ออกจากวัดภูพระบาท
เรามาแวะสักการะพระธาตุพนม ที่อ.ธาตุพนมกัน
ไม่ได้มานาน 42 ปีแล้ว
ต้นตาลต้นไม้ที่เคยเห็น ก็ไม่มีให้เห็นอีก
แต่ความงามขององค์พระธาตพนม ยังคงอยู่










แวะเอากะละแมที่โทรสั่งทำไว้ล่วงหน้า
จะได้ของใหม่ที่หอมหวานมัน
อร่อยกินเพลินตลอดทาง






ไปต่อที่วัดพระธาตุเรณู ที่อ.เรณูนคร
องค์พระธาตุเลียนแบบพระธาตุพนมแต่เป็นสีชมพูสร้างเมื่อพ.ศ.2461
แต่วัดไม่ปรากฏว่าสร้างเมื่อใด










มาแวะไหว้พระทำบุญต่อที่วัดท่าอุเทน
องค์พระธาตุมีลักษณะคล้ายคลึงกับพระธาตพนมและพระธาตเรณู
เพียงแต่เล็ก รายละเอียด ซับซ้อนไม่งามเท่า
วัดนี้สร้างตั้งแต่ปี 2455
















ป้ายจารึกหน้าโบสถ์ เลือนลางอ่านไม่ออก




กุฏิพระรูปทรงโบราณ สร้างตั้งแต่พ.ศ.2496



ออกจากท่าอุเทน ถึงดอนนางหงส์
เราแวะไหว้พระที่วัดมรุกขนคร  
วัดมรุกขนคร
(พระธาตุมรุกขนคร พระธาตุประจำวันเกิดผู้ที่เกิดวันพุธ (กลางคืน) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ลักษณะคล้ายพระธาตุพนม แต่เล็กกว่าองค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนเป็นผังสี่เหลี่ยม สูง ๕๐.๙๐ เมตร ฐานกว้างด้านละ 20 เมตร พระธาตุสูง 50.9 เมตร มีความหมายว่า สร้างขึ้นในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี และจุด ๙ หมายถึงรัชกาลที่ ๙ พระธาตุมรุกขนครเป็นพระธาตุบริวารของพระธาตุพนมองค์ที่อายุน้อยที่สุด แต่วัดมรุกขนครที่ประดิษฐานพระธาตุองค์นี้ มีอายุเกือบสามร้อยปีมาแล้ว สร้างโดยพระบรมราชาเจ้าแอวก่านเจ้าเมืองมรุกขนคร วัดนี้เคยเป็นวัดประจำเมืองที่มีความเจริญมาก จนถึงปี พ.ศ. ๒๓๒๐ ตัวเมืองถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งพัง เกิดโรคระบาด ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงได้ย้ายไปตั้งเมืองใหม่ที่บ้านหนองจันทน์ ตำบลท่าค้อ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม บริเวณนั้นปรากฏชื่อว่า “บ้านเมืองเก่า” มาจนถึงทุกวันนี้ ยังมีซากปรักหักพังของเมืองและวัดปรากฏอยู่ในบริเวณโรงเรียนดอนนางหงส์สงเคราะห์ ปัจจุบันได้รับการบูรณะและตั้งเป็นวัดโดยถูกต้องสมบูรณ์

การเดินทาง ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 38 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 212 นครพนม-มุกดาหาร)

โทนสีขององค์พระธาตุและบริเวณเป็นสีทองอร่ามทั้งวัด
 




























กลับเข้ามาในตัวเมืองจังหวัดนครพนม
แวะร้านกาแฟ The Space 76a 
ตัวร้านเป็นบ้านเก่าของชาวเวียตนาม
ยังคงความเก่าแก่ไว้ รอบๆตัวร้านเป็นที่จอดรถ
มีที่นั่งด้านหลังร้าน ให้นั่งเล่นได้ ถ้าแดดร่มลมโชย













ค่ำมืดตะวันจะลาลับ
 ผ่านหอสมุดเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์
พระบรมราชินีนาถ ที่งดงาม




ต้องหาอาหารเย็นกินกันแล้ว
เข้าห้องอาหาร บ่นตลอดทางว่าอยากกินซุปหน่อไม้อร่อยๆ
และแล้วพี่ชายที่แสนดีไปหาซื้อ
ซุปหน่อไม้แสนอร่อยมาให้จนได้





มื้อนี้เราขอผักแยะๆ
เพราะเริ่มไม่ไหวกันแล้ว
เลยได้สลัดและปลาลวกจิ้มแกล้มไวน์แดง สุดแสนอร่อย
มากับไก่ทอดร้อนๆ และหมูยอที่อร่อยอีกเช่นกัน
แต่สลัดก็จานยักษ์ มาถึง2 จาน







อิ่มแล้ว วันนี้นอนหลับสบาย
หมดไปอีก1วันสำหรับ ทัวร์วัดไหว้พระ

สวัสดี

เที่ยวนครพนม มุกดาหาร ตอนที่ 1 คลิก