Group Blog
 
All blogs
 
เริ่มต้น

เริ่มต้น

พรพิสุทธิ์ส่งสัญญาณกับประชาสัมพันธ์สาวขอปลีกตัวออกไปด้านนอกอยากเดินออกไปยืดเส้นยืดสายสักหน่อย ไม่นานก็กลับเข้ามาเป็นจังหวะที่ไม่มีลูกค้าพอดี

“ Mixed Berries Smoothie ค่ะ ช่วยแก้กระหายและให้กำลังงาน" พรพิสุทธิ์ยื่นแก้วน้ำผลไม้ปั่นที่ตั้งใจซื้อมาให้ส่วนของตนเองเป็นกาแฟลาเต้ปั่น

“ขอบคุณค่ะ ดูน่าทานจัง" มือนุ่มนิ่มของประชาสัมพันธ์สัมผัสกับมือเรียวของพรพิสุทธิ์โดยไม่ตั้งใจแต่ทั้งคู่กลับรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆอาจจะเพราะความเป็นคนไม่คุ้นเคย

“แจนยังไม่รู้ชื่อพี่เลยค่ะ" พรพิสุทธิ์ได้จังหวะถามชื่อพร้อมกับเนียนบอกชื่อตนเองไปเลยทีเดียว

“นั่นสินะ ยุ่งจนลืมไปเลย พี่ชื่อหยกมณีค่ะ"

“ชื่อเหมือนขนมที่แจนชอบทานเลยค่ะขนมหยกมณี”

“จริงเหรอคะแต่ถึงพี่ไม่ใช่ขนมพี่ก็ทานได้นะ แถมอร่อยด้วย”พรพิสุทธิ์เหวอไปนิดกับมุกทอดสะพาน ก็เธอไม่ใช่ผู้ชายสักหน่อยจะมาทอดสะพานเธอทำไมเปลืองทรัพยากรเปล่าๆ

“พี่หยกทั้งสวยทั้งคุยเก่งเลยนะคะ มิน่าล่ะแจนเห็นปิดลูกค้าได้เกือบ100%”

“ไม่ใช่เพราะพี่เก่งหรอกค่ะ เพราะการที่ลูกค้าเดินเข้ามาก็หมายถึงเขามีใจให้เราแล้วพี่ก็แค่อธิบายรายละเอียดเพิ่มอีกนิดหน่อย” หยกมณีถ่อมตัวยิ่งดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีกในสายตาคู่สนทนา

“พี่หยกเป็นเจ้าของที่นี่หรือคะ”

“ก็ไม่เชิงค่ะ" คำตอบไม่ได้ให้ความชัดเจน คนฟังก็ตีความไปตามประสบการณ์ว่าพี่หยกน่าจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเจ้าของที่นี่มาลูกหลาน ญาติ พี่ น้อง ก็คนรัก

“เจ้าของที่นี่เป็นคนรักเก่าพี่ค่ะเราเพิ่งเลิกรากัน” หยกมณีเปิดปากพูดในน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ใดๆจนพรพิสุทธิ์รู้สึกอึดอัดแปลกๆแต่ลึกๆก็นึกเห็นใจเรื่องแบบนี้มันสุด Exclusiveชีวิตคู่ที่ไม่สมหวังมันก็เจ็บพอละ นี่ยังต้องมาทนเจ็บปวดใจทำงานร่วมกันอีกแถมพี่หยกยังตีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสรับลูกค้าอยู่ได้มันคือสุดยอดของมืออาชีพ

“ขอบคุณพี่หยกมากๆนะคะที่ให้โอกาสแจน แต่ถ้าพี่หยกได้อาจารย์ที่เป็นมืออาชีพจริงๆแล้วจะยกเลิกก็ได้นะคะแจนเข้าใจ" พรพิสุทธิ์เปลี่ยนเรื่องคุย ต่อด้วยหาทางลงให้กับทั้งสองฝ่ายลึกๆเธอแฟร์อยู่แล้ว เธอเองก็ไม่ต้องการยืนในจุดที่ตนไม่มีประโยชน์

“ทำไมล่ะคะพวกมืออาชีพทั้งหลายก็ล้วนมีก้าวแรกด้วยกันทั้งนั้นจะเป็นไรไปถ้าพี่อยากจะสร้างมืออาชีพเพิ่มขึ้นอีกสักคน”

โห… เจอวลีแบบนี้พี่หยกมณีสวยขึ้นอีกเป็นกองว่าแต่ทำไมตาพี่หยกถึงดูเป็นประกายระยิบระยับ

