Group Blog
 
All blogs
 
เพื่อนใหม่ที่ไร้วิญญาณ

สองสาวแวะซื้อของที่มินิมาร์ทใกล้บ้านก่อนจะหอบข้าวของเต็มสี่มือเดินเข้าบ้าน

“พี่สงสัยขอถามหน่อยเถอะว่ามานอนค้างอ้างแรมบ้านพี่บ่อยๆคุณหญิงแม่ท่านไม่เป็นห่วงเหรอเล่นไม่กลับบ้านช่องติดๆกันแบบนี้” พรพิสุทธิ์ถามขึ้นเมื่อเดินผ่านประตูบ้านเข้ามา เรื่องนี้สำคัญมากต้องคุยกันให้ชัดเจนก่อนวันดีคืนดีเกิดผู้ปกครองเขาไปแจ้งตำรวจมาจับเธอในข้อหาพรากผู้เยาว์หรือกักขังหน่วงเหนี่ยวจะซวยเอาได้ง่ายๆคุณหนูหน้าสวยหันมายิ้มหวานถึงเวลาแล้วที่พี่สาวสุดสวยควรจะได้รู้เรื่องของเธอให้มากกว่านี้

“พี่แจนไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ คุณหญิงแม่ท่านให้อิสระกับดาวถ้าจะพูดให้ชัดกว่านี้ก็คือคุณแม่กับคุณพ่อท่านไม่ค่อยสนใจดาวนักหรอก ดาวอยากจะไปไหนก็ไปอยากไปทำอะไรก็ไปแค่บอกกล่าวเท้าความบ้างก็เท่านั้น” พรพิสุทธิ์มีสีหน้าไม่อยากเชื่อที่เด็กสาวดูออก

“คุณหญิงแม่ท่านคงได้เรียนรู้มาแล้วว่าไข่ที่อยู่ในหินมันช่างเปราะบางเมื่อไร้หินมาห่อหุ้มไข่ก็แตกสลายไปโดยง่าย” ดุจดาวแถลงไขนัยน์ตาเลื่อนลอยแปลกๆ

“เมื่อเปลือกไข่แตกไปตัวอ่อนจึงได้ออกมาลืมตาดูโลกแต่ความรักที่ยิ่งใหญ่ของคนเป็นพ่อแม่ท่านจึงสรรหากะลาใบใหญ่มาครอบตัวอ่อนไว้เนิ่นนานจนตัวอ่อนเติบโตอยู่แต่ในกะลาใบใหญ่ที่ครอบอยู่จึงทำให้ไม่รู้จักสัตว์ร้าย ไม่เท่าทันถึงภัยที่จะมาถึงตัวท่านจึงไม่อยากให้ดาวเป็นแบบนั้น” น้ำเสียงเก็บซ่อนความสะเทือนใจและน้อยใจอยู่ลึกๆแม้จะรู้ว่าพ่อกับแม่รักเธอมากแต่เธอก็ต้องการความเอาใจใส่จากท่านทั้งสองมากกว่านี้เธอกำลังได้รับผลจากสิ่งที่เธอไม่ได้กระทำ

“คนรวยเขาเลี้ยงลูกกันแปลกๆนะ” ยิ่งฟังก็ยิ่งตระหนกเจ้าของบ้านน้อยกลอยใจนึกถึงภาพไฮโซที่ติดยามีปัญหาชีวิตก็คงเพราะแบบนี้รึเปล่า นัยน์ตาคมมองดูน้องน้อยตัวร้ายนึกเวทนาอยู่ลึกๆบางทีปัจจัยที่มันมีมากมายก็ไม่ได้ช่วยเติมใจที่ขาดในบางเรื่องให้เต็มขึ้นมาได้

“เพราะถูกเลี้ยงด้วยเงินไง เค้าเลยต้องออกไปหาความรักความอบอุ่นเอานอกบ้านบังเอิญผ่านมาแถวนี้ ไม่รู้ว่าใครบางคนเขาจะมีเมตตา กรุณา มุทิตาอุเบกขาบ้างไหม”ลงท้ายก็อ่อล้อก่อกวนตามถนัด

“ที่นี่ไม่ใช่สถานสงเคราะห์นะจ๊ะแม่คุณและถึงจะใช่มันก็ทดแทนบ้านที่แท้ไม่ได้ทั้งหมดหรอก”

“เจ้าค่า แต่เค้าว่า สถานที่ใช่สำคัญไปกว่าตัวบุคคล” ดุจดาวทิ้งประเด็นเป็นปริศนาก่อนจะเดินเอาข้าวของเข้าไปเก็บเจ้าของบ้านมองตามคาใจกับสิ่งที่เด็กสาวพูดแต่ก็ไม่คิดถามต่อความยาวสาวความยืดกันต่อไปมันจะยิ่งหยิกเล็บเจ็บเนื้อกันเปล่าๆ มันเป็นภาระอันยิ่งใหญ่มากเลยทีเดียวกับการต้องรับผิดชอบความรู้สึกของเด็กคนหนึ่งและที่สำคัญ ‘เด็กแสบ!!’

