|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2563
|
|
|
|
ตายายสายแค้มปิ้ง2
ตอนที่แล้ว ออกจากห้วยน้ำดัง เลี้ยวขวาไป ปาย แวะถ่ายรูประหว่างทาง บางที่อยากจอดถ่ายรูปแต่ทำไม่ได้ ด้วยไม่มีที่ให้จอดแบบปลอดภัยเลย เคยมาปายครั้งหนึ่งเมื่อ8ปีที่แล้ว เพราะอยากจะมาดูทุ่งบัวตอง และมาดูคอนเสิร์ตหามรุ่งหามค่ำ ไปพักอยู่ที่ "ปาย ปณารี" เจอนักร้องดัง.."คุณเศก โลโซ" มากับภรรยา พักบ้านหลังใกล้ๆกัน หลานๆและน้องไปขอลายเซ็นต์ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มา ถนนหนทางดีขึ้นมากๆ ขับสบาย แม้จะเอียงกะเท่เร่ ซ้ายทีขวาที ด้วยคุณพขร. ชอบการขับรถถนนแบบนี้เป็นยิ่งนัก
ขับรถผ่านตลาดปางมะผ้า แวะเข้าตลาดสด ซื้อผัก หมู ไข่ ผักถูกมากๆ กำละ10บาท มะเขือเทศถุงละ10บาท ซื้อน้ำแข็งเพิ่ม เพื่อแช่ของสด ซื้อข้าวเหนียวนึ่งมาจากร้านส้มตำ มันเทศและอะโวคาโดของโปรดจากร้านชาวบ้านข้างทาง
เราตั้งจุดหมายว่า ปางอุ๋ง แล้วก็ขับรถมาตามGPSเรื่อยๆ บางครั้งก็นึกว่า สงสัยจะมาผิดทาง เพราะเครื่องนำทางพาเราเข้าซอยเล็กซอยน้อย รถสวนกันไม่ได้ ต้องถอยไปแอบข้างทาง ต้องแวะถามชาวบ้านแถวนั้น จึงรู้ว่ามาถูกทางแล้ว โห....ไกลจนเหนื่อย ถึงเสียที
เสียค่าเข้า รถ 30 บาท คนอายุเกิน 60 ไม่ต้องเสีย ค่ากางเต๊นท์ คนละ30 บาท ที่ห้วยน้ำดัง อายุ 60 ขึ้นไปไม่ต้องเสีย แต่ที่นี่เก็บเงิน ไม่ได้ซักถาม เขาเก็บก็จ่าย เพราะบำรุงสถานที่ไป เต็มใจมาก
เวียนรถหาทำเลกางเต๊นท์ ริมน้ำพื้นที่ลาดเท ไม่เหมาะกับเรา หาพื้นที่เสมอๆดีกว่า เอาของลงเสร็จ ต้องขับรถไปจอดที่ลานจอดรถด้านใน ใกล้ๆห้องน้ำห้องส้วม เจอสามีภรรยาคู่หนึ่งเดินเข้ามาทัก ว่ามาจากห้วยน้ำดังใช่ไหม ตอบว่าใช่ค่ะ เขาบอกจำเราได้ จำทะเบียนรถได้ เพราะเขายังคิดว่า เรามาไกลจังเลย เลยได้คุยกัน เขามาจากอุดร ..โห..ไกลเช่นกัน ชอบขับรถเที่ยวแบบเดียวกัน
กางเต๊นท์เสร็จ ราวๆ 4โมงเย็น ก่อไฟทำอาหาร รถเริ่มทะยอยเข้ามากันเรื่อยๆ จนถึง 4 ทุ่ม ก็ยังมีเข้ามา บางเต๊นท์เอาสัตว์เลี้ยงมาด้วย ทั้งหมาแมว ตกกลางคืน หมาเห่าตลอด ด้วยความที่บรรยากาศเงียบมาก จึงเสียงดังก้องไปทั่ว เจ้าหน้าที่จึงเดินมาเตือนว่าที่จริง ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามา ถ้าเอาเข้ามาแล้วต้องจัดการอย่าให้เสียงดังรบกวนคนอื่น เจ้าของจัดการอย่างไรไม่รู้ แต่เสียงก็เงียบไป
ก่อไฟทำอาหารเย็นกัน เย็นนี้มีข้าวจี่ ซื้อข้าวเหนียวมาจากร้านส้มตำ เหยาะเกลือนิดหน่อยแล้วชุบไข่ จี่ข้างนอกกรอบข้างในยังนุ่ม มีซุบผักกาดซดตามร้อนๆ อร่อยกลางป่าสนกันเลย มันเผาก็มี ตามด้วยมะพร้าวน้ำหอมที่ซื้อติดรถมาจากสุราษฏร์ 1 ทะลาย ยิ่งมืดอากาศยิ่งลดต่ำ ต้องรีบหาเสื้อกันหนาวใส่ตอนกินข้าวกัน
