บทความนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากกระทู้ X6897664 ของคุณ DEVIL PHOENIX ณ ห้องหว้ากอครับ

ถ้ากองทัพไทยต้องการซื้อรถถังใหม่ ควรซื้อแบบไหนดีครับ
ตามชื่อกระทู้เลยครับ ผมเห็นใช้แต่ M-60 รุ่นต่างๆแต่ละคันอายุอานามมันก็ไม่น้อยแล้วนา หากกองทัพไทยมีงบจัดหารถถังใหม่มาใช้งานคุณคิดว่าควรเอาแบบไหนดีครับ 1.M1A2 abrams สัญชาติ อเมริกัน 2.Leopard 2 สัญชาติ เยอรมัน 3.Leclerc สัญชาติ ฝรั่งเศส 4.Merkava Mk4 สัญชาติ อิสราเอล 5.Challenger2 สัญชาติ สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) 6. T-90 สัญชาติ รัสเซีย 7. เอา M60 เหมือนเดิมนั้นแหละ ไปซื้อเลหลังจากประเทศที่เค้าจะเลิกใช้แล้ว ในรายชื่อที่กล่าวมาแล้วมีบางแบบที่ได้ออกรบจริงมาแล้ว แล้วถ้าเราซื้อแบบมาผลิตเองมันจะถูกกว่าซื้อมาเองรึเปล่า
จากคุณ :DEVIL PHOENIX
|
ในภูมิภาคนี้ที่เพิ่งจัดหารถถังหลักใหม่ก็คือมาเลเซีย (PT-91M จำนวน 48 คัน) และสิงคโปร์ (Leopard 2A4 66 คัน) <<<< สองประเทศนี้ใครซื้ออะไรอีกคนต้องซื้อมาตอบโต้ครับ Leopard 2A4 เป็นรถถังรุ่นที่หนักที่สุดในอาเซียนคือราว 60 ตัน ส่วนรองลงมาก็คือ M60 ที่เรามีนี่แหละครับ มันหนักราว 55 ตัน ในขณะที่ PT-91M หนักเพียง 45 ตันเท่านั้นเอง
รถถังเบาที่หนักราว ๆ 20 - 35 ตันแบบ Stingray หรือ Scorpion นั้นไม่มีใครผลิตแล้ว ฉะนั้นถ้าจะหารถถังแบบใหม่ ก็ต้องเริ่มมาคุยกันที่น้ำหนักตั้งแต่ 45 ตันขึ้นไปเรื่องน้ำหนัก ต้องลองอ่านความเห็นที่ 12 ของคุณ perspeceviT ครับ
(perspeceviT - ผมว่าเรื่องน้ำหนักรถถัง ควรเลิกพูดกันได้แล้วนะครับ มันไม่เป็นวิทยาศาสตร์เลย ที่ควรพูดพึงกันคือ น้ำหนักรถถัง ที่กระจายผ่านสายผ่านลงสู่ดิน ต่อ ตารางฟุต ดีกว่าครับ อันนั้น จะทำให้เห็นภาพว่าอันไหน มันจะติดหล่มได้ดีกว่า) จุดสำคัญอยู่ตรงนั้น ........ แน่นอนบ้านเราดินอ่อน
แต่ลองสังเกตุดูรายละเอียดความต้องการที่ทบ.เขียนเอาไว้ครับ ทบ. ไม่ได้ระบุไว้ว่าจะเอากี่ตัน ฉะนั้นตอนทดสอบก็คงต้องดูข้อมูลการกระจายน้ำหนักต่อพื้นที่ของแต่ละแบบครับ เพราะรถถังบางแบบ แม้จะหนักหลายสิบตัน แต่แรงกดต่อพื้นที่อย่างกะรถกระบะยังไงอย่างงั้น
.....
.....
.....

