ป รั ช ญ า ป า ร มิ ต า ห ฤ ทั ย สู ต ร (แปลโดย พระตรีปิฏกธรรมาจารย์ ถังซำจั๋ง) พระอวโลกิเตศวร...........โพธิสัตว์ทรงปรัชญา ปรัชญาปารมิตา.............กอปร์ปัญญาอันลึกซึ้ง ทรงเล็งเห็นได้ว่า............ขันธ์ทั้งห้า ว่าง เปล่าจึง- เหตุให้ล่วงก้าวซึ่ง...........พ้นจากทุกขะทั้งปวง สารีบุตร รูป นั้น ไม่ต่าง ว่าง.........ว่าง ไม่ต่างจาก รูป ลวง รูป คือ ว่าง สรุปล่วง.......ว่าง คือ รูป มิผิดผัน เวทนา และ สัญญา........อีก สังขาร วิญญาณ นั้น ก็เป็นนัยเดียวกัน............คือความ ว่าง มิต่างเลย สารีบุตร ธรรมะสรรพธรรม............ล้วนมีธรรมเป็น ว่าง เหวย มิ เกิด มิ ดับ เฉย...........มิ สะอาด มิ สกปรก มิ เพิ่ม และ มิ ลด...........มิปรากฏปัจจัยยก- สู่ ชรา แก่เงิ่นงก.............และอีกทั้ง มรณา ใน ว่าง จึงไร้ รูป.............ไร้ เวทนา ไร้ สัญญา ไร้ สังขาร วิญญาณ หนา...(สรุป ไร้ เบญจขันธ์) ไร้ ตา และ ไร้ หู............ไร้ จมูก ไร้ ลิ้น ฉัน ไร้ กาย ไร้ จิต อัน..........(สรุป ไร้ อายตนะใน) ไร้ รูป และ ไร้ เสียง........ไร้ กลิ่น รส ก็ ไร้ ไร้ สัมผัส อารมณ์ ไซร้.....(สรุป ไร้ อายตนะนอก) จึง ไร้ อวิชชา.................(ความ)ดับอวิชชา ก็ ไร้ ดอก มิ เพิ่ม มิ ลด หรอก..........(ความ)ดับ แก่ ตาย ไร้ เช่นกัน ไร้ ทุกข์ ไร้ นิโรธ............ไร้ สมุทัย ไร้ มรรค นั่น ไร้ แจ้งประจักษ์ พลัน.......ไร้ บรรลุ จงคำนึง แท้จริงล้วน ว่างไร้............ไม่มีอะไร ต้อง ลุ ถึง โพธิสัตว์พระผู้ซึ่ง.............ทรงปรัชญาปารมิตา มีจิต อิสสระ...................ปราศอุป-สรรค นานา เป็นจิต อิสสระ................ปราศอุป-สรรค นานา (ย้ำ) มิกลัว ธ จึงสา-................มารถก้าวพ้นมายามวล ทรงลุพระนิพพาน.............พระพุทธผ่านสามโลกล้วน ทรงลุอนุตตระ ควร...........ทรงสัมมาสัมโพธิ ทรงปรัชญาปารมิตา..........จงรู้ว่า ปัญญา สิ เป็นมนตรา มหาฤทธิ.........เป็นมนตรา แห่งความรู้ เป็นมนตรา หาไหนทัน.......มนตร์ไหนนั่นฤาควรคู่ ตัดทุกข์ทั้งปวง-สู่.............สัจจะแจ้ง ไร้เท็จเฉ จงหมั่นสวดท่องมนตรา......ปรัชญาปารมิตา(อย่าลังเล) (ว่า:) คเต คเต ปารคเต.............ปารสังคเต โพธิ สวาหา ฯ (ไป ไป ไปยังฟากฝั่งโน้น...ไปให้พ้นอย่างสิ้นเชิง ตรัสรู้ เบิกบาน) |