ร้านนี้มีลงแนะนำใน Magazine บนเครื่องของบางกอกแอร์เวย์ที่นั่งด้วย ประกอบกับร้านอยู่ละแวกถนนคนเดินวันอาทิตย์
พิกัดร้าน
เฮือนเพ็ญ ไปไม่ยากถ้าไม่เสียเวลาหยุดถามทาง ?!?!
อินดี้เดินจากที่พักซึ่งอยู่ย่านไนท์บาร์ซ่าเป็นระยะทางพอสมควร ได้เหงื่อเลยหล่ะค่ะ
พวกเรารู้เลขที่ตั้งของร้านและก็มาถึงถนนราชมรรคาแล้ว
วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ถนนคนเดิน(ถนนราชดำเนิน)ก็อยู่คู่ขนานถัดกันไปนี่เอง
แต่เพื่อความชัวร์เราหยุดถามทางกับ Tuk Tuk ซอยนั้น
ต้องการจะรู้แค่ว่าเดินอีกไกลมั้ย ซักอีกกี่ร้อยเมตร
กลับได้รับคำตอบชวนหัวเสียว่า โอ้ย...อีกไกล ร้านปิดด้วยวันนี้ !
นึกในใจ ... ทำไมเล่นมุขเดียวกับพวกหลอกฝรั่งหน้าวัดพระแก้วเลยหล่ะนี่
อินดี้ก็เลยหันไปทำหน้าเซ็งๆ ตอบกลับไปว่า ...
ขอบคุณที่บอก แต่จะปิดได้อย่างไร จองโต๊ะเรียบร้อยแล้ว โทรไปที่ร้านเองเมื่อเช้านี้
คุณคนขับรถตุ๊กๆ ถึงกับหน้าเสียเลยทีเดียว คนไม่ดีประพฤตตนมิชอบไม่สุจริตมีทุกที่จริงๆ
ข้ามไปหละกัน สุดท้ายเราก็เดินต่อไปเรื่อยๆหากันเองจนเจอ
ซึ่งก็ไม่ได้ยากอะไร แต่เดินจาก Night Bazaar มาก็พอสมควรนั่นแหละ
ร้านเฮือนเพ็ญจะเปิดสองรอบ เช้า-บ่าย และ ค่ำ ซึ่งตัวร้านจะเป็นคนละส่วนกันด้วยนะคะ
มื้อค่ำบรรยากาศดีกว่าในแง่ของสถานที่ ความประณีตของภาชนะอาหารที่เสิร์ฟ
แต่แลกมาด้วยรสชาติที่เพี้ยนไป และราคาที่สูงขึ้นด้วย
ยังไงลองมาชิมด้วยตัวเองหละกันจ้า
คราวหน้าอินดี้คงมาลองทานมื้อกลางวัน มื้อค่ำคราวนี้ไม่ค่อยปลื้ม
พาชมบรรยากาศร้านกันซักเล็กน้อย
...
จัดเต็ม คำนี้เหมาะมากกับการตกแต่งของร้านนี้
ด้วยของโบราณของเก่า จะว่าเยอะก็เยอะแต่ก็ดูอลัง และขลังดีแท้
เดินๆไปก็แอบกลัวจะเกี่ยวข้าวของเค้าล่วงหล่นอยู่เหมือนกัน ><
เข้ามาซ้ายมื้อโซนแรก น่านั่งเชียวค่ะ เป็นส่วนตัวมากๆด้วย
ถ้าได้นั่งจกข้าวเหนียวกันตรงนี้คงจะเก๋ไม่น้อย อิอิ
เดินต่อเข้ามาอีกหน่อย ตรงนี้ก็น่านั่งอีกแล้วค่ะท่านผู้ชม
เจ้าของสะสมของเก่า ของโบราณไว้ไม่น้อยเลยนะคะเนี่ย อาหารตาแก่แขกผู้มาเยือนจริงๆ
เกือบลืมบอกไปว่าร้านไม่ติดแอร์นะคะ แต่มีพัดลมเป็นจุดๆ
ลึกเข้าไปอีกหน่อย
มีอีกห้องนึง แสงสวยและตกแต่งได้อย่างน่ามอง
เก็บภาพมาเฉพาะโต๊ะที่ไม่มีคนนั่ง เกรงใจแขกท่านอื่นน่ะค่ะ
บรรยากาศไทยๆเยี่ยงนี้เหมาะแก่การเอาฝรั่งมาเปิดหูเปิดตา 555+
ถึงอาหารจะไม่ถูกปากนัก แต่ก็ไม่คิดมากค่ะ
นึกซะว่ามากินบรรยากาศ จ่ายค่าสถานที่ร้านเค้าหละกันเนอะ ^^
มาถึงมุมที่ชอบที่สุดก็บริเวณ
ตั่งนี้หล่ะค่ะ
แหม... มันช่างรื่นรมย์ สุนทรีย์ เสียเหลือเกิน น่านั่งละเลียดอาหารช้าๆ
แต่ถ้ามาเกินสองคนก็หมดสิทธิ์นะคะ น่าจะต้องจองล่วงหน้าด้วยหล่ะ ที่นั่งแบบ Hot seat อิอิ
อิ่มบรรยากาศของร้านกันไปแล้วซึ่งต้องขอชื่นชมเจ้าของร้านนะคะที่อนุรักษ์ความเป็นไทย
ดูแลรักษาและทำร้านออกมาได้อย่างดี
แต่เรื่องอาหารนี่สิ ...
