<<
มกราคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
5 มกราคม 2558

คุณแม่ที่โชคร้ายที่สุด












คำถามจากทางบ้าน:

คุณอาคนที่ ๒ เกิดในครอบครัวที่ยากจน จึงทำให้มีโอกาสทางการศึกษาน้อย คือ เรียนจบเพียงแค่ชั้น ป.๔ คุณอาเป็นผู้หญิงซื่อๆ ที่ไม่มีลักษณะผู้นำใดๆ เลย หลังจากคุณอาแต่งงานมีลูกแล้ว ไม่ว่าจะยากดีมีจนขนาดไหน คุณอาก็ทั้งรักและทะนุถนอมตั้งใจเลี้ยงลูกเป็นอย่างดีทุกอย่าง ส่งเสริมให้ลูกๆ ทุกคนเรียนจบถึงขั้นปริญญาตรีกันทั้ง ๓ คน

คนโตและคนกลางเป็นชาย คนเล็กเป็นหญิง แต่ไม่ทราบว่าเป็นเวรกรรมอะไรค่ะ ในช่วง ๖ ปีหลังนี้ คุณอามีปากเสียงทะเลาะกับลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กของเธออย่างรุนแรงเกือบทุกวัน บางทีวันละหลายๆ ครั้งจนลูกคนโตและคนเล็กพากันเกลียดคุณอา ซึ่งเป็นแม่ผู้มีพระคุณที่สุดของตัวเอง หนำซํ้ายังต่อว่าพ่อของเขาว่า “ทำไมพ่อถึงไปเลือกเอาผู้หญิงพันธุ์นี้มาเป็นภรรยา” และก็ “ไม่น่าเกิดมามีแม่แบบนี้เลย” ลองคิดดูเถอะค่ะว่า คำพูดนี้จะสร้างความปวดร้าวให้กับผู้เป็นแม่ที่รักลูกที่สุดสักเพียงใด

ซึ่งแทบทุกวัน ลูกๆ ของคุณอา จะพูดด่าว่าถากถางแม่ของตัวเองสารพัด ตวาดและตะคอกแม่ต่อหน้าลูกจ้างในบ้าน ราวกับแม่เป็นเสมือนทาสคนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ลูกจ้างในบ้าน ๕-๖ คน พลอยไม่เกรงใจแม่ไปด้วย คือ หากว่าแม่จะใช้ให้ลูกจ้างทำอะไรบ้าง ลูกจ้างก็จะไม่ยอมทำให้ และหากแม่จะแสดงความเห็นอะไรขึ้นมาบ้าง ลูกทั้งสองคือคนโตและคนเล็กก็จะแผดเสียงตวาดอย่างก้าวร้าวว่า “หุบปาก ใครใช้ให้ออกความเห็น ไม่รู้เรื่องแล้วอย่าพูด” แม่จะพูดอะไรเป็นผิดหมด และจะถูกดูถูกหาว่าโง่ เรียนน้อย หรือบางทีในขณะที่กำลังมีปากเสียงกัน หากฝ่ายลูกกำลังถือหม้อนํ้าแกงเดือดๆ อยู่ในมือ ก็จะพูดว่า “เดี๋ยวกูจะเอาไอ้นี่ราดมึงเลย” บางทีก็ด่าแม่ ด้วยคำหยาบจนฟังไม่ได้ เช่น ด่าแม่ว่า “ไอ้เ -ี้ ย”