จากนั้นหยกมณีได้พูดคุยชี้แจงเกี่ยวกับการทำงานและระบบต่างๆของสถาบันแห่งนี้รวมถึงเรื่องผลประโยชน์

“แจนติดขัดอะไรตรงไหนถามพี่ได้ตรงๆเลยนะ”

“ไม่มีค่ะ”ความจริงคือยังไม่รู้ว่าจะแย้งอะไร บางเรื่องก็ต้องไปสัมผัสเข้าไปเรียนรู้เสียก่อน

พรพิสุทธิ์ยกนาฬิกาขึ้นดูได้เวลาต้องกลับเสียทีพรุ่งนี้มีศึกหนักกับกลุ่มเด็กสาวจอมเฮี้ยวรออยู่

"วันนี้แจนขอตัวก่อนนะคะพี่หยก พรุ่งนี้เจอกันค่ะ"พรพิสุทธิ์ยกมือไหว้ก่อนจะลุกเดินออกมา แต่ก็ต้องชะงักเพราะหยกมณีเอามือนุ่มนิ่มของตนเกาะเกี่ยวไปที่แขนพร้อมกับพาเดินมาส่งที่หน้าประตู

“แจนรู้ไหมคะว่า การเป็นติวเตอร์จะว่ายากมันก็ยากหากเราขาดทักษะในการถ่ายทอดและเข้าไม่ถึงจิตใจของผู้เรียนแต่จะว่ามันง่ายมันก็ใช่นะ ถ้าเราเรียนรู้ที่จะใช้ศิลปะในการถ่ายทอดวิชาการเพราะความเป็นศิลปะจะทำให้เข้าถึงจิตใจของผู้เรียนได้มากกว่า พี่อยากให้แจนนึกถึงจิตใจของผู้เรียนให้มากพี่เชื่อว่าแจนจะเป็นติวเตอร์ที่ประสบความสำเร็จได้แน่ๆเพราะพี่จะเป็นเจ๊ดันแจนเอง" หยกมณีให้คำแนะนำจากประสบการณ์และสายตาเธอบอกว่า พรพิสุทธิ์จะเป็นติวเตอร์ที่ดีได้หล่อนจะเข้าถึงจิตใจผู้เรียนได้ดีเพราะช่วงวัยที่ไม่ทิ้งห่างกันมาก ทั้งบุคลิกภายนอกก็ยังดูดีและความที่หน้าตาดี จะช่วยดึงดูดนักเรียนเข้ามาได้ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆว่ายุคสมัยนี้ หน้าตาที่หล่อ สวยมีผลกับความก้าวหน้าในทุกสายอาชีพ และจากการที่ได้พูดคุยกัน การพูดจาของหล่อนก็ชัดถ้อยชัดคำเข้าใจง่าย เธอมั่นใจ ปั้นได้ไม่ยาก

ระหว่างเดินทางกลับบ้านพรพิสุทธิ์ได้มีเวลาคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านล่วงมาในวันที่แสนจะยุ่งเหยิงกับหลากหลายความบังเอิญที่เกินจะคาดเดามันเป็นปฐมเหตุของสิ่งหนึ่งที่จะกระทบอีกสิ่งหนึ่งเป็นลูกโซ่เรียงลำดับกันไป

เมื่อเช้าเธอต้องยืนรอวินมอเตอร์ไซค์อยู่นานสองนานออกไปในจังหวะที่จราจรหนาแน่นติดขัดและไปไม่ทันสัมภาษณ์ แต่สุดท้ายเธอกลับมีตอนจบที่งดงามอย่างไม่น่าเชื่ออยู่ๆเธอก็ได้งานแถมยังถูกชะตากับพี่สาวใจดีและพี่สาวคนสวยก็ดูจะเอ็นดูเธอ แล้วงานที่ได้มันก็ไม่ใช่งานประจำที่สูบเอาเวลาในแต่ละวันของเธอไปจนหมดเธอยังมีเวลาเหลือไปสร้างสรรค์สิ่งอื่นอีก เย้!!แจนเอ้ย!! เธอช่างเจ๋งสุดยอด

หญิงสาวให้ข้อสรุปกับตัวเองได้ว่านี่คงจะเป็นสิ่งที่เขาเรียกกันว่าSynchronicityและหวังใจว่าความบังเอิญที่พาใจไม่ดีจะถึงคราวสิ้นสุดเสียที

