bloggang.com mainmenu search






แอบบีโบลีเยอ-ซูร์-ดอร์ดอญ






ชั้นแท่นบูชา (Retable) แบบบาโรก
ที่เป็นไม้ทาทองที่สร้างปี ค.ศ. 1678





แอบบีโบลีเยอ-ซูร์-ดอร์ดอญ (Beaulieu-sur-Dordogne Abbey) หรือชื่อเต็มคือ อาเบอีแซ็ง-ปีแยร์เดอโบลีเยอ-ซูร์-ดอร์ดอญ (ฝรั่งเศส: Abbaye Saint-Pierre de Beaulieu-sur-Dordogne) เป็นสำนักสงฆ์ของลัทธิเบ็นนาดิคตินของนิกายโรมันคาทอลิก

แอบบีตั้งอยู่ที่เมืองโบลีเยอ-ซูร์-ดอร์ดอญน จังหวัดกอแีรซ ในแคว้นลีมูแซ็ง ประเทศฝรั่งเศส


ประวัติของแอบบี

แอบบีโบลีเยอ-ซูร์-ดอร์ดอญก็เช่นเดียวกับแอบบี ที่อูว์แซร์ชและลีมอฌที่เป็นสำนักสงฆ์เบ็นนาดิคติน ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 9 และรุ่งเรืองขึ้นมาเพราะตำแหน่งที่ตั้งที่ไม่ไกลจากถนนเซนต์เจมส์

แอบบีก่อตั้งขึ้นราวปี ค.ศ. 855 โดยรูดอล์ฟแห่งตูว์แรน อัครสังฆราชแห่งบูร์ฌ นักบวชกลุ่มแรกของแอบบี มาจากแอบบีที่ซอลีญักไม่ไกลจากลีมอฌ

เมื่อแอบบีมีฐานะมั่งคั่งขึ้น ก็เป็นที่หวั่นเกรงของขุนนางผู้ครองที่ดินในบริเวณนั้น จนสังฆราชแห่งลีมอฌต้องมาช่วยป้องกันการรังควาน

ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 แอบบีแซ็ง-ปีแยร์ก็ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแอบบีคลูนี ราวปี ค.ศ. 1095 ก่อได้มีการก่อสร้างแอบบีขนาดใหญ่ขึ้นและดำเนินต่อมาเกือบห้าสิบปี

ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ก็ได้มีการสร้างหอยอดแหลมทางด้านตะวันตก ที่ใช้เป็นหอระฆังของเมืองบิวลีไปในตัวด้วย

แอบบีทรุดโทรมลงเมื่อมาถึงสมัยสงครามร้อยปีที่ทำลายสิ่งต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ไปมาก สงครามศาสนาต่อมาก็ช่วยจบการทำลาย เมืองโบลีเยอและแอบบี ตกไปเป็นของฝ่ายอูเกอโนในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1569

และไม่ได้กลับมามีบทบาทอีกจนกระทั่งปี ค.ศ. 1663 เมื่อมาถึงการปฏิวัติฝรั่งเศส แอบบีก็ถูกยุบและทำลายไปเป็นบางส่วน


ตัวสิ่งก่อสร้าง

ตัวแอบบีมีทางเดินกลางที่ยาวสี่ช่วง, แขนกางเขน และ บริเวณร้องเพลงสวดขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยจรมุข บริเวณร้องเพลงสวด, แขนกางเขนด้านใต้ และส่วนใหญ่ของทางเดินกลางเป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ที่สร้างมาแต่เดิม

หอระฆังและหอกลางสร้างในสมัยต่อมาเป็นแบบกอธิค ความยาวของตัววัด 71 เมตร ส่วนที่กว้างที่สุดที่แขนกางเขน 38 เมตร ทางเดินกลางสูง 17 เมตร และหอกลางสูงขึ้นไปจากนั้นอีก 6 เมตร

สิ่งที่เด่นที่สุดคืองานแกะสลักที่ประตูทางเข้าด้านใต้โดยเฉพาะบนหน้าบันที่เป็นภาพ “การตัดสินครั้งสุดท้าย” ที่เป็นการเสด็จกลับมาเป็นครั้งที่สองของพระเยซูอย่างมีชัย และ การฟื้นชีพ องค์พระเยซูบนหน้าบันมีความสูงถึง 2.1 เมตร

พระกรกางออกไปเป็นรูปกางเขน ขนาบด้วยอัครสาวกสิบสององค์ ตอนบนเป็นเทวดาถือมงกุฎและตาปูเหนือพระเศียร ขณะที่เทวดาอื่นเป่าทรัมเป็ตเรียกผู้เสียชีวิตขึ้นมาให้ทำการการตัดสินบุญบาป

สิ่งที่เด่นอีกอย่างหนึ่งคือชั้นแท่นบูชา (Retable) แบบบาโรกที่เป็นไม้ทาทองที่สร้างปี ค.ศ. 1678 ไม่นานหลังจากการรื้อฟื้นสำนักสงฆ์ ที่เป็นภาพ “อัสสัมชัญของพระแม่มารี”

สมบัติอื่นของสำนักสงฆ์ ก็ได้แก่ “พระแม่มารีและพระบุตร” และ มงคลวัตถุที่เป็นแขนที่ทำด้วยไม้หุ้มด้วยเงินและทองคำเปลว


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


สิริสวัสดิ์ศุกรวาร สิริมานรมณีย์ค่ะ
Create Date :16 ตุลาคม 2553 Last Update :12 พฤศจิกายน 2553 2:04:14 น. Counter : Pageviews. Comments :0