Leopard 2A4ถึง M60 จะมีอายุไม่น้อย แต่ตอนนี้เงินยังไม่มี และความจำเป็นในการจัดหารถถังใหม่นั้นต่ำมากครับ ฉะนั้นรับประกันได้เลยว่าจะยังไม่มีการจัดหารถถังหลักรุ่นใหม่ในเร็ว ๆ นี้แน่นอนครับอ้างอิงจากรายละเอียดความต้องการเดิมของกองทัพบก
กองทัพบกต้องการจัดหารถถังหลักจำนวน 200 คันเพื่อทดแทนรถถังรุ่นเก่าครับ หลังจากมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนความต้องการไปเมื่อปีที่แล้ว คาดว่าระยะเวลาที่ทบ.จะจัดหารถถังหลักรุ่นใหม่คือในอีกราว 6 - 8 ปีข้างหน้า หรือบางทีอาจจะถึง 10 ปีเลยล่ะครับ
ฉะนั้นก็ต้องมาดูว่า ในตอนนั้นมีรถถังหลักรุ่นไหนบ้างที่ยังอยู่ในสายการผลิต และต้องเข้ากับคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้
"บันทึก ๒๘ โครงการจัดหา ถ. ที่มีความทันสมัย เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของไทยเครื่องยนต์ดีเซล ระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า ๔๕๐ กม. ความเร็วใน ภูมิประเทศไม่น้อยกว่า ๔๐ กม./ชม. ความเร็วบนถนนไม่น้อยกว่า ๖๐ กม./ชม. มีระบบ Stabilizer สามารถปฏิบัติในเวลากลางคืนได้ มีระบบควบคุมการยิงแบบอัตโนมัติ"ต่อไปนี้คือความเห็นส่วนตัวเบื้องต้น รถถังตัวเลือกทั้ง 6 แบบผ่านคุณสมบัติข้างต้นทั้งหมดครับ
แต่ Challenger 2 นั้นปิดสายการผลิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2002 ฉะนั้นตัดมันไปก่อนครับอย่างที่สอง ตัด
M1A2 ทิ้งไปด้วยความรวดเร็ว
เนื่องจากแม้ว่ารถถังจะดี แต่เราไม่มีปัญญาจ่ายค่าน้ำมันแน่นอนครับ เพราะมันเล่นใช้เครื่องยนต์ Gas Turbine อย่างกะเครื่องบินรบ เอามาก็เอามาจอดลูกเดียวครับ
ตัด
Merkava ทิ้งเป็นแบบที่ 3 ครับ
เนื่องจากมีแต่อิสราเอลที่เป็นผู้ใช้รายเดียว อีกทั้งในอีก 4 ปีหรือมากกว่านั้นนิดหน่อยสายการผลิตก็คงต้องปิดลง คงยากที่จะทันเสนอให้ไทยครับLeclerc แม้ว่าจะยังผลิตอยู่
แต่ก็ใกล้ปิดสายการผลิตเต็มทนแล้ว อีกทั้งยีงมีแค่สองชาติที่ใช้นั้นคือฝรั่งเศสคนผลิตและ UAE
สุดท้ายผมมีอคติกับอาวุธฝรั่งเศสอยู่นิดนึงที่ราคาของมันส่วนใหญ่ค่อนข้างแพง บางอย่างแพงแบบไร้สาระ ทำให้คงต้องตัดทิ้งอีกเหมือนกันครับ
เหลือแต่
T-90 กับ
Leopard 2รถถังสองรุ่นนี้ต่างขายดีเหมือนกันครับ
อย่างล่าสุดกรีซก็กำลังได้รับมอบ Leopard 2A6 ราวร้อยกว่าคัน ส่วนซาอุก็เพิ่งสั่ง T-90S ไป 150 คัน ทั้งสองแบบต่างเป็นรถถังที่ดีเยี่ยมของแต่ละค่าย และยังคงความทันสมัยไปอีกนาน โดยรวมแล้วเลือกแบบใดก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ครับ