พรพิสุทธิ์เปิดประห้องนอนเข้ามาด้วยความเหน็ดเหนื่อยวันนี้เธอเจอกับเรื่องหนักๆมาทั้งวัน มือเรียวเอื้อมมือไปกดสวิตช์ไฟก่อนจะเดินนำกระเป๋าสะพายไปวางที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งหญิงสาวเจ้าของห้องนัยน์ตาเบิกกว้างกับภาพเบื้องหน้า มีข้อความประหลาดปรากฏอยู่เต็มกระจกใส

Get away from her ! มันถูกเขียนขึ้นด้วยลิปสติกสีแดงเลือดนก!!ลายเส้นเหมือนเด็กเพิ่งหัดเขียนหนังสือมันคืออะไรกันหญิงสาวเจ้าของห้องยืนมองตัวอักษรเหล่านั้นซ้ำไปซ้ำมาครุ่นคิดหาคำตอบอย่างคนช่างสงสัยมิใช่หวาดกลัวด้วยความที่เป็นคนจิตใจเข้มแข็งโดยกำเนิดนับรวมเข้ากับเวลาตกฟากในวันเสาร์ลักขณาราศีสิงห์ฉะนั้นเรื่องเร้นลับสั่นประสาทมิอาจสร้างความพรั่นพรึงให้กับเธอได้

ตอนนี้มีคำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวจากเหตุการณ์ตรงหน้าประการแรกเลยคือ เธอไม่มีลิปสติกสีนี้ สายตาของพรพิสุทธิ์สอดส่ายหาวัตถุพยานที่อาจจะพอหลงเหลือเมื่อตรวจตราดูข้าวของมีค่าก็พบว่าไม่มีสิ่งใดหายไปหรือเกินขึ้นมา บ้านก็ไม่มีใครอยู่เดินสำรวจจนทั่วบ้านก็ไม่พบร่องรอยการบุกรุกหรือถูกงัดแงะแต่อย่างใด เมื่อสำรวจตรวจตราจนแน่ใจแล้วจึงเดินกลับเข้ามาในห้องสายตากลับไปจดจ้องข้อความปริศนาพยายามค้นหาความหมายอีกครั้งที่มันอาจจะซุกซ่อนเป็นนัยยะจากตัวอักษร

ออกห่าง?

จากอะไร?

แล้วที่สำคัญใครเป็นคนเขียน?

คนเขียนต้องการอะไร?

และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในตอนนี้คือคนที่เขียนเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง

ทั้งหมดทั้งมวลคือสิ่งที่หญิงสาวหาคำตอบไม่ได้สักข้อแต่ที่รู้แน่แก่ใจก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าเธอไม่ใช่การกระทำของคนแน่นอนเพราะถ้าเป็นคนก็ต้องทิ้งล่องลอยอะไรไว้บ้างขนอ่อนที่ต้นคอระหงของพรพิสุทธิ์ลุกชูชันเมื่อคิดถึงสิ่งที่ไม่ใช่คน แม้จะไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแต่ก็เกรงอยู่ในใจไม่อยากไปเกี่ยวข้องด้วยพรพิสุทธิ์สลัดความคิดหลอนๆให้หลุดออกจากหัวกลับไปสนใจตัวอักษรบนกระจกอีกครั้งเข้าไปเพ่งมองแบบใกล้ชิดมากขึ้น นิ้วเรียวยกขึ้นไปสัมผัสบนตัวอักษร

“อุ่ย! ร้อน” มือถูกชักกลับอย่างไวความรู้สึกเหมือนโดนน้ำตาเทียนที่เพิ่งถูกความร้อนจนหลอมละลายพาลให้นึกโกรธบางสิ่งที่ซ่อนเร้นแอบแฝงที่กำลังกระทำเธออยู่ฝ่ายเดียว คราวนี้พรพิสุทธิ์เอาทั้งฝ่ามือถูไปที่ข้อความเต็มแรงโดยไม่สนใจว่ามันจะร้อนต้องการให้มันหดหายพ่ายแพ้ไป แต่อะไรกัน! มันดูไม่สะทกสะเทือนเลยจะเจือจางไปสักนิดก็ไม่มีหญิงสาวยังไม่ยอมแพ้เดินไปเอาผ้าชุบน้ำยาเช็ดกระจกมาถูไปมาอย่างแรง แต่ก็เพียงแค่จางลงไม่ได้หายไปช่างเถอะ! เธอเสียเวลาไปมากละกับเรื่องไม่เป็นเรื่องไว้เรื่องมันเป็นเรื่องขึ้นมาอีกเมื่อไหร่แล้วเธอค่อยสนใจละกัน

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้วันแรกของการเป็นติวเตอร์ของเธอต้องงดงามและภารกิจปราบแก๊งเด็กแสบก็ช่างยิ่งใหญ่นักกดดันเธอมากกว่าการเป็นติวเตอร์ครั้งแรกซะอีก

พรพิสุทธิ์รื้อค้นตำรับตำราภาษาอังกฤษออกมาจากชั้นหนังสือถึงเวลาต้องเคาะสนิมทบทวนกันแล้วตะไคร่ ไลเค่น เกาะสมองเขียวครึ้มไปหมดหากเตรียมตัวไปไม่ดีจะได้ขายขี้หน้าแก๊งเด็กแสบไม่ได้!รักหน้ายิ่งชีพอย่างเธอ ยอมไม่ได้!

