Group Blog
 
All blogs
 
ฝันอันตราย

“ดาว...รู้สึกผิด ที่เป็นต้นเหตุให้พี่แจนต้องมาเจ็บตัว"ได้ยินแบบนั้นพรพิสุทธิ์เอนกายกลับไปยังจุดเดิม ก็แค่นี้ ทำเป็นพูดยากเย็นไอ้เรารึก็มะโนว่าจะได้ยินอะไรที่มัน…

เกือบจะได้คะแนนเต็มสิบอยู่รอมร่อแต่ลงท้ายกลับบวกเลขผิดเสียนี่ ก็อย่างว่านะสมการหัวใจหนึ่งบวกหนึ่งมันต้องเป็นหนึ่ง เด็กน้อยคงยังไม่ประสาความบวกไปตามหลักคณิตศาสตร์ผลลัพธ์มันจึงออกมาเป็นสอง เมื่อคำตอบไม่โดนใจก็ต้องเอาไข่ไปกินตามระเบียบ

“โป๊ก!" กำปั้นของติวเตอร์สาวลงทัณฑ์ด้วยการเขกเบาๆที่ศีรษะของคุณหนูแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

“โอ้ย! พี่แจนอ่ะ" เด็กสาวโอดโอยโอเวอร์ปนงงตามอารมณ์ผู้ใหญ่ไม่ทัน

“อย่าริอาจทำอะไรแสบซนอีกเด็ดขาดคำสั่งของพี่ถือเป็นวาจาสิทธิ์ นี่คือเงื่อนไขของการรับสอน" ติวเตอร์สาวเสียงเข้มสร้างวิกฤติเป็นโอกาส เด็กน้อยยอมลดความดื้อดึงจากความรู้สึกผิด

“แต่…”ลูกศิษย์สาวมีอิดออด ก็คนอย่างเธอเคยฟังคำสั่งใครที่ไหนนอกจากพ่อกับแม่

“No , Stop หากรับเงื่อนไขนี้ไม่ได้ทุกอย่างเป็นอันล้มเลิก" ถ้าวันนี้ยังคุมไม่ได้เอาไม่อยู่จะพร่ำสอนอะไรกันหลังจากนี้ก็ยากจะสัมฤทธิ์ผล

“เชื่อฟังเจ๊เขาเถอะ เจ๊เขาเก่งดาวจะได้ประโยชน์เยอะโขเลยแหละ”บอยเป็นกำลังเสริมให้ญาติผู้พี่

“เสร็จแล้ว เดี๋ยวบอยขอตัวก่อนนะคุยกับเพื่อนค้างไว้” บอยจัดการเก็บล้างเอาทุกอย่างเข้าที่ก่อนจะชิ่งเข้าห้องไป เป็นปกติที่เด็กวัยนี้จะต้องการเวลาและพื้นที่ส่วนตัวมากกว่าปกติ

“เค้ายอมรับเงื่อนไขก็ได้ พอใจรึยัง” เด็กสาวยอมถอยออกไปตั้งหลักก่อน บรรยากาศความผิดติดตัวแบบนี้แข็งขืนไปก็มีแต่จะเสียเปรียบจนมุม

“ดี แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ดื้อดึงคิดนอกเกมพี่จะเข้าไปแฉกับคุณหญิงว่าที่แท้หล่อนมันเป็นผ้ายัดไว้ ไอ้ที่เรียบหรูเป้นคุณหนูดูดีเวลาอยู่ต่อหน้าท่านมันเป็นมายา"

“เค้าเป็นผ้าแพรชั้นดีต่างหาก ที่ไม่ว่าจะยัดไว้ตรงไหนดึงออกมาเมื่อไหร่ก็คืนทรงรวดเร็ว" ดุจดาวอดเถียงไม่ได้ตามประสาคนชอบต่อปากต่อคำ

“จ้า แม่ผ้าแพรยัดไว้ ขึ้นไปนอนกันได้แล้ว"ครูสอนพิเศษมือใหม่ไม่เห็นผลวิเศษในการปะทะคารมจึงตัดบทยันกายจะลุกขึ้นยืนแต่เด็กแสบยื้อแขนไว้

“เดี๋ยวสิเค้ายังไม่ได้ดื่มน้ำเลยกาเสียแล้วพี่แจนชงกาแฟยังไง"

“เป็นงูได้ฉกตายแล้ว ไม่เห็นเครื่องชงกาแฟรึไง"

“เค้าอยากดื่มโอวันติลร้อน”คุณหนูเผยความต้องการ ก็อยากจะช่วยเหลือตัวเองอยู่หรอกนะแต่พี่แจนบอกเองว่าอยากได้อะไรให้บอกแล้วถ้าหนังท้องเธอไม่ตึงหนังตามันก็ไม่หย่อนมีหวังคืนนี้คงนอนไม่หลับทั้งคืน

“สภาพพี่เป็นแบบนี้อ่ะนะ" ติวเตอร์สาวอนาถสภาพตัวเอง พอๆกับเห็นใจเด็กกำลังโตที่อยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอน

“งั้นเค้าไปบอกให้บอยช่วยละกันนะ"ดุจดาวหาตัวช่วยอื่น

“ไม่ต้องเลย! ป่านนี้บอยเขาพักผ่อนนอนหลับไปแล้ว"พรพิสุทธิ์รีบเบรกโดยให้เหตุผลส่งเดช เธอไม่อยากให้แม่คุณหนูไฮโซไปสนิทชิดเชื้อกับน้องชายตนโดยไม่รู้ตัวว่าแบบนั้นเขาเรียกว่าหวง

หญิงสาวคนเจ็บตะเกียกตะกายลุกขึ้นไปทำให้อย่างเสียไม่ได้สภาพนี่อย่าให้พูดทุลักทุเลน่าดูดุจดาวอดทนดูไม่ได้จึงเข้ามาช่วยประคอง เนื้อตัวนุ่มนิ่มที่ได้สัมผัสกันกับกลิ่นกายที่หอมหวนเมื่อมากระทบจมูกของหญิงสาวทั้งสองต่างให้ความรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าสถิตวูบวาบอยู่ในอก

พรพิสุทธิ์เปิดเครื่องชงกาแฟ ถึงวันนี้สภาพจะไม่พร้อมชงนักแต่กลับเป็นการชงที่สบายกว่าปกติเพราะเวลาต้องการอะไรก็เรียกใช้เด็กสาวไปหยิบ ก็เธอเป็นคนเจ็บย่อมมีอภิสิทธิ์ที่ดุจดาวเองก็เต็มใจกับการได้ช่วยเหลือคนอื่นบ้าง เพราะมันทำให้เธอรู้สึกมีพลังเสมอแต่ก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำเพราะชีวิตถูกโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ

ผง cinnamon ถูกโรยลงไปหลังจากที่เครื่องชงตีฟองนมเสร็จ

“เสร็จสักที”คนเจ็บมองผลงานของตนด้วยความภูมิใจ เด็กสาวอมยิ้มยินดีกับสิ่งที่ตนต้องการ ยอมลดความแสบประนมมือไหว้งดงามแทนคำขอบคุณสองมือเรียวโอบอุ้มถ้วยกาแฟขึ้นมาสูดควันที่ล่องลอยออกมาจากถ้วยก่อนจะยกขึ้นดื่ม

“อร่อยจังค่ะ” เด็กน้อยกำลังอยู่ในอารมณ์สมหวังดั่งฝันไปดื่มด่ำกับรสชาติของเครื่องดื่มสุดโปรดจากรสมือของพี่สาวใจดี แม้รสชาติจะแปลกไปจากที่เคยดื่มแต่ก็ให้ความรู้สึกที่ดีอีกแบบพรพิสุทธิ์ยืนมองเด็กสาวที่น่าจะอ่อนกว่าตนไม่กี่ปีแต่เพราะความเป็นลูกคุณหนูอยู่สบายตั้งแต่เกิดจึงทำให้พัฒนาการทางโลกโตช้ากว่าคนปกติเช่นเธอแต่ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกชื่นชมคนอะไรทำบุญมาครบจริงๆทั้งมีรูปเป็นทรัพย์ ทรัพย์ก็ยังมีมหาศาลไม่พอ! ยังเป็นลูกสาวคนเดียวอีก

“มองเค้าอีกละยังไม่ชินกับความสวยของเค้าอีกรึไง” แม้จะอ้อล้อแต่ในใจกลับรู้สึกแปลกๆที่พี่สาวมองตนตาไม่กระพริบแต่เด็กน้อยก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนะ แถมยังไม่มีความน่าหมันไส้สักนิด มีแต่ความน่ารัก… เมื่อคิดถึงตรงนี้ติวเตอร์สาวต้องรีบดึงสติกลับมาอย่างไวๆขับไล่ความรู้สึกที่มันจะดีเกินความชื่นชม

“รีบๆดื่มเข้า จะได้ขึ้นไปอาบน้ำและเข้านอนกันสักที”ติวเตอร์สาวกระยอกกระแยกไปหาที่ทิ้งตัวระหว่างรอ

“พี่แจน เค้ามีอีกเรื่องจะบอก"

“หือ อะไรอีกแม่คุณ" พรพิสุทธิ์เหนื่อยปนหน่ายคุณหนูตัวป่วน และตอนนี้เธอก็แสนจะง่วงงุน

“ก็ปกติดาวจะตื่นเช้าถ้าไม่อ่านหนังสือก็ออกกำลังกาย"

“แล้ว?”