แต่ถึงแม้การทะเลาะกันจะรุนแรงสักปานใด สามีของคุณอาก็ไม่เคยห้ามปรามลูกๆ ที่ทำกับแม่อย่างนี้ หนำซํ้ายังให้ท้ายลูกเสียอีก บางครั้งคุณอาทนไม่ไหวก็จะพยายามพูดให้ลูกหยุดว่า “ทำกับแม่อย่างนี้ ระวังจะตกนรก” ซึ่งลูกของคุณอาก็จะรีบสวนกลับทันควันว่า “แล้วตัวเอง จะได้ขึ้นสวรรค์หรือไง” การเถียงกันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากลูกไม่พอใจ จะอาละวาดเตะทำลายข้าวของที่เป็นของแม่ เช่น เตะพัดลมที่แม่ใช้เป็นประจำจนคอหักพัง แล้วก็ปล่อยให้แม่นั่งทำงานงกๆ ทนร้อนอยู่อย่างนั้น โดยไม่ใยดีอะไรทั้งสิ้น ซึ่งลูกก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่า ด้วยเหตุผลใด ทำไมสมาชิกในครอบครัวของคุณอาไม่มีใครห่วงใยคุณอาเลย แม้เวลาออกไปทานข้าวนอกบ้านกัน คุณอาก็เป็นคนเดียวที่ถูกทิ้งไว้ ถึงแม้พากันกลับมาจากทานข้าวแล้ว ก็ไม่ยอมซื้ออาหารอะไรมาให้คุณอาทานด้วย แต่กลับซื้อของติดไม้ติดมือมาฝากลูกจ้างในบ้านแทน บ่อยครั้งที่คุณอาต้องร้องไห้ บางทีร้องจนไม่มีนํ้าตา



เมื่อคุณอาคนที่ ๒ ทุกข์ตรมขนาดนี้ จึงได้โทรมาระบายความทุกข์นี้ให้กับคุณอาคนที่ ๓ ฟัง ท่านจึงได้แนะนำให้เอาธรรมะเป็นที่พึ่ง และแอบติดจานดาวธรรมให้ แต่ภายหลังลูกๆ และสามีของคุณอาเปิดไปเจอดาวธรรมโดยบังเอิญ จึงอาละวาดด่าคุณอาเป็นการใหญ่และห้ามดูรายการนี้อีก แต่เธอก็พยายามแอบดู ซึ่งก็หาโอกาสดูได้น้อยมาก





บุพกรรมใดทำให้อาคนที่ ๒ ต้องมีปากเสียงกับลูกคนโตและคนเล็ก คุณอาและลูกสองคนนี้ผูกเวรกันมาหรือไม่อย่างไร คุณอาต้องแก้ไขบุพกรรมนี้อย่างไร และควรจะแก้ไขเหตุการณ์ในปัจจุบันนี้อย่างไรคะ
บุพกรรมใดทำให้คุณอาถูกกีดกันไม่ให้ดู DMC(สัญญาณจากจานดาวเทียม ช่องรายการธรรม) ต้องแก้ไขอย่างไรเพื่อให้คุณอาสามารถมาวัดและมีธรรมะเป็นที่พึ่งได้มากกว่านี้คะ?




ที่นี่มีคำตอบ:



คุณอาคนที่ ๒ มีปากเสียงกับลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็ก เพราะเรื่องนี้มีเหตุ ที่มีผลอย่างนี้ บางอย่างก็เกิดจากเหตุปัจจุบัน เพราะกิเลสเข้าไปบังคับให้สร้างกรรมเพื่อจะได้มีวิบาก แต่บางอย่างมันก็เป็นเหตุในอดีต เป็นกรรมในอดีตของคุณอาคนที่ ๒ ที่ชาติหนึ่งเกิดเป็นผู้ชาย มีนิสัยเกเร ชอบด่าว่าพ่อแม่ด้วยคำหยาบคายคล้ายๆ อย่างนี้แหละ อีกทั้งมีนิสัยเจ้าชู้ เมื่อมีภรรยาก็เหยียบยํ่าดูถูก ด่าว่า กดขี่ภรรยาเสมอ ก็เป็นภาพในอดีตของคุณอา อีกทั้งมีทาสรับใช้อยู่ในบ้านซึ่งเป็นพี่น้องกัน ท่านก็ได้กดขี่ข่มเหงทาสทั้งสองอยู่เสมอ จนทำให้ทาสพี่น้องทั้งคู่คิดแค้นผูกเวรว่า สักวันหนึ่งจะต้องทำตอบแทนแค้นนี้ให้ได้