กินเสร็จเก็บล้าง ไปเข้าห้องน้ำห้องท่าที่ต้องเดินไปไกลหน่อย แล้วเข้านอนคุยกันในเต๊นท์ ตกดึกอาการตะคริวจับที่น่อง ทีนี้เลยต้องลุกขึ้นมานวดน่องตัวเอง ตาได้ยิน ลุกขึ้นมานวดให้ต่อ อากาศมันลดทีละแยะ มากกว่าเมื่อคืน เช้าตื่นมาต้มน้ำชงกาแฟ กับขนม มันเผาที่เหลือจากเมื่อคืน และผลไม้ ออกไปเดินดูหมอกอ้อยอิ่งเหนือน้ำ
https://youtu.be/htUKuWJD0Sg
แพเริ่มออกล่องไปมากันแล้ว
กินกาแฟเสร็จ อาบน้ำแต่งตัว หมอกจางแล้ว ลงไปมองหาหงส์ดำหงส์ขาว
ไม่เจอหงส์ดำ เห็นแต่หงส์ขาวไกลๆ ซูมมาได้แค่นี้เอง แต่ดูเหมือนห่านมากกว่าหงส์นะ
พอเต๊นท์แห้ง ก็เก็บเต๊นท์ เดินดูรอบๆบริเวณ มีแปลงดอกไม้อยู่นิดหน่อย บ้านพักเงียบๆ ร้านสวัสดิการยังไม่เปิด
แวะดูไผ่ยักกอเดิมที่เคยมากอดไว้เมื่อ7ปีที่แล้ว อยู่หลังร้านกาแฟ ห่างจากทางเข้าอ่างเก็บน้ำปางอุ๋งนิดเดียว กอไผ่ยังอยู่เหมือนเดิม แต่สิ่งปลูกสร้างแยะขึ้น มีห้องพักเรียงรายเป็นแถวตรงทางเข้า
ปากทางเข้าเป็นร้านกาแฟ มีโรงคั่วกาแฟหอมกรุ่น
ออกเดินทางต่อไปแวะหมู่บ้านรักไทยเสียหน่อย
ได้เวลาอาหารเที่ยง มีขาหมูหม่านโถว และชายอดน้ำค้างหอมมากๆ กับชาโสมหวานลิ้นชุ่มคอ ระหว่างรออาหาร ลงไปนั่งเรือ หน้าผากโขกกับขอบหลังคาเรือโป๊ก...เจ็บมาถึงบ้านเลย ดีที่มีหมวกบัง ไม่งั้นมีแตก
ที่นี่ก็เจอสามี ภรรยาจากอุดรอีก เขามาหาจุดกางเต๊นท์ริมบึง ชวนเรากางเต๊นท์ที่เดียวกัน แต่เราไม่ชอบบรรยากาศ และเขาห้ามก่อไฟทำกับข้าวทุกชนิด ไม่เหมาะกับเราเลย จึงปฏิเสธไป
กินอิ่มเวียนรถหาที่พักกางเต๊นท์เหมาะๆ แต่ดูแล้วไม่ชอบ จึงเวียนรถเข้าไปตัวเมืองแม่ฮ่องสอนอีก11กม. เพื่อเติมน้ำมัน ถนนหนทางเขาโล่งดีจริงๆ แวะลงสักการะตรงจุดนี้สักหน่อย
มานั่งกางแผนที่กันในรถ ว่าจะไปทางไหนกันต่อ จะตียาวลงใต้ต่อไปอ.ขุนยวม เข้าแม่แจ่ม ไปดอยอินทนนท์ ดีไหม แต่ทางก็จะคดเคี้ยวเหมือนไส้หมูเช่นเดิม ตาบอกดอยอินทนนท์ไปบ่อยแล้ว ย้อนกลับทางเดิมดีกว่า ก็ย้อนเส้นทางเดิมกลับมาถึง ทางแยกเข้า อ.กัลยาณิวัฒนา บอกว่าเราเข้าไปทางนี้เพื่อไป สะเมิง กันดีมั๊ย ตาถาม สะเมิงมีจุดกางเต๊นท์ที่น่าสนใจมั๊ย เราก็ตอบไม่ได้ ไม่เคยไป ไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนด้วย..แฮ่ะ ที่จริงเราเตรียมข้อมูลของ อ.กัลยาณิวัฒนาไว้แล้ว จากบล็อกของคุณ Jinny Tent แต่เราลืมหยิบสมุดโน๊ตมา ครั้นจะเปิดเน็ต เน็ตเราก็เดี้ยง ตกลงขับผ่านทางเข้าไปเรื่อยๆ จนเริ่มเย็น
