สรรพสิ่งล้วนเกี่ยวพัน
<<
กุมภาพันธ์ 2563
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
14 กุมภาพันธ์ 2563

ตายายสายแค้มปิ้ง1

แต่ละปีสองคนตายายต้องออกโลดแล่น
ไปหากางเต๊นท์นอนตามยอดดอย
เชิงผา ป่าสน
ชอบอากาศหนาวๆ
ปีนี้ก็เช่นกัน
หลีกหนีช่วงปีใหม่ เพราะคนมากมายเกินไป
ที่กินที่อยู่ ที่กางเต๊นท์ก็แย่งกัน
ไปต้นกุมภาพันธ์นี่แหละดี
ตอนแรกแอบบ่นกันว่า
คงหมดหนาวแล้ว
ไม่ได้ดูดอกนางพญาเสือโคร่งบาน
แต่เราก็บอกว่า ไม่เป็นไร
แค่ขับรถเที่ยว เล่นโค้ง
เลาะเขา ก็สุขใจ สุขตาแล้ว

แล้วก็เตรียมจัดของขึ้นรถ
ออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ ลุยกันค่ะ
เส้นทางจากภูเก็ต มีหมอกหนาแถวๆพังงา เมืองในหุบเขา
หมอกที่นี่มีทุกวัน อากาศเย็นสบายช่วงเช้าๆ
ดังนั้นเราจะไม่เห็นความแห้งแล้งเลยทั้งปี




แวะกินข้าวเที่ยงที่สุราษฏร์





เข้าสู่ชุมพรเมืองผลไม้ เจอทุเรียน สละ
จอดๆๆๆๆๆๆ หาทุเรียนสุกกิน
เป็นลูกๆไม่มีสุก เลยซื้อแบบที่เขาแกะแล้วแพ็คไว้
4เม็ด 380 บาท แพงเอาการ ชิมก็ไม่ได้
ยังอิ่มอาหารเช้าอยู่ เลยตั้งใจไว้กินตอนเที่ยง





หงส์ตัวนี้ผ่านเป็นประจำนานนับสิบปีแล้ว
ตั้งแต่ลูกยังเล็กๆอยู่
จากที่เห็นอยู่ห่างถนนมาก บัดนี้จงอยปากมาอยู่บนถนนแล้ว
 เพราะขยายถนนซุบเปอร์ไฮเวย์


มาถึงสุพรรณบุรี ไปต่อไม่ไหวแล้ว
เริ่มสอดส่ายสายตาหาที่พักริมทาง
เจอที่พักเป็นรีสอร์ท แวะเข้าไปดูสถานที่ ดูห้องที่เป็นหลังๆแยกกัน
ดูสะอาด ปลอดภัย เห็นมะม่วงในรีสอร์ทออกลูกเต็ม
เอ่ยปากกับเจ้าของว่าน่ากินจังเลย
เจ้าของบอกว่า บนต้นยังไม่แก่ มีที่เก็บไว้แล้ว สุก
เดี๋ยวจะเอามาให้กิน จ่ายเงินค่าที่พักเสร็จ
ก็เข้าห้องอาบน้ำอาบท่า 
เธอก็เอามะม่วงสุกมาให้1จาน ปอก หั่นมาให้เรียบร้อยพร้อมส้อม
น่ารักที่สุด เจอคนใจดี รู้สึกดีใจมากๆ
ไม่มีภาพรีสอร์ท จำชื่อก็ไม่ได้
เพราะมาถึงมืดแล้ว เหนื่อยมากอยากอาบน้ำ นอนพัก



