มือสมัครเล่น มืออาชีพ
นี่ก็คือวิธีการต่างๆ ที่จะทำให้จิตใจของเรา
เข้าสู่พระนิพพานต้องทำกันไปเป็นขั้นเป็นตอน
เพราะมันเป็นสิ่งที่ สนับสนุนกันเหมือนขั้นบันได
เราเดินบันไดนี้เราต้องก้าว
จากขั้นที่ ๑ ไปสู่ขั้นที่ ๒ ขั้นที่ ๓
ไม่มีใครกระโดดขึ้น ไปขั้นที่ ๔ ขั้นที่ ๕ เลย
เพราะมันเป็นไปไม่ได้ มันยาก
มันต้องก้าวไปทีละก้าว ท่านถึงสอนให้เรา
มีความกตัญญูกตเวทีเป็นพื้นฐานของความดี
จะทำให้เรามีความเสียสละ
จะทำให้เราอยากจะทำความดีกัน
พอเรามีความอยากทำความดีมีฉันทะ วิริยะ
เราก็จะทำทานกันตามที่พระพุทธเจ้าสอน
ทำทานกัน รักษาศีล ๕ กันไปก่อน
แล้วก็ไหว้พระสวดมนต์ภาวนาเช้า-เย็นไป
ซ้อมไว้ก่อน หัดไว้ก่อน เพราะเวลาเริ่มต้นนี้
เรายังมีภารกิจ การงานต่างๆ ที่ยังต้องทำอยู่
แต่ถ้าเราเป็นคนที่ว่างงานไม่มีภารกิจอะไรนี้
เราก็ไปภาวนาได้เลย ไปบวชเลย ไปอยู่วัดเลย
ไปศึกษากับครูบาอาจารย์เลย
แต่ถ้าเรายังมีครอบครัว หรือมีภาระต่างๆ
ที่ต้องรับผิดชอบอยู่ เราก็ค่อยๆ ปลูกฝังธรรม
ตามเวลาที่เรามีกัน เราไม่มีเวลามาก
เพราะเราต้องไปทำมากิน ไปทำงานทำการ
เราก็จะทำได้แต่ช่วงเช้าก่อนที่เราจะไปทำงานกัน
เราก็มาปลูกฝังจิตใจให้รู้จักการเจริญสติ
การภาวนา ด้วยการไหว้พระสวดมนต์
ด้วยการนั่งสมาธิกันไป ด้วยการฟังเทศน์ฟังธรรม
เพื่อจะได้รู้ว่าวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องนั้น ปฏิบัติอย่างไร
มีธรรมเตือนใจไม่ให้หลงไปกับกระแส
ของกิเลสตัณหาต่างๆ และเราก็ไปทำงานทำการกัน
กลับมาบ้านกินข้าวแล้วก็ก่อนจะนอน
ก็มาปฏิบัติธรรมกันต่อ นั่งสมาธิไหว้พระสวดมนต์
ฟังเทศน์ฟังธรรมกัน แล้วก็นอนพักผ่อนไป
ก็ทำได้เท่านี้ถ้าเรายังมีภารกิจการงานต่างๆ
แต่ถ้าเราไม่มีภารกิจ
หรือเราสามารถตัด ภารกิจต่างๆ ได้
เราก็ไปอยู่วัดเลย ไปศึกษาจากครูบาอาจารย์กัน
ไปปฏิบัติกัน แล้วมันก็จะทำให้เราได้ก้าวเข้าสู่
การปฏิบัติเต็มรูปแบบ
เพราะการที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานได้
มันต้องปฏิบัติแบบเต็มรูปแบบเท่านั้น
ถ้าปฏิบัติแบบมือสมัครเล่นนี้ มันสู้มืออาชีพไม่ได้
เวลาแข่งขันกีฬานี้เขามีแต่มืออาชีพที่ได้รางวี่รางวัลกัน
มือสมัครเล่นนี้ก็เป็นการ ออกกำลังกายกันเสียมากกว่า
ไม่ได้หวังเอารางวี่รางวัลอะไรกัน
แต่พวกมืออาชีพนี้เขาต้องการรางวัลกัน
เขาก็เลยไม่ทำอะไร เขามีแต่ซ้อมกีฬาอย่างเดียว
ถือการซ้อมกีฬาเป็นอาชีพของเขาไป
พวกที่ต้องการไปนิพพาน
ก็ถือการภาวนาเป็นอาชีพไป เป็นนักบวชไป.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
....................................
สนทนาธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