ระหว่างทาง และตามตลาดเจอรถตำรวจทหาร คงมาเตรียมการรับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ชักไม่เข้าที ถนนคดเคี้ยวแบบนี้ มืดๆอันตรายสำหรับคนไม่ชินทาง ในที่สุดตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปที่จุดกางเต๊นท์ห้วยน้ำดังอีกครั้ง เวียนไปที่เดิม เขาปิดไม่ให้เข้า อ้าว เวียนหาใหม่ ไม่มีที่ๆจอดรถใกล้ๆที่กางเต๊นท์ได้เลย ตายาย ไม่สามารถขนของขึ้นลง ขึ้นลงไกลๆได้ ทำไงดี จอดรถกันอยู่หน้าร้านสวัสดิการ ที่ดูเหมือนไม่ได้ทำการแล้ว ตัดสินใจไปถามเจ้าหน้าที่ว่า กางในศาลานี้ได้ไหม เจ้าหน้าที่อนุญาต สบายเลยเรา กางเต๊นท์ที่ระเบียงร้าน วิวโอเคอยู่ทางทิศตะวันออก
กางเต๊นท์เสร็จ มืดพอดี
ทำอาหารเย็นกัน หมูผัดกะเพรา ผัดแขนงน้ำมันหอย มีปลากรอบ หมูแดดเดียวแนม
คืนนี้เครื่องกันหนาวเต็มสตรีม กันตะคริวจับอีก
ตกลงตะคริวไม่จับเช่นคืนก่อนๆ แม้จะหนาวมาก ตื่นมาชมอาทิตย์ขึ้น บนยอดดอย
มีข้าวเย็นเหลือ เลยทำข้าวต้ม มื้อเช้า
เก็บของเสร็จแวะถ่ายรูป เราก็ไปต่อกันอีก เจ้าหน้าที่ที่ด่านบอกว่าบัตรเข้าอช.นี้สามารถใช้เข้าที่อื่นได้อีก เช่น น้ำพุร้อนโป่งเดือด งั้นเราไปกันเลย
เจอดอกนางพญาเสือโคร่งข้างทาง ชื่นใจ ไม่ได้ชม ที่อ.ขุนวาง หรือขุนช่างเคี่ยน ก็ไม่เป็นไรแล้ว
จากห้วยน้ำดัง มาโป่งเดือด ไม่ไกลนัก ขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกนิดหน่อยก็ถึง ยื่นบัตรเข้าจากห้วยน้ำดัง ไม่ต้องเสียค่าเข้าอีก
เดินดูสถานที่รอบๆแล้ว มีลำธารน้ำไหล มีที่อาบ แช่น้ำร้อนน้ำแร่ ดีเลย จะได้สระผมด้วย เหนียวมาหลายวันแล้ว ตกลงว่าจะพักกางเต๊นท์กันที่นี่แหละ ไม่ไปต่อแล้ว
เข้ามาติดต่อที่สำนักงาน เพื่อจ่ายค่ากางเต๊นท์ จนท.บอกค่อยมาจ่ายตอนกางเต๊นท์เสร็จแล้วก็ได้ เราก็สงสัยว่าเพราะเหตุใด
หาจุดกางเต๊นท์ใกล้ๆลำธาร ห่างผู้คนหน่อย มีเต๊นท์กางอยู่ 2 เต๊นท์ แต่พอเรากางเสร็จ 2เต๊นท์นั้นก็เก็บของ เก็บเต๊นท์ ขับรถออกไปตอนบ่ายๆ อ้าวเหลือเราเต๊นท์เดียวเอง
มีแม่ค้าขายส้มตำอยู่เจ้าเดียว เลยสั่งส้มตำกับไก่ย่างมากินยามบ่าย ไก่ทอดได้ดำมากๆ แต่แห้งดี พอตอนสักบ่าย4โมงเย็นเขาก็เก็บแผงกลับ เจ้าหน้าที่ที่อยู่เวรยาม มาบอกว่า ไปเข้าห้องน้ำห้องส้วม ในสำนักงานได้เลยนะครับ ปิดประตูไว้กันหมาเข้าไป แต่ไม่ได้ใส่กลอน แล้วจนท.ก็หายไปหมดเลยเมื่อยาม5โมงเย็น
เราตระเวนไปแช่น้ำอุ่น สระผมเรียบร้อย เดินขึ้นไปดูบ่อน้ำผุด เดือดคลั่กๆ ไร้ผู้คน ดูเหมือนไม่ค่อยมีใครเข้ามาเที่ยวมากนัก
มีอะโวคาโดที่ซื้อมา สุก อร่อยเลย
ลงมาแช่เท้า สบายจัง