ตีห้า อาบน้ำเก็บของเตรียมตัวเดินทางต่อ
แวะกินกาแฟที่ปั๊มข้างทางที่เดิมบางนางบวช



ด้านหลังเป็นแม่น้ำท่าจีน น่าสบายที่สุด



กระชุ่มกระชวยด้วยกาแฟแล้ว เดินทางต่อ
มาถึงอ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร
เจอมะปรางขายริมทางเยอะแยะ
ตอนแรกไม่แวะเพราะเขียนติดแต่มะยงชิด
  เพราะไม่ชอบมะยงชิด มันเปรี้ยว
ต้องปอกเปลือกจึงหวาน
เราเด็กชาวสวน ชอบกินแต่มะปรางหวาน
แต่ลองแวะดูหน่อย ถามแม่ค้าว่ามีมะปรางหวานไหม
แม่ค้าบอกว่ามี  โห..ดีใจ แม่ค้าล้างแล้วให้ลองกิน
กัดทั้งเปลือก หวาน และไม่คันคอ
เลยตกลงซื้อ กิโลละ 150 บาท
แม่ค้าให้ลองมะยงชิด กัดทั้งเปลือกแล้วต้องสะบัดหัว
คายทิ้ง ไม่ไหว เข็ดฟัน



ระหว่างทางกำแพงเพชร-ตาก เห็นแต่ไฟไหม้ป่า
ดำไปตลอดทาง ที่ยังไหม้อยู่ก็มี น่าเศร้าใจ
แต่ก็ยังมีดอกจานบานสีแสดสด ให้ดูชื่นใจ





เกือบเที่ยง เริ่มหิว แวะที่ร้านนี้
ต้มยำปลาคังอร่อยมากๆ รสแซ่บด้วยมะนาวและพริกคั่วหอมมาก
เจ้าของเป็นวัยรุ่นน่ารักพี่น้องหญิงชาย
บอกว่ากลางคืนช่วงนี้น่ากลัวมาก
เพราะไฟไหม้ป่าสว่างวาบๆทางฝั่งตรงข้ามให้เห็นทุกคืน
อยู่บ้านต้องระวังระไวกันทุกคน



อิ่มแล้วเดินทางต่อ พขร. ของเราชอบถนนคดเคี้ยวเล่นโค้ง
บอกว่าขับสนุก ไม่ง่วง  ถ้าทางตรงดิ่วๆ จะง่วงมาก
ถนนหงุกหงิกเป็นไส้หมูทีเดียว





ลัดเลาะเล่นโค้งหัวสั่นหัวคลอนมาจนถึงห้วยน้ำดัง
จุดหมายสำหรับเราคืนนี้
แวะถ่ายรูป เสียเงินค่าเข้าอุทยาน
อายุ60ปีขึ้นไป ไม่ต้องเสีย
เสียแต่ค่ารถ 30 บาท




จากศูนย์นักท่องเที่ยว เราก็ต่อไปยังจุดกางเต๊นท์
เวียนหาสถานที่ ที่เล็งไว้เต็ม
จึงเลาะลงมา ได้ที่ลานกางเต๊นท์ สองสหาย (สนคู่-แต่เห็นสนอยู่แค่ต้นเดียวโดดเดี่ยว)


เดินสำรวจห้องน้ำห้องส้วมก่อน
ซึ่งต้องลงไปด้านล่าง
ที่ต้องขึ้น ลง บันไดดินชันพอสมควร
กลางวันยังโอเค แต่กลางคืนลำบาก
เพราะไม่มีไฟส่องสว่าง ต้องอาศัยไฟฉายเอา



บันไดสภาพนี้ เราเลยต้องจัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนมืด


จัดการกางเต๊นท์ ริมผา
มีเต๊นท์เล็กข้างๆเรา เป็นเด็กหนุ่ม
นั่งรถไฟมามาแล้วเช่าจักรยานยนต์เที่ยว
ตอนเย็นอาทิตย์ตกดิน อยากถ่ายอาทิตย์ตก
แต่ไม่มีขาตั้งกล้อง
เราเลยให้ขอยืมของเราใช้



พ่อบ้านเตรียมติดเตา เชื้อไฟเป็นไม้ไผ่ผ่าซีกเอามาจากบ้าน
พร้อมถ่าน





มุมนี้จะเป็นด้านตะวันตก เย็นนี้จึงได้เห็นอาทิตย์อัศดง



เย็นนี้มีข้าวต้มหมู พริกไทยแยะๆ ช่วยให้อุ่น
อากาศเริ่มลดต่ำ ต้องงัดเสื้อกันหนาวมาใส่