“แล้วเค้าก็จะหิวแต่เช้าถ้าไม่ได้กินก็จะปวดท้อง”

“เช้ากี่โมง”

“ตีห้าครึ่ง”

“หือ…เช้าไปพรุ่งนี้ตื่นสักหกโมงครึ่งแล้วค่อยไปหาอะไรกินข้างนอก”

“ก็ได้ เค้าก็แค่อดทนรอ” เด็กสาวเสียงอ่อยอย่างเข้าใจทุกอย่าง แต่ความรู้สึกคนฟังกลับเหมือนมีดราม่าแต่ก็แค่กินข้าวสายขึ้นหน่อยมันจะอะไรนักหนา

เมื่อเสร็จเรียบร้อยดุจดาวเข้าไปช่วยประคองคนเจ็บเท้าขึ้นชั้นบนส่งจนถึงเตียงนอนโดยไม่รู้ว่ามันเป็นมายาของผู้ใหญ่ที่อยากให้เด็กเอาใจเท้าตอนนี้มันก็เจ็บๆปวดๆไม่เท่าไหร่แล้วความจริงแผลมันเล็กนิดเดียวแต่ที่มันดูเป็นเรื่องใหญ่โตเพราะเลือดมันไหลออกเยอะก็แค่นั้น

“ไปอาบน้ำซะ ชุดนอนกับผ้าขนหนูอยู่ในตู้ไปรื้อๆดูเอา

“เจ้าค่า”เด็กสาวเปิดตู้รื้อค้นหาสิ่งของตามคำสั่งแต่ก็แบบคนไม่รู้ประสาแต่ก็ดีหน่อยที่ตู้เสื้อผ้าพี่แจนไม่รกเหมือนห้องนอนเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการก็เดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนสาวเจ้าของห้องนอนทอดความคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะคิดอะไรได้บางอย่างจึงเดินกระเผลกไปคว้ากระเป๋าเงินและเดินออกจากห้องไป

พรพิสุทธิ์ขับรถออกมาที่ Foodland สาขาใกล้บ้านยังงงๆตัวเองว่าหอบสังขารมาที่นี่ทำไมทั้งที่ตอนนี้มันก็ดึกแล้วและตัวเองก็เจ็บอยู่ นี่เธอกำลังพลาดพลั้งตามใจเด็กอยู่ใช่ไหมเนี่ยแบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกแพ้ทาง

เมื่อเลือกซื้อข้าวของเสร็จสรรพจ่ายเงินเรียบร้อยคนเจ็บจึงไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานให้ช่วยเอาข้าวของมาส่งที่รถระหว่างทางที่ขับรถกลับเหมือนจะราบรื่นดั่งขาไป

แต่ไม่ใช่แล้ว…

“อย่าตรงไป!!” เสียงเดิมที่คุ้นเคยแว่วเข้าโสตประสาท แม้จะหลอนแต่ก็น้อยกว่าขุ่นใจ

“ฝันเหรอว่าฉันจะเชื่อแกนังผีร้ายฉันยังไม่อยากจะตายตามแกกับลูกไปหรอกนะ” พรพิสุทธิ์เหยียบคันเร่งจนจมมิดเท้ามุ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเสียงในหัวรถ Ecocar แล่นมาด้วยความเร็วเกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงผ่านสี่แยกที่สัญญาณไฟจราจรขึ้นเป็นสีเหลืองแก่ๆและแดงในที่สุดพรพิสุทธิ์ลุ้นระทึกในชีวิตไม่เคยซิ่งเป็น fast & furious แบบนี้มาก่อน แล้วทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้เพราะแกนะนังผีเพี้ยน จังหวะที่หญิงสาวเงยหน้ามองที่กระจกมองหลังและโยกศีรษะกลับมามองท้องถนนยามค่ำคืนที่ว่างเปล่าไร้เพื่อนร่วมทางแต่เพียงวินาทีเดียวอยู่ๆก็ปรากฏชายแก่นุ่งโจงกระเบนสีแดง ไม่สวมเสื้อ มือข้างหนึ่งถือไม้ตะพดยืนหลังค่อมขวางทางอยู่นัยน์ตาแดงก่ำของชายแก่มิได้หวั่นไหวกับเบื้องหน้าที่กำลังมีรถแล่นมาด้วยความเร็วสูงอารามตกใจเท้าข้างที่เจ็บเตรียมจะกระแทกแป้นเบรกตามสัญชาตญาณ

“อย่าเบรกเสียงดังขึ้นมาอีกในโสตรับรู้แต่เสี้ยววินาทีนั้นไม่มีเวลาเหลือให้คิดแย้งพรพิสุทธิ์ตัดสินใจเดินหน้าไปต่อตามสโลแกนของเครื่องดื่มกระทิงแดงคือเป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชนหากเหยียบเบรกไปตอนนี้รถคันกะทัดรัดของเธอได้หงายเก๋งแน่ๆ อะไรจะเกิดก็ต้องยอมให้มันเกิดแล้วสองมือเรียวกระชับเกร็งที่พวงมาลัยมองไปเบื้องหน้านัยน์ตาคมแข็งสู้สายตากับชายชราที่ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง

“โธ่ลุง ทำไมไม่ยอมหลบไปนะ”อีกราวห้าเมตรก็จะพุ่งชนแล้ว สี่ สาม สอง หนึ่ง! วูบ... ไม่มีแรงสั่นสะเทือนจากการเฉี่ยวชนหรือกระแทกกับอะไรมีเพียงอากาศธาตุเท่านั้นที่รถแล่นผ่านมา แล้วลุงคนนั้นล่ะ! หายไปไหน?