หลังจากได้คู่มือเล่มหนามาวางกองบนโต๊ะพรักพร้อมแต่เหมือนว่าคนยังไม่บิวท์ติวเตอร์มือใหม่ขอไปนอนแช่น้ำอุ่นให้สบายเนื้อตัวเสียหน่อยก่อน รู้สึกเนื้อตัวเหนียวเหนอะไปหมดเป็นหนุมานคลุกฝุ่นมาทั้งวัน

พรพิสุทธิ์นั่งเขียนแผนการสอนที่โต๊ะเขียนหนังสือแม้จะไร้ซึ่งประสบการณ์ แต่ด้วยความเป็นคนที่มีพื้นฐานที่ดีเยี่ยมเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจะหยิบจับอะไรก็ไม่ต้องเริ่มนับจากศูนย์

ย้อนกลับไปสมัยที่เรียนหนังสือ พรพิสุทธิ์มักได้เป็นตัวแทนของกลุ่มให้ออกมาPresentหน้าชั้นเรียนเสมอๆเพราะเป็นที่ยอมรับของทุกคนในกลุ่มว่าเจ๋งที่สุด ยิ่งในตอนDefend thesis ที่ว่าหฤโหดเหลือคณาพรพิสุทธิ์ยังผ่านไปได้ฉลุยออกมาเดินฉุยฉายก่อนใครแต่เวลาต่างๆเหล่านั้นมันได้ล่วงผ่านไปนานพอสมควร ต้องเคาะสนิมสักหน่อยเพื่อความชัวร์

ติวเตอร์มือใหม่เหลือบดูนาฬิกา โอ่ว!เกือบจะล่วงเข้าเช้าวันใหม่แล้ว ลูกเจ้ากรมอนามัยอย่างเธอต้องขอพักยกรีบเข้านอนก่อนแล้วเดี๋ยวหน้าไม่เด้งดวงตาไม่สดใส จะพาให้ขาดความมั่นใจ คิดไปคิดมามาร์คหน้าก่อนนอนท่าจะดีคิดได้แบบนั้นพรพิสุทธิ์จึงลุกขึ้นไปรื้อค้นหาสิ่งที่ต้องการและเดินมาจัดการเพิ่มความงามที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งแต่กลับต้องใจหายเมื่อเห็นข้อความบนกระจกที่มันจางลงไปแล้วกลับชัดขึ้นดั่งแรกเห็นมันจะหลอนเกินไปละนะ เกรงใจกันบ้าง หญิงสาวเหลียวมองรอบกายชักหวิวไหวกับความน่าสะพรึงแม้จะจิตแข็งเป็นเหล็กน้ำพี้ก็ยังต้องมีครั่นคร้ามหวั่นไหวกันบ้าง แต่รอบกายก็ไม่มีสิ่งผิดปกติอื่นใดไม่มีลมวูบไหว ไม่มีเสียงวิชวลเอฟเฟ็กต์เทคนิคพิเศษอะไร ผัสสะของเธอจับต้องอะไรไม่ได้สักอย่าง แล้วมันจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ยังไงถ้าไม่ใช่ สิ่งไม่มีชีวิต!

“ต้องการอะไรก็บอกมาตรงๆอย่ามาหลอกหลอนกันแบบนี้ ฉันไม่ชอบสาวสวยตวาดลั่นห้องนึกขุ่นเคืองในความไม่ตรงไปตรงมาไอ้เรื่องกลัวน่ะพอรับไหว แต่มันน่ารำคาญตรงที่มาพยายามทำให้เธอหลอน เพราะนอกจากจะไม่ใกล้เคียงมันยังออกแนวผีกวนประสาทยิ่งเงียบงันก็ยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดกับความไม่ชัดเจน

