อ่านไม่ออก
เลิกงานตอนเที่ยงเพราะมีกิจกรรมด่วน
เลยได้แวะไปห้องสมุดประชาชนบุรีรัมย์
ไม่ได้มานั่งเล่นเกือบเดือน เพราะยุ่งไปที่อื่นๆ อยู่
พอเดินเข้าไปก็รู้สึกว่า ชอบจัง
เป็นที่ชอบที่ชอบ ของเราเหมือนกันนะนี่
เราชอบห้องสมุดหมดแหละ
แต่ห้องสมุดนี้ ยังไม่มีแอร์ กลิ่นอายธรรมดา
ให้หวนคิดถึงสมัยที่ห้องสมุดคณะอักษรศาสตร์ จุฬา ยังไม่มีแอร์
สิบกว่าปีก่อน ที่เราไปนั่งเล่น นั่งคุ้ยหนังสือเซนมาอ่าน
ส่วนห้องสมุดคณะเรา เค้าย้ายขึ้นตึกใหม่
แต่ระบบการจัดการหาวารสารวิชาการ ยังสู้มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดไม่ได้เลย
สงสารจัง สงสารตัวเอง ดิ้นรนหาวารสารไม่เก่งเลย เฮ้อ
@@@@@
"พ่อหนูอ่านหนังสือไม่ออกค่ะ"
เสียงเด็กสาวสิบเจ็ดปีบอกเรา
เมื่อเราบอกว่า ถ้าพูดไม่ไหว ให้เขียนให้พ่ออ่านก็ได้นะ
เรานิ่งไป
คนอายุสิบเจ็ดปี มีพ่อ อายุน้อยที่สุดก็น่าจะประมาณสามสิบสี่สามสิบห้าเท่าเรา
แก่กว่าอีกนิด สี่สิบเอ้า
คนรุ่นราวนี้ ยังมีคนอ่านหนังสือไม่ได้อีกเหรอ
เขาเสียโอกาสบางอย่างมากไปหรือเปล่า
โอกาสนั้นเสียเพราะอะไร ไม่รู้ได้
เราเลยตัดสินใจว่า ต้องได้คุยกับพ่อเขาตอนเย็น ซึ่งก็ได้ทำแล้ว
ย้อนกลับมาคิดถึงตัวเอง
ช่างโชคดี ได้อ่านเขียน เรียนหนังสือ
อยู่ต่างจังหวัดซื้อหนังสือโหลดอ่านได้ เดินเล่นร้านหนังสืออาทิตย์นึงทีละสองสามวัน
อยากได้หนังสือไหนคว้าเอา
แม้ไม่อยากซื้อ ก็อ่านจบในร้าน เนียนไปเสีย ชอบใจค่อยซื้อเก็บ ก็ทำได้
ขอบคุณโอกาสในชีวิตนี้
ขอบคุณจังหวัดนี้ด้วย
ทำให้เราเห็นความโชคดีมีโอกาสของตัวเองชัดขึ้น
เรามาออกค่ายที่จังหวัดนี้ครั้งแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อน
ยังจำได้ว่า ตื่นเต้นมากที่ได้ไปบ้านที่ไม่มีไฟฟ้า
ไม่รู้เลย
ว่าจะเป็นแผ่นดินที่ให้เราทำงาน ให้เราได้เงินเดือน ได้อาศัยปัจจัยสี่
ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้
รักบุรีรัมย์จัง