ด้านหลังเป็นห้องแช่ส่วนตัว 50 บาท ถ้าสระรวม 20 บาท แต่ไม่ได้ถ่ายมาเพราะมีลูกค้าต่างชาติแช่อยู่ เย็นนี้มีต้มถั่วเขียวร้อนๆ มาม่าผัดกระเพราหมูใส่แขนงกระหล่ำ กินร้อนๆอร่อยดี ไม่มีภาพ เพราะตรงที่กางเต๊นท์ไฟมืดมิด รีบๆทำ รีบๆกิน ไร้ผู้คน วังเวงมากๆ ดีที่ได้ยินเสียงร้องคาราโอเกะมาจากบ้านคนงานไกลๆ เป็นเพื่อนไม่ให้เหงาจน4ทุ่มจึงเงียบไป นอนฟังเสียงน้ำไหลจ๊อกๆๆๆๆจากลำธารข้างหลังเต๊นท์ และเสียงกรีดกริ่งของแมลงรอบตัว ก็หลับไปในที่สุด อากาศไม่หนาวเช่นคืนก่อนๆ เลยนอนสบายหน่อย ตื่นเช้าต้มน้ำชงกาแฟ กินถั่วเขียวต้มที่เหลือจากเมื่อคืน ขนมปังปิ้ง กับผลไม้ เก็บของเตรียมเดินทางต่อเมื่อคืนแต่7-10องศา ทนได้หน่อยทำกิจส่วนตัวในห้องน้ำสำนักงาน สะอาดสะดวกกดีมาก แต่ถ้าคนแยะๆน่าจะไม่พอใช้
เราออกจากโป่งน้ำเดือดตอนสายๆแล้วตาได้พักผ่อนเต็มที่ ขับรถด้วยความสนุกอีกครั้ง ตอนนี้แวะซื้อผลไม้บ้าง ของใช้บ้าง เซรามิคบ้างตามทางผ่าน กะว่าขับกลับเข้าเชียงใหม่ และล่องกลับบ้านเลย ไปแบบไม่ต้องรีบ
จนเข้าเส้นทางหลักเลี้ยวขวาเข้าแม่ริม ลำพูน
ผ่านกำแพงเพชรก็เริ่มเย็นแล้ว ไปต่ไม่ไหวแระ เจอ "สลกบาตรรีสอร์ท" ก็เลี้ยวเข้าไปดูลาดเลาก่อน
เจ้าของเป็นหญิงชรา อายุน่าจะเกือบ 70 ออกมาต้อนรับ เปิดห้องให้ดู โอเคเลย 2 เตียง สะอาดสะอ้าน ไม่มีกลิ่นอับ หรือกลิ่นบุหรี่ ผ้าเช็ดตัวสะอาด ผ้าปูสะอาด ตกลงพักที่นี่ คืนละ 450 บาทเอง ถูกมาก บ้านเจ้าของอยู่ด้านใน
คุยไปคุยมา ก็รู้ว่าไม้ทั้งต้นที่วางอยู่หน้าเค้าน์เตอร์เป็น ไม้หีบอ้อยโบราณของที่บ้าน เพราะอาก๋งอาเตี่ย ทำโรงงานน้ำตาล เป็นของที่ไม่ได้ใช้แล้วเลยเอามาเก็บไว้ดู ร่องรอยของการผ่านงานปรากฏอยู่ที่ไม้ ชอบมากค่ะ
กินนมและผลไม้แทนข้าวเย็นกัน คืนนี้หลับสบาย ตื่นมาตอนเช้ามีกาแฟและขนมให้กินที่หน้าเค้าน์เตอร์ แล้วเราก็เดินทางต่อแต่เช้ามืด
มาถึงสุพรรณ ลูกโทรมาบอกให้ซื้อขนมสาลี่นมสด โน่น นี่ นั่นฝากด้วย เลยต้องแวะ
มาถึงสุพรรณทีไร ได้เรื่องทุกครั้ง เพราะคราวนี้เลี้ยวผิด GPS ก็พยายามพาเราไปให้ได้ แต่ทางที่ไปมันลัดเลาะเข้าท้องทุ่ง ท้องนา แทนที่จะแล่นซุปเปอร์ไฮเวย์ เอาละซิ เล่นเอาปวดหัว เจอทุกครั้งช่วงขากลับและผ่านสุพรรณบุรี ไหนๆก็ผ่าเข้าท้องนาแล้ว ก็แวะถายรูปซะ เสียเวลา แต่ไม่ยอมเสียโอกาส
พอเดินกลับขึ้นรถ เจองูเห่าทั้งตัว นอนตาย แห้งแข็งหมดแล้ว อยู่ตรงประตูรถ ตอนโดดลงไม่ได้สังเกต ตอนจะขึ้นจึงเห็น นี่ถ้ามันยังเป็นอยู่ คงตายคาท้องนาอยู่ตรงนั้นเอง ดวงสมพงษ์กับงูเห่าเสียจริง แม่เอ๊ย
ยังหลงต่อไปค่ะ เข้าถนนหมู่บ้านเล็กๆแคบๆ เฮ้อ!!
เหลือบไปเห็นอาคารไม้เก่าๆแบบโบราณ ที่เชิงสะพานข้ามคลองด้วย อยากแวะ แต่ พขร.เรารมณ์บ่จอยซะแล้ว อยากออกไปถนนใหญ่เร็วๆ
