จากข้าวเหนียวหน้านวล มาเป็นข้าวหลาม..?
เมื่อข้าวเหนียว เผือก ถั่วดำ กะทิรวมกัน
หลายวันก่อน นั่งนึกๆ ว่าอยากทำอะไรสักอย่าง ที่มีส่วนผสมของข้าวเหนียวดำ เผือก(มีอยู่ในคลังสมบัติ) ถั่วดำ(มีอยู่เหมือนกัน) กะทิ(แบบกล่องก็มีสะสมนะเออ)
โดยปรกติเป็นคนชอบกินข้าวเหนียวมากกว่าข้าวจ้าว ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียวนึ่งเปล่า ๆ ข้าวเหนียวนึ่งแบบใส่กะทิที่เรียกว่าข้าวเหนียวมูล ข้าวเหนียวต้มใส่เครื่องอะไร ๆ ที่เรียกว่าข้าวเหนียวเปียก หรือข้าวเหนียวห่อกล้วยน้ำว้าสุกในใบตองที่เรียกข้าวต้มมัด ข้าวเหนียวผัดเครื่องหลาย ๆ อย่างแล้วห่อ(หรือไม่ห่อ)ในใบไผ่ที่เรียกทับศัพท์จีนว่าบะจ่าง และอีกนานาข้าวเหนียวเมนู ชอบทุกอย่าง
เขียนไปมาทำให้นึกออกว่า ภาษาไทยนี้ช่างรุ่มรวยศัพท์จริงหนอ วัดถุดิบอย่างเดียว เปลี่ยนวิธีการปรุง ส่วนผสมก็เปลี่ยนชื่อไปได้สารพัด ไม่ได้เถรตรงเหมือนภาษาอังกฤษ ที่พอใช้อะไรมาทำก็ต้องเรียกชื่อแบบบรรยายส่วนผสมจนครบหรือเกือบครบไม่ยักกะมีชื่อเล่นแบบอาหารไทย หรือแค่อ่านก็เมื่อยแล้ว เช่น grilled skewered chicken marinated in coconut milk and herbs, served with peanut coconut cream sauce and cucumber and shallot salsa... ถ้าเป็นภาษาไทย ก็สั้น ๆ ไก่สะเต๊ะ จบข่าว
ข้าวเหนียวหน้านวล ได้ยินมาว่าเป็นชื่อจริงของขนมที่ใช้ข้าวเหนียวเป็นส่วนผสมหลัก ราดท้อปปิ้งเป็นกะทิกวนข้น ๆ นึ่งในถาดสี่เหลี่ยม แล้วมักจะเดคคอเรทด้วยถั่วดำต้ม หรือทองหยอดหั่นครึ่งลูกคว่ำแปะเอาไว้ ขนมแบบนี้ เรารู้จักมานาน ในชื่อที่นัยว่าเป็นชื่อเล่นของมัน คือข้าวเหนียวตัดนั่นเอง
ที่มาของชื่อข้าวเหนียวหน้านวลและสูตร จากบล็อกเกอร์เจ้าประจำที่ทำอาหารปีละ 800 เมนู และเราได้แรงบันดาลใจ ที่เป็นวลีหรู ๆ แต่แถวบ้านเราเรียก"ก๊อบปี้" เมนูหลายๆอย่าง มาจากบล็อกของเธอ คุณโอ แห่งบ้านเนินน้ำนั่นเอง ตามไปชมต้นฉบับได้นะคะ
ขอบคุณคุณโอ สำหรับสูตรและวิธีทำนะค้า
ชมเสร็จแล้วก็โปรดลบภาพนั้นออกจากความคิดก่อน เพราะสิ่งที่ท่านจะได้เห็นต่อไป อาจะไม่ใช่สิ่งที่คิดเอาไว้ค่ะ
คนทำเอาไว้ เขาก็บอกอยู่แล้วว่าปริมาณที่บอก ได้ขนมขนาด 4"X4" จำนวน 3 ถาด ซึ่งโดยนิสัยถาวรของผู้เขียนบล็อกนี้ ต้องเพิ่มส่วนและปริมาณทุกเมนู แต่ความจริง มีอยู่ว่า เราให้แม่บ้านแช่ข้าวเหนียวเอาไว้ โดยบอกปริมาณคร่าว ๆ และคุณเธอได้แช่เอาไว้ประมาณครึ่งกิโล และเราก็เอามาใช้จนหมด
ส่วนผสม
ข้าวเหนียวเขี้ยวงู (โดยประมาณนะ) 500 กรัม กะทิ 4 ถ้วย หรือ 1000ml. น้ำตาลทราย 250 กรัม ดอกเกลือ 2 ช้อนชา แป้งข้าวจ้าว 70 กรัม
optional ถั่วดำต้มสุก เผือกนึ่งสุกหั่นลูกเต๋า ลูกเดือยกล้องต้มให้นุ่ม ปริมาณตามความตะกละ
วิธีทำ
- ซาวข้าวเหนียวให้สะอาด แช่ในน้ำอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