พรพิสุทธิ์เต๊าะไฟผ่าหมากชะลอความเร็วก่อนจะจอดรถเข้าข้างทางในยามวิกาลแบบนี้คงไม่เหมาะแน่ที่เธอจะเปิดประตูรถออกไปดูสายตากวาดไปโดยรอบนอกจากแสงสีส้มของไฟถนนแล้วก็มีเพียงความเงียบงันแม้นรถสักคันก็ไม่มีวิ่งสวนมา

‘ผีชัวร์’ จะเป็นอื่นไปไม่ได้เลย คิดได้แบบนี้ขนก็ลุกชูชันตั้งแต่หลังแขนขาวลามไปถึงเนื้ออ่อนบริเวณต้นคออยากจะบ้านี่เธอกลายคนคนเห็นผีไปแล้วรึนี่

หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์สุดระทึกไปแล้วพรพิสุทธิ์จึงได้กลับมาคิดทบทวนลำดับเรื่องราว เริ่มจากเสียงนังผีที่บอกว่า ‘อย่าไป’ คือหลอกหลอน ร้องเตือนหรืออะไร? ตกลงว่าหล่อนกับลูกจะเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่ แล้วทำไมชีวิตเธอต้องมาเจอกับเรื่องพิลึกพิลั่นพรรค์นี้ด้วยหรือว่าวิญญาณพวกนี้จะเป็นเจ้ากรรมนายเวรคอยตามราวีถ้าเป็นแบบนั้นมันก็ดูจะนอกเกมไปนะเพราะนี่มันจะฆาตกรรมกันชัดๆ ก่อนความคิดจะหลุดลอยออกนอนโลกไปพรพิสุทธิ์สะบัดหน้าสวยๆของตนหวังให้เรื่องอวมงคลพวกนี้หลุดออกไปจากสมองปิดท้ายด้วยถอนหายใจยืดยาวก่อนจะเคลื่อนรถมุ่งหน้ากลับนิวาสถานด้วยความเร็วระดับ…เต่าคลานดังเดิม

ดุจดาวแปลกใจเมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วไม่เห็นพี่สาวแต่ก็ไม่กล้าก้าวล้ำออกนอกบริเวณห้องกลัวจะพลาดพลั้งไปก่อวีรกรรมที่ไม่น่าจดจำอีกพี่แจนอาจจะลงไปคุยธุระกับบอยคิดได้แบบนั้นจึงเลิกสนใจเรื่องนี้ และหันไปสนใจ underwear ท่อนล่างที่ขาดวิ่นจากน้ำมือตนฉุกคิดอะไรขึ้นได้บางอย่าง ร่างเล็กของเด็กสาวนั่งลงบนเตียงเปิดโทรศัพท์และกระทำการบางอย่างนิ้วเรียวสัมผัสไปที่หน้าจอ ค้นหาคีย์เวิร์ดจาก search engine

‘r-e-v-i-e-w..ชุ--ชั้--ใน--รู’ จากนั้นรายชื่อ website ก็เด้งขึ้นมามากมายดุจดาวเห็นแต่ภาษาอังกฤษคำว่า lingerie เต็มพรืดไปหมดหากนี่เป็นข้อสอบเดาแบบใส่คะแนนไปก่อนล่วงหน้าได้เลยว่ามันคือชุดชั้นในแน่นอน

lingerie เป็นคำยืมมาจากภาษาฝรั่งเศสแปลว่าชุดชั้นในที่คนไทยเรียกกันว่ากางเกงลิงที่แท้ก็มีต้นกำเนิดมาจากคำนี้นั่นเองในภาษาอังกฤษกางเกงชั้นในคือ panty ส่วนคำที่นิยมที่สุดและใช้เป็นสามัญแพร่หลายสำหรับชุดชั้นในคือunderware ที่หน้าเวบเพจหนึ่งดึงดูดสายตาพาสาวรุ่นให้กดเข้าไปชมเจ้าของเพจทำรีวิวชุดชั้นใน แบรนด์เนมชื่อดังก้องโลกอย่าง วิคตอเรียซีเคร็ท (Victoria's Secret) จากอเมริก ดุจดาวแทบจะไม่ได้อ่านเนื้อหาจากรีวิวยืดยาวนั้นหรอกสนใจดูภาพนางแบบสุดเซ็กซี่ที่นุ่งชุดชั้นในสุดอลังการมากกว่า

