bloggang.com mainmenu search





สัญลักษณ์แห่งหน่วยเอสเอ





ภาพโปสเตอร์เกณฑ์หน่วยยุวชนฮิตเลอร์
คำบรรยายโปสเตอร์อ่านได้ว่า:
"เยาวชนรับใช้ท่านผู้นำ
เด็กสิบขวบทุกคนจงเป็นยุวชนฮิตเลอร์"




การปกครอง

หลังจากวันที่ 14 กรกฎาคม 1933 นาซีเยอรมนีกลายเป็นประเทศที่ปกครอง ด้วยระบบพรรคการเมืองเดียวและเผด็จการเบ็ดเสร็จ ภายใต้พรรคนาซี การปกครองของนาซีเยอรมนีได้แบ่งเขตการปกครองของประเทศออกเป็นมณฑลย่อย เรียกว่า "เกา"

ซึ่งเริ่มแรกนั้น เยอรมนีแบ่งออกเป็น 32 เกา แต่ว่าภายหลัง ในปี 1938 พรรคนาซีได้ออกนโยบายไกลช์ชอัลทุง ซึ่งให้ยุบการปกครองในระดับท้องถิ่นและในระดับรัฐ แล้วให้ขึ้นตรงต่อพรรคนาซี ซึ่งเป็นรัฐบาลกลางของประเทศ

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง นาซีเยอรมนีสามารถยึดครองดินแดนอื่นได้ จึงได้สร้างการปกครองขึ้นมาใหม่ เรียกว่า "ไรช์เกา" (เยอรมัน: Reichsgau) ขึ้น จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1945 นาซีเยอรมนีมีเขตการปกครองรวมทั้งสิ้น 42 เกา

แนวคิดการปกครองของนาซี

สัญลักษณ์แห่งหน่วยเอสเอ

พรรคนาซีไม่เคยประกาศตนเองว่า ยึดถือลัทธิฟาสซิสต์เลย ทั้งลัทธินาซีและลัทธิฟาสซิสต์ ต่างก็เป็นแนวคิดทางการเมืองแบบนิยมทหาร ชาตินิยมและต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ และการสร้างเสริมกำลังทหารของตัวเอง รวมไปถึงทั้งสองแนวคิดตั้งใจที่จะสร้างรัฐเผด็จการ

แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ลัทธินาซีแตกต่างจากลัทธิฟาสซิสต์ในอิตาลี สเปนและโปรตุเกส นั่นคือ การกีดกันทางเชื้อชาติ แนวคิดนาซียังได้พยายามสร้างรัฐ ที่รวมอำนาจเข้าสู่บุคคลคนเดียวอย่างเบ็ดเสร็จ

ซึ่งไม่เหมือนกับลัทธิฟาสซิสต์ ที่ได้ส่งเสริมการปกครองแบบรวมอำนาจเข้าสู่บุคคลคนเดียว แต่ยังคงอนุญาตให้ประชาชนมีเสรีภาพบางส่วนได้ ดังนั้น ผลที่เกิดขึ้น คือ อิตาลียังคงเป็นการปกครองแบบราชาธิปไตยอยู่เช่นเดิม และพระมหากษัตริย์แห่งอิตาลี ก็ยังคงหลงเหลืออำนาจที่มีอย่างเป็นทางการอยู่ดี

ลัทธินาซีไม่ค่อยมีอะไรเป็นของตัวเอง ฮิตเลอร์ได้ลอกแบบสัญลักษณ์ตามอย่างฟาสซิสต์อิตาลี (ส่วนเครื่องหมายสวัสดิกะลอกแบบมาจากอินเดีย) ทั้งยังรวมไปถึง การทำความเคารพแบบโรมันมาใช้ เป็นการทำความเคารพฮิตเลอร์

