สมาชิกใหม่
พักนี้เขียนแต่เรื่องแมว ๆ
แต่มันก็เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราจริง ๆ นะ นอกเหนือไปจากเสียงเปียโนที่มีเด็กซ้อมเล่นที่บ้าน
คิดว่าคงต้องทำห้องซ้อมให้เป็นเรื่องเป็นราวกว่านี้ ตอนนี้กำลังคิดอยากจะซื้อคีย์บอร์ด จะได้เคลื่อนย้ายไปมาง่าย
ถึงตอนนี้ เด็กที่บ้านมีความสุขมาก
แม้จะผิดแผนไปหน่อย ตรงที่คิดกันว่า ถ้ามีแมวหลายตัวหน่อยแล้วทุกคนจะได้มีแมวเป็นของตัวเอง
กลายเป็นว่า พวกมันต่างสนิทสนมกลมเกลียว และเล่นกันเอง
ไม่ค่อยสนใจบรรดามนุษย์ในบ้านเลย ..แป่วววว..
ทุกคนรักกันดี นอนกอดกันเป็นก้อนกลมเลยในบางเวลาที่อากาศเย็น ๆ
หรือไม่ก็ปลีกวิเวก อยู่กันคนละมุมบ้าน
ดูเหมือนจะมีโลกส่วนตัวกันสูงเข้าไปใหญ่
บางทีก็ไปรวมกันเป็นคู่ ๆ ตามที่ต่าง ๆ
อยู่ในที่ที่ไม่ควรจะอยู่บ้าง
นายคนนี้นอนหลับเก่งมาก ๆ นอนได้วันละสิบกว่าชั่วโมง
แต่ทุกคน เอ๊ย ทุกตัวก็อยู่รวมกันโดยสันติ ไม่มีปัญหาอะไร ถึงแม้จะมีแมวสาวอยู่หนึ่งตัว คือนางสาวอั่งเปา ก็ไม่ทำให้เกิดการตบตีแย่งชิงหญิง อาจจะเป็นเพราะนายไทเกอร์เขารู้ว่าเป็นน้อง และเราเองก็ส่งนางสาวอั่งเปาไปทำหมันเรียบร้อย ตั้งแต่อายุครบทำได้
จนกระทั่งวันหนึ่ง ตอนเช้าก่อนที่จะออกไปทำงาน
แม่บ้านที่เตรียมออกไปเปิดประตูรั้วให้ วิ่งเข้ามาเรียกเราไปดู "อะไร" อย่างหนึ่งที่หน้าบ้านฝั่งตรงข้าม
ข้าง ๆ ถังขยะของเพื่อนบ้าน มีลูกแมวตัวเท่าฝ่ามือ สีดำเล็ก...มาก นอนหมอบอยู่
เราไม่แน่ใจว่าเป็น หรือตาย เข้าไปจับดู ปรากฎว่ายังไม่ตาย แต่อ่อนแรงมาก คลำ ๆ ดูไม่มีรอยกระดูกหักตรงส่วนไหน เลยช้อนใส่ฝ่ามือเอาเข้ามาในบ้าน
พอวางลงก็เห็นว่ามีเลือดไหลออกจากปาก ลำตัวเปียกไปด้วย..เลือด ไม่มีบาดแผลภายนอก ลูกแมวตัวนั้นพยายามขัดขืนด้วยความกลัว แต่มันไม่มีแรงแล้ว
ให้แม่บ้านเอากรงเล็ก ๆ พร้อมด้วยผ้าปูหลาย ๆ ชั้นมาเตรียม เช็ดหน้าเช็ดเลือดให้ พยายามให้กินน้ำ
โทรเรียกคุณหมอโดยด่วน เพราะเราเอาไปส่งไม่ทันแล้ว ต้องไปทำงาน
โทรไป น้ำตาก็ร่วงไป ด้วยความสงสาร เพราะเขางุบลงไปเป็นพัก ๆ หมดแรง คุณหมอมารับไปเอาไว้ที่คลีนิคเร็วทันใจ
ตอนเราเดินกลับไปที่หน้าบ้านอีกที เพื่อจะออกรถ ก็ถึงได้เห็น...เลือด กองใหญ่ ๆ สาดกระจายอยู่บนถนน เป็นคราบเลือดแห้งแล้ว
..คงเป็นเลือดของเจ้าลูกแมวน้อยตัวนี้แหละ น่าจะโดนรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งไปมาในซอยชน เพราะถ้าเป็นรถใหญ่คงตายแบนแต๊ดแต๋อยู่แถวนั้นแล้ว นี่เขาไม่มีบาดแผลภายนอกเลย น่าจะช้ำในและมีอะไรสักอย่าง ทำใจเอาไว้แล้ว ว่ารอดก็รอด ไม่รอดก็คงหมดกรรมของเขา อดนึกถึงคนที่ชนไม่ได้ ว่าช่างกระไรเลย ชนแล้วไม่คิดจะสนใจเลยหรืออย่างไร ถนนก็เล็ก ขับขี่เร็วจนแมววิ่งหนีไม่ทัน ช่างใจร้ายจริง