“แล้วฉันจะทำบุญไปให้ เขียนเลขที่บัญชีเอาไว้ด้วยล่ะจะได้โอนไปให้ถูกคนเอ้ย ถูกตน ถ้าออกใบอนุโมทนาบัตรให้ได้ด้วยก็ดีนะฉันจะได้เอาไปลดหย่อนภาษี”หญิงสาวออกแนวเพ้อเจ้อไปเรื่อยไปในทางท้าทาย แต่ไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปก็ไม่มีพัฒนาการที่ก้าวหน้าขึ้นจนเบื่อจะต่อความพรพิสุทธิ์จึงปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปก็เธอทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ก่อนจะนั่งลงบนเตียงสวดมนต์ตามปกติและแผ่เมตตาให้กับเทวดาประจำตัวเจ้ากรรมนายเวร เจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือน บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ รวมถึงสัมภเวสีผีเร่ร่อนทั้งหลาย เสร็จสิ้นจึงล้มตัวลงนอนพอหัวถึงหมอนก็หลับใหลลงไปอย่างง่ายดายน้อยนักที่จะเป็นได้อย่างนี้ที่หลับได้ง่ายดายเพียงหัวถึงหมอน ขนาดเจอเรื่องเขย่าขวัญสั่นประสาทไปก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ส่งผลเรื่องการนอนที่เป็นคนอื่นคงหลอนจนข่มตานอนไม่หลับ และความน่ากลัวที่มันมีมากกว่าความน่ากลัวคือจิตที่ปรุงแต่งเรื่องราวต่างๆมาหลอนใจตนเอง

รุ่งเช้าหลังจากติวเตอร์สาวมือใหม่แต่งตัวลงมาหาอะไรทานรองท้องง่ายๆในครัวมีเสียงตะโกนโหวกเหวกจากลุงแผนคนข้างบ้านทำให้ต้องรีบออกมาดู

“ตื่นเต้นอะไรแต่เช้าคะลุง”

“หนูแจนมาดูอะไรตรงนี้”ลุงแผนกวักมือเรียกเด็กสาวข้างบ้านคนคุ้นเคยให้ออกมาดูสิ่งผิดปกติที่ว่า มือหยาบหนาของชายวัยกลางคนชี้ไปที่หลังคาบริเวณที่มีรอยกระสุนปืนตกลงมาเป็นรูกว้างจะว่าผิดวิสัยก็พูดได้ไม่เต็มเสียงเพราะมันมีโอกาสเกิดขึ้นได้แต่ก็ในแบบโชคร้ายสุดๆเพราะเวลาเรายิงปืนขึ้นฟ้าที่ทำมุมตั้งฉากกับพื้นโลกกระสุนจะไม่ตกอยู่ใกล้ๆในระยะสายตา ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากความเร็วของกระสุนทำให้หลุดจากแรงG (gravity) กระสุนจะอยู่ในสภาพไร้น้ำหนักลอยไปไม่มีทิศทางและไปตกณ จุดใดจุดหนึ่งในที่สุดแต่มันบังเอิญเกินไปไหมที่จะต้องมาตกเอาใกล้ๆกับนิวาสถานของเธอ

“มีใครเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

“บุญหัวเหลือเกินแม่คุณเอ้ยมันเฉี่ยวที่นอนลุงไปศอกเดียว ทีแรกลุงนึกว่าลูกเห็บตกที่ไหนได้ กระสุน!”

ยืนคุยกับลุงแผนอยู่สักพักแต่ก็ไม่ได้ความอะไรมากนักจึงขอตัวออกมาเดินกลับเข้าบ้านแบบค้างคา ร้อยวันพันปีที่นี่ไม่เคยมีเรื่องประหลาดทั้งเรื่องเมื่อคืนและเรื่องลุงแผน พยายามหาจุดเชื่อมกันของสองเหตุการณ์ แต่ก็หาไม่เจอว่ามันจะไปเชื่อมกันได้ตรงไหนแต่ตอนนี้ต้องขอพักการนึกไว้ก่อน เพราะถ้ายังนึกต่อเธออาจจะสาย หญิงสาวปิดประตูลงกลอนตรวจดูความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านแต่ก็นึกสงสัยนะว่าหากมีโจรขโมยมาขึ้นบ้านเธอเจ้าสิ่งเร้นลับในห้องเธอจะแสดงอิทธิฤทธิ์อะไรไหมจะปกป้องหรือชี้นำขโมย แต่ก็นะ เดายากเพราะเธอไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคิดอะไรและต้องการอะไรจากเธอ