“แล้วก่อนหน้านี้ดาวสนิทกับใคร” เจ้าของบ้านเดินตามเข้าไปปากก็พล่ามถาม มือก็จัดการกับข้าวของ

“ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ชาย”

พรพิสุทธิ์ชะงักของในมือแทบร่วง

“เค้าชอบคบกับผู้ชาย เพราะผู้ชายไม่จุกจิกไม่เรื่องมากไม่ขี้เม้า ไม่เหยาะแหยะอ่อนแอ น้ำแตกแล้วแยกทางมันแสนจะธรรมดา”แม่สิงโตน้อยเล่าความแบบไม่อีนังขังขอบ แต่คนฟังนี่สิหน้าตาตื่นกับสิ่งที่ได้ยินที่เขาว่าวัยรุ่นสมัยนี้ไวไฟมันก็ไม่ได้ห่างไกลจากความจริงเลย

“หือ… ที่พูดมามันหมายความว่ายังไงอย่าบอกนะว่าหล่อนพลีกายนอนกับผู้ชายมาแล้ว”

“ใช่ ! เป็นสิบเลย”

“โกหก!!”เพ็ญพิสุทธิ์ตะโกนลั่น

“อย่ามาล้อเล่นแบบนี้กับพี่อีก” แม้ภายนอกเด็กดาวจะออกแก่นแก้ว กระโกกระเดกแต่มันเป็นเพียงกำแพงที่สร้างไว้เพื่อป้องกันความเปราะบางของจิตใจต่างหากแล้วจากที่เธอสังเกตแค่เธอที่เป็นเพศเดียวกันใกล้ชิดแตะเนื้อต้องตัวหล่อนก็เขินอายทำตัวไม่ถูกแบบนี้จะไปเคยแนบเนื้อพลีกายนอนกับผู้ชายได้ยังไง

“เค้าจะโกหกเพื่อ? พี่แจนฟังชัดๆนะดุจดาวคนนี้ไม่ใช่คุณหนูใสซื่อบริสุทธิ์ แค่พูดบอกความจริงแค่นี้ถึงกับรับไม่ได้ รังเกียจดาวใช่ไหมล่ะ” เด็กแสบทำเป็นน้อยเนื้อต่ำใจด้วยการลุกหนีเธอแค่อยากพิสูจน์ใจพี่สาวว่าผ้าที่ที่ยัดไว้จนยับซ้ำยังแปดเปื้อนเช่นที่เธอกำลังนำเสนอพี่สาวจะรับได้ไหม

“ไม่ใช่ๆอย่างนั้นนะดาวพี่ไม่ได้รังเกียจก็แค่ตกใจนิดหน่อยไม่คิดว่าจะใจกล้าเกินวัยผ่านมาเป็นสิบ” ครูสาวลุกขึ้นยืนตามสองมือประคองร่างบางให้หันกลับมาจ้องเข้าไปนัยน์ตาดวงสวยแสดงความจริงใจแต่ดุจดาวยังนึกสนุกกลับปั้นหน้านิ่งไร้อารมณ์ไม่ฉายแววซ่าซนเช่นเคย

“ก็ไม่เห็นต้องใช้ความกล้านี่” ดุจดาวลอยหน้าลอยตา

อ๊อด…เสียงกดกริ่งลากยาวดังขึ้นแบบกวนประสาทขัดจังหวะบทสนทนาที่กำลังเข้าไคลแม็กพรพิสุทธิ์รีบลุกออกมาดูในยามวิกาลเช่นนี้ผู้มาร้องเรียกคงจะต้องมีอะไรพิเศษเป็นแน่

แต่…เมื่อมองออกไปที่หน้าบ้านกลับไม่ผู้ใด

พวกกวนเมืองเหรอ โรคจิต หรืออะไร

หรือว่า…

“หยุดแกล้งกันสักวันได้มั้ยวันนี้เหนื่อยไม่มีอารมณ์จะบริภาษหรือสาปส่งหล่อนกับลูกหรอกนะ” จิตของหญิงสาวเจ้าของบ้านวิ่งไปที่วิญญาณผีแม่ลูก