ด้านล่างก็มีกลุ่มใหญ่มากางเต๊นท์เช่นกัน




กินเสร็จเก็บล้าง แปรงฟันแล้วเข้าเต๊นท์
มีชมรมดูนกดูดาวมากางเต๊นท์ใกล้ๆกัน
กำลังสอนกันดูดาว
เราออกไปดูหน้าเต๊นท์
ดาวเต็มฟ้า สวยมาก แต่กล้องมือถือไม่สามารถเห็นอะไรเลย
เก็บภาพสวยงามไว้ในใจ

อากาศต่ำลงเรื่อยๆ หนาวละซิ 
ลมกระพือเต๊นท์พึ่บพั่บทั้งคืน
ตะคริวจับเท้า แค่ถุงนอนไม่พอ ลุกมาหาถุงเท้าอุ่นๆใส่
เพิ่มเสื้อฮีทเทคเข้าไปข้างในอีกจึงนอนหลับ
ได้ยินเด็กหนุ่มข้างๆเต๊นท์เราคุยโทรศัพท์กับเพื่อน
ว่าหนาวมาก กรูจะแข็งตายอยู่แล้ว
เสื้อผ้าก็ไม่ได้เตรียมมา..เพื่อนคงถามว่าทำไมไม่เตรียมมา
ได้ยินต่อว่า..เมริงจะให้กูใส่เสื้อขนเป็ดขึ้นรถไฟจากกทม.มาเรอะ
เราได้แต่แอบขำ




ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ


ตื่นสาย ติดเตาต้มน้ำชงชากาแฟ 
มีขนมเค้กและผลไม้เป็นอาหารเช้า
เด็กหนุ่มเต๊นท์ข้างๆ เดินถือมาม่าคัพมา
ถามว่าพอมีน้ำร้อนเหลือบ้างมั๊ยครับ
เราบอกมี..มี แล้วก็ยกไปให้ทั้งกา
ถามว่าจะรับกาแฟมั๊ย
เขาบอกว่าไม่ครับ ขอบคุณ






เราตั้งใจว่าทริปนี้จะไม่รีบ ไปเรื่อยๆ
นอนให้สบาย ตื่นเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
ผึ่งเต๊นท์ให้แห้งจึงเก็บเพื่อเดินทางต่อ
เราออกมาจากห้วยน้ำดัง ไปปายต่อค่ะ






เล็งดูพื้นที่สองฝั่งของสะพานข้ามแม่น้ำปาย
แต่ดูแล้วไม่โอเค เพราะน้ำน้อยไป ไม่สวย
ไปหาเอาข้างหน้าดีกว่า เรียกว่า ค่ำไหนนอนนั่น






เลยสะพานมานิด ได้เวลาอาหารเที่ยง
แวะกิน ลาบเมืองอร่อยมากๆหอมเครื่องซา
ส้มตำก็แซ่บถูกใจ



ผ่านมาถึงดอยกิ่วลม แวะถ่ายรูปนิดหน่อย
เข้าห้องน้ำด้วย









เดินทางต่อไปบนถนน ที่คดเคี้ยวโค้งหักศอก
ใครเมารถเมาเรือ น่าจะไม่เหลือ
คงโจ๊กกระจาย
ดีที่เราทั้งคู่ไม่เมา รอดตัวไป
ขับรถไป เริ่มบ่ายเริ่มเย็น 
จุดที่จะกางเต๊นท์ค้างคืนต่อไป 
จะเป็นที่ไหน ให้เดาและติดตามนะคะ




สวัสดี

 



Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2563
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2563 22:03:10 น. 17 comments
Counter : 1780 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณmcayenne94, คุณ**mp5**, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณnewyorknurse, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณtuk-tuk@korat, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณเริงฤดีนะ, คุณเนินน้ำ, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณKavanich96


 
สวีทจัง
ตอนอายุน้อยๆ ครอบครัวเย็นก็เที่ยวกันแบบนี้ค่ะ ไปเกือบทั่วประเทศ ตอนนี้นั่งรถไปปายไปได้แค่ครึ่งทางต้องกลับแล้วทนเวียนหัวไม่ไหว เหลือแค่ทริปสั้นๆเองค่ะ

ห้วยน้ำดัง สมัยก่อนต้องไปแทบทุกปี ไม่ได้ไปหลายสิบปีคิดถึงและอยากเห็น ขอบคุณภาพถ่ายสวยๆ น้ำยังเสียงดังอยู่มั้ยคะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:22:03:07 น.  