เช้าวันนี้พี่วินมอเตอร์ไซด์ยืนออกันหนาแน่นดั่งเช่นทุกวันการจราจรแม้จะติดขัดแต่ก็อยู่ในระดับปกติ ชีวิตปกติของเธอกลับมาแล้ว ระหว่างทางมี น้ำฟักทองสีเหลืองอำพันแลดูน่าทาน พรพิสุทธิ์จึงขอซื้อติดมือไปฝากพี่หยกคนงามเป็นน้ำใจเล็กน้อยที่พี่หยกให้โอกาสเธอ

สยามสแควร์ยามเช้าบรรยากาศจะเงียบเหงาวังเวงต่างจากยามบ่ายคล้อยหรือตะวันรอนยามเย็นราวกับเป็นคนละโลกพรพิสุทธิ์ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยหัวใจที่เบิกบานแต่ก็หวามไหวแปลกๆคงเพราะตื่นเต้นกับการทำงานวันแรกแม้เธอจะเคยผ่านการฝึกงานมาบ้าง แต่เหล่านั้นก็เพื่อแลกเกรดและที่ฝึกงานก็ไม่ได้เข้มงวดอะไรกับเธอมากนักแต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แบบนั้น ครั้งนี้เธอกำลังจะไปทำงานเพื่อแลกเงินมันก็หมายถึงเธอต้องแบกรับความคาดหวังของนายจ้างที่ยอมเสียเงินจ้างเธอมาทำงานและในการเป็นติวเตอร์เธอต้องแบกรับความคาดหวังของเด็กทุกคนที่มาเรียนรวมถึงผู้ปกครองของเด็กๆด้วยโอ่ว!ช่างดูยิ่งใหญ่เสียนี่กระไร

พรพิสุทธิ์ผลักประตูเข้าไป ได้ยินเสียงอะไรที่มันประหลาดๆเข้า

“บอกให้เอาเงินมาไง”

“ให้ไม่ได้นี่มันค่าเช่าตึกเดือนนี้นะ” เสียงของสองคนที่กำลังคุยกันเรื่องส่วนตัวเข้ามาในโสตของพรพิสุทธิ์โดยไม่ตั้งใจท่ามกลางความเงียบโสตประสาทของเธอแยกแยะได้ทันทีว่าเสียงของฝ่ายหนึ่งนั้นคือ ‘พี่หยก’ เมื่อมองไปที่ต้นเสียงมันก็เป็นอย่างที่คิดไว้ส่วนอีกคนที่เธอเห็น เอ… ยังไงดีดูรู้ว่าเป็นสาวจากเนินเนื้อตรงหน้าอกแต่ใบหน้ากลับหล่อเหลา ผมซอยจนสั้นระต้นคอผิวขาวนวลเนียนแบบฉบับคุณหนูลูกผู้ดี อดีตคงเป็นอาหมวยที่ปัจจุบันได้กลายพันธุ์เป็นอาตี๋หน้าตาหล่อนจัดว่าดีมากเลยแหละสไตล์เกาหลีที่เขากำลังนิยมกันรูปร่างสูงพอๆกับเธอแต่เธอใส่ส้นสูงจึงดูสูงกว่า อายุก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเธอทั้งสองที่กำลังเหมือนยื้อยุดบางสิ่งกันอยู่ ต่างหันมองแขกไม่ได้รับเชิญที่เข้ามาผิดเวลาโดยพร้อมเพรียงสาวหล่ออาศัยจังหวะนี้ดึงเงินจากมือหยกมณีก่อนจะเดินลิ่วๆออกประตูไปพรพิสุทธิ์มองตามสาวหล่องงๆจนลับตาก่อนจะหันมาสนใจพี่สาวที่ตนรู้จัก

“เอ่อ…” ติวเตอร์สาวทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นพี่สาวคนสวยทรุดนั่งบนเก้าอี้สภาพหมดอาลัยตายอยาก

“พี่หยกโอเคไหมคะ”

“โอเคซิจ๊ะไม่มีอะไรหรอกว่าแต่แจนถืออะไรมา” หยกมณีเบี่ยงประเด็นและปรับสีหน้าท่าทางได้อย่างรวดเร็วเรื่องส่วนตัวพูดมากไปก็ไม่ดีแถมเรื่องของเธอกับอดีตคนรักก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าพูด

“น้ำฟักทองค่ะแจนเห็นมันน่าทานดีเลยคิดถึงพี่หยก”

“มาจ้ะเดี๋ยวพี่เอาไปใส่แก้วให้”หยกมณีดึงน้ำฟักทองไปจากมือและเดินเข้าไปด้านหลัง เช้าแบบนี้คงยังไม่มีลูกค้าหรอกคิดได้แบบนั้นพรพิสุทธิ์จึงเดินไปล็อกประตูด้านหน้าเพื่อความปลอดภัยก่อนจะเดินตามหยกมณีเข้าไป