เอ่ะ! หรือจะเป็นแม่ผีสาวชุดแดงโอ้ย!แต่จะผีตนไหนก็ช่างเถอะวันนี้ไม่พร้อมจะปะมือเพราะมีบางสิ่งที่ต้องเคลียร์ให้จบก่อน

พรพิสุทธิ์หันกลับเข้าบ้าน จิตมุ่งไปยังคู่ความกับเรื่องที่ยังค้างคาให้คิดอีกกี่สิบตลบเธอก็ไม่อยากจะเชื่อว่าแม่เด็กแสบจะเป็นแบบนั้นไปได้แต่จริงๆเหรอที่มันเป็นไปแล้ว พรพิสุทธิ์สับสนปนแคลงใจ

โอ้หนอ…ดุจดาวจบความรู้สึกที่สุดรันทดใจไปกับน้องน้อยที่ตนเผลอใจรักและเอ็นดู

“พี่แจน” คนถูกเรียกสะดุ้งสุดตัวเมื่อแน่ใจว่าเป็นน้องชายพรพิสุทธิ์จึงรีบเดินไปเปิดประตู มองไปเบื้องหน้าเห็นบอยนั่งพิงกำแพงสภาพคอพับคออ่อนกลิ่นเหล้าคละคลุ้งปะปนกับกลิ่นบุหรี่ เจ้านี่ก็อีกคนถ้าไม่เห็นจะๆกับตาตัวเองก็คงยากจะเชื่อว่าเด็กหนุ่มรักดีหน้าใสซื่อจะเมามายไร้สติได้แบบนี้

“ทำไมถึงกินเหล้าเมามายขนาดนี้ห๊ะบอยวันหน้าถ้าเมาก็ไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้า”

“โผ้ม ม่าย ด้าย มาว” เสียงยืดยานยิ่งกว่าหนังยางเก่าเก็บ ก่อนจะม่อยกระรอกไปในที่สุด

“แกยังหลับไม่ได้ตื่นขึ้นมาฟังพี่ด่าก่อน” ไม่ทันจะได้พูดต่อจนจบเนื้อความแขนของพรพิสุทธิ์ก็ถูกเด็กสาวแสบมาคล้องไว้

“คุยกับคนเมาถึงเช้าโน่นกว่าจะรู้เรื่องช่วยกันลากตัวเข้าบ้านก่อนจะดีกว่า ยุงเยอะจะตาย” ในเมื่อพูดกับคนไร้สติไม่ได้ก็ขอระบายกับยัยเด็กแก่แดดนี่แทนแล้วกันแต่เมื่อหันมาปะกับดวงตาสุกใสดูไร้มายา กะจิตกะใจที่อยากจะต่อว่าก็เหือดหายต้องหันกลับไปสนใจเจ้าน้องชายตัวแสบที่ไร้สติหมดสภาพไปแล้ว

สองสาวช่วยกันพยุงหนุ่มน้อยร่างสูงเข้ามาในห้องนอนแบบทุลักทุเลจากนิวาสถานที่เคยเงียบเหงาเพราะโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว ณ บัดนี้กลายเป็นสามคนอลหม่านบ้านอลเวงและนั่นอาจจะรวมถึงบรรดาผีๆคู่กรณีที่มองไม่เห็นแต่รู้สึกได้ว่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แต่เธอว่าอยู่เหงาๆน่าจะดีกว่าวุ่นวายนะ

“ทำไมถึงทำตัวแย่แบบนี้ฟ้องป้าพรซะดีไหมเนี่ย” ญาติผู้พี่ยังไม่หยุดพร่ำบ่น

“เอาน่าพี่แจนบอยกลับมาบ้านอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว”ดุจดาวก็นำเสนอแง่มุมดีๆ

“แล้วมันใช่เรื่องมั้ยที่เมาจนขาดสติแบบนี้เจ้าบอยตื่นมาคุยกันให้รู้เรื่อง” ยิ่งพร่ำพูดของก็ยิ่งขึ้น สองมือเขย่าตัวเจ้าน้องชายอย่างแรงจากใจที่ผิดหวังเพิ่งมาอยู่กรุงเทพฯได้ไม่กี่วันลายก็ออกซะแล้ว