- สงข้าวเหนียวขึ้นจากน้ำ กรุในถาดที่จะใช้ นึ่งไฟแรง 40 นาที หรือจนข้าวเหนียวสุก
- ระหว่างนั้น ผสมกะทิ น้ำตาล เกลือ แป้งข้าวจ้าวเข้าด้วยกัน คนให้แป้งละลายหมด กรอง 1 รอบด้วยกระชอนตาถี่
- พอข้าวเหนียวสุกดี นำออกมาโรยด้วยเครื่องที่เตรียมไว้ให้ทั่ว ราดทับด้วยกะทิที่ผสมแป้งเอาไว้ นำกลับไปนึ่งต่ออีก 20 นาที จนหน้าเซ็ทตัว
- พักไว้ให้เย็นก่อนตัดเป็นชิ้น
ง่ายเนอะ รู้งี้ทำกินเองเสียนานแล้วละ แต่ปัญหาของเราคือ เนื่องจากต้องการใช้ข้าวเหนียวที่แช่ไว้ให้หมด และจำกัดจำนวนพิมพ์ที่ใช้ ออกมาแล้วดูว่าข้าวเหนียวเยอะ หน้ากะทิน้อยไป กินแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกินข้าวหลาม
แต่ก็อร่อยนะคะ
มาดูรายละเอียดกันซักเล็กน้อยค่ะ
เผือก เลือกใช้เผือกหอมแก่จัด จะหอมอร่อย เรานึ่งเผือกเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ปรกติที่บ้านจะมีเผือกนึ่งเก็บเอาไว้ประจำ เพราะชอบซื้อเผือก ห้ามตกคำว่า "ซื้อ" นะคะ แฮ่ะๆ เวลาเดินตลาดเจอเจ้าประจำที่เอาเผือกหอมหัวโตๆ มาขายจะพากลับมาบ้านด้วยเสมอ ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะเอามาทำอะไรดี พอเก็บไว้ชื่นชมสักพักก็จะต้องแปรรูปเป็นเผือกนึ่ง และอัญเชิญเข้าไปสถิตย์ในตู้เย็นเอาไว้ก่อน ..ก่อนอะไรคะ ก็ก่อนที่จะต้องระเห็จจากตะกร้าไปถังขยะค่ะ
เอาเผือกที่นึ่งแล้วมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ขนาดกว้างยาวสูงเท่ากันทุกด้าน หรือเรียกว่า ลูกเต๋า นั่นเอง
ถั่วดำ ต้มให้สุกนิ่ม แล้วช้อนแต่ถั่วขึ้นมาจากน้ำค่ะ
ไม่อยากคุยว่ามีถั่วดำอยู่ในคลังสมบัติที่บ้านเหมือนกัน เป็นหนึ่งใน Must have inventory list ของเรา ลิสต์อันน่าสะพรึงกลัวของคนโรคจิตค่ะ เรียกย่อๆ ว่า MHIL หรือแปลอีกอย่าง ว่า mentallity habit inaccuracy list ฮ่าๆๆๆๆ
ลูกเดือยกล้อง คล้าย ๆ ลูกเดือยทั่วไป แต่มีที่มาเหมือนข้าวกล้อง ที่ไม่ได้ติดกล้องมา แต่เพียงไม่ถูกขัดสีฉวีวรรณจนตัวขาวผ่องเท่านั้น
รายการนี้ อยู่ใน MHIL เหมือนกันค่ะ
ข้าวเหนียวแช่เรียบร้อย กรุลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ค่ะ โปรดสังเกตุว่ามันอยู่ระดับสูงเกินไป ทำให้เมื่อสุกแล้ว ข้าวเหนียวเยอะ หน้าน้อย
เล็กๆ น้อยๆ ไม่ ต้องล็อตใหญ่ๆ จึ่งทำ
ส่งข้าวเหนียวลงลังถึง(ยักษ์) ไปแล้ว มาเตรียมหน้ากะทิกัน ผสมแป้งข้าวจ้าว กะทิ น้ำตาล เกลือ ลงในชาม คนให้แป้งละลายทั้งหมด
หวานมากหวานน้อยใช้ชิมดูเอาค่ะ กรองหนึ่งครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเศษแป้งที่ยังจับตัวเป็นก้อนๆค่ะ
ข้าวเหนียวนึ่งสุกแล้ว ถึงตอนสนุก คือ เอาเครื่องเคราบรรดามีมาโรยหน้าข้าวเหนียว ตามชอบเลยค่ะ
จากนั้น ราดด้วยท้อปปิ้งกะทิที่เตรียมเอาไว้