“ขออนุญาตนะคะ” พรพิสุทธิ์ให้สัญญาณก่อนจะเดินเข้าไป

“ตามสบายจ้ะห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์ เรากินนอนกันที่ห้องนี้”สมาชิกใหม่กวาดสายตาไปโดยรอบสร้างความคุ้นเคย สักพักน้ำฟักทองสองแก้วก็ถูกนำมาวาง

“นั่งก่อนจ้ะ” หยกมณีนั่งนำ พรพิสุทธิ์ก็นั่งตามลงไปอย่างว่าง่าย

“แอมเขาเป็นแฟนเก่าพี่เอง” หยกมณีกล่าวดั่งเป็นประโยคบอกเล่าที่ไม่มีอะไรให้เร้าใจแต่คนฟังนี่ซิออกอาการเหวอเลยทีเดียว ‘แอม’ หมายถึงสาวหล่อคนเมื่อกี้น่ะเหรอ

“ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าพี่หยกจะเป็น…ดี้แจนมองพี่ไม่ออกเลย” เห็นหล่อนออกจะเอ็กส์ เซ็กส์ บอมซะขนาด… พาให้คิดไม่ถึง

“แต่พี่มองแจนออกนะ”

หือ…????

“เซ้นส์พี่มันบอกว่าแจนเป็นเพศตรงข้ามเป็นเลสและก็คิงด้วย”

หือ…มีงี้ด้วย เธอไม่เห็นจะมองใครออกเลยมิน่าล่ะกับสายตาวิบวับแปลกๆเมื่อวานเพราะเธอถูกพี่หยกมองว่าเป็นเพศตรงข้ามนี่เอง

“เอ่อ…”พรพิสุทธิ์อึกอักปรับตัวปรับใจไม่ทัน

“ปฏิเสธพี่มาซิคะ ว่าแจนไม่ใช่” หยกมณีจีบปากจีบคอบริหารเสน่ห์ไม่พูดเปล่ามือยังเลื้อยมาจับมือเรียวของอีกฝ่ายหวังต้อนให้จนมุมเพื่อยืนยันว่าเซ้นส์ของตนไม่พลาด

“เอ่อ…ก็ประมาณนั้น”

“ก็แค่นั้น” เท่านั้นหยกมณีก็ชักมือกลับและหยิบน้ำฟักทองขึ้นมาดื่ม

“รสชาติดีนะไม่หวานมาก พี่ชอบ”ประเด็นถูกเปลี่ยนไปรวดเร็วตามอารมณ์สาวสวยมากประสบการณ์พรพิสุทธิ์นึกหวาดหญิงสาวตรงหน้าที่เรด้าหล่อนช่างแสนจะแม่นยำนึกสงสัยว่าเธอแสดงออกอะไรไปที่ดูผิดปกติจากผู้หญิงทั่วไปส่องกระจกที่ไรก็เห็นแต่คนสวยไม่มีแววว่าจะหล่อหรือเท่อะไร ไม่เข้าใจว่าอะไรในตัวเธอฟ้องพี่หยกว่าเธอเป็นเลสแถมรู้ลึกอีกว่าเธอเป็นคิง ติวเตอร์น้อยด้อยประสบการณ์เหลือบตามองแม่เสือสาวที่นั่งชิวดั่งก่อนหน้านี้ไม่มีเรื่องราวใดๆลึกๆเธอว่าพี่หยกน่ากลัวกว่าผีซะอีก ฉลาดเป็นกรด!

“เมื่อก่อนพี่ก็แค่ประชาสัมพันธ์ธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น” อยู่ๆหยกมณีก็พูดขึ้น

“แฟนเก่าพี่ก่อนจะมาเป็นเจ้าของสถาบันใหญ่โตแบบนี้ก็เป็นแค่ ติวเตอร์ไร้สังกัดรับสอนตามบ้านบ้าง ตามฟาสฟู๊ดส์บ้างพอมีชื่อเสียงเข้าก็รวบรวมเงินมาเปิดเองความหน้าตาดีของเขาทำให้อะไรหลายๆอย่างมันง่ายขึ้น” หยกมณีดูเลื่อนลอยที่คงเพราะกำลังรำลึกถึงความหลัง

“เขามาเซ้งที่นี่ รับพี่เข้าทำงานแล้วก็...” เมื่อเห็นว่าคนเล่าทำท่าจะสะดุดพรพิสุทธิ์จึงพูดสวนขึ้นเกือบจะทันทีแบบลืมตัว