“พอเถอะพี่แจนตอนนี้พี่เขย่าให้ตายบอยก็ไม่ตื่นขึ้นมาหรอก” พรพิสุทธิ์ชะงักยอมรามือเพราะชักเหนื่อยแล้วเหมือนกัน

“ดาวจัดการให้”

“จัดการแบบไหน คิดจะลักหลับน้องพี่เหรอ”พรพิสุทธิ์พูดทีเล่นทีจริง ก็หน้าใสๆจะไว้ใจได้กา ก็ยัยคุณหนูจอมแอ๊บเพิ่งจะสารภาพมาหยกๆว่าเห็นนิ่งๆความจริงหล่อนฟาดเรียบ

“พี่แจนบ้า ดาวมีวิธีของดาวก็แล้วกัน”ดุจดาวตอบกลับจริงจังไม่พูดชวนหัวเช่นเคยๆ

“แต่พี่เป็นพี่สาวของบอยนะ พี่ขอใช้สิทธิ์รู้ว่าดาวจะจัดการยังไง”

“ก็เพราะเป็นพี่เป็นเชื้อนี่แหละน่ากลัวรองจากพ่อแม่เลยรู้ป่าว”ปัญหาวัยทีนผู้ที่อยู่ในช่วงอายุเดียวกันย่อมเข้าใจกันดีที่สุด

“พูดยังกับตัวเคยมีพี่” ดุจดาวอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะโต้ตอบกลับไป

“ก็คนที่บ่นเป็นคนวัยทองอยู่นี่ไง พี่แจนรู้ป่าววัยรุ่นชอบคิดว่าตัวเองเจ๋ง ดูแลตัวเองได้ ก็นะถึงได้ห่ามได้เซี้ยวบ้างตามประสา เวลาผู้ใหญ่ไปต่อว่ามันเหมือนเป็นการไปลดทอนคุณค่าในตัวตนของเขา”

“คือว่าไม่ได้แตะไม่ได้อย่างนั้นเรอะกับหล่อนน่ะใช่ เพราะเป็นคุณหนูไฮโซแต่กับตาบอยก็แค่คนธรรมดาๆคนหนึ่ง”

“แตะได้ซิเจ้าคะแต่พี่แจนต้องแตะให้ถูกจุดถูกเวลา แล้วเวลานี้แตะไปพี่แจนก็มีแต่ร้อนคนถูกแตะก็หงุดหงิด นานเท่าไหร่กว่าจะรู้เรื่อง แล้วถ้าไม่รู้เรื่องก็จะบานปลายผิดใจกันไปอีก”

“แล้วถ้าแตะช้าจะมิเสียคนหรอกรึ”ผู้ใหญ่ยังไม่คล้อยตาม

“คุณพี่แจนคะ เลิกตีกรอบคิดเองเออเองว่าวัยรุ่นต้องเป็นผ้าขาวได้แล้วถ้าบอยจะเสียคนคงไม่ต้องลำบากมาเรียนถึงกรุงเทพฯมั้ง ป่านนี้เขาไปเป็นเด็กแว้น ควงสก๊อยผู้สาวสวยๆอยู่เมืองเหนือแล้ว” พรพิสุทธิ์ชักทึ่งในความคิดของคุณหนูหน้าใสคิดไม่ถึงว่าจะล้ำลึกซึ้งเข้าอกเข้าใจวัยรุ่นในแง่สาระได้มากขนาดนี้อย่างน้อยๆตอนนี้ก็มากกว่าเธอ

“วัยเดียวกันก็เข้าข้างกันน่ะซิ” ผู้ใหญ่เฉไฉเบี่ยงประเด็นเพราะแพ้ทางเด็ก

“ก็ถ้าผู้หญิงเราเห็นเรื่องสวยเรื่องหน้าตาเป็นเรื่องหลักผู้ชายก็เห็นเรื่องศักดิ์เรื่องศรีเป็นสำคัญ ดาวเดาว่าบอยคงโดนรับน้องมาและถ้าเป็นดาวนะดาวก็จะสู้ขาดใจเลย แค่กินเหล้าเมาเช้าตื่นขึ้นมาก็หาย แต่ถ้าแพ้เพราะไม่สู้ก็คงจะโดนล้อว่าเป็นไอ้looser ไปตลอดจนเรียนจบ” เด็กสาวเจื้อยแจ้วยืดยาวที่ผู้ใหญ่ก็ยอมหยุดฟังมันก็จริงอย่างที่ดาวพูด และวันนี้เธอก็เหนื่อยเต็มทีละขอพักยกกับเจ้าน้องชายก่อน นี่ก็กินเวลาติวมาเยอะแล้วด้วยติวเตอร์สาวกำลังจะเอ่ยปากชวนน้องน้อยให้ไปติวกันได้แล้วแต่ดุจดาวไหวทันพลิ้วกว่าแสดงอาการง่วงเหงาหาวโชว์ฟอดใหญ่