เท่าที่ชิมดู... เดาเอาเองนะคะว่ามื้อค่ำคงกะเอาใจลูกค้าฝรั่งเลยทำรสชาติอ่อนทำให้อร่อยน้อยลงไป
หรือ วันที่อินดี้ไปเจอแจ๊คพอร์ตแม่ครัวลาก็ไม่ทราบได้ เพราะรสชาติผิดฟอร์มไปมาก
อาหารจานที่เราสั่งดูตามเมนูล้วนแล้วแต่เป็นอาหารแนะนำของทางร้าน เลยผิดหวังทีเดียวค่ะ
ขอบ่นต่ออีกนิด ...เด็กเสิร์ฟจดเมนูสับสน จดพลาด แถมตามแล้วก็หายไปเลย
สังเกตเห็นเสิร์ฟฝรั่งโต๊ะข้างๆผิดจานด้วยค่ะ
คาดว่าอาจจะเป็นเด็กใหม่เพราะรับออร์เดอร์ภาษาอังกฤษไม่ได้
สุดท้ายมื้อนี้พวกเราทานกันไม่อิ่ม แต่จำใจต้องหยุดสั่งเพิ่ม เพราะรอนานมากในแต่ละครั้ง
แม้กระทั่งเรียกเก็บเงิน ก็รอแล้วรออีก จนสุดท้ายต้องเดินเข้าไปจ่ายข้างหลังร้านเอง
เอาหล่ะบ่นซะเยอะเลย
ติเพื่อก่อ แถลงความตามจริงค่ะ
... มาดูกันดีกว่าว่าสั่งอะไรไปบ้าง
เปิดตัวจานแรก
.. ออเดิร์ฟเฮือนเพ็ญ .. เป็นออร์เดิร์ฟเมืองกับน้ำพริกอ่อง
เสริฟมาในขันโตก พรีเซนเทชั่นถือว่าผ่านฉลุยค่ะ
มีแหนม หมูยอ ไส้อั่ว แคปหมูและผักอีกสามสี่อย่าง
น้ำพริกอ่องรสชาติดี เข้มข้นถูกใจทั้งไทยและฝรั่งเลยค่ะ
ไส้อั่วกับแหนมก็อร่อยดีถึงแม้ปริมาณจะน้อยไปนิดนึง
ที่ไม่ชอบคือหมูยอดูแห้งแต่กัดไปอมน้ำมันมากๆเลยค่ะ
150 บาท เมนูต่อไปสั่งเพราะชื่อแท้ๆ อิอิ
.. น้ำพริกอี่เก๋ .. ทานเป็นครั้งแรกเลยค่ะ น้ำพริกเสริฟมาพร้อมกับผักนึ่งในโตกเช่นกัน
ชิมไปเดาไปแน่ๆมีมะเขือเปราะและกะปิ
รสชาติก็อร่อยใช้ได้แต่ไม่ได้พิเศษอะไรค่ะ
50 บาท .. ยำเฮือนเพ็ญ .. เป็นยำสูตรของทางร้าน มีหมูยอ แหนม แคปหมู แค่เท่าที่เห็นในรูป นอกนั้นเป็นผัก
จานนี้ไม่ผ่านค่ะ เฉยๆมาก สั่งไปว่าไม่เผ็ดมาก
ดูหน้าตาก็สีจืดๆนะคะแต่พริกขี้หนูสีเขียวกระจายทั่วจานเลยค่ะ
สุดท้ายเลยจิ้มทานได้แต่เนื้อๆเพราะพริกเยอะจริงอะไรจริง หลบยาก
ถ่ายมาเหมือนใหญ่ จริงๆจานนิดเดียว ไม่คุ้มราคาอย่างแรง
85 บาท .. แกงฮังเล .. แกงฮังเลอาหารเหนือที่ขึ้นชื่อ
จานนี้ผิดหวังมาก ไม่เข้มข้นไม่อร่อยและมันเยิ้มมากๆอย่างที่เห็น
ถ้วยเล็กจนน่าตกใจ หลังจากชิมจานนี้ถึงได้เดาว่าแม่ครัวลาหยุดแหงม ฮือๆ
75 บาท ต่อด้วยเบสิคง่ายๆที่ต้องอร่อยสิน่า
.. ข้าวเหนียวไก่ทอด .. จานนี้ช่วยกู้หน้า อร่อยใช้ได้ค่ะ
สั่งไก่ทอดมาสองจาน จานนึงมีสามชิ้นก็หนึ่งสะโพกนั่นเอง
น้ำจิ้มอร่อยเหมือนใส่น้ำมะขามด้วย เค็มหวานเปรี้ยวเผ็ดครบ
ข้าวเหนียว
15 บาทไก่ทอด
150 บาท ขอสรุปตามที่จั่วหัวบล็อคว่าปลื้มบรรยากาศร้านมากกว่ารสชาติอาหารค่ะ
อาหารตามนี้บวกชามะนาว 3 น้ำเปล่า 2 บิลออกมาเกือบ 800 บาท
ไม่อิ่มแต่ดีว่ามีของกินขายเพียบที่ถนนคนเดินวันอาทิตย์
เลยแวะซื้อนู่นชิมนี่ซะหลายร้านอิ่มพอดี 555+
ไปเที่ยวเชียงใหม่หนไหนก็พยายามให้ชนวันอาทิตย์ ชอบเสน่ห์ของตลาดนี้จริงๆ
ของที่ขายส่วนใหญ่ handmade ขายไอเดียเก๋ๆ มีแสดงเปิดหมวก
และที่สำคัญบรรยากาศสบายๆมีวัดสวยๆให้แวะตลอดทาง ชอบมากค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาชิมด้วยกันนะคะ
แล้วพบกันใหม่บล็อคหน้า
บายๆ