 
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ


โดย: **mp5** วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:22:23:17 น.  

 
ตามแม่ตะลีมาเที่ยวด้วยครับ ชอบภาพวิวภูเขาครับ
เป็นการเที่ยวที่ขับรถเองไกลมากเชียวครับ
ผมแค่ขับรถจากอุทัยธานีไปน่าน หลานที่ไปด้วยยังบ่นว่า เมื่อไรจะถึงน่าน(วิ่ง 6 ช.ม.)
อนาคตคงได้ตามรอยเที่ยวบ้างครับ ค่ำไหนนอนนั่น นอนเต็นท์บ้าง
จุดกางเต็นท์ข้างหน้า เป็น ปาย ใช่ไหมครับ



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:23:03:40 น.  

 
บางครั้งผมมองว่าเที่ยวยังไงก็ได้ให้เรารู้สึกสนุก และสบายใจไปกับการท่องเที่ยวก็พอ ไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่น แต่บางครั้งพอมาดูรูปมันได้รูปไม่เหมือนคนอื่นก็อดเสียดายเล็กๆ ไม่ได้เหมือนกัน

เจอต้นเหตุของฝุ่น PM2.5 ในภาพด้วย


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:0:29:19 น.  

 

มาเที่ยวด้วยค่ะ
โอยยย เห็นทุเรียน อยากกินมากก


โดย: newyorknurse วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:3:27:16 น.  

 
บ้านเราไม่ได้เลี้ยงสัตว์เลยครับ
ตอนหมาป่าเป็นเด็กประถมต้น
ที่บ้านเลี้ยงหมาพันธุ์ทางไว้ตัวหนึ่ง เป็นตัวเมีย
แล้วมันก็ท้อง คลอดลูก เป็นหมาแม่ลูกอ่อน
วันหนึ่งมีเพื่อนบ้านเป็นวัยรุ่นเดินผ่าน
ความที่หมาแม่ลูกอ่อนหวงลูก ไม่ชอบคนมาใกล้ๆ
แม่หมากระชากโซ่จนขาด แลัหมุดลอดรั้วต้นมะขามเทศไปกัดพี่ผู้หญิงคนนั้น
กัดแล้วกระชากเนื้อน่องจนเหวอะหวะ
หมาป่าเห็นตอนยายพาพี่เขามาทำแผลปฐมพยาบาล
มันสีเหลืองแทรกในเนื้อน่องพี่เขาเหมือนเนื้อวัวในตลาดเลยครับ รุนแรงกันปานนั้น
พ่อจ่ายค่ารักษาและค่าทำขวัญไปมากพอสมควร
บ้านเราเลยเลิกเลี้ยงหมาตั้งแต่บัดนั้นครับ


โดย: a lone wolf IP: 1.47.70.130 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:10:48:50 น.


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:5:14:42 น.  

 
ลูกชายช่วยตอบที่บล๊อก..เลยนำมาแปะที่นี่ครับ

....

เที่ยวแบบข้างบน ผมชอบมาก ๆ ได้สัมผัสเห็นอะไรมากมาย
เห็นถนนโค้งข้างบนผมก็ชอบขับแบบนั้น ทำให้ไม่ง่วงดี ตรงนั้น
น่าจะจากลำปางไป เชียงใหม่(ขุนตาน)

ไป อ.ปายบ้านเกิดผมด้วย....

ที่ห้วยน้ำดัง....ผมเคยไปเดือน พฤษภาคมไปถึงตอนสายกับพี่น้อง ลงจากรถแพล๊พ ต้องรีบขึ้นรถหาเสื้อมาทับเพราะไม่คิดว่าจะหนาว แต่หาไม่ได้ทำไงดี นึกแพล๊พคว้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐที่มีในรถ ยัดใส่ในเสื้อตรงหน้าอกกันหนาว ช่วยได้ครับ

ส่วนห้องน้ำที่ห้วยน้ำดัง ใช่เลยอยู่ข้างล่างเดินลงลำบาก ห้อง
น้ำนี้ซิ ที่ผมกล่าวไว้ในบล๊อกนำเที่ยว ปราสาทเมืองต่ำบล๊อกก่อนหน้านี้

สวัสดีตอนเช้ามืด...ครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:5:30:57 น.  

