุญธรรมคุณหญิง?”

“เออ แก่นั่นแหละ ออกไปได้แล้ว” ปุ๊กลุ๊กยันเพื่อนให้รีบออกไป ดุจดาวบนเวทีเห็นพี่สาวยังไม่ยอมขึ้นเวทีมาจึงย้ำชื่ออีกรอบพร้อมกับเดินมารอรับที่ขอบเวที เมื่อเห็นว่าคือตนแน่ๆแล้วพรพิสุทธิ์จึงเดินขึ้นเวทีมาด้วยในอาการงงๆใจยังไม่เลิกคิดถึงเรื่องลูกบุญธรรม

“พี่แจนทำได้ นะคะคนเก่งของดาว” พิธีกรสาวกระซิบกระซาบส่งพลังใจขยิบตาและยิ้มหวานให้ก่อนจะเดินผละออกมา ที่พรพิสุทธิ์อยากจะกระชากกลับมาจูบซะให้สาสมกับเรื่องวุ่นๆที่หล่อนสร้างขึ้นกับเธอในวันนี้

พรพิสุทธิ์ไปนั่งประจำที่เก้าอี้ที่เบื้องหน้าคือเปียโนตัวโตอย่าว่าแต่จะให้เล่นเลยแค่นั่งเก้าอี้เปียโนนี่ยังเป็นครั้งแรก โน๊ตเพลงมี เจ็ดหรือ แปด หรือเก้าตัวเธอยังตอบไม่ได้ ในหัวมีแต่ความไม่รู้ไม่ นี่มันคือแท่นประหารฆาตกรรมเธอต่อหน้าสาธารณะชนชัดๆนักเปียโนกำมะลอลอบถอนหายใจ ระหว่างที่ละล้าละลังในการจัดวางมือบนเปียโนอยู่นั้นเองStaffคนหนึ่งก็วิ่งหลุนๆไปหาดุจดาวและพรพิสุทธิ์บอกว่าระบบเครื่องเสียงมีปัญหา

ตายล่ะวา!ดุจดาวหน้าเจื่อน เพราะนั่นเท่ากับว่า ติวเตอร์ภาษาอังกฤษต้องสำแดงสดนี่มันยิ่งกว่า improvised อีก พิธีกรสาวพูดประวิงเวลาเพื่อคิดหาหนทางแก้ไขแต่ก็มืดแปดด้าน สำหรับพรพิสุทธิ์ยิ่งแล้วใหญ่อกกำลังจะแตกตายเพราะกดดันแม้คุณหนูวัยซนจะมีไหวพริบปฏิภาณเป็นเลิศแต่รายการสดขนาดนี้ก็ไม่ไหวจะรับมือระหว่างที่ทำอะไรกันไม่ถูกนั้นเอง เสียงที่คุ้นเคยก็ดังลอดเข้ามาในโสตรับรู้ของพรพิสุทธิ์

“เธอไม่ต้องกังวล ตอนนี้วางมือบนแป้นนะ ทำใจให้สงบและผ่อนคลายฉันจะช่วยเธอเอง”

“พูดอย่างกับว่าจะสิงฉันแต่ถ้าจะสิงจริงๆก็อย่าลืมออกด้วยนะสองตนในร่างเดียวมันจะทำให้น้ำหนักฉันขึ้น”

“แล้วใช่เวลาพูดเล่นไหม” เสียงของเดือนดาราแผดลั่นจนแสบแก้วหู เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังซีเรียสจึงยอมทำตามอย่างว่าง่ายและ theshow must go on จึงเริ่มขึ้น

“ผ่อนคลายตั้งแต่ต้นแขนจนถึงมือให้มากที่สุดนะจากนี้เริ่มขยับมือ” พรพิสุทธิ์ยอมทำตามเชื่อมั่นในตัวเพื่อนสาวต่างมิติ เสียงเปียโนดังขึ้นแบบไม่เป็นท่วงทำนองแต่ดุจดาวแก้เกี้ยวให้ว่ามันคือการ Warm up ชั่วอึดใจ พรพิสุทธิ์รู้สึกได้ว่าสติการรับรู้ของตนลดลงไปกว่าครึ่งรู้สึกหนักๆหน่วงๆที่หัว

“อย่าหยุดดีดนะ อย่าแข็งขืน จากนี้ให้นับถอยหลังสิบถึงศูนย์แล้วเราจะไปพร้อมๆกัน” เสียงของเดือนดาราชักจะลางเลือนเหมือนอยู่ห่างไกลออกไปทุกทีๆพรพิสุทธิ์นับสิบและลดลงเรื่อยไป นิ้วมือขยับอยู่บนแป้นไม่หยุดหย่อน สติขาดลงไปที่สุดเมื่อนับถอยหลังมาจนถึงศูนย์

ภาพเบื้องหน้าในขณะนี้ผู้ชมนับร้อยเห็นสาวสวยหลับตาพริ้มโยกศีรษะบรรเลงเปียโนอย่างพริ้วไหวในบทเพลงsymphony no. 5 ของศิลปินชื่อก้องโลกอย่าง LudwigVan Beethoven ผู้ฟังในบอลรูมต่างเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกดดุจดาวน้ำตารินไหลเป็นทางเพราะรู้ดีแก่ใจว่าเป็นใครที่เล่น ผ่านไปราวสิบนาทีบทเพลงก็สิ้นสุดลงเรียกเสียงปรบมือดังสนั่นลั่นห้องสติของ พรพิสุทธิ์ค่อยๆกลับคืนมาแต่ร่างกายยังรู้สึกอ่อนแรง