“สวยจุงจิง แต่แบบนี้คงไม่เหมาะกับพี่แจนแน่ๆ อลังฯเกินไปพี่สาวคงไม่ชอบ”คุณหนูพอจะอ่านรสนิยมของครูสอนพิเศษออก อันที่จริงพี่แจนก็คล้ายๆกับเธอชอบแบบพอดีๆไม่เวอร์ไม่มากเกิน นิ้วเรียวเริ่มทำงานอีกครั้งโดยการสไลด์หน้าจอลงมาสะดุดตากับแบรนด์ La Senza เมื่อไล่อ่านข้อความก็ยิ่งน่าสนใจ รูปนางแบบสาวในชุดชั้นในสีสดเปรี้ยวจี๊ดช่างดึงดูดน่าค้นหายิ่งนักต่างจากวิคตอเรียฯที่เน้นsex appeal (เสน่ห์ดึงดูดทางเพศ) เป็นจุดขายหลักที่จำได้ก็เพราะพี่แจนสอนอีกนั่นแหล่ะ แบรนด์น้องใหม่ จากแคนาดานี้เป็นเครือเดียวกับวิคตอเรียซีเคร็ทนั่นเองแต่แบบแฟชั่นดูเซ็กซี่แฝงความซนและสดใสวัยรุ่นมากกว่า

เมื่อเจอสิ่งที่ถูกใจแล้วเด็กสาวจึงค้นหาshop เอาใกล้ๆกับที่เรียนก็เป็น central world เห็นเจ้าของเพจเขารีวิวไว้ว่ามี expert คอยให้คำปรึกษากับลูกค้าด้วยผู้เชี่ยวชาญสินะ คำเดียวกับที่พี่แจนสอนเลยน่าสนๆ ว่าแต่ชุดชั้นในของพี่แจน cupอะไรนะ ถ้าจะให้เดาคงยากผู้หญิงบางคนซ่อนรูปและพี่สาวก็น่าจะเป็นเช่นนั้นจากที่บังเอิญไปโดนเข้าอยู่หลายครั้งกะคร่าวๆจากสายตาน่าจะ…แล้วจะมานั่งมโนทำไมก็ไปเปิดดูในตู้เลยซิอยู่กับแหล่งซะขนาดนี้ คิดได้แบบนั้นเด็กสาวจึงมองไปที่ประตูในใจเต้นระทึกเพราะรู้สึกว่าตนกำลังทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องแต่เธอไม่ได้มีเจตนาร้ายนะ

ดุจดาวรีบเดินไปหยิบชุดชั้นในของพี่สาวในตู้เสื้อผ้าเก็บเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็วของแบบนี้มันต้องมี sample จะได้ไม่พลาด

พรพิสุทธิ์เปิดประตูห้องนอนเข้ามาเห็นแขกไม่ได้รับเชิญนอนหลับตาพริ้มนิ่งสนิทไปแล้วจะว่าไปยัยเด็กนี่ก็กินง่ายอยู่ง่ายไปนะไม่สมกับเป็นลูกคุณหนูในบ้านหลังโตเลย เมื่อกวาดสายตาไปทั่วห้องก็พบบางอย่างผิดที่ผิดทางไปบ้างแต่ก็ทำให้ห้องดูเรียบเชียบมากขึ้นเด็กดาวคงอดรนทนไม่ได้จึงช่วยหยิบจับจัดเก็บ แบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบน่ารักที่เป็นลูกคนรวยที่ไม่นิ่งดูดายเอาแต่งอมืองอเท้ารอรับบริการพียงอย่างเดียว

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเป็นชุดนอนพรพิสุทธิ์ก็ตรงดิ่งทิ้งตัวไปบนที่นอนด้วยความเหนื่อยล้าและง่วงงุนก่อนที่จะหลับใหลลงไปสมองนึกทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ตนสัมผัสได้กับวิญญาณผีแม่ลูกแล้วจะยังตาลุงโจงกระเบนแดงอีกที่อยู่ๆก็โผล่มาแล้วก็หายไปแต่ที่แน่ๆยิ่งกว่าแช่แป้งคือวิญญาณตาลุงนั่นต้องการเอาชีวิตเธอ! เมื่อคิดถึงตรงนี้อารมณ์ที่ง่วงงุนก็กลับใจหายหวาดกลัวเล็กๆเธอยังไม่พร้อมให้พ่อกับแม่ต้องสูญเสีย เธอไม่อยากให้ท่านเสียใจ หากเธอไม่มีห่วงคือบุพการีที่รักยิ่งน่ะเหรอจะร้ายหรือจะหลอนกว่านี้เธอก็ไม่เกรงกลัว

พรพิสุทธิ์ปิดเปลือกตาลงตั้งจิตแน่วแน่หวังสื่อสารกับจิตวิญญาณเหล่านั้น

'ขอร้องเถอะนะแม่ผีพ่อผีทั้งหลาย หากต้องการสิ่งใดโปรดบอกมาให้กระจ่างทีเถอะ มาเป็นปริศนาแบบนี้คนฉันไม่ฉลาดอย่างฉันก็ยากจะคลายปม' แต่ก็เงียบงัน เมื่อไม่มีสัญญาณใดๆตอบกลับมาดั่งปลายสายไม่มีตัวตน พรพิสุทธิ์จึงถอดใจแต่พอจะหลับใหลก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาอีกจึงค่อยๆลุกออกมาจากเตียงเพราะเกรงจะรบกวนเด็กสาว เมื่อทำธุระเสร็จพรพิสุทธิ์รู้สึกว่าในช่องปากเหมือนมีอะไรแหลมๆมาทิ่มเหงือกช่างสร้างความรำคาญจึงไปบ้วนปากมีลิ่มเลือดทะลักออกมาสีแดงฉานเต็มอ่างล้างหน้า!!

