bloggang.com mainmenu search
สถานที่ท่องเที่ยว : วัดนิเวศธรรมประวัติ บางปะอิน พระนครศรีอยุธยา, อยุธยา Thailand
พิกัด GPS : 14° 13' 53.26" N 100° 34' 34.59" E



ดูแผนที่เพิ่มเติม



รถเก๋งสีขาวคันใหญ่ขับไปตามถนนอย่างชำนิชำนาญแทบไม่ต้องรออ่านป้ายบอกทางที่มีอยู่เป็นระยะๆเสียงคนขับบ่นกระปอดกระแปดถามย้ำเนวิเกเตอร์ประจำรถ “แน่ใจนาว่ามาทางนี้แน่ๆ”

“เดี๋ยวเหอะ... วัดนี้บอลมาตั้งแต่เด็กๆนะ พ่อเคยบวชพระที่วัดนี้องค์นึง เป็นโยมอุปปัตถากส่งเสียให้เรียนหนังสือตั้งแต่เป็นเณรอยู่ตั้งหลายปีจนจบปริญญาโทมั๊งจนพระขอลาสึกไปแต่งงาน พ่อโกรธมากวันที่พระมาขอลาสึกที่บ้านพ่อไม่ยอมออกมาคุยด้วยเลย”

เมื่อรถขับมาจวนจะถึงที่จอดรถของพระราชวังบางปะอินเนวิเกเตอร์จึงบอกให้เลี้ยว

“เดี๋ยวพี่เลี้ยวซ้ายเข้าทางที่จอดรถของพระราชวังปางปะอินเลยที่จอดรถของวัดอยู่ข้างในติดริมแม่น้ำไม่ต้องเสียเงินค่าจอด แต่ถ้าไม่มีที่จอดเราก็จอดในที่จอดรถพระราชวังบางปะอินก็ได้เนอะเสีย 20 บาทถือว่าเป็นการบำรุงสถานที่”


แค่เพียง 40นาทีกว่าๆจากชายขอบกรุงเทพฯแถวๆนนทบุรีคนขับและเนวิเกเตอร์อ้วนๆก็มายืนอยู่ริมแม่น้ำสายเล็กๆฝั่งตรงกันข้ามกับเราเป็นเกาะกลางแม่น้ำซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดหมายปลายทางของเราในอาทิตย์นี้...... จุดหมายปลายทางสำหรับอาทิตย์นี้หรือ ........ ช่ายยยยยออกเที่ยวกันทุกอาทิตย์เลยคราบบบบ



วัดนิเวศธรรมประวัติวรวิหารบางปะอิน พระนครศรีอยุธยา



“แม่น้ำนี้คือแม่น้ำอะไรอ่ะ”คนขับรถเจ้าปัญหาถามตอนที่กำลังเดินไปตามตลิ่งแม่น้ำเพื่อจะไปขึ้นกระเช้าข้ามแม่น้ำข้ามไปฝั่งเกาะกลางแม่น้ำ

“แม่น้ำเจ้าพระยาไงวัดนิเวศธรรมประวัติ ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศใต้ตรงข้ามกับพระราชวังบางปะอินเดี๋ยวพอข้ามไปฝั่งวัดแล้วเดินทะลุวัดไปพี่จะเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาอีกส่วนนึงกว้างกว่าทางด้านนี้ตั้ง 2 – 3 เท่ามั๊ง”

“เวอร์อีกแล้ว”คนขับรถติง

“ไม่ได้เวอร์นะจริงๆ” เนวิเกเตอร์ยืนยันคำพูดเดิมอย่างมั่นใจเต็มร้อย

ทั้งสองคนขึ้นกระเช้าข้ามแม่น้ำขนาดไม่ใหญ่มากมีที่นั่งประมาณ5-6 ที่ เดินกำลังด้วยเครื่องปั่นไฟ มีพระสงฆ์ผลัดเปลี่ยนมาเป็นคนขับเคลื่อนข้ามไปฝั่งวัดและเมื่อถึงฝั่งวัดเนวิเตอร์อ้วนก็หยอดเงินบำรุงค่าไฟวัดไปจำนวนนึงแล้วทั้งสองคนก็เดินเข้าประตูวัดทางฟากสังฆาวาส