และมีการใช้พวกที่แต่งตัวเหมือนกับทหารมาเป็นส่วนหนึ่งของพรรค (ในนาซีเยอรมนี คือ เอสเอ ส่วนในฟาสซิสต์อิตาลี คือ พวกเชิ้ตดำ) ฮิตเลอร์ยังได้ลอกการเรียก "ผู้นำของประเทศ" มาจากอิตาลีด้วย "ฟือเรอร์" มีความหมายถึง ท่านผู้นำ ในนาซีเยอรมนี ส่วนในฟาสซิสต์อิตาลีใช้คำว่า "ดูเช่" (Duce)

ทั้งสองเป็นแนวคิดที่ต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ มีแนวคิดที่จะทำสงคราม และยังสนับสนุนระบบเศรษฐกิจสายกลาง ระหว่างลัทธิทุนนิยมและคอมมิวนิสต์ (เรียกว่า corporatism)

พรรคนาซีปฏิเสธสัญลักษณ์แห่งลัทธิฟาสซิสต์ และยืนยันว่าตนยึดหลักตามแนวชาติสังคมนิยม แต่ว่า นักวิเคราะห์หลายท่าน ก็ยังจัดให้แนวคิดชาติสังคมนิยม ให้เป็นส่วนหนึ่งของลัทธิฟาสซิสต์อยู่ดี

แนวคิดเผด็จการของพรรคนาซีนั้น เป็นไปตามหลักคำสอนของลัทธินาซี พรรคนาซีได้บอกแก่ชาวเยอรมันว่า ความสำเร็จของชาติเยอรมนีในอดีตและประชากรชาวเยอรมันนั้น มีความเชื่อมโยงกับแนวคิดตามแบบชาติสังคมนิยม

แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะยังไม่มีแนวคิดดังกล่าวก็ตาม การโฆษณาชวนเชื่อได้เพิ่มความน่าเชื่อถือ และความแข็งแกร่งของแนวคิดของนาซี และสร้างความมีชื่อเสียงให้แก่ฟือเรอร์ ซึ่งก็คือ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้ถูกวาดภาพให้เป็นอัจฉริยะ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของพรรคนาซี และผู้ที่นำประเทศเยอรมนีให้พ้นภัย

เพื่อที่จะรักษาความสามารถที่จะสร้างรัฐเผด็จการเบ็ดเสร็จ พรรคนาซีได้สร้างองค์กรของตัวเอง เป็นพวกที่แต่งตัวเหมือนกับทหาร คือ หน่วยเอสเอ หรือ "หน่วยวายุ" ซึ่งมีหน้าที่จัดการกับพวกหัวซ้ายจัด พวกประชาธิปไตย ชาวยิว และคู่แข่งอื่นๆ หรือกลุ่มทางการเมืองขนาดเล็ก

ความป่าเถื่อนของหน่วยเอสเอ ได้สร้างความกลัวให้แก่พลเมืองของประเทศ ทำให้ชาวเยอรมันหวาดกลัวต่อการถูกลงโทษ ซึ่งบางครั้งถึงตาย ถ้าหากพวกเขาออกนอกลู่นอกทาง ที่พรรคนาซีได้วางเอาไว้ นอกจากนั้น หน่วยเอสเอยังได้มีส่วนช่วยในการดึงดูดเยาวชน ที่แปลกแยกจากสังคมหรือว่างงานเข้าสู่พรรคนาซีอีกด้วย

"ปัญหาของชาวเยอรมัน" ตามที่มักถูกกล่าวถึงในการศึกษาของอังกฤษ ได้พุ่งเป้าไปยังการปกครองของเยอรมนี ทางภาคเหนือและภาคกลางของทวีปยุโรป และเป็นแก่นสำคัญตลอดช่วงเวลาของประวัติศาสตร์เยอรมนี

ตามหลัก "ตรรกวิทยา" ของการรักษาให้ชาวเยอรมันทำงานเบาๆ เพื่อประโยชน์เกี่ยวกับการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และได้ถูกส่งไปปั่นป่วนการสร้างรัฐโปแลนด์ขึ้นมาใหม่หลังจากนั้น โดยมีเป้าหมาย คือ ถ่วงน้ำหนักจำนวนมากในความพยายามที่จะสร้าง "ความลงตัวของเยอรมนี"