พขร.เริ่มขิ้วขมวด เพราะไม่รู้ทางข้างหน้า และเสียเวลาแยะ แต่เราเฉยๆแฮะ ได้ลดเลี้ยวเที่ยวซอกแซกดีไม่เคยมา ไม่เคยเห็นในที่สุดก็หลุดออกมายังถนนหลักได้ ทีนี้เรื่องถนนลงภาคใต้ ไม่ต้องใช้GPS แล้ว จึงปิดซะ มามืดเอาที่ ท่าฉาง จ.สุราษฏร์ธานี แวะเติมน้ำมันและเข้าห้องน้ำ เจอที่พักพอดี ของกินก็เพียบ สะดวกเลย ค่าที่พักเตียงคู่ 550 บาท สบายๆ
ตื่นเช้ามืด ออกเดินทางต่อ อากาศเย็น หมอกลงอีกเช่นเคยแถว เขาพนม จ.สุราษฏร์ธานี
แวะทำบุญไหว้พระที่วัดมหาธาตุ วชิรมงคล ที่กระบี่ ไปถึงเช้ามาก อุโบสถยังไม่เปิด ได้ไหว้ด้านนอก
อาทิตย์กำลังจะขึ้น
ได้เวลาอาหารเช้า ที่ตลาดเช้าทับปุด พังงา
กลับมาถึงบ้าน มีแมวมารอรับด้วย ฟูฟูนั่นเอง
จบทริป ตายายสายแค้มปิ้ง ด้วยระยะทางไปกลับ กว่า 3,600 กิโลเมตร
สวัสดีตายายสายแค้มปิ้ง 1 คลิก
Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2563 |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2563 14:49:46 น. |
|
20 comments
|
Counter : 1824 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณเริงฤดีนะ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณThe Kop Civil, คุณJinnyTent, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณmcayenne94, คุณTui Laksi, คุณhaiku, คุณkae+aoe, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณกะว่าก๋า, คุณtuk-tuk@korat, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณเนินน้ำ, คุณSai Eeuu, คุณKavanich96, คุณหอมกร |
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:11:51:25 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:16:59:35 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:19:18:58 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:21:13:06 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:9:35:19 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:10:03:42 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:10:10:46 น. |
|
|
|
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:17:32:44 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:19:24:53 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:2:43:47 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:7:12:09 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:9:05:13 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:13:00:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:14:31:42 น. |
|
|
|
โดย: Sai Eeuu วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา:14:58:15 น. |
|
|
|
| |
|
|
ตะลีกีปัส |
|
|
|
|
Long Live Love