Moist n Soft Banana cake อีกหนึ่งสูตรที่อยากให้ลอง
Moist & Soft Banana Cake เชื่อว่าทุกคนที่ทำขนมจะมีสูตรเค้กกล้วยหอมเก็บเอาไว้กันคนละมากกว่าหนึ่งสูตร เพราะเค้กชนิดนี้จัดว่าเป็นเค้กยอดนิยม ทำง่าย โดยมากจะออกมาอร่อย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบ้านว่าชอบสไตล์ไหน แบบใช้น้ำมันหรือใช้เนย ใช้วิธีคนๆผสมๆ เหมือนมัฟฟิน แบบเนื้อแน่นออกแนว Quick bread หรือเนื้อเบาๆนุ่มๆ แบบชิฟฟอนเค้ก หรือแม้กระทั่งที่ใช้วิธีตีไข่จนขึ้นฟูเหมือนสปองจ์เค้ก
นี่เป็นอีกสูตรหนึ่งที่คิดว่าทำออกมาแล้วอร่อย เนื้อสัมผัสนุ่มชุ่มฉ่ำแต่ไม่เปียกเกิน โดยส่วนตัวไม่ค่อยโปรดปรานเค้กที่ใช้ butter milk หรือ yogurt ในส่วนของเหลว เพราะรู้สึกทำออกมาแล้วเนื้อเค้กจะออกแนวเปียกๆ
สูตรนี้ใช้วิปปิ้งครีมในส่วนผสมด้วย เราสนใจทำเพราะเผอิญมีวิปปิ้งครีมที่อยากกำจัดพอดี
ต้นฉบับที่เอามาใช้ ไปค้นจากครัวบ้านน้องสาวตัวเล็กพลังงานแยะ รางวัลเยอะ Close To Heaven ตามไปดูเค้กของน้องบุ๊งได้ที่ Moist & Fluffy Banana Cake
ส่วนผสม เราเพิ่มส่วนผสมและลดน้ำตาล เพราะเพิ่มกล้วยจากสูตร ได้เค้กแบบโลฟขนาด 4 1/2 "X9" สองอัน
เนยจืด 270 กรัม
น้ำตาลทราย 230 กรัม
ไข่ไก่ (เบอร์ศูนย์) 3 ฟอง
แป้งเค้ก 375 กรัม ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
Baking Soda 1 1/2 ช้อนชา
กล้วยหอมสุกงอม 400 กรัม Whipping Cream 80 กรัม วานิลลาเอ็กซ์แทรค 2 ช้อนชา
เกลือทะเล 1/2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 3/4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ตั้งอุณหภูมิเตาอบที่ 175 องศาซี
1. เตรียมพิมพ์โลฟ ทาเนยบางๆ ปูกระดาษไขทั้งด้านก้นพิมพ์และด้านข้าง ทาเนยทับอีกครั้ง
2. ร่อนแป้ง ผงฟู โซดา เข้าด้วยกันสองรอบ
3. บดกล้วยหอมให้ละเอียด ใส่นำ้มะนาวลงไปคนให้เข้ากันรวมกล้วยหอมบด วิปปิ้งครีมและวานิลลาเข้าด้วยกัน
4. เนยเย็นๆ ตีให้กระจายตัวด้วย stand mixer สปีดปานกลาง ใส่เกลือทะเล ทะยอยใส่น้ำตาลทราย ตีจนขึ้นฟู ใช้เวลาราวๆ 4 นาทีหลังจากใส่น้ำตาลหมด
5. ตีไข่ไก่รวมกันพอเป็นฟอง ใส่ในส่วนผสมของเนย ให้ส่วนที่เห็นเป็นของเหลวรวมกับเนยหมดแล้วจึงใส่เพิ่ม ตีจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ตรงนี้ใช้สปีดกลาง ลดความเร็วลง ใส่กล้วยหอมบดที่ผสมไว้ ตามด้วยแป้ง ผสมด้วยความเร็วต่ำๆ จนพอไม่เห็นผงแป้ง 6. นำออกมาโฟลด์ด้วยพายยางอีกครั้ง ใช้วิธีปาดพายยางช้อนให้ถึงก้นชามผแล้วพลิกส่วนผสมขึ้นมา หมุนชามและทำแบบนี้จนรอบ ดูให้ส่วนผสมเข้ากันดี อย่าคนนานเกินไปเค้กจะเหนียวเพราะแป้งกับของเหลวจะจับตัวเกิด gluten มากไป เทแบทเทอร์ใส่ในพิมพ์ราว 3/4 ของพิมพ์ ปาดหน้าให้เรียบร้อย เคาะๆพิมพ์กับเคาน์เตอร์สองสามครั้ง 7. นำเข้าอบในเตาที่อุณหภูมิคงที่แล้ว ใช้ความร้อน 175 องศาซี เวลา 35-40 นาทีโดยประมาณ หรือจนหน้าเค้กเป็นสีเหลืองทองเข้ม เช็คสุกโดยใช้ไม้แหลมๆ จิ้มลงไปให้ถึงก้นพิมพ์ ถ้าไม่มีของเหลวติดปลายไม้ขึ้นมาก็ใช้ได้