T-90 อาจจะมีปัญหาบ้างในการเข้ากันได้ของระบบสื่อสาร แต่ก็เปลี่ยนระบบสื่อสารให้เป็นระบบนาโต้ได้ไม่ยาก ถ้าจะเอาก็คงเป็น 1 ใน 2 รุ่นนี้แหละครับ
อันนี้พูดถึงกรณีอยากได้มือ 1แต่ถ้าดูตามความเป็นจริงแล้ว มองดูภัยคุกคามจากรถถังในภูมิภาคนี้นั้นยังไม่มาก รวมถึงรถที่ต้องจัดหามาทดแทนนั้นมีจำนวนมาก ถ้าจะเอาแต่คุณภาพไปเลยเกรงว่าปริมาณจะไม่พอ (รถถังใหม่น่าจะมาทดแทน Type-69II หรือ M41 ราว 300 คันครับ) ผมว่า
ซื้อ Leopard 2A4 มือสองจากเยอรมันมาใช้ดีกว่าครับ เหตุผลแรกคือราคาถูก
อย่างที่สิงคโปร์ซื้อไป 96 คัน (เป็นอะไหล่ 30 คัน) นั้นใช้เงินคันละราว 1 ล้านเหรียญ แต่ถ้าซื้อรถถังใหม่แต่ละแบบจากโรงงานราคาจะแพงมาก อาจจะ 3 -8 ล้านเหรียญต่อคันทีเดียวครับ สองร้อยคัน ใช้เงินราว ๆ 200 - 300 ล้านเหรียญ ยังอยู่ในวิสัยที่ทบ. จะจ่ายได้ (แบ่งจ่ายราว 2 ปีงบประมาณตามแผน) เทียบกับของใหม่ที่อาจจะต้องจ่าย 1 พันล้านเหรียญขึ้นไป อันนี้ไม่มีปัญญาจ่ายแน่นอน
รถถังมือสองอย่าง Leopard 2A4 นี้มีถึงกว่าสิบประเทศที่จัดหาไปใช้ (และยังเหลือให้ซื้ออีกเยอะ) อายุการใช้งานยังใช้ได้อีกหลายปี และถึงแม้มันจะไม่ใช่รุ่นล่าสุด แต่เมื่อเปรียบเทียบกับรถถังในอาเซียนแล้วมันก็เป็นสุดยอดได้เลยแหละครับแต่อย่าลืม อีกนานครับกว่ามันจะเกิดขึ้น ตอนนี้คุยกันไปชิว ๆ ก่อนครับ เพราะตอนนี้เรื่องภาคใต้ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ...... สาเหตุที่เรื่องภาคใต้ต้องมาเป็นอันดับหนึ่งก็เพราะว่ามันเป็นภัยคุกคามเฉพาะหน้าที่เราต้องจัดการครับ ในงบประมาณอันจำกัด การจัดลำดับความสำคัญเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด
ฉะนั้นการจัดหาอาวุธที่สามารถใช้งานในภาคใต้ก่อนอย่างอื่นก็จะเป็นการตอบสนองการปฏิบัติการครับ อย่างปืน TAR-21 กับรถเกราะ BTR-3E1 ก็สามารถนำไปใช้งานในภาคใต้ได้ แต่รถถังยังรอได้ เพราะภัยคุกคามยังไม่เด่นชัดนัก และของที่มีอยู่ยังพอใช้ได้ จังยังสามารถเลื่อนอันดับความสำคัญลงไปได้ครับ
.....
.....
.....

M60เรื่องรถถังนั้น ความจริงเราต้องถามตัวเองด้วยครับว่า เราต้องการรถถังแบบใดมาทำภารกิจอะไร?เพราะอาวุธต้องจัดหาเมื่อมีภารกิจ ..... ไม่ใช้จัดหามาก่อนแล้วค่อยมาหาภารกิจทีหลัง[1] ถ้าจะเอาไว้ยันรถถังจากแถว ๆ นี้ที่น่าจะเป็นภัยคุกคามของเรา การจัดหา M60 มือสองเพิ่มอีกไม่เพียงพอครับ เพราะเชื่อได้เลยว่าจัดหาครั้งนี้ทบ.จะใช้มันไปอีก 40 ปีเป็นอย่างน้อยแน่นอน ถึงตอนนั้น M60 แทบไม่เหลือสภาพแล้วล่ะครับถึงแม้จะปรับปรุงให้มันทันสมัยก็ตาม เพราะพื้นฐานของมันไม่ได้ทันสมัยถึงขนาดเป็นรถถังที่ออกหน้าตลอด ........