“ตกลงจริงจังกับการสอบมั้ยนี่”

“จริงซิ ไม่งั้นดาวจะอพยพยกครัวมาอยู่บ้านพี่ทำไมเอาน่าพี่แจนพระจันทร์ไม่เต็มดวงทุกวัน วันนี้ก็พักบ้างไรบ้างเนาะ” เป็นปรัชญางงๆของคุณหนูจอมเจ้าเล่ห์และพูดแทบไม่ทันจบเด็กสาวก็วิ่งปรู๊ดขึ้นห้องไปเจอท่านี้ผู้ใหญ่ก็ทำได้แค่เอือมระอาและก็ตามน้ำจะต่อกรกับวัยวุ่นนี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ

พรพิสุทธิ์ออกไปจากห้องน้องชายไปจัดการเก็บข้าวของที่ซื้อมาเข้าที่ให้เรียบร้อย จากนั้นจึงเดินไปสำรวจปิดบ้านช่องให้แน่นหนาก่อนจะเดินขึ้นห้องไป

“ช้าจัง เค้ารอล้างแผลให้พี่อยู่นะ” คิดว่าจะหลับไปแล้วซะอีก

“ไม่ต้องล้างหรอก หายแล้ว” ความจริงมันก็เป็นแบบนั้น

“อย่าดื้อซิรีบไปนั่งยังไงก็ต้องให้เค้าดูก่อน”เด็กสาวเดินไปดึงแขนพี่สาวมานั่งที่เตียง ค่อยๆเอาผ้าพันแผลออกอย่างเบามือ

“แผลสมานกันจนแทบจะมองไม่เห็นแล้วเดี๋ยวพี่แจนไปอาบน้ำก่อนเสร็จแล้วค่อยทายา”เด็กน้อยเจื้อยแจ้วน่าฟังพรพิสุทธิ์มองภาพนี้อย่างสนใจไม่คิดว่าคุณหนูผู้ร่ำรวยจะมาทำอะไรให้ใครแบบนี้ได้

“มองเค้านานๆเดี๋ยวก็หลงรักเค้าหรอก”เด็กแก่แดดเปรยขึ้นแต่สายตาและสมาธิยังอยู่ที่เท้าของคนเจ็บ

“ก็น่ารักให้มันน้อยๆหน่อยสิ” พรพิสุทธิ์ไม่อ้อมค้อมกับความรู้สึกเธอหลงความน่ารักของเด็กดาวเข้าแล้วจริงๆแต่ก็เท่านั้นเพราะเธอไม่เห็นทางสานต่อแค่อยู่กับความรู้สึกปัจจุบัน

“ช่วยไม่ได้ของแบบนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลคอยดูนะเค้าจะน่ารักให้มากกว่านี้อีก แบร่!”เด็กแสบตีหน้าทะเล้นก่อนจะขโมยหอมแก้มพี่สาวหน้าตาเฉยและกระโดดขึ้นเตียงไปนอนคลุมโปงขัดเขินกับสิ่งที่ตนทำพรพิสุทธิ์เอามือกุมแก้มร้อนฉ่าของตนเองหลากหลายกับความรู้สึกหันมองเด็กสาวที่คลุมโปงอยู่ด้วยความเอ็นดู มาไกลขนาดนี้แล้วพาเล่นผีผ้าห่มซะดีมั้ย

‘บ้าซิ ลูกศิษย์นะนั่น’ ติวเตอร์สาวเตือนสติตนเอง แล้วทำไมเธอต้องมาใกล้ชิดกับลูกศิษย์หน้าสวยคนนี้ด้วยยัยคุณหนูก็ช่างทำบุญมาได้ครบ ทั้งสวยทั้งรวย แถมสติปัญญาก็ใช่ย่อย

‘ทำบุญ’ พรพิสุทธิ์นึกขึ้นมาได้ว่าผลัดแม่ผีขี้แกล้งมาเสียนานแต่จะทำบุญทั้งทีเธอเลยขอเป็นวาระแห่งชาติสักหน่อย ข้าวของต้องจัดเต็มวันนี้ไหนๆก็ไม่ต้องติวแล้วคิดได้ดังนี้หญิงสาวจึงคว้ากระเป๋าขับรถออกจากบ้านในทันทีด้วยความที่เป็นคนคิดแล้วต้องทำทันทีลืมไปเลยว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว

“จะทำกับข้าวใส่บาตรไปให้นะแม่ผี คุ้มครองฉันด้วยหล่ะอย่าให้เกิดอุปัทวะเหตุอะไรอีกแม่อยากกินอะไรก็บอกมาอ๊ะๆ แต่อย่ารีเควสยากนักนะ เพราะถ้าเรื่องเยอะและฉันทำไม่เป็นก็อดไปนะ” ติวเตอร์สาวสวยพูดขึ้นลอยๆไปเรื่อยเปื่อยแบบติดตลก

“โป๊ะแตก หอยลายน้ำพริกเผา” เสียงลอยเข้าโสตประสาทมาเต็มๆคราวนี้ไม่ได้ดังที่ข้างหู แต่มันดังมาจากด้านหลังชัดเจนประหนึ่งแม่ผีสาวอยู่ในรถ พรพิสุทธิ์รู้สึกใจคอไม่ดีเธอยังไม่พร้อมกับการเผชิญหน้ากับอดีตสิ่งมีชีวิต

พรพิสุทธิ์ลอบชำเลืองที่กระจกมองหลังไม่อยากให้เป็นดั่งใจคิดเลย

ปัดติโธ!ต่างจากที่คิดที่ไหน หญิงสาวใจหายเล็กๆเมื่อได้เห็นบางสิ่งที่ไม่ได้รับเชิญจากเบาะหลังแม้จะเห็นเพียงซีกหน้าเพราะหล่อนหันมองออกไปด้านนอก แต่ก็ไม่ช่วยให้ความหลอนลดลงสักนิดพรพิสุทธิ์พยายามตั้งสติสองมือประคองพวงมาลัยมั่นลอบกลับไปมองอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าตาไม่ฝาดประสาทไม่หลอนไปเองภาพเบื้องหน้าก็ยังแจ่มชัดเต็มสองตา

“เรียกฉันว่า’เดือนดารา’” เสียงเรียบเย็นแต่ไม่ถึงกับยานคางไม่ต่างกับเสียงของมนุษย์ที่ยังมีชีวิตสักเท่าไหร่และที่สำคัญเธอจำได้ว่าเสียงของหล่อนเป็นเสียงเดียวกับสาวชุดแดง นั่นยังไง!! เธอเข้าใจอะไรไม่ผิด สมองกำลังประมวลผลปะติดปะต่อเรื่องราว ขอเพียง jigsaw อีกไม่กี่ชิ้นเธอก็จะไขปริศนาได้แล้ว

“แล้วจะบอกได้หรือยังว่าต้องการอะไรจากฉัน”หญิงสาวเจ้าของรถมุ่งไปยังสิ่งที่ตนใคร่รู้เป็นปฐม

“...” ไร้คำตอบใดเป็นจังหวะเดียวกับที่รถติดสัญญาณไฟจราจรพอดี พรพิสุทธิ์หลับตา กลั้นลมหายใจรวบรวมความกล้าก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้า

แต่…ว่างเปล่า

ร่างเพรียวเป่าปากโล่งอก ไม่อยากนึกหากเธอหันไปเจอร่างเน่าเฟะลูกตาเหลือกถลนปรากฏเป็นภาพชัดแบบHDจิตของเธอคงจะกระเด็นกระดอนไปไกล แต่ไม่เป็นแบบนั้นหรอกหากหล่อนเป็นตนเดียวกับสาวชุดแดงที่เธอเคยเห็นก็ออกจะเฉิดฉายไฉไลไร้ที่ที่ดี ใช่ไหม‘เดือนดารา’

“ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะเดือนดารา” พรพิสุทธิ์ตกลงปลงใจคบผีเป็นเพื่อนพร้อมยิ้มเป็นมิตรให้กับดินฟ้าอากาศแต่ก็หวังในใจว่าคนที่เธอต้องการยิ้มให้เขาจะรู้ตัวและรับมันก่อนจะกลับไปสนใจขับรถมุ่งหน้าไปยังห้างเดิม