“อยู่ให้ห่างจากเธอ ถ้าไม่อยากตาย…” เสียงเดิมที่เย็นเฉียบและยืดยานดังก้องไปทั่วทิศ ความสยองยังไม่หยุดเพียงเท่านั้นเมื่อเธอเห็นร่างสลัวผมยาวสยายในชุดขาวยืนอยู่ข้างหลังจากเงาในกระจกหล่อนไม่มีใบหน้า!!

“กรี๊ด!!” พรพิสุทธิ์กรีดร้องสุดเสียงนัยน์ตาเบิกโพลงดีดตัวขึ้นมาหันมองไปรอบกายเห็นเพียงความมือสลัวอุ่นใจเล็กๆเมื่อพบว่าตนนอนอยู่บนเตียงที่แท้ก็แค่ความฝัน แต่ทำไมมันถึงเหมือนจริงนัก และหยดน้ำที่ยังเกาะพราวอยู่บนหน้าเธอมันคืออะไรเมื่อมีสติก็รีบมองไปที่เด็กสาวแต่แปลกเธอร้องออกดัง ทำไมเด็กดาวยังนอนนิ่งเป็นตาย

“พี่แจนเป็นอะไร” เด็กสาวรู้สึกตัวจากที่นอนที่ยวบไหวเมื่อลืมตาขึ้นมาก็แปลกใจที่เห็นพี่สาวนั่งอยู่ในความมืด

“ไม่มีอะไร พี่แค่ฝันร้ายดาวนอนต่อเถอะ” ไม่รอให้เด็กน้อยได้เอื้อนเอ่ยอะไรต่อพรพิสุทธิ์เอนตัวลงนอนตะแคงหันหลังให้เพราะต้องการปิดการสนทนาอยู่ๆอ้อมแขนของเด็กน้อยก็วาดมาที่เอวบางของคนที่เพิ่งฝันร้าย

“พี่แจนคงเหนื่อยมากไปหรือมีเรื่องคิดมากตอนดาวมีเรื่องไม่สบายใจเครียดก่อนสอบหรือพักผ่อนน้อยดาวก็เป็นแบบนี้” เด็กน้อยปลอบประโลมผู้ใหญ่ดั่งเข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดีพรพิสุทธิ์ตะแคงตัวมาทางเด็กใจดีแต่บรรยากาศที่เงียบงันกับลมหายใจที่สม่ำเสมอทำให้เข้าใจได้ว่าเด็กน้อยหลับไปแล้วอะไรจะหลับง่ายหลับดายขนาดนั้น แล้วเธอจะยังไงต่อกับเด็กสาวที่กำลังกอดเธออยู่แต่ที่ถูกต้องคือเธอไม่ควรจะไปรบกวนฝันดีของคนอื่นใช่ไหมคิดได้แบบนั้นพรพิสุทธิ์จึงนอนนิ่งเพื่อไม่เป็นการรบกวนคนข้างๆแม้ความหวาดวิตกจะยังรบกวนจิตใจแต่มิอาจฝืนกายและใจที่เหนื่อยล้าได้หลับใหลไปในที่สุด

พรพิสุทธิ์ตื่นเร็วกว่าปกติปล่อยให้เด็กๆพักผ่อนให้เพียงพอขืนปลุกขึ้นมาก็จะพากันวุ่นวาย หญิงสาวสวมวิญญาณแม่บ้านเข้าครัวรื้อข้าวของที่ซื้อมาเมื่อคืนทำเบรคฟาสต์แบบง่ายๆ โดยไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่ตนกำลังทำเขาเรียกเอาใจเด็กหากเป็นปกติน่ะเหรอขนมปังแผ่นเดียวกับกาแฟอีกถ้วยก็เป็นอันจบมื้อเช้าแล้ว

‘แต่จะว่าไปเมื่อคืนฉันเกือบต้องสังเวยชีวิตแลกกับสิ่งที่เธอเรียกร้องนะยัยเด็กดาว แถมยังต้องตื่นแต่เช้ามืดแบกสังขารลงมาทำอาหารให้ด้วย’ เข้าสู่โหมดทำไปบ่นไปของแท้แต่มันก็มีความสุขนะ ไอ้เจ้าความสุขบางครั้งมันก็เรียบง่ายและเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวแต่ก็ดีแล้วที่ไม่รู้ตัว เพราะรับรู้เข้าครั้งใด เจ้าความสุขที่ว่ากลับไม่เคยอยู่กับเราได้นาน

คนอาวุโสที่สุดในบ้านจัดแจงทอดเบคอนเพื่อเอาน้ำมันมาทอดอย่างอื่นมีไข่ดาวใส่แม่พิมพ์รูปหัวใจ แฮม ไส้กรอกเวียนนา จากนั้นก็จัดการลวกผักมีบล็อคโคลี่ถั่วแขก ข้าวโพดอ่อนและแครอทพอให้มีสีสัน นำทั้งหมดจัดใส่จานใบสวยบีบซอสมะเขือเทศและมัสตาร์ดเป็นลายทางทั้งหมดนี้เธอจำมาจากรายการสอนทำอาหารที่ดูผ่านๆตา คิดไม่ถึงว่าทำจริงๆจะแสนง่ายแถมยังสนุกอีกด้วย ติดที่ว่าที่ผ่านมาไม่เคยคิดจะทำมันก็เท่านั้น นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปรัชญาในโลกชีวิตจริงถึงสิ่งที่เราทำไม่ได้ความจริงแล้ว เพราะเราทำไม่ได้จริงๆหรือเราแค่ไม่ต้องการทำมัน

แม่ครัวมือเอาใหม่ปิดท้ายด้วยรินนมใส่แก้วและอุ่นให้ร้อนพร้อมกับรินน้ำผลไม้ใส่แก้วใสจัดวางเรียงบนโต๊ะสามชุด

โอ่ว… ช่างงดงามเสียนี่กระไร ถ้าแม่มาเห็นจะต้องประหลาดใจแน่ๆว่าที่แท้มีลูกสาวเป็นแดจังกึมที่คงจะเป็นสุดยอดแห่งความประหลาดใจของผู้เป็นแม่ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตลูกสาวคนนี้ไม่เคยสนใจการบ้านการเรือนเลยแม้ยามไม่มีแม่คอยดูแลก็ฝากท้องไว้กับเมนูไข่ อาหารสำเร็จรูปหรือไม่ก็แกงถุง

ดุจดาวลืมตาตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงที่ว่างเปล่าเพียงลำพังสายตาสาดส่ายหาเจ้าของห้อง

‘พี่แจนไปไหนแต่เช้า’ เมื่อไม่เห็นพี่สาวอยู่ในห้องเด็กสาวจึงเดินสลึม สลือออกมาดูด้วยความเป็นห่วงความรู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บตัวยังติดอยู่ในใจ ทันทีที่ประตูห้องนอนเปิดออกก็ได้กลิ่นของอาหาร

‘อย่าบอกนะว่า…’ เด็กสาวรีบเดินลงไปที่ห้องครัว ภาพตรงหน้าช่างสุดวิเศษนี่เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเพราะเมื่อคืนเธอทำใจไว้แล้วว่าจะต้องปวดท้องที่ไม่ได้ทานข้าวเช้า

“น่าทานจังเลยค่ะ พี่แจนลุกขึ้นมาทำให้ดาวเหรอคะ”

“พี่ทำทานเองต่างหาก และก็เลยทำเผื่อดาวกับบอยด้วยไง” ผู้ใหญ่เฉไฉแต่คิดเหรอว่าเด็กจะไม่เท่าทัน ร่างเล็กโผเข้ากอดพี่สาวใจดีแบบที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวแถมยังหอมฟอดใหญ่ที่แก้มนวลของผู้ใหญ่ใจดี

“เว้ย! อะไรเนี่ย” พรพิสุทธิ์โวยวายในแบบที่ตั้งตัวรับมือไม่ทันแถมตอนนี้หัวใจยังเต้นแรงมากจากความใกล้ชิดที่มันเกินพอดีเด็กหนอ… ผู้เยาว์หนอ…พรพิสุทธิ์เอาธรรมะเข้าข่มความรู้สึกแปลกปลอมที่ไม่สมควรเกิดแต่ลึกๆก็ปลื้มไม่น้อยกับอาการโลดเต้นเมื่อได้เจอของถูกใจของเด็กสาว

“ก็เค้าทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ ที่จะได้ทานอาหารเช้าฝีมือพี่แจน ขอบคุณมากนะคะ”

“รับคำขอบคุณ และก็จำไว้นะห้ามไปดีใจแล้วไปกอดไปหอมใครแบบนี้อีกเข้าใจมั้ย”พรพิสุทธิ์เผลอพูดออกไปดั่งใจคิด ก็เขาจะไปกอดไปหอมใครมันเกี่ยวอะไรกับตัวเอง

“ทำไมล่ะเค้าก็ทำแบบนี้ประจำไม่เห็นมีใครว่าอะไรเลย ใครๆก็ชอบให้ดาวกอด ชอบให้ดาวหอม” ใครๆที่เด็กสาวพูดถึง หมายถึงพ่อ แม่ และ… และตอนนี้พี่แจนก็ทำให้เธอคิดถึงใครคนนั้น…

“เป็นอะไรไปพี่ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”พรพิสุทธิ์ไม่เข้าใจเด็ก ก็ตะกี้ยังร่าเริงเป็นลิงได้กล้วยอยู่เลย