อันนี้ในกรณีที่จะเอามาแทนรถถังหลักครับ ผมเสนอว่าจัดหา Leopard 2A4 มือสองน่าจะดี[2] ส่วนอีกด้านหนึ่ง ปัญหาหลักของเราตอนนี้คือ ไม่มีใครผลิตรถถังเบาแล้วครับ ส่วนใหญ่จะเป็นรถถังขนาดหนักทั้งสิ้น นอกจาก 6 แบบที่กล่าวมาแล้ว
ทั้ง Type-90 ของจีน, Al-Khalid ของปากีสถาน, XK-2 ของเกาหลีใต้ ฯลฯ ล้วนเป็นรถถังขนาดใหญ่ทั้งสิ้นแต่ในอีกกรณีหนึ่ง
มันมีภารกิจที่น่าสนใจก็คือภารกิจการสนับสนุนทหารราบครับ ทุกวันนี้เราใช้ M41 ซึ่งเป็นรถถังเบาเป็นตัวหลักในการทำภารกิจนี้ หน้าที่ของมันคือ ช่วยยิงสนับสนุนการรบของทหารราบ
ด้วยความที่มันมีขนาดเล็ก ทั้งน้ำหนักเบาและปืนก็มีขนาดเล็ก ดังนั้นจึงค่อนข้างสะดวกในการนำมาประยุกต์ในภารกิจนี้ ประมาณว่าทหารราบไปไหน มันไปด้วย
แต่ว่าอายุของมันนี่เข้าขั้นคุณทวด เพราะมันคือรถถังหลงยุคจากสงครามเกาหลีนั้นเอง ตอนนี้แค่บางส่วนมันยังวิ่งได้กับยิงปืนได้ก็ดีใจแย่แล้วครับ
ฉะนั้น จาก [1] และ [2] ..... ถ้าเรายังอยากได้รถถังเบาอยู่ ลองหารถรบทหารราบ (Infantry Fighting Vehicle:IFV) มาใช้ดีไหมครับ?IFV คืออะไร? พูดภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ลักษณะมันจะคล้าย ๆ รถเกราะลำเลียงพลยูเครนนั่นแหละครับ ใช้ขนทหารได้
แต่สิ่งที่แตกต่างคือ มันติดอาวุธที่สามารถสนับสนุนการรบของทหารราบได้ครับ อาวุธที่ติดได้ก็มีตั้งแต่ปืนกลไปจนถึงป้อมปืนรถถัง ........ เพียงแต่มันจะมีความสามารถไม่เท่ารถถัง เพราะเกราะมันบางกว่า และการออกแบบนั้นสู้กับรถถังแท้ ๆ ไม่ได้
งงไหมครับ? ถ้างงก็ตามนี้นะครับ ^ ^
รถเกราะลำเลียงพล (Armed Personal Carrier: APC) - เป็นรถติดเกราะที่ใช้ขนทหารราบ
รถรบทหารราบ (Infantry Fighting Vehicle:IFV) - เป็นรถติดเกราะที่ใช้ขนทหารราบ พร้อมติดอาวุธเพื่อให้การสนับสนุนการรบของทหารราบ
รถถัง (Tank) - รถสายพานติดปืนติดเกราะหนา ๆ
IFV จะดีเท่ารถถังหรือไม่? ไม่แน่นอนครับ มันสู้รถถังแท้ ๆ ลำบากอยู่
แต่น้ำหนักมันเบากว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องติดหล่มติดเลนมากนัก ที่สำคัญคือมันขนทหารได้นี่สิครับ ทำให้มันอเนกประสงค์กว่า เช่นตอนนี้ ขนรถถังลงใต้ก็คงแทบไม่ได้ประโยชน์ เพราะไม่รู้จะไปถล่มใคร ขนทหารก็ไม่ได้ เปลืองก็เปลือง แต่ถ้าขน IFV ลงใต้ น่าจะได้ประโยชน์มากกว่ามากครับ
ความจริงไอ้เจ้า BTR-3E1 จากยูเครนนี่ ถ้าติดอาวุธแบบเต็มสูบ ก็สามารถทำหน้าที่เป็น IFV ได้นะครับ อาวุธแต่ละอย่างของมันโหดและบ้าสงครามมากเหมือนกัน 555+ในกรณีนี้ผมว่า ...... ถ้าเราอยากได้รถถังที่จะมาแทน M41 รุ่นคุณปู่ที่ทำภารกิจสนับสนุนทหารราบ รถ IFV น่าจะเป็นตัวเลืกที่น่าสนใจที่สุดแทนการจัดหารถถังเบา .... แต่ถ้าเราอยากจัดหารถถังมาแทน Type-69II ที่เอาไว้ยันรถถังบ้านอื่นแล้วล่ะก็ ซื้อ Leopard 2A4 มือสองก็น่าสนนะครับ


ตอนนี้คอมพ์เสีย ยังไงรอใส่รูป-เพิ่มสีพรุ่งนี้นะครับ ^ ^
บทความต่อไป ..... ตอบคำถามน้องผิงเรื่องสงครามครับ!