<<< "เราควรมาฝึกฝนอบรมจิตใจของเราให้ฉลาด" >>>












"เราควรมาฝึกฝนอบรมจิตใจ

ของเราให้ฉลาด"

ทุกสิ่งทุกอย่างมีเกิดแล้วก็ต้องมีดับไป

เช่นเขาด่าเราแล้ว เดี๋ยวเขาก็ต้องหยุดด่าเอง

เขาไม่มีกำลังที่จะด่าไปตลอดเวลา

 ปล่อยให้เขาด่าเราให้เต็มที่เลย

เเล้วเดี๋ยวเขาก็หมดกำลังไป

 แล้วเขาจะไม่กลับมาด่าเราอีก

 เพราะรู้ว่าด่าแล้วไม่ได้อะไร

ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเดือดร้อน

หรือวุ่นวายใจกับคำด่าของเขา เขาด่า เราก็ฟังเขาด่า

ความจริงเขาก็ไม่ต้องการอะไร

ต้องการระบายความรู้สึกที่มีอยู่ภายในใจของเขา

 เหมือนเราระบายความรู้สึกของเรา

 เราไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเขาฟังหรือไม่ฟัง

เขาชอบหรือไม่ชอบ เราไม่สนใจ

เราเพียงแต่อยากระบายความคับแค้น

 ที่ออกจากใจเราเท่านั้นเอง

พอระบายหมดไปแล้ว ก็ไม่รู้จะระบาย

 ถ้าไม่ได้ระบายอาจจะระเบิดขึ้นมาได้

ถ้าไม่ได้พูด เดี๋ยวจะเอาปืนมายิงเรา มาฆ่าเราก็ได้

 เหมือนกับกาน้ำ ที่เราต้มน้ำ

 ถ้าเราไม่มีรูให้ไอน้ำมันออกมา

เดี๋ยวกาน้ำจะต้องระเบิด

ดังนั้น ถ้าเขาอยากจะด่า

 อยากจะระบายความเครียดแค้น

 ความโกรธไม่พอใจของเขาออกมา

 ก็ปล่อยเขาพูดออกมา

ก็ดีแล้ว ปล่อยเขาพูดดีกว่าเขามาตีเรา

 เขาด่าเราดีแล้วเขาไม่ตี

เขาตีเราก็ดีแล้วที่เขายังไม่ฆ่าเรา

 ให้คิดอย่างนี้แล้วเราจะอยู่นิ่งเฉยได้

 เราจะไม่เดือดร้อนกับการกระทำต่างๆ

 ของคนทั้งหลาย

ไม่ว่าจะชมก็ไม่ได้ตื่นเต้นดีอกดีใจ

 คำชมก็เป็นเสียงเหมือนกัน

คำด่าก็เป็นเสียงเหมือนกัน

ชมแล้วก็หายไปเหมือนกัน

ด่าแล้วก็หายไปเหมือนกัน

 คนฟังก็ยังเป็นเหมือนเดิมอยู่ ไม่ได้วิเศษ

 ไม่ได้เป็นทองขึ้นมา

 เวลาเขาชมเราว่าดียังงั้นดีอย่างนี้

 เราก็ไม่ได้เป็นทองเป็นเพชรขึ้นมา

เวลาเขาด่าเรา เราก็ไม่ได้เป็นโคลนเป็นตมตามที่เขาด่า

 เราก็ยังเป็นคนเดิมอยู่เหมือนเดิมอยู่ทุกอย่าง

แล้วเราไปตื่นเต้นดีใจเสียใจ

กับการชมกับการด่าของคนอื่นทำไม ก็แสดงว่าเราโง่

เราไม่รู้จักรักษาใจของเราให้อยู่อย่างสุขอย่างสบาย

เราต้องเป็นเหมือนจิ้งหรีดให้เขามาปั่นอยู่เรื่อยๆ

 เวลาเขาปั่นเรา เราก็ร้องกรี๊ดๆ ขึ้นมาดีอกดีใจขึ้นมา

เวลาเขาด่าเราก็ร้องห่มร้องไห้ขึ้นมา

 แล้วเราได้อะไรจากการด่าการชมของเขา

 เราก็ยังเป็นคนเดิมอยู่เหมือนเดิม

ดังนั้น เราควรมาฝึกฝนอบรมจิตใจของเราให้ฉลาด

ให้เป็นหินให้มีความหนักแน่น

 ไม่ให้สะทกสะท้านกับสิ่งต่างๆ ทั้งหลายในโลกนี้

เพราะว่า มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นร่างกายไม่ได้เกิดขึ้นกับใจ

 ใจแค่เพียงอาศัยร่างกายเพื่อมารับรู้เหตุการณ์ต่างๆ

 เหมือนกับเราดูภาพยนต์ เราไม่ได้อยู่ในจอภาพยนต์

 เหตุการณ์ในจอภาพยนต์ไม่เกี่ยวกับเรา

 เราเพียงรับรู้เท่านั้น.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

...............................

ธรรมะบนเขา

วันที่ 22 ธันวาคม 2556







ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 25 มกราคม 2561
Last Update : 25 มกราคม 2561 13:10:20 น.
Counter : 506 Pageviews.

0 comments
: รูปแบบของชีวิต : กะว่าก๋า
(17 เม.ย. 2567 04:37:20 น.)
: รูปแบบของการตระหนักในการรับรู้ : กะว่าก๋า
(15 เม.ย. 2567 05:37:45 น.)
เติมให้ความมี เติมให้ความไม่มี ปัญญา Dh
(14 เม.ย. 2567 20:54:29 น.)
สุขสันต์วันปีใหม่ไทย ๒๕๖๗ haiku
(13 เม.ย. 2567 10:13:33 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Poungchompoo.BlogGang.com

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]

บทความทั้งหมด