ทำไมวันนี้รถถึงเยอะนักนะ เธอวนหาอยู่หลายรอบก็ไม่มีที่จอดสุดท้ายมาได้ตรงมุมสุดใต้ต้นไม้ใหญ่รกครึ้มที่แสนมืดมิดดูวังเวงมาก ติวเตอร์สาวดับเครื่องยนต์เปิดประตูก้าวลงมาจากพาหนะคู่ใจคนจิตเปิดรู้สึกสังหรณ์ในใจพิกล นึกถึงคำเตือนจากแม่ ‘ระวังภัยจากคนนะลูก’ มือผลักประตูรถ ก้าวเดินฉับๆมาสู่หนทางที่มีแสงส่องสว่างจังหวะนั้นเองพรพิสุทธิ์รู้สึกได้ว่ามีใครเดินตาม เสียงฝีเท้าหนักๆบ่งบอกว่าไม่ใช่วิญญาณมันคือคนและน่าจะเป็นผู้ชายด้วย คนที่ระวังตัวแต่ไม่ทันได้เตรียมพร้อมโดนชาร์จจากด้านหลังตามมาด้วยวัตถุมีคมแหลมทิ่มเข้ามาที่กลางหลัง

“อย่าร้องนะไม่งั้นกูแทงไส้แตกแน่ส่งกระเป๋ากับมือถือมาเร็วๆ” แม้จะตกใจแต่ดูเหมือนจุดพีคกับการประสบกับวิญญาณในรถเมื่อครู่มันคือที่สุดแล้วคนที่เห็นกันตัวเป็นๆน่าจะรับมือได้ง่ายกว่าแม้พรพิสุทธิ์จะไม่มีวิชาป้องกันตัวเรื่องการใช้กำลังเห็นจะไม่ใช่ทางออก สมองที่ปราดเปรื่องและมารยาต่างหากที่ฟ้าประทานให้ผู้หญิงแกร่งและเหนือกว่าผู้ชาย

“ตุ่บ” พรพิสุทธิ์โยนกระเป๋าใบเล็กที่มีเศษสตางค์ไว้ขึ้นรถลงเรือราวร้อยกว่าบาทไปอีกทางคิดซะว่าทำบุญให้ทานไปแต่ไอ้โจรห้าร้อยใช่โง่เขลา มันล็อคคอเหยื่อแน่นและลากเหยื่อมาที่กระเป๋าด้วย

“มุขตื้นๆมึงคิดว่ากูจะหลงกลมึงเหรอกูไม่ใช่โจรกระจอกนะโว้ย เก็บขึ้นมา” พรพิสุทธิ์จำใจทำตามอย่างว่าง่ายแต่ก็แบบอ้อยสร้อยเชื่องช้าธรรมชาติของโจรประเภทนี้คือกระจอกมันเพียงแค่เห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงบอบบางคิดว่าแค่ข่มขู่ก็เอาอยู่แต่หากเป้าประสงค์ของมันคือทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ ป่านนี้เธอถูกแทงนอนจมกองเลือดไปแล้วสาวร่างบางประวิงเวลาเอาไว้ให้นานที่สุดสมองประมวลหาทางรอดเมื่อยื่นกระเป๋าให้โจรกระจอกมันรีบรื้อค้นทันทีและเมื่อพบว่ามีเศษเงินเพียงน้อยนิดโทสะก็บังเกิด

“โอ้ย!” พรพิสุทธิ์ถูกผลักจนหัวทิ่มโจรใจหยาบยื่นมีดปลายแหลมมาใกล้หน้าสวย ขมขู่จะเอาสิ่งที่ต้องการ

“กูไม่เชื่อว่ามึงมีเงินแค่นี้เงินอยู่ไหนเอามาให้กูเดี๋ยวนี้” ดูเหมือนว่าวิธีการทั้งมวลจะไม่ได้ผลแต่ถึงยังไงเสียทรัพย์ก็ยังดีกว่าโดนทำร้ายนะท้ายที่สุดพรพิสุทธิ์ตัดสินใจส่งมือถือให้อย่างไร้ข้อต่อรอง จังหวะที่โจรกระจอกยื่นมือที่ว่างมารับนั้นเอง

“อ๊อก…”เจ้าโจรเอามือจับที่คอตัวเองอาการมันเหมือนกำลังหายใจไม่ออก มีดพร้าปลายแหลมร่วงหล่นลงพื้นและอยู่ๆร่างของมันก็ลอยสูงขึ้นจนเท้าไม่ติดพื้น

