ตัวอย่างของผังมโนภาพผังมโนภาพ หรือ แผนที่ความคิด หรือ ไมด์แม็ป (mind map) คือไดอะแกรมที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่องโยง ของมโนภาพที่สัมพันธ์กันรูปแบบหนึ่ง โดยปกติจะใช้รูปวงกลมแทนมโนภาพหรือความคิด และเส้นลูกศรแทนลักษณะและทิศทางของความสัมพันธ์นั้น
มีคำกำกับไว้ว่าวงกลมแทนมโนภาพของอะไร เส้นลูกศรแทนความสัมพันธ์ในลักษณะและทิศทางใด ในบางครั้งมีการใช้การเน้นและแจกแจงเนื้อความด้วยสีและการวาดรูปประกอบ
ในสถานศึกษาหลายแห่ง ได้มีการกล่าวถึงการใช้ผังมโนภาพเกินความจำเป็น เนื่องจากคำโฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับการใช้สมอง ทั้งซีกซ้ายและสมองซีกขวา ที่มีการพิสูจน์ในลักษณะของรูปแบบวิทยาศาสตร์ลวง
ที่มา
ผังมโนภาพถือว่าเป็นวิธีหนึ่ง ที่ช่วยบันทึกความคิดเพื่อให้เห็นภาพความคิด ที่หลากหลายมุมมองที่กว้างและชัดเจน กว่าการบันทึกที่โดยยังไม่จัดระบบระเบียบความคิดใดๆ
อีกทั้งเป็นวิธีการที่สอดคล้องกับโครงสร้างทางการคิดของมนุษย์ ที่บางช่วงมนุษย์จะสูญเสียสมาธิ และความจดจ่อไปโดยอัตโนมัติ ขณะที่กำลังคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
การทำให้สมองได้คิด ได้ทำงานตามธรรมชาตินั้น มีลักษณะเหมือนต้นไม้ที่แตกกิ่งก้านออกไปเรื่อยๆผังมโนภาพถูกใช้เป็นแนวคิดไร้รูปแบบตายตัวมาหลายศตวรรษแล้ว เพื่อใช้ในการเรียนรู้ การระดมสมอง การจดจำข้อมูล การจินตนาการและการแก้ปัญหาโดยนักศึกษา วิศวกร นักจิตวิทยา รวมถึงบุคคลทั่วไป
ตัวอย่างของผู้คิดผังมโนภาพ ที่น่าจะเก่าแก่ที่สุดในโลกคือนักคิดในคริสต์ศตวรรษที่ 3 นามว่าพอไพรี ผู้ที่จำแนกนิยามที่ถูกคิดโดยอริสโตเติลไว้โดยการมโนภาพ
ในยุคปัจจุบัน ผู้ปฏิวัติรูปแบบของผังมโนภาพโดยการบูรณาการ คือ ดร.อัลลัน คอลลินส์ และนักวิจัยในช่วงทศวรรษ 60 (พ.ศ. 2500) เอ็ม.โรส ควิลแลนด์ เผยแพร่วิธีการคิดแบบใหม่นี้โดยการลงบทความ และทำการวิจัยเกี่ยวกับการศึกษาความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์และการมโนภาพ
ทำให้ ดร.อัลลัน คอลลินส์ ถือว่าเป็นบิดาแห่งผังมโนภาพสมัยใหม่ก็ว่าได้
โทนี บูซาน ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำในเรื่องแผนที่ความคิด มาช่วยในการจดจำระยะยาวที่เรียกว่าวิธีเนโมนิก ซึ่งได้แก่การนำความรู้ใหม่ไปผูกโยงกับความรู้เดิมที่มีอยู่ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสมองซีกขวาโดยการจินตนาการ
ด้วยหลักการใช้คำหลักเป็นตัวกำหนด แล้วขยายกิ่งก้านสาขาออกไป วิธีนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในเรื่องการทำประชาคม การบันทึกคำบรรยาย เป็นต้น
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สิริสวัสดิ์วุธวารบวร เพ็ญบูลย์วรพรสวัสดิ์วารนะคะ