ปั่นเพื่อหัวใจ
ตอนเด็กๆอยากขี่จักรยานเป็น ลูกชาวสวนไม่มีเงินซื้อจักรยาน เลยไปหัดขี่จักรยานที่สนามหลวง เลิกเรียนตอนเย็น แวะสนามหลวง เช่าจักรยานขี่ 1 ช.ม. 2หรือ3บาทก็จำได้ไม่แม่นนัก ล้มลุกคุกคลาน ถลอกปอกเปิกไปตามเรื่อง ขี่ทั้งกระโปรงนักเรียน จักรยานผู้หญิงไม่สูงนัก คราวแรกๆ หัดโดยขึ้นคร่อมโดยมีเพื่อนผลัดกันจับท้ายจักรยานให้ทรงตัว แล้วก็ปั่นๆไป เพื่อนจับจักรยานวิ่งตาม พอวิ่งไม่ทันเพื่อนก็หอบแฮ่กๆ แต่ก็สลับกันจับ สลับกันหอบ จนครบ 1 ช.ม.
ภายหลัง มักคุ้นกับพี่ผู้ชายแถวๆศิลปากร พี่ๆที่มาจีบเพื่อนของแม่ตะลีก็อาสา มาเป็นคนฝึกให้เสียใหม่... โดยให้ใช้เท้าซ้ายไถกะแย็ก กะแย็ก ที่วางเท้า ไถไปข้างหน้า จนรถเคลื่อนที่แล้วตวัดขาขวาข้ามคาน ไปที่ วางเท้าขวา แล้วปั่นไป ไม่ต้องให้ใครจับพยุงให้ ก็เลยปั่นจักรยานเป็นมาณ บัดนั้น
(ขอบคุณภาพจากเน็ตค่ะ) จนไปทำงาน ก็ใช้จักรยานเป็นพาหนะ จากบ้านพักไปที่ทำงาน ไปซื้อกับข้าวที่ตลาด ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆได้อย่างสนุกสนาน เพราะตอนทำงาน พยายามเก็บเงิน จนซื้อจักรยาน คันแรกได้ เป็นจักรยาน Pheasant รุ่นคันใหญ่สีดำ มีไฟหน้าเวลาจะใช้ไฟตอนกลางคืนก็ต้องเอามอเตอร์ลง เวลาปั่นก็จะเหนื่อยหน่อยเพราะต้องเสียดสีกับมอเตอร์ ยิ่งปั่นเร็วแข่งกับเพื่อน ไฟก็ยิ่งสว่าง มีสูบลม มีที่นั่งท้ายเป็นตะแกรงเหล็ก พร้อมตะกร้าหน้ารถ แม่ตะลีได้มา ก็ซื้อไฟดอกบัวติดเพิ่มที่ล้อหน้า ติดสติกเกอร์เต็มคานเพื่อเป็นสัญลักษณ์ แสดงความเป็นเจ้าของ เพราะมีเพื่อนสนิทอีกคนซื้อเหมือนกัน แต่ไปดอกบัวคนละสี ของแม่ตะลีสีชมพู ของเพื่อนสีเขียว ซื้อตั้งแต่ปี2524 จำราคาไม่ได้แล้ว
(ขอบคุณภาพจากเน็ตค่ะ)
ย้ายที่ทำงานข้ามจังหวัดก็หอบเอาไปด้วย ใช้อยู่นานมาก ตั้งแต่ยังไม่มีคนรัก จนแต่งงานมีลูกคนที่2 ก็ยังใช้อยู่ ในที่สุดก็ถูกขโมยไป แม่ตะลีเสียดายสมบัติชิ้นแรกที่เก็บเงินซื้อด้วยเงินเดือนของตัวเอง จึงป่าวประกาศ ให้คนช่วยหา และไปแจ้งไว้ตามร้านขายจักรยาน ว่าถ้ามีคนเอาจักรยานแบบนี้มาขาย หรือเจอใครมาซ่อม ช่วยแจ้งแม่ตะลีด้วย
จนในที่สุดเด็กมาแจ้งว่าเจอกระเทยขี่จักรยานโฉบไปโฉบมา เราเลยไปแจ้งตำรวจ ตามไปจับถึงบ้านได้จักรยานคืนมา ได้จักรยานแล้วก็ไม่เอาเรื่องคนขโมย ปล่อยตัวไป
เอากลับมาใช้ได้อีกนาน ก็หายเป็นครั้งที่ 2 คราวนี้ไม่มีใครพบเห็นอีก เป็นอันต้องพรัดพรากกันถาวร ต้องหันมาพึงมอเตอร์ไซค์แทน
พออายุมากก็มีจักรยานปั่นเพื่อออกกำลังกายของตัวเอง ปั่นวันละแค่ไม่เกิน15 กิโลเมตร พอทำให้หัวใจแข็งแรง ขี่แรกๆเจ็บก้นกบมากๆ ด้วยน้ำหนักตัวเพิ่มแยะ ซื้อเบาะหุ้มซิลิโคน และนุ่งกางเกงอัดซิลิโคน พอยับยั้งความเจ็บก้นกบได้บ้าง ตอนหลังๆก้นกบด้านบ้าง แต่ปลายนิ้วมือชา เวลาจับแฮนด์นานๆ ไม่ได้ขี่ทุกวัน สัปดาห์หนึ่ง ออกแค่2-3ครั้ง แล้วแต่สภาพดินฟ้าอากาศ และสภาพความพร้อมของตัวเอง
ปั่นเพื่อหัวใจ ให้แข็งแรงและเพลิดเพลินกับอากาศยามเช้าริมทะเลค่ะ
แต่หากปั่นไปแล้วเจอดอกไม้ที่ชอบ ก็จอดเอี๊ยดแล้วแชะกับดอกไม้ก่อนปั่นกลับ
มาปั่นเพื่อหัวใจกันนะคะ ไม่ต้องแข่งกับใคร แต่แข่งกับตัวเองพอค่ะ
Create Date : 29 มีนาคม 2561 |
Last Update : 29 มีนาคม 2561 10:52:51 น. |
|
32 comments
|
Counter : 1154 Pageviews. |
|
 |
|
ว่างจากงานเดินสายอ่านของเพื่อนๆ
หน้าฝนงานต้นไม้เยอะมาก ตัดแต่ง เพาะ
เตรียมรับลมฝนที่เตือนกันมาตลอดว่าจะมีพายุฤดูร้อน
อ่านจบแล้วชอบนะคะเล่าเรื่องได้เห็นภาพตาม
นึกถึงตัวเองเริ่มหัดจักรยานจาของลุงเหมือนกัน
เป็นจักรยานผู้ชายอีกด้วยหัดจนเป็น
ล้มได้แผลเยอะแต่สนุกตื่นเต้นว่าจะได้ไม่ได้
และในที่สุดก็ได้ ดีใจนัก
แถวบ้านมีสว.ถีบจักรยานแบบมีสองล้อหลัง
ออกกำลังกันทุกเช้า กำลังเมียงๆมองว่าจะลองบ้าง
ขอให้มีความสุขกับการออกกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะคะ