ตราแผ่นดิน



เกี่ยวกับชื่อ

ในปี ค.ศ. 1933 เมื่อฮิตเลอร์ก้าวขึ้นสู่อำนาจ ชื่อของรัฐยังคงใช้อย่างเดิม (Deutsches Reich; จักรวรรดิเยอรมัน แต่หมายความถึง สาธารณรัฐไวมาร์) แต่ในเวลาไม่กี่ปีต่อมา ฮิตเลอร์ได้ใช้คำว่า จักรวรรดิไรช์ที่สาม (เยอรมัน: Drittes Reich)

ซึ่งเริ่มต้นมาจากนักเขียนต่อต้านประชาธิปไตยหัวเก่า ในช่วงปลายสาธารณรัฐ ตามข้อเท็จจริงแล้ว "นาซีเยอรมนี" เป็นเพียงคำที่ใช้ในทางการโฆษณาชวนเชื่อ และมิได้ตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ

อีกคำหนึ่งซึ่งใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อ ได้แก่ จักรวรรดิพันปี (เยอรมัน: Tausendjähriges Reich)

ในภายหลัง ฮิตเลอร์ได้ยกเลิกคำว่า จักรวรรดิไรช์ที่สาม อย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1939 แต่คำดังกล่าวยังคงแพร่หลาย ในกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มผู้ต่อต้าน


ประวัติศาสตร์

สมัยสาธารณรัฐไวมาร์

"นาซีเยอรมนี" ก่อร่างขึ้นจากความตระหนักในเกียรติภูมิของชาติ ความอับอายขายหน้า ความโกรธและความไม่พอใจ ด้วยผลจากสนธิสัญญาแวร์ซายส์

ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ในปี ค.ศ. 1929 เช่นเดียวกับลัทธิชาตินิยม อุดมการณ์รวมชาติ การก่อความไม่สงบ ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มมาร์กซิสต์

ปฏิกิริยาต่อต้านการถือประเพณีและเสรีนิยมในสมัยไวมาร์ และความรุ่งเรืองของคอมมิวนิสต์ ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่ เริ่มให้การสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายจัดและขวาจัด

ซึ่งมีแนวคิดทางการเมืองสุดโต่งแทน เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลอันประกอบด้วยพรรคการเมืองเหล่านี้ จะมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น

ประชาชนเริ่มให้การสนับสนุนพรรคนาซี ซึ่งสัญญาที่จะรักษาความสงบเรียบร้อย เสนอการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (เช่นเดียวกับการจ้างงานเต็มอัตรา) และฟื้นฟูเกียรติภูมิของชาติ

การโฆษณาชวนเชื่อของนาซี โจมตีสนธิสัญญาแวร์ซายส์ ระบบการเมืองของสาธารณรัฐไวมาร์ พร้อมกล่าวโจมตีกลุ่มบุคคลหลายกลุ่มรวมไปถึงการปราบปรามพวกยิวและมาร์กซิสต์

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1925 จนถึงคริสต์ทศวรรษ 1930 รัฐบาลเยอรมันได้เปลี่ยนแปลงจากระบอบประชาธิปไตย ไปสู่รัฐอำนาจนิยม ชาตินิยมและอนุรักษนิยม ภายใต้ประธานาธิบดีวีรบุรุษสงคราม พอล ฟอน ฮินเดนบูวร์ก

ผู้ซึ่งไม่นิยมระบอบเสรีประชาธิปไตย อย่างในสาธารณรัฐไวมาร์ ผลการเลือกตั้งสหพันธรัฐในปี ค.ศ. 1928 ปรากฏพรรคนาซีได้รับคะแนนเสียงต่ำมาก เพียง 12 ที่นั่ง เนื่องจากความเชื่อมโยงระหว่างฮิตเลอร์กับการปฏิวัติโรงเบียร์

อย่างไรก็ตาม พรรคนาซีได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1932 พรรคนาซีเป็นพรรคที่ครองที่นั่งมากที่สุดในไรช์สทัก

ประธานาธิบดีฮินเดนบูวร์ก รู้สึกไม่เต็มใจที่จะมอบอำนาจบริหารให้แก่ฮิตเลอร์

แต่อดีตมุขมนตรี ฟรานซ์ ฟอน พาเพน และฮิตเลอร์ได้สร้างพันธมิตรทางการเมือง ระหว่างพรรคนาซี และพรรคประชาชนแห่งชาติเยอรมัน (DNVP) ซึ่งเปิดทางให้ฮิตเลอร์เป็นมุขมนตรี

ซึ่งขัดต่อการพัฒนารัฐอำนาจนิยมของฮินเดนบูวร์ก ฮิตเลอร์แสดงความต้องการ ที่จะได้รับเลือกเป็นมุขมนตรี แลกเปลี่ยนกับการได้รับการสนับสนุน จากพรรคนาซีของฮินเดนบูวร์ก


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


สิริสวัสดิ์จันทรวาร สิริมานรมณีย์นะคะ