“ดาวแค่คิดถึงใครบางคน” … ใครบางคน? แฟนรึเปล่าหมายถึงแฟนที่เคยไปกอดกับเขาใช่ไหมเวลาได้ในสิ่งที่พอใจผู้ใหญ่คิดไปไกลจากท่าทางและคำพูดใจพลอยสลดพาให้บรรยากาศเงียบงัน ก็แน่ล่ะที่เด็กดาวจะมีคนพิเศษรายล้อมรอบตัวก็ทั้งน่ารักแถมยังร่ำรวย พรพิสุทธิ์รู้สึกถึงชนชั้นที่แบ่งแยกและความห่างไกลทางสายสัมพันธ์

“งั้นดาวทานเลยนะคะหิวแล้ว”ดุจดาวนั่งลงตรงหน้าอาหารหยิบจับเครื่องมือที่จะช่วยในการแยกย่อยอาหาร

“เดี๋ยวๆ ใจคอจะไม่แปรงฟันก่อนรึเป็นคุณหนูเขาต้องอนามัยจัดๆไม่ใช่เหรอ”

“ดาวมันคุณหนูปลอมๆ ก็กินก่อนแล้วค่อยแปรงทีเดียวดูสิ น่ากินแบบนี้ดาวไม่ปล่อยให้ชืดไปก่อนหรอกค่ะ” ดุจดาวลงมือทานท่าทางเอร็ดอร่อยจนคนทำปลาบปลื้มจนยิ้มไม่หุบ

“พี่แจนไม่ทานเหรอ แล้วเท้าพี่เป็นไงมั่งดีขึ้นไหม”เด็กสาวอาทร

“ทานซิ”ก่อนจะนั่งลงแบบเอื่อยเฉื่อยรอบอยไปพลางๆ

“พี่ไม่เป็นไรแล้วแผลแค่นี้สบายมาก”แม้จะเป็นคำตอบที่เป็นความจริงจากใจแต่เด็กสาวกลับคิดว่าพี่สาวตอบแบบนี้เพื่อให้ตนสบายใจ

“ดาวเป็นห่วงพี่แจนมากๆเลยนะคะยังรู้สึกผิดไม่หายเลยที่ทำให้พี่เจ็บตัว”

“ไม่ต้องคิดมากหรอกน่าพี่แค่ถูกแก้วบาดไม่ได้ถูกยิงสักหน่อย” ผู้ใหญ่กว่าพาขำขันที่ก็พอจะเรียกรอยยิ้มและลดความรู้สึกผิดในใจเด็กสาวไปได้

“โหอาหารน่าทานทุกอย่างเลยพี่แจน ฝีมือพี่แจนทั้งหมดเลยรึ” บอยเดินมาสมทบที่โต๊ะอาหารก่อนจะนั่งลงโดยไม่ต้องรอให้ใครเชิญ

“ใช่ซิยะคิดว่าพี่จะมีผีบ้านผีเรือนมาช่วยรึไง”

“ก็ว่า อิอิ”

“แล้ววันนี้มีโปรแกรมอะไรบ้างพ่อหนุ่ม”

“ผมว่าจะไปสมัครงานพาร์ทไทม์ครับตามร้านสะดวกซื้อรุ่นพี่เขาให้ข้อมูลว่าเขารับไม่จำกัด”

“ดีเลยพี่เห็นร้านแถวสถาบันของพี่เขาติดป้ายอยู่ไปทำงานพร้อมๆกันจะได้ประหยัดค่าเดินทาง”

“ครับ”

“ไปสมัครเป็นคนสวนบ้านดาวมั้ยกินอยู่ฟรี หน่วยก้านดีแบบนี้คุณหญิงแม่รับแน่ๆ ยิ่งท่านเห็นว่าใฝ่เรียนรักดีท่านอาจจะให้ทุนการศึกษาด้วยนะ”ดุจดาวยื่นใบสมัครทางวาจา แม้ว่ามันฟังดูดีมากๆแต่พี่สาวกลับดูไม่ค่อยจะพึงพอใจนัก

“จะได้พากันเถลไถลน่ะซิ” พรพิสุทธิ์ขวางลำ

“แหม…เขาไม่เป็นอย่างนั้นกันหรอกน่าพี่แจนอ่ะคิดมาก”

“แล้วแต่เจ้าตัวเขาแล้วกัน”พรพิสุทธิ์สรุปความในน้ำเสียงที่เย็นชาก่อนจะก้มหน้าสนใจกับอาหารตรงหน้าที่ถึงแม้ว่าบอยจะเป็นคนซื่อแต่อาการปิดไม่มิดของพี่สาวทำไมเขาจะดูไม่ออกแต่ก็นึกสงสัยอยู่ลึกๆว่าทำไมพี่แจนถึงต้องไม่พอใจกับเรื่องนี้ด้วย

“บอยแล้วแต่พี่แจนแล้วกัน” พรพิสุทธิ์พยักหน้ารับแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ…ยังไม่มีอารมณ์!




Create Date : 09 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2558 16:41:26 น. 0 comments
Counter : 160 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.