“พี่รู้มั๊ยว่าวัดนิเวศธรรมประวัติเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรวิหารทีเดียวนะชื่อเต็มๆของวัดคือวัดนิเวศธรรมประวัติวรวิหาร สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปีพ.ศ. 2421 คือเมื่อรัชกาลที่ 5ท่านทรงบูรณะพระราชวังบางปะอินแล้วก็เห็นว่าน่าจะมีวัดใกล้พระราชวังไว้ทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศลและที่สำคัญวัดนี้เป็นวัดธรรมยุติด้วย”

“ธรรมยุติหรือ ธรรมยุตินิกาย ที่ตั้งขึ้นก็มีวัตถุประสงค์ฟื้นฟูวัตรปฏิบัติของพระให้มีความถูกต้องและเข้มงวดตามที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้เวลาว่างก็ให้ศึกษาพระธรรม” คนขับรถกล่าวลอยๆขัดขึ้นมา

“โอ้โห ....ความรู้แน่นนะเนี่ยะ .... ถามจริง รู้มาจากไหนอ่ะ”

“อย่าลืมดิว่าพี่เคยบวชมาพรรษานึงนะ”

“เออช่ายๆลืมไปอ่ะ “พี่ทิด””

“เดี๋ยวเหอะๆ”คนขับร้องเสียงหลงพร้อม เงื้อหมัดหมายจะทุบแต่เนวิเกเตอร์อ้วนใช้สายตาพิฆาตหยุดหมัดนั้นไว้กลางอากาศ







ทั้งสองคนเดินผ่านหมู่กุฎิที่สร้างในสไตล์“ตึกฝรั่ง” หลายรูปแบบ หลายสไตล์ ไปตามทางเดินที่ปูด้วยแผ่นหินแกรนิตหินขนาดใหญ่ลึกเข้าไปในพื้นที่วัดโดยมีจุดมุ่งหมายแห่งแรกคือพระอุโบสของวัดนิเวศธรรมประวัติซึ่งอยู่ด้านในสุดของวัดเนวิไกด์เตอร์เริ่มทำหน้าที่

“นี่แหละคือพระอุโบสถของวัดนิเวศธรรมประวัติสร้างตามพระราชดำริของรัชกาลที่5 ทรงโปรดเกล้าให้สร้างพระอุโบสถเลียนแบบโบสถ์ในคริสต์ศาสนา เพราะท่านเห็นเป็นของแปลกยังไม่เคยมีในประเทศไทยจึงให้ทรงสร้างวัดทั้งวัดด้วยศิลปะแบบยุโรปทั้งหมดพระอุโบสถที่เห็นนี่เป็นศิลปะแบบนีโอ - กอธิค (Neo - Gothic) เป็นโดมหอคอยปลายแหลม อาจารย์ที่สอนวิชาอารยธรรมตะวันตกเคยบอกว่า“ถ้าเห็นยอดแหลมๆ สูงปรี๊ดๆมีสัตว์ประหลาดตกแต่งอยู่ให้เดาไว่ก่อนว่าเป็นศิลปแบบโกธิค” แต่ศิลปะแบบนีโอ -กอธิคจะแตกต่างจากแบบกอธิคตรงที่การตกแต่ง โกธิคจะตกแต่งประดับประดาอลังการมากๆแต่แบบนีโอ - กอธิคจะมีการประดับตกแต่งน้อยกว่า ไม่อลังการเท่า โดมที่เห็นเป็นยอดแหลมๆมีหลังคาสีเขียวนั่นใช้เป็นหอระฆังอย่างในโบสถ์ในศาสนาคริสต์มีระฆังชุดและใช้เป็นหอนาฬิกาด้วยสร้างเป็นหอชั้นแรกเป็นทรงสี่แหลียมปลายสอบ วางยอดปราสาทจำลองไว้ที่มุมทั้ง 4 ด้านบนของชั้นที่หนึ่งมีนาฬิกาทั้งสี่ด้านชั้นที่ 2 และ 3 เป็นหอคอยทรง 8 เหลี่ยมยอดแหลมสูง 3 ชั้นมีหน้าต่างประดับกระจกสีโดยรอบทั้ง 2 ชั้น ชั้นบนเป็นที่ไว้ระฆังชุดตามแบบอย่างโบสถ์ในศาสนาคริสต์สูงขึ้นไปอีกเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุตามแบบอย่างวัดในพระพุทธศาสนา .....เฮ้อ ... เหนื่อย ....”