“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย ฉันโดนจี้ค่ะ”ไวเท่าความคิดพรพิสุทธิ์แหกปากร้องตะโกนสุดเสียงเพื่อเรียกคนมาช่วย ร่างของไอ้โจรใจทรามร่วงหล่นลงมาดวงตาเหลือกถลนลิ้นปริ้นออกมาจุกปากลมหายใจอ่อนรวยริน มันมีท่าทางเหมือนพยายามจะหนีจากบางสิ่งด้วยการคลานสี่เท้าทุรนทุรายทุลักทุเลน่าเวทนาไม่นาน รปภ.ของห้างก็เข้ามาจับกุมตัวไว้ได้ และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางห้างไปโดยเธอสะดวกที่จะไปให้การกับตำรวจในวันพรุ่งนี้

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยพรพิสุทธิ์ก็เดินชิลๆสวยๆเข้าห้างไป

“ฉันรู้ว่าเธอช่วยฉัน ขอบใจมากนะ เดือนดารา”พรพิสุทธิ์พึมพำอยู่กับบางสิ่งที่ใครก็มองไม่เห็น เธอมั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพื่อนผีใหม่ถอดด้ามมาช่วยเหลือหลักฐานที่ยืนยันได้ชัดเจนคือกลิ่นน้ำหอมราคาแพงโชยฟุ้งอบอวลอยู่ในที่เกิดเหตุพรพิสุทธิ์คลี่ยิ้มเต็มหน้ากำลังซาบซึ้งกับความหมายของคำว่า ‘คนดีผีคุ้ม’

เมื่อกลับเข้ามาในห้องก็เป็นดังคาดคือน้องน้อยผล๊อยหลับไปแล้วเธอก็เข้าใจได้ว่ายัยคุณหนูอยู่ในวัยกำลังกิน กำลังนอนแต่ก็ไม่คิดว่าจะกินง่ายอยู่ง่ายแบบนี้ไม่รู้สึกว่าตัวเองแปลกที่แปลกทางบ้างหรือไงนะ

ติวเตอร์สาวตื่นแต่เช้ามืดลงมาเข้าครัวลงมือทำอาหารโดยเปิดดูวิธีทำจากyoutube

“พี่แจนทำไร หอมจัง” ดุจดาวโผล่หน้าเข้ามาในครัวก่อนจะเดินเข้าไปดู

“ตื่นมาทำไมแต่เช้า” ติวเตอร์สาวอาทร เด็กควรจะพักผ่อนเยอะๆ

“เค้าฝันร้าย พอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นพี่ตามกลิ่นอาหารมาก็ได้เจอ” เด็กสาวเจื้อยแจ้วหน้าทะเล้น

ไม่อยู่ในบรรยากาศที่พี่สาวจะปลอบโยนน้องสาวจากฝันร้ายเพราะสาละวนอยู่กับการทำอาหาร

“โป๊ะแตกนี่นา น่ากินจัง” ดุจดาวเปิดหม้อหยิบช้อนขึ้นมาจะขอเป็นแม่ช้อยนางรำ

“เพี๊ยะแม่ครัวมือใหม่ตีเข้าที่ข้อมือจนน้ำแกงกระฉอก

“ตีเค้าทำไมอ่ะ” คุณหนูเอาแต่ใจมองค้อนด้วยความขัดเคืองไม่คิดว่าพี่สาวจะหวงของกิน

“อยากเป็นเปรตหรือไงพี่ตั้งใจทำไปใส่บาตร”

“พี่แจนรู้ไหมโป๊ะแตกเป็นของโปรดของทุกคนที่บ้านดาวเลยว้าวๆๆมีหอยลายผัดน้ำพริกเผาด้วย เหมือนรู้ใจเค้าเลย หรือว่า…” ดุจดาวรู้สึกถึงอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดไว้แค่นั้น

“หรือว่าอะไร?”พรพิสุทธิ์รอฟังเพราะสนใจทุกเรื่องของลูกศิษย์สาว

“ไม่มีไรเค้าเพิ่งตื่นอ่ะ ยังเบลอๆงงๆงั้นเค้าไปอาบให้สดชื่นก่อนดีกว่า” สาวซนเปลี่ยนประเด็นและรีบแยกออกมาแต่ก็ไม่แนบเนียนพอที่จะหลุดรอดสายตาของคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนหลายปี พรพิสุทธิ์สังเกตได้ว่าอยู่ๆน้องน้อยก็ดูซึมๆไปทั้งๆที่เมื่อครู่ยังลิงโลด 




Create Date : 25 ธันวาคม 2558
Last Update : 25 ธันวาคม 2558 12:51:19 น. 0 comments
Counter : 450 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.