พักเค้กในพิมพ์จนอุ่น ยกเค้กออกจากพิมพ์ (เราปูกระดาษพับขึ้นมาถึงขอบพิมพ์ทำให้ยกออกมาได้) แกะกระดาษรองอบออก พักเค้กต่อบนตะแกรงจนเย็นสนิทก่อนเก็บ หรือตัดเสิร์ฟ
* เค้กชนิดนี้เราชอบทำแล้วเสิร์ฟในวันถัดไป รสชาดและสัมผัสจะดีขึ้นกว่าวันแรกที่ทำเสร็จค่ะ
ส่วนผสมและวิธีการไม่ซับซ้อน ภาพประกอบไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมากนักค่ะ กล้วยหอมที่เราใช้งอมจัด และขุดออกมาจากตู้แช่แข็ง สีเข้มและหวานมาก เวลาใช้กล้วยหอมที่แช่แข็งแบบนี้ ตอนที่นำออกมาพักให้น้ำแข็งละลาย จะมีน้ำหวานของกล้วยออกมาเยอะ อย่าเททิ้งหมดนะคะ ความหวานหายหมดเหลือแต่แป้ง แต่ถ้าคิดว่าน้ำเยอะไปก็ลดส่วนที่เป็นของเหลวอื่นได้ เช่นครีมหรือนม
เนยที่ใช้ ออกมาจากตู้เย็นสักพัก ไม่ต้องนานเพราะเมืองไทยอากาศร้อน พอหั่นได้เป็นชิ้น ..บางทีเราขี้เกียจหั่น และเนยไม่แข็งมากก็ใส่ลงไปตีทั้งก้อนใหญ่ๆ เลย..แฮ่
ส่วนของแป้ง ..จะให้ดูทำไมเนี่ย ..ร่อนแป้งกับผงฟูและโซดาสองรอบหรือมากกว่าแล้วแต่ปริมาณและความขยันของคนทำนะคะ แป้งที่ร่อนเสร็จแล้วก็วางเอาไว้อย่าไปคนเล่นหรือเอาไม้พายไปกดแป้งเล่น เพราะการร่อนแป้งนอกจากจะทำให้ส่วนผสมเข้ากันดีและทั่วถึงแล้ว ยังเป็นการเพิ่มปริมาณอากาศในแป้งด้วยค่ะ
เตาอบของเราปรับไฟล่างอย่างเดียวไม่ได้ เค้กอยู่ตรงกลางเตาตามความสูงภายในเตาอบ หน้าเค้กจะแตกแบบนี้ คนที่มีเตาอบปรับใช้แต่ไฟล่างช่วงแรกได้ อาจได้เค้กหน้าเรียบๆไม่แตก อบไปสัก 20 นาทีด้วยไฟล่างแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นไฟบน-ล่างเพื่อให้ผิวด้านบนเกรียมสวย
หน้าแตกตอนช่วงเอาออกมาจากเตาอบใหม่ๆ พอทิ้งไว้ให้เย็นมันจะยุบตัวลงนิดหน่อยค่ะ
เค้กกล้วยหอมแบบนี้มีปริมาณเนื้อกล้วยเยอะ จะใช้เวลาในการอบนานกว่าจะสุกถึงข้างใน บางครั้งก็ทำให้เกิดผิวหนาๆ แบบที่เห็น นี่ขนาดรู้สึกว่าก้นเค้กยังมีความชื้นของเนื้อกล้วยอยู่นะ
แต่ก็ได้เค้กกล้วยหอมที่อร่อย ชุ่มฉ่ำหอมเนย หอมกลิ่นกล้วยหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เวลาอบอยู่ในเตาจะได้กลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งบ้าน
ขอให้มีความสุขกับการทดลองสูตรใหม่ๆ เพิ่มสูตรในคลังเก็บของแต่ละบ้านนะคะ เรื่องแบบนี้ สำคัญที่ทำแล้วต้องมีคนพร้อมที่จะช่วยกิน
เคยพูดอยู่เสมอว่าการที่จะพัฒนาหรือมีโอกาสได้ปรับปรุงฝีมือการทำอาหาร ปัจจัยหลักคือต้องมีคนกินค่ะ
ขอขอบคุณทุกๆท่านที่แวะเข้ามาใช้เวลาด้วยกัน ณ ที่นี้เสมอมาค่ะ
Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2560 |
|
22 comments |
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2560 12:52:25 น. |
Counter : 7811 Pageviews. |
|
|
|
เค้กกล้วยหอมหรือคะ
ของโปรดเลย
จะว่าไปก็ชอบหลายแบบอยู่เหมือนกัน แต่ทำไม่เป็นสักแบบ
ถนัดแต่กินค่ะ
แหม่....เขินจัง
secreate Food Blog