“อาร๊าย ...เล่าเรื่องแค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว ไหนบอกว่าฝันอยากเป็นไกด์ไงล่ะไหนลองสมมุติว่าพี่เป็นลูกทัวร์พาเที่ยววัดนิเวศธรรมประวัติหน่อยซิถ้านำเที่ยวถูกใจเที่ยงนี้จะพาไปกินกุ้ง เอาโลละ 1500 เลยถือว่าเป็นค่าเหนื่อยหาข้อมูลแล้วก็ค่าเหนื่อยพาเที่ยว”

เนวิไกด์เตอร์หรี่ตามองอย่างไม่แน่ใจว่าคนขับจะมามุขไหน...

“จริงๆ ลองดูๆเดี๋ยวพี่จะลองตั้งใจฟังดู เป็นการให้คะแนนไปด้วยไง” คนขับพูดย้ำเพื่อสร้างความมั่นใจให้

“จริงๆนะ ....ห้ามเบี้ยวนะ” เนวิไกด์เตอร์สำทับ







เนวิไกด์เตอร์เริ่มอธิบายถึงรายละเอียดของพระอุโบสถที่ดูแปลกตาไปจากพระอุโบสถตามวัดทั่วไปอย่างตั้งใจ.... .ใจของเนวิไกด์เตอร์เฝ้านึกถึงกุ้งเผากิโลกรัมละ1500 บาทเท่านั้น !!!


“วัดนิเวศธรรมประวัติออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโดยโยอาคิม กราซี สถาปนิกชาวฝรั่งเศสที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยรุ่นแรกๆ พระอุโบสถก่อด้วยอิฐฉาบปูนใช้โครงสร้างผนังรับน้ำหนัก ผนังหนา 70 เซนติเมตร ตอนที่เค้าสร้างพระอุโบสถนี้เอค้าใช้ทรายใส่โอ่งดินจนเต็มหลายสิบโอ่งแล้วเอาไปเรียงซ้อนกันเอาไว้ใช้เป็นฐานรากพระอุโบสถภายในไม่มีการการปิดปังโครงสร้างหลังคาที่เป็นหน้าจั่ว”


“พระอุโบสถมีผังเป็นรูปสี่หลื่ยมผืนผ้ามีแปลนที่สมมาตรคือด้านซ้ายและด้านขวาเท่าๆกันที่ต่างไปจากโบสถ์ – วิหาร ในคริสต์ศาสนาก็คือมีหอระฆังหรือที่เค้าเรียกกันว่า“คัมปะเนเล่” อยู่ทางด้านหลัง อย่างที่ตอนเราไปอิตาลีพี่สังเกตมั๊ยว่าโบสถ์ –วิหารส่วนใหญ่จะมีหอระฆังตั้งอยู่ด้านหน้าหรือด้านข้างของทางเข้าแต่ที่วัดนิเวศธรรมประวัตินี่มีหอระฆังอยู่ด้านหลัง”


เนวิไกด์เตอร์อธิบายต่อไปว่า “พระอุโบสถมีทางเข้าทางเดียวอยู่ทางทิศเหนือที่เรายืนอยู่นี่แหละ ด้านหน้าพระอุโบสถมีซุ้มเล็กๆ 2ซุ้มอยู่ทางซ้ายและขวาเหนือทางเข้า มีรูปเทวดาถือพิณกับเทวดาเป่าสังข์หน้าบันพระอุโบสถทำเป็นตราพระราชลัญจกรแผ่นดินหรือตราอาร์มกระจกสีอันตรงกลางถ้ามองจากด้านในจะเป็นพระบรมสาทิศลักษณ์ของรัชกาลที่ 5”













“เดี๋ยวนะๆ ขอถ่ายรูปก่อนนะ เดี๋ยวอธิบายต่อ ...” เนวิไกด์เตอร์ร้องขอเวลาแพร๊บ เพื่อไปถ่ายรูป(เอามาทำบล็อกนี่แหละครับ อิอิอิ) คนขับจึงเตร็จเตร่อยู่บริเวณทางเข้าพระอุโบสถรอเนวิไกด์เตอร์ถ่ายรูปเสร็จจะได้เข้าไปพร้อมๆกัน



(โปรดติดตามต่อตอนที่ 2 นะคราบ)



Chubby Lawyer Tour ........ เที่ยวไป ...... ตามใจฉัน


SmileySmileySmiley

Create Date :06 กุมภาพันธ์ 2558 Last Update :6 กุมภาพันธ์ 2558 17:20:03 น. Counter : 2682 Pageviews. Comments :16