หญิงสาวร่างสูงเพรียวในชุดราตรีที่งดงามลุกขึ้นยกมือไหว้ขอบคุณผู้ชมก่อนจะเดินลงมาจากเวทีที่แสนจะยากเย็นเพราะยังไร้ซึ่งเรียวแรงที่ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะพลังชีวิตถูกใช้ไปกับการสอดประสานเข้ากับดวงวิญญาณที่เป็นพลังงานไร้รูปมีหนุ่มหล่อในเครื่องแบบที่ดูดีเชียวแหล่ะ นำดอกไม้ช่อโตมามอบให้ก่อนจะยื่นแขนให้หญิงสาวเกาะและเดินไปส่งยังที่นั่งภาพนี้ช่างขัดตาคุณหนูวัยซนนัก ก็เธอหวง! เสียงใสๆของพิธีกรสาววัยสั่นพล่าเล็กน้อยแต่ก็ไม่พอจะให้ใครจับสังเกตได้

“ไฟไหม้ๆ!! หนีเร็วแจน” ผู้คนต่างแตกตื่นกับเสียงนี้รวมทั้งพรพิสุทธิ์

เอาอีกแล้วเหรอเนี่ย เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้วตอนนี้ผู้คนต่างชุลมุนหนีตายสักพักไฟในห้องบอลรูมดับพรึ่บลงไป เปลวไฟที่แดงฉานลุกโชนมาจากบริเวณหลังเวทีผ้าม่านและอุปกรณ์ตกแต่งเป็นเชื้อเพลิงชั้นยอดให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วบรรยากาศครื้นเครงเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยความโกลาหลวุ่นวายเกินบรรยาย แต่พรพิสุทธิ์มิได้เป็นห่วงตัวเองวิ่งหนีเอาตัวรอดเช่นคนอื่นๆในหัวมีเพียงชื่อ… ดุจดาว

พรพิสุทธิ์วิ่งสวนคนเข้าไปร้องเรียกชื่อดุจดาวซ้ำแล้วซ้ำเล่าในความมืด

“ดาวอยู่ที่ห้องแต่งตั” เสียงของเดือนดารา

“ได้โปรดพาฉันไปที” พรพิสุทธิ์ขอความช่วยเหลือเพราะไม่รู้ที่ทางไม่มีเสียงใดตอบกลับมา มีเพียงมือที่กำลังสัมผัสอยู่กับบางสิ่งที่เย็นเฉียบจากนั้นร่างได้ถลาไปตามแรงดึง พรพิสุทธิ์ฝ่าควันไฟที่เริ่มก่อตัวหนารบกวนระบบหายใจและเป็นอุปสรรคยิ่งต่อสายตาจนมาถึงห้องแต่งตัวในที่สุด

“ดาว ดาวอยู่ไหน แค๊กๆ” ไร้ซึ่งเสียงตอบ พรพิสุทธิ์ร้องเรียกเพื่อนผีเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ก็เงียบเช่นกัน เปลวไฟล้อมกระชับพื้นที่เข้ามาเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว

“โครม เสียงเหมือนวัตถุขนาดใหญ่ล้มลง

“พี่แจน เสียงนี้ดังมาจากจุดที่มีวัตถุขนาดใหญ่ล้ม ติวเตอร์สาวใจหายวาบรีบวิ่งเข้าไปดูหากจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับดาวเธอคงจะให้อภัยตัวเองไม่ได้ไปชั่วชีวิต ภาพตรงหน้าตอนนี้ทำให้พรพิสุทธิ์แทบหยุดหายใจเมื่อราวเสื้อผ้าอันใหญ่ล้มลงมาเฉียดร่างของดุจดาวไปเพียงคืบและที่ต้องช็อคซ้ำสองคือร่างของเดือนดาราเหลือเพียงซีกเดียว

“ไม่ต้องห่วงฉัน ช่วยดาวก่อน” เพื่อนผีผลักไส รู้แก่ใจว่าตนคงไม่ตายรอบสองแน่ๆ

“พี่แจน พี่เดือน อูย คุณหนูร้องโอดโอย พรพิสุทธิ์รีบเข้าไปประคองร่างที่ถูกกองเสื้อผ้ามหึมาล้มทับเปลวไฟระอุไล่เข้ามาแล้ว

“ย้อนกลับไปทางเดิม อย่าวิ่งเข้าหาไฟ”

“ไปด้วยกันซิ” ไม่วายอาทรผีสาว

“ไม่ ฉันใช้พลังฝืนกฎไปมากแล้ว ได้เวลาที่ฉันต้องไปเสียที”

“พี่เดือน ดาวรักพี่นะ” ดุจดาวน้ำตาไหลพรากปะปนกันระหว่างผลพวงจากควันไฟและความเศร้าโศกาในจิต

“รีบไปยัยดาว” สิ้นเสียงร่างของเดือนดาราก็ได้อันตรธานไป ปริศนาที่พรพิสุทธิ์สงสัยบัดนี้ได้คลี่คลายไปแล้วเกือบทั้งหมดแต่เวลานี้เธอต้องพา ดุจดาวออกไปจากที่นี่ให้ได้ มิเช่นนั้นต้องพากันถูกไฟครอกตายศพไม่สวยได้อายเขาแย่

แต่เธอเชื่อมั่นอยู่ลึกๆว่ามันยังไม่ถึงเวลาของเธอ!




Create Date : 29 มกราคม 2559
Last Update : 29 มกราคม 2559 18:26:43 น. 0 comments
Counter : 421 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.