ตอนกำลังทำอยู่ มีถ่ายทอดสด ส่งให้คุณครูโอเจ้าของสูตรดูด้วย เจ้าของสูตรดูแล้วแอบลุ้นอยู่ว่า ใส่ลงไปแน่นหนาปานนี้ ตอนนึ่งมันจะล้นไหม แต่ ณ ตอนนั้น คุณครูใจดีก็ไม่ได้พูดอะไรมาให้คนทำที่กำลังดี้ด้าใจเสียแต่อย่างใด
เย่ นึ่งสุกแล้ว เราใช้เวลามากกว่าที่บอกอีก 8-9 นาที เพราะครบเวลาที่ตั้งไว้ ดูว่าหน้ากะทิยังไม่ค่อยเซ็ทตัว ที่จริงไม่เกี่ยวเลยค่ะ มันเป็นเพราะเราใส่ข้าวเหนียวเยอะไป กะทิซึมหายไปในข้าวเหนียวหมด จนดูว่ามันไม่มีหน้าและยังไม่อยู่ตัวต่างหาก
และพอนึ่งนานเกินกว่าเวลา พอพักให้เย็น ก็จะเห็นหน้าแตกระแหง คล้าย ๆ นาข้าวหน้าแล้ง ยังไงยังงั้น
แต่อย่างไรก็ตาม คนทำ(ดันทุรัง) ก็ยังมีความสุขกับข้าวเหนียวหน้าไม่นวลแต่แตกระแหงหลาย ๆ ถาดนี้ เพราะตัดชิมดูแล้วอร่อยดี ให้ความรู้สึกคิดถึงหนองมนขึ้นมาทันใด
มั่นไม่มั่น ก็ดูเอา ว่าคนทำตัดชิม ตัดโชว์ ต่างๆ นานา
สุดท้าย เมื่อสติกลับคืนมา ก็ได้คำแนะนำจากคุณครูคนเดิม ว่าจงเอาข้าวเหนียวทั้งหมดทุกถาดของเธอ ไปรวมกัน กรุใส่ถาดใหม่เสียเถิด แล้วกวนหน้ากะทิใหม่เพื่อไปปรับปรุงแก้ไขโดยด่วน เพราะมิเช่นนั้น ใครๆ เห็นแล้วได้รู้ว่า คุณเธอเอาสูตรของครูไปปู้ยี่ปู้ยำ ขยำขยี้ ออกมาได้หน้าตาแปลกประหลาดปานนั้น อาจมีการตำหนิมาถึงต้นฉบับได้ ..
สองบรรทัดสุดท้าย ผู้ทำเติมเอาเองค่ะ คุณครูไม่ได้บอก ฮ่าาา
นำข้าวเหนียวจากทุกถาดมารวมกัน กรุในถาดใบใหม่ ทำไม่เยอะมากเท่าใดค่ะ ได้ข้าวเหนียวแค่เต็มถาดสี่เหลี่ยม ขนาด 35X35 cm เอ๊ง..
แค่เท่าที่แม่ค้าทำขนมถาด เค้าทำขายได้ทั้งวันทั้งคืนแค่นั้น
ตั้งลังถึงให้น้ำเดือดก่อน นำข้าวเหนียวที่กรุในถาดไปนึ่งให้ร้อนจัด สัก 10-15 นาที ระหว่างนั้น เตรียมหน้ากะทิใหม่ โดยทำให้รสอ่อน ๆ เพราะของเดิมมันเท่ากับมีหน้าไปแล้วรอบนึง พอข้าวเหนียวร้อน ก็นำออกมาราดหน้ากะทิใหม่ ส่งกลับไปนึ่งไฟปานกลาง อีก 20 นาที จะได้แบบนี้
ค่อยหน้าตาเหมือนข้าวเหนียวหน้านวลเจ้าเก่าหน่อยเนอะ
เสียดายอยู่หน่อยนึง ตรงที่ลืมเอาถั่วดำที่ต้มสุกแล้ว และบรรดาเผือกๆ ที่ยังคงมีอยู่ (อีกเยอะ) มาโรยหน้าก่อนนึ่ง จะได้ดูมีหน้ามีตา
จะวิ่งไปตลาด หาซื้อทองหยอดมาตัดแปะ ก็คงไม่ทัน เพราะคนทำต้องการชิมแล้วค่ะ
... เสียใจนะคะ ไม่มีภาพที่ตัดขนมแล้วให้ชม เพราะหลังจากตัดเป็นชิ้นๆ เรียบร้อย กินไปเองสองชิ้นรวด ก็จัดการเอาขนมที่เหลือใส่ในกระทงคัพเค้ก จำหน่ายจ่ายแจกไปยังผู้โชคดีมีบุญทั้งหลายรอบ ๆ ข้าง ได้รับคำชมอื้ออึง
ชวนให้ความบ้ายอกำเริบ อยากทำอีกซักล็อตนะนี่...โปรดระวัง
ขอให้มีความสุขกับการได้ทำอะไร ๆ ต่าง ๆ นานาตามจินตนาการ แม้ว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ไม่สำคัญ เพราะมันได้ความสนุกตั้งแต่ตอนเริ่มคิดแล้วล่ะค่ะ
ขอบคุณทุกๆ ท่าน ที่แวะมาใช้เวลาด้วยกัน ณ ที่นี้เสมอมาค่ะ
Create Date : 17 ธันวาคม 2557 |
|
43 comments |
Last Update : 17 ธันวาคม 2557 18:24:48 น. |
Counter : 11954 Pageviews. |
|
|
|