พรรคนาซียังได้มีความคิดของการสร้าง Großdeutschland หรือ เยอรมนีอันยิ่งใหญ่ และเชื่อว่าการรวมชาวเยอรมันเข้าด้วยกัน เป็นประเทศเดียวจะเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่จะนำพาประเทศให้ประสบความสำเร็จ

แรงสนับสนุนอย่างจริงจังของนาซี ต่อแนวคิดเรื่องประชาชนซึ่งอยู่ในหลักการเยอรมนีอันยิ่งใหญ่ นำไปสู่การขยายตัวของเยอรมนี ให้ความชอบธรรม และการสนับสนุนสำหรับจักรวรรดิไรช์ที่สาม ที่จะเดินหน้าใช้กำลังเข้าควบคุมดินแดนของเยอรมนี ที่เคยสูญเสียไปในอดีต ที่มีประชากรที่ไม่ใช่เยอรมันอาศัยอยู่มาก

หรืออาจเข้ายึดครองในดินแดนที่ชาวเยอรมันอาศัย เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว พรรคนาซีมักอ้างถึงแนวคิดของเยอรมนีที่เรียกว่า Lebensraum (พื้นที่อาศัย) ซึ่งกล่าวถึงความจำเป็นในการเพิ่มประชากรเยอรมัน เพื่อเป็นข้ออ้างในการขยายดินแดน

เป้าหมายที่สำคัญสำหรับพรรคนาซีได้แก่ การยุบรวมเอาฉนวนโปแลนด์และนครเสรีดานซิก เข้าสู่จักรวรรดิไรช์ที่สาม ซึ่งเป็นอีกก้าวหนึ่งของนโยบายการแบ่งแยกเชื้อชาติของนาซี แผนการ Lebensraum มีส่วนที่เกี่ยวข้องกันหลายประการ

กล่าวคือ พรรคนาซีเชื่อว่ายุโรปตะวันออกควรจะเป็นดินแดน ที่อยู่อาศัยของชาวเยอรมัน และประชาชนชาวสลาฟที่อยู่ในแผ่นดินของนาซีเยอรมนี พวกเขาเหล่านั้นจะถูกใช้เป็นแรงงานราคาถูก หรือถูกเนรเทศไปทางทิศตะวันออกต่อไป

การเหยียดผิวและเผ่าพันธุ์นิยม ถือได้ว่าเป็นลักษณะสำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงนาซีเยอรมนี พรรคนาซีได้รวมเอาแนวคิดต่อต้านเซมไมท์ และต่อต้านคอมมิวนิสต์ และรวมไปถึงขบวนการหัวเอียงซ้ายข้ามชาติ และทุนนิยมตลาดสากลเช่นกัน

ดังที่เป็นผลงานของ "พวกยิวที่สมรู้ร่วมคิด" ซึ่งยังได้หมายความรวมไปถึงขบวนการ อย่างเช่น "การปฏิวัติพวกต่ำกว่ามนุษย์ ยิว-บอลเชวิค"

ผลที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากเกิดการโยกย้าย กักตัวและการสังหารชาวยิวและชาวโซเวียต อย่างเป็นระบบขนานใหญ่ ตามแนวรบด้านตะวันออก ทำให้ประชาชนเสียชีวิตไปอย่างน้อย 11 ถึง 12 ล้านคน ในช่วงเวลาระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง

ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า "การล้างชาติพันธุ์โดยนาซี"


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


จันทรวารสิริสวัสดิ์ ปรีดิ์มนัสวัฒนสิรินะคะ
Create Date :31 มกราคม 2554 Last Update :31 มกราคม 2554 20:33:11 น. Counter : Pageviews. Comments :0