เหตุที่ทำให้คุณอาคนที่ ๒ มีปากเสียงกับลูกคนโตและคนเล็ก



ดังนั้นเมื่อมาเจอกันในชาตินี้ ตามวงจรของวัฏฏะ ทาสทั้งสองก็มาเกิดเป็นลูกคนโตและคนเล็ก ส่วนท่านมาเกิดเป็นแม่ และกรรมนั้นก็บันดาลให้มาโดนบ้างจ้ะ




ทาสทั้ง 2 มาเกิดเป็นลูกคนโตและคนเล็ก ส่วนท่านมาเกิดเป็นแม่ และกรรมก็บันดาลให้มาโดนบ้าง



เพราะฉะนั้น สิ่งเดียวที่จะต้องแก้ไขก็คือ ให้อดทนในสิ่งที่เขากระทำนะจ๊ะ ทำเฉยๆ นิ่งๆ อยากด่าก็ให้ด่าไป อย่าให้โดนตัวก็แล้วกัน ด่าดีกว่าตี ตีดีกว่าฆ่า บางคนคิดเลยเถิดไปกว่านั้น เขาฆ่าดีกว่าฆ่าเอง ไม่ต้องลงทุน แต่ไม่ต้องถึงขนาดนั้น เราก็อดทน แต่ถ้าไม่ต้องอดทนก็คือ ทำเฉยๆ ไม่สนใจ แล้วยิ่งเราเข้าใจเรื่องวิบากกรรมเหล่านี้ก็ให้อภัยซะ ก็เราทำของเรามาเอง เราออกแบบชีวิตของเรามาอย่างนี้ มันก็ต้องเจออย่างนี้ เวรจะได้ระงับไป




ให้อดทนและให้อภัย เวรจะได้ระงับ แล้วก็สั่งสมบุญทุกบุญ อธิษฐานจิตให้พ้นจากวิบากกรรมนี้ไป



แล้วก็หมั่นสั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น อธิษฐานจิตให้พ้นจากวิบากกรรมนี้ไปจ้ะ วิธีที่จะพ้นวิบากกรรมมีทางเดียว คือ สั่งสมบุญให้มากๆ จนมันไปตัดรอนวิบาก หรือพ้นวิบากนั้นไป



คุณอาคนที่ ๒ ถูกกีดกันไม่ให้ดู DMC เพราะในอดีตก็ไม่เคยทำหน้าที่กัลยาณมิตรชวนคนทำความดี แถมกีดกันคนไม่ให้มาทำความดีอีกด้วย มาส่งผล เวลาเราจะทำความดีก็เลยโดนเขากีดกันบ้าง แล้วสิ่งแวดล้อมก็ไม่เป็นกัลยาณมิตรให้ด้วย



เหตุที่ทำให้คุณอาคนที่ ๒ ถูกกีดกันไม่ให้ดู DMC




จะให้มาวัดศึกษาธรรมะ ก็ต้องมีใครไปชักชวนให้ท่านมาวัด ไปบอกท่าน โดยที่ยังไม่ให้ทางบ้านรู้ จะได้ไม่มีใครขัดขวาง ต้องแอบลักลอบทำความดีไปก่อน เมื่อท่านได้มาวัด มาศึกษาธรรมะ ได้ปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงที่พึ่งภายใน พบความสว่าง พบดวงธรรม พบพระภายในแล้ว ท่านจะอยู่ตรงไหนก็ได้ ไม่มีความทุกข์ใจเลย ใครจะนั่งด่า ยืนด่า เราก็เฉยๆ เพราะเราดูองค์พระไป ที่ตรงนั้นมันมีความเงียบสงัด แล้วก็สงบสุขมากเลย



แต่ครูไม่ใหญ่ว่าอย่างนี้นะ ไหนๆ จะโดนเขาด่าแล้วก็ดูไปเถอะ แล้วก็มาวัดเถอะ เราจะได้มีที่พึ่ง คือ เราจะทำดีเขาก็ด่า ดีน้อยก็ด่า ดีปานกลางก็ด่า ดีมากก็ด่า ก็ดูมันซะ ใจจะได้สบาย เขาไม่ให้ดู เราก็มาวัด แค่นี้ก็หมดเรื่อง เวลาเราตาย เราต้องมีที่พึ่ง



