เมื่อตอนเย็นได้ฟังธรรมหลวงตาเรื่อง เทวดามาขอพบหลวงปู่มั่น
เราชอบมาก
โดยเฉพาะในวันสิ้นปี ที่เป็นวันพระใหญ่แบบนี้
ชอบตรงที่เทวดารู้ถึงจิต เพราะเป็นของทิพย์
และชอบที่บอกว่า เทวดาแต่ละองค์ชอบบทสวดมนต์ไม่เหมือนกัน
จึงมาขอให้หลวงปู่มั่นสวดบทที่ตัวเองชอบเยอะหน่อย
และหลวงปู่มั่นก็ไม่ได้สวดออกเสียง
ท่านสวดในใจ
แต่ก้องกังวานทั่วโลกธาตุ เทวดาจึงได้ยิน ..
เราเลยคิดถึงแม่ ที่บอกให้เราล้างเท้าก่อนนอน เดี๋ยวเทวดาไม่มารักษา
คิดถึงคืนวันปีใหม่ ที่แม่ต้องจุดเทียนหน้าบ้าน
บอกว่าเทวดาจะลงมา
คิดถึงหนังสือหลวงพ่อจรัญ
ที่เล่าเรื่องแม่ชีมาบอกว่าเทวดาชวนสวดมนต์ตอนเที่ยงคืน
คิดถึงรุ่นพี่ที่ยังมีชีวิตอยู่เล่าให้ฟังว่าเคยไปวัด
และมีเสียงสวดมนต์กลางคืน ทั้งที่ตอนนั้นไม่มีใครแล้ว
ในแง่มุมใดก็ตาม
เทวดา มีมิติทิพย์ที่เราชื่นชมอยู่ไม่คลาย
@@@@@
กลับมาที่คนบ้าง
คนที่เป็น ชาวบ้าน
ชาวบ้าน แบบ ชาวบ้านจริงๆ
หมายถึงคนที่อยู่กับปัจจัยสี่บ้านๆ
อยู่กับท้องนาท้องไร่
แบบไม่มีเรื่องเศรษฐกิจซับซ้อนเยี่ยงตลาดหุ้น
ในชีวิตมีแค่ตลาดสด ไม่ติดแอร์
ไม่ได้เอาตังค์ไปยัดลูกเข้าโรงเรียน
ไม่ได้เดินดูของแต่งตัวหรูหรา
และเป็นคนที่หยุดฆ่าสัตว์ในวันพระ
แต่ไปนั่งประนมมือสมาทานศีลแปดที่วัด
.. ในกลิ่นอายไทยต่างจังหวัดที่ยังเหลืออยู่
เป็นชาวบ้านแบบที่ในหลวงเสด็จมาเยี่ยม
มาดูความเป็นอยู่ รวมทั้งพระราชทานความช่วยเหลือ
ใช่, ชาวบ้านสามัญ
เขามีอยู่ ยังมีอยู่
และมิติของเขา ก็น่ารัก
ในความไม่ซับซ้อน
ความน่ารักแบบ คนธรรมดา ก็มีมิติที่เราชื่นชมไม่คลายเช่นกัน
สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าสำหรับคืนนี้ค่ะ :)
@@@@@
ปล. เรารู้สึกว่า เราน่าจะเปิดกรุ๊ปบลอกเพิ่มน่าจะดี
จะได้ฝึกเรียงความคิดตัวเองเป็นหมวดหมู่
เรื่องงานแยกเรื่องส่วนตัว ( จริงล่ะเหรอ ) ฮ่า