 
โค้งถนนสายลำปาง - เชียงใหม่ ที่มีถนนสองชั้น ที่คุณไวน์ว่าไว้
ขาล่อง จากเชียงใหม่ไปลำปางถนนมันไม่รับค่ะ หลุดโค้งกันประจำเดี๋ยวนี้เขาจึงทางกันลื่นสีแดงไว้

ครัวโคตรแซ่บ อยู่เลยจากเถินมาลำปางราว สิบกว่ากม. ใกล้โรงงานไฟฟ้าชีวมวล ไม่เคยทานเลยค่ะ ก็เพราะรับชื่อไม่ได้แค่เนี๊ยะ อิอิ

เที่ยวอย่างนี้สนุกดีเนาะไปเรื่อย ๆ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:6:31:51 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่

เที่ยวไป พักไปแบบนี้
สนุกมากเลยนะครับ
ได้โต้ลมหนาวบนยอดดอยด้วย
วิวสวยมากๆครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:6:48:06 น.  

 
ขอบคุณกำลังใจด้วยค่ะ

ตรงหน้าที่ทำการ ยังมีเสียงน้ำดังซ่าอยู่บ้างมั้ยคะ
แต่ก่อนเปิดประตูลงไปจะได้ยินดังมาก พร้อมกับความเย็นตลอดปี

พอเขาปิดสถานที่เป็นที่ประทับพระพี่นางฯ
เราก็ไม่ได้ไปเที่ยวกันยาวมาเรื่อยค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:10:55:38 น.  

 
น้ำธรรมชาติ ค่อยๆน้อยลงเรื่อยๆค่ะ
ห้วยน้ำไม่ดังแล้วนะคะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:12:08:25 น.  

 
อ่านเรื่องราวของเงาะป่าซาไกที่พี่เล่า
แล้วผมก็จินตนาการกลับไปสักพันปีที่แล้ว
ประเทศไทยของเราน่าจะมีป่าเยอะมาก
คนจำนวนมากอาศัยอยู่ในป่า
หรือไม่ก็อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

ความต้องการแรก ๆ ของเรา
น่าจะเป็นเรื่องของการกินนะครับ
กินเพื่อให้มีชีวิตอยู่

จากนั้นก็มีครอบครัว
แล้วก็ดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ จนตาย
ความสุขหรือความทุกข์
น่าจะขึ้นอยู่กับปัจจุบันเรื่อง การดำรงชีวิต

แต่ตอนนี้ความทุกข์หนักหนาสาหัสอาจเป็นเรื่องหนี้
อาจเป็นเรื่องคนรักไม่ได้ดั่งใจ
หาร้านอาหารที่อร่อยและราคาถูกไม่ได้
ฯลฯ

ชีวิตเราซับซ้อนมากขึ้น
ท่ามกลางความทันสมัยและเทคโนโลยีที่รวดเร็วขึ้นในทุกๆวัน



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:14:08:56 น.  

 

Woww บรรยากาศดี๊ดีค่ะ
So sweet จริงๆ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:16:15:27 น.  

 
โอ้โฮ สองคนตายายขับรถเที่ยวกันไกลเลยนะคะ
เหนื่อยหน่อย แต่ก็ดีที่อยากแวะตรงไหนก็ได้ ชมวิวไปเรื่อย ๆ นะคะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:18:29:25 น.  

 
ดูรูปเพลินเลยค่ะ ดูแล้วมีความสุขตามสองหนุ่มสาวเพื่อนคู่คิดมิตรข้างตัว ชอบค่ะเที่ยวแบบนี้


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:19:13:41 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:6:42:49 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:2:24:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ตะลีกีปัส
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
[Add ตะลีกีปัส's blog to your web]