เมื่อได้มาวัดมาศึกษาธรรมะได้ปฏิบัติธรรมะจนเข้าถึงที่พึ่งภายในแล้วจะอยู่ตรงไหนก็ไม่มีความทุกข์ใจ



เราจะมีที่พึ่งแล้วนี่ ด่าก็ปล่อยให้ด่าไป พอเหนื่อยเขาก็เลิก ด่าเป็นเรื่องของเขา ถ้าเราไม่เอามาคิด มันก็จบตรงนั้น อย่าไปรับและไปผูกพันกับถ้อยคำเขาเลย ต้องคลายความผูกพันจ้ะ



สามีคุณอาคนที่ ๒ ให้ท้ายลูก ๒ คน เพราะเป็นกรรมเก่าของคุณอาที่ทำกับภรรยา ตอนสมัยเกิดเป็นผู้ชายเกเร ชอบด่าว่าพ่อแม่ด้วยคำหยาบคาย เมื่อมีภรรยาก็เหยียบยํ่า ดูถูก ด่าว่า กดขี่ภรรยาเสมอ เพราะกรรมนี้จึงบันดาลให้มาเจอสามีกับลูกแบบนี้ ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นจ้ะ




เหตุที่ทำให้สามีคุณอาคนที่ ๒ ให้ท้ายลูก ๒ คน



ลูกคุณอาทั้งสองคน (ลูกชายคนโตกับลูกสาวคนเล็ก) จะมีวิบาก คือ เมื่อใกล้ตายก็จะเห็นกรรมนิมิตที่ทำกับมารดาอย่างนี้ ก็จะทำให้คตินิมิตดำมืด แล้วก็ดำดิ่งไปมหานรกขุม ๔* จะถูกทัณฑ์ทรมานมาก เช่น จะถูกนายนิรยบาลเอาคีมเหล็กร้อนมาดึงลิ้นออกแล้วตัดด้วยมีด แล้วถอนฟันออกทีละซี่ แล้วเอาแปรงลวดเหล็กร้อนทะลวง เป็นต้น




จะถูกนายนิรยบาลเอาคีมเหล็กร้อนมาดึงลิ้นออกแล้วตัดด้วยมีด แล้วถอนฟันออกทีละซี่ แล้วเอาแปรงลวดเหล็กร้อนทะลวง



ตายเกิดนับครั้งไม่ถ้วนอยู่ยาวนาน ๘๐๐ ล้านปี (โดยประมาณ) แล้วก็ไปตามขั้นตอนของการลงทัณฑ์



เป็นกรรมหนักมากเหมือนทำกับพระอรหันต์ เพราะท่านได้ชื่อว่าเป็นพระอรหันต์ในบ้าน



เมื่อกรรมเบาบางลง คือ มาจากอุสสทนรก ไปยมโลก ก็ไปโดนคล้ายๆ กันอย่างนี้ แต่มันเบาลงไป แล้วก็มาเป็นอสุรกายที่พิกลพิการ ครึ่งสัตว์ครึ่งคนตามที่ตัวด่าคุณแม่ไว้ว่าอย่างไร ถ้าตัวไอ้เข้ก็จะเหมือนอย่างนั้น ถ้าตัวคล้ายไอ้เข้ก็จะเหมือนตัวคล้ายไอ้เข้ ปากก็จะมีหนอนชอนไชทุกข์ทรมานมาก เป็นต้น เป็นกรรมหนักมากเหมือนทำกับพระอรหันต์ เพราะท่านได้ชื่อว่าเป็นพระอรหันต์ในบ้าน จ้ะ




โดย คุณครูไม่ใหญ่





ข้อมูลโดย อินเตอร์เน็ต













Create Date : 05 มกราคม 2558
Last Update : 5 มกราคม 2558 9:38:54 น. 3 comments
Counter : 1701 Pageviews.  

 



โดย: ญามี่ วันที่: 5 มกราคม 2558 เวลา:9:42:12 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 10 มกราคม 2558 เวลา:3:32:33 น.  

 
ทักทายค่ะคุณมี่


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ญามี่ Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 18 ธันวาคม 2558 เวลา:9:03:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]