“กินไก่วัด"

“แล้วถ้าเป็นแจน แจนจะไม่อยากกินพี่เหรอ”เอาละง่ะ กรำ ของเข้าตัว กับพี่หยกนี่เปิดช่องไม่ได้เลยนางพร้อมบริหารเสน่ห์ตลอดเวลา

“พี่ไม่รอดตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เข้ามาทำงานแล้วหล่ะแอมเขาเป็นคนเก่ง หน้าตาดี เอาใจเก่งแถมคารมยังเป็นเลิศพี่ก็เลยไปไหนไม่รอด อยู่ร่วมหัวจมท้ายกันมาจนเมื่อปีกลาย”น้ำเสียงที่ขาดห้วงไปก็พอจะให้คนฟังเดาได้ว่า ต่อไปคือดราม่าแน่ๆ

“แอมไปหว่านเสน่ห์กับติวเตอร์สาวสวยที่มีดีกรีเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งพี่จับได้คาหนังคาเขาจึงขอเลิก" นั่นไง!

หนัก! พรพิสุทธิ์คิดในใจ

“แล้ว..ทำไมพี่หยกยังทนทำอยู่ล่ะคะไม่เจ็บหรือ" ดั่งมีเสียงของน้าศักดาในเพลงยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บดังก้องเข้ามาในหัว

‘คนที่รักร้างไกลนั้นเจ็บไม่นาน คนไม่รักใกล้กันช้ำใจยิ่งกว่า’

“เจ็บสิคะ แต่พี่ทิ้งที่นี่ไปไม่ได้ทิ้งสิ่งที่พี่ร่วมสร้างมันมากับมือไม่ได้ ส่วนเงินทองธุรกิจมันก็อีกเรื่องหนึ่งเราต้องแยกแยะเพื่อทุกอย่างมันจะได้ดำเนินต่อไปได้"พรพิสุทธิ์คิดตามแต่ดูเหมือนเรื่องราวยังดูไม่สมเหตุหลายจุดสังเกตจากผลในปัจจุบัน พี่หยกยังปล่อยไม่สุดแต่ก็นะเรื่องของเขาก็เท่าที่เขาสบายใจเล่า

“พี่หยกรีบทานน้ำฟักทองเถอะค่ะ จะเย็นชืดหมดแล้ว"

“จ้า แจนทานของบำรุงอย่างนี้นี่เองถึงได้ทั้งฉลาดทั้งผิวพรรณดี" เจอพี่สาวหยอดคำหวานพรพิสุทธิ์ก็ยิ้มเป้ยๆเธอจับทางได้แล้วว่าพี่หยกชอบบริหารเสน่ห์

“ว่าแต่แจนจะเอาเด็กๆของพี่อยู่ไหมน้า"หยกมณีพูดทีเล่นทีจริง สำหรับติวเตอร์สาวที่แม้จะมือใหม่แต่ก็ไม่เห็นเป็นเรื่องหนักอกค่อนข้างไปในทางมั่นใจด้วยซ้ำว่าแผนการที่ตระเตรียมมาจะบรรลุผลดีเลิศ

“ก็ต้องคอยดูกันค่ะ” พรพิสุทธิ์ไม่ได้พูดออกไปดั่งใจคิด

“แจนมีเอกสารมาแจกเด็กๆด้วยค่ะแต่ยังไม่ได้ถ่ายเอกสารเลยสามารถจัดการได้ที่นี่ไหมคะ”

“ปกติก็ได้จ้ะแต่ตอนนี้มันไม่ปกติเพราะเครื่องมันเสีย อีก2วันช่างถึงจะเข้ามาซ่อม”

“อ่อ งั้นเดี๋ยวแจนออกไปจัดการก่อนนะคะพี่หยกจะฝากซื้ออะไรไหมคะ” ติวเตอร์มือใหม่อาทร

“ไม่จ้ะ ขอบใจมาก”สองสาวยิ้มสวยให้กันก่อนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน

ไม่ว่าเราจะรู้สึกแย่จวนเจียนตายหรือสุขในหัวใจมากแค่ไหน แต่ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป

เศร้านานไป ใจก็บอบช้ำ สุขนานไปใจก็ยึดติด

สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี ล้วนเป็นอนิจจัง มีเกิดขึ้นและดับลงไปเฉกเช่นกัน




Create Date : 01 ตุลาคม 2558
Last Update : 19 ตุลาคม 2558 19:08:03 น. 1 comments
Counter : 320 Pageviews.

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:16:58:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.