ตอนเย็น คุยกับคุณหมอ ตรวจแล้ว เอ็กซเรย์แล้ว พบว่ามีเลือดคั่งในปอด และกระดูกสะโพกหัก แต่เราเห็นเขาเดินได้นะ ตอนที่จับมาเช็ดหน้าตา ยังพยายามโซเซหนีอยู่นี่นา
แผนการรักษาของคุณหมอ ก็คือ ใช้ยาทำให้ลิ่มเลือดที่คั่งหายก่อน ไม่ยอมใช้วิธีเจาะเหมือนที่บางคุณหมอจะทำ เพราะคิดว่าถ้าเจาะ คงไม่รอดแน่นอน รักษาด้วยยาให้รอดก่อน ส่วนเรื่องกระดูกเอาไว้ทีหลัง เรากลัวเขาจะพิการ แต่ดู ๆ แล้วคิดว่าเนื่องจากยังเป็นลูกแมวเด็กมาก กระดูกถ้าไม่หักสาหัสมากน่าจะประสานเองได้
**ถ้าเจอแมวเล็ก ๆ มีอาการแบบนี้ พยายามอย่าให้คุณหมอรักษาโดยวิธีการเจาะเลือดที่คั่งออก เพราะถ้าแมวอ่อนแอมาก จะไม่ค่อยรอด ควรจะใช้วิธีรักษาด้วยยาดีกว่า จะใช้เวลานานกว่า แต่โอกาสรอดสูงมากกว่า**
เราขอให้คุณหมอรักษาเต็มที่เท่าที่จะทำได้ ..ถึงไม่บอก คุณหมอคนสวยใจดีคนนี้ก็คงทำเต็มที่อยู่แล้วล่ะค่ะ เธอเป็นนางฟ้าประจำบรรดาหมา ๆ แมว ๆ ของพวกเรา
(ในสายตาพวกมัน เธอคงเป็นตัวมารร้าย มาทีไรพวกหนูเจ็บตัวทุกที..)
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนกว่า คุณหมอส่งข่าวมาว่าให้รับกลับบ้านได้แล้ว อาการดีและเป็นปรกติแล้ว
นี่คือวันแรกที่กลับมาที่บ้าน หน้าตาและแววตาหวาดระแวงมาก ๆ
แมวน้อยสีดำตัวนี้ได้ชื่อว่า หมากเก็บ สมชื่อนะคะ
ตัวเล็กจริง ๆ ท่าทางไม่ไว้ใจใครเลยทั้งสิ้น
แมวเด็ก ๆ ที่โดนทำร้ายบาดเจ็บส่วนมาก จะโตขึ้นมาแบบนี้ เพราะประสบการณ์ชีวิตของเขาเอง ไม่ค่อยยอมเข้าหาคน และไม่ค่อยยอมเล่นกับคน
บรรดาแมวยักษ์ ๆ ในบ้านพากันมารุมล้อม สำรวจผู้มาใหม่ เราเก็บ "เธอ" ไว้ในกรงค่ะ เพราะต้องให้ตัวที่อยู่ก่อนชินกับผู้มาใหม่ และไม่อยากให้เดินเยอะ
ตกลงว่า กระดูกสะโพกของน้องหมากเก็บดูจะรักษาตัวเองได้ ไม่มีปัญหาว่าจะพิการ หรือมีปัญหาการควบคุมการขับถ่าย โชคดีไป
ทุกตัวดูจะยอมรับแมวใหม่ ยกเว้นนางสาวอั่งเปา ที่โกรธมาก ไม่ยอมญาติดีด้วย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน คงจะรู้สึกว่าเสียตำแหน่งหญิงเดียวในบ้านไปแล้ว และตัวใหม่มายังมาทำสีเหมือนกัน และหน้าตาน่ารักอีกต่างหาก
เราน่ะ ไม่อยากเพิ่มสมาชิกอีกแล้ว แต่จะให้ทำอย่างไรได้ จะมีใครอยากเลี้ยงแมวสีดำสนิท และแถมยังเป็นแมวมีปัญหาทางจิตใจเล่า
สมาชิกแมวเพิ่มมาเป็น 4 ตัวแล้ว..
ตอนเด็ก ๆ ให้นอนในตะกร้าใบนี้ เพราะมันเล็กดี ใส่ไว้ในกรงเล็ก ๆ สีชมพูของเจ้าหล่อนได้
พอโตขึ้นมา หมากเก็บก็ยังชอบนอนในตะกร้าบุผ้าใบนี้ ถ้ายัยอั่งเปาเดินมาใกล้ ๆ เขาจะลงไปแอบในตะกร้า และทำทำหลับ..กลัวน่ะ
เดี๋ยวนี้โตจนล้นตะกร้าแล้ว ก็ยังชอบ
บางทีก็ย้ายมาอยู่ในตะกร้าใบใหญ่ขึ้นหน่อย
แต่อย่างไรก็ตาม หมากเก็บก็ยังโตขึ้นมาเป็นแมวเก็บตัว ไม่ค่อยหาคน
แรก ๆ เขาเข้าหาพวกรุ่นพี่ เดินตามทุก ๆ ตัวที่ไม่ว่าอะไร
ที่ใจดีสุด คือนายหมอกเงิน เพราะเขายอมรับความจริงในชีวิตมาตั้งนานแล้ว ว่าคงไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวในบ้านแน่ ๆ นายไทเกอร์ก็ไม่ว่าอะไร
แต่ที่ใจร้ายที่สุด คือยัยตัวสีดำ อั่งเปา เจอที่ไหนต้องปรี่เข้าไปตบตี ทำให้โดนทำโทษขังเดี่ยวอยู่เนือง ๆ และยังเริ่มทำตัวก่อปัญหา ประท้วงโดยการฉี่ไม่เลือกที่..จะว่าไป เธอก็เลือกเหมือนกันแหละ เลือกฉี่ส่วนที่เป็นสมบัติของเรา เช่นกระเป๋าถือ กระเป๋ากล้อง อะไรก็ตามที่เธอคิดว่าจะจองเพราะเป็นของเรา
แม้จนหมากเก็บโตจนไปทำหมันได้แล้ว อาการอิจฉาของอั่งเปาก็ยังไม่จางหาย
ทำให้หมากเก็บกลายเป็นแมวเก็บตัวกว่าเดิม
มีความบันเทิงในชีวิตช่วงนั้น คือการกิน ๆๆ ว่างเมื่อไหร่ก็กิน
ตอนนี้ตัวอ้วนกลมปุ๊ก มีชื่อเล่นว่ายัยหนำเลี้ยบไปแล้ว เพราะหุ่นเหมือนลูกหนำเลี้ยบสีดำ ที่บรรจุกระป๋อง เอาไว้กินกับข้าวต้มนั่นแหละ
แมวทุกตัวที่เลี้ยงมา ล้วนแต่มีนิสัย บุคคลิกที่ไม่เหมือนกัน นอกไปจากหน้าตา สีสันที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
ส่วนหนึ่งก็มาจากตัวตนของเขาเอง เหมือนที่เราเคยเขียนเอาไว้ อีกส่วนก็เกิดจากประสบการณ์ชีวิตของใครของมัน และการตอบสนองต่อประสบการณ์และสภาพแวดล้อมของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันด้วย
แต่ตอนหลัง เรามาพบอีกเรื่องหนึ่ง ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของบุคคลิกภาพได้อย่างชัดเจน สิ่งนั้นก็คือคำว่า "มิตรภาพ" นั่นเอง
ไว้จะมาเล่าถึงเรื่องนี้ในภายหลัง
ต้องกราบขออภัย หากภาพในบล็อกนี้จะมีขนาดลุ่ม ๆ ดอน ๆ เพราะเก็บรวบรวมมาจากหลายอัลบั้มแบบไม่มีระเบียบเท่าไหร่ นะคะ
ขอให้มีความสุข กับการมองอะไรรอบ ๆ ตัว และมองทุกสิ่งทุกอย่างด้วย "ใจ" จะมองเห็นอะไรมากกว่ามองด้วย " ตา " อย่างเดียวมากมายนัก
ขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่แวะมาใช้เวลาด้วยกัน ณ ที่นี้ค่ะ