"ความรู้" คู่ "ความงาม"
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2551
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
12 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 

Artistry : Time Defiance Line

Artistry เป็นแบรนด์เครื่องสำอางของ Amway ที่โฆษณาว่ามียอดขายติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก... แต่ยอดขายเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการตลาดทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์จะมีคุณภาพดีเสมอไป (แมคโดนัลก็ขายดีมีสาขาทั่วโลก แต่มันก็ไม่ได้เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพซะหน่อย...)

ผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยมนั้นก็มีอยู่บ้าง และที่น่าใจก็มีอยู่หลายตัว แต่ส่วนใหญ่จะธรรมดาและโฆษณาเกินจริงไปมาก ราคาชุดผลิตภัณฑ์เบสิคบางตัวก็เหมาะสมดี แต่ส่วนใหญ่จะแพงเกินไปนิด

ในความคิดของกระผม นั้น ข้อเสียของ Artistry อีกส่วนอยู่ที่ตัวผู้ขายที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องสินค้าอย่างถึงแก่น ส่วนมากที่เจอก็จะพูดคล้าย ๆ กันเหมือนถูกล้างสมองออกมาจากโรงงานเดียวกัน ยัดเยียดการขายมากไปหน่อย และไม่ค่อยรับผิดชอบถ้าเกิดอาการแพ้ผลิตภัณฑ์ (ที่เจอบ่อย ๆ จะชอบพูดว่า "เนี่ยมันกำลังปรับสภาพผิว สิวจะเห่อ ๆ มาบ้างแหล่ะ ผ่านไปสักเดี๋ยวผิวก็จะสวยเด้งอย่างคาดไม่ถึงเลย" แต่อนิจจา ใครที่ทนใช้ต่อไปก็จะหน้าแหกยับและไม่เคยได้พบความสวยอย่างที่เขาบอก)

แต่อย่างไรก็ดีนี่ก็เป็นเพียงข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจนะขอรับ และการรีวิวจากส่วนผสมก็เป็นการกรองสารที่อาจก่อการระคายเคืองไปได้แค่ในระดับหนึ่ง แต่การแพ้ ระคายเคือง หรืออุดตันนั้นเป็นปัจจัยที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ปูเป้แนะนำให้ทดสอบการแพ้ก่อนทุกครั้งถึงแม้ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปูเป้ให้ไฟเขียวก็ตาม ทั้งหมดนี้ทุกท่านก็ต้องนำไปพิจารณาตัดสินใจเลือกซื้อเลือกใช้กันเอาเอง ไม่จำเป็นต้องเชื่อหรือเห็นด้วยกับกระผมไปซะทั้งหมดนะขอรับ





หมายเหตุในการทำ Review


การทำ Review ของปูเป้นั้นมีจุดประสงค์ในการนำเสนอข้อมูลที่เป็นกลาง เน้นการรีวิวจากส่วนผสม และใช้ข้อมูลที่ผ่านทดสอบและวิจัยอย่างกว้างขวางเท่านั้นในการตัดสิน เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์ในการนำไปตัดสินใจเลือกซื้อหรือเลือกใช้ตามอัธยาศัย

ผลิตภัณฑ์ที่ปูเป้แนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือว่ามีส่วนผสมไม่ดี กล่าวคือ มีโอกาสก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ ซึ่งปูเป้คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงส่วนผสมเหล่านั้น แต่หากใครรักใครชอบที่จะใช้และรู้สึกว่าส่วนผสมที่ปูเป้แนะนำให้หลีกเลี่ยงว่ามันดีเลิศกับผิวก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลขอรับ ผมไม่ได้บังคับให้เชื่อผมทุกคำพูด ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับปูเป้ไปซะทั้งหมดก็ได้ขอรับ

หากท่านผู้ใดไม่ยอมรับหรือยอมรับไม่ได้กับความจริงข้อนี้ คิดว่ามันไม่แฟร์ หรืออยากออกมาปกป้องแบรนด์ที่ท่านเทิดทูน ปูเป้เสนอให้ท่านไปอ่านรีวิวแบบว่า "ความรู้สึกของเดี๊ยนหลังการใช้ผลิตภัณฑ์XXXX" หรือรีวิวประเภท "อิชั้นใช้ได้ อิชั้นให้เต็ม ใครใช้แล้วหน้าแหกหนูไม่รับรู้" จะถูกใจกว่านะขอรับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น กระผมไม่ได้ต้องการจะกีดกันผู้ใดแต่อย่างไร เพียงแต่กระผมค่อนข้าง "เหนื่อย" กับการที่ต้องมาอธิบายซ้ำ ๆ ซาก ๆ ในสิ่งที่กระผมได้แจ้งหมายเหตุไว้ล่วงหน้าแล้ว



Photobucket





Photobucket


Time Defiance Cleansing Treatment


ผิวดีเริ่มต้นที่การทำความสะอาด... แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถบำรุงผิวเพื่อลดเลือนริ้วรอยได้ตั้งแต่การล้างหน้า...

จริง ๆ แล้ว Time Defiance Cleansing Treatment ก็เป็นคลีนเซอร์ธรรมดาสามัญตัวหนึ่งที่มีสารทำความสะอาดอ่อนโยนดี และGlycerin ปริมาณสูงก็ช่วยทำให้ผิวไม่แห้งตึงหลังใช้ นอกจากนั้นก็เป็นตัวปรับค่า pH กับน้ำหอมและสารกันเสีย

ถ้าคุณสังเกตดี ๆ จะพบว่าสารสกัดและสารบำรุงที่ใส่มาเยอะแยะเรียงรายเป็นหางว่าวนั้น อยู่ใส่ตามหลังสารกันเสีย (Methylparaben และ Phenoxyethanol) บอกได้ว่ามันมีปริมาณน้อยมากและไม่ก่อประโยชน์อันใดกับผิว มีเอาไว้หลอกผู้บริโภคให้หลงเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้พิเศษแตกต่างจากของทั่วไป (แต่ถึงจะมีเยอะมันไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ ยังไงก็ต้องถูกล้างออกอยู่ดี)

ได้ไฟเขียวไปเนื่องจากมันทำความสะอาดได้อ่อนโยนดีและไม่ทำให้ผิวแห้งตึง แต่มีส่วนผสมของน้ำหอมก็อาจจะไม่เหมาะกับผิว sensitive เท่าไรนัก ถ้าราคาประมาณ 350 – 500 บาทปูเป้ก็ว่าน่าสนใจที่จะลงทุน แต่ราคาเป็นพันแบบนี้ก็อย่าหวังจะได้แอ้มเงินเงินกระผมไปเลย แพงเกิ๊น...


Ingredients :
Glycerin, Water, Sodium Cocoyl Glycinate, Cocamidopropyl Betaine, Glycol Distearate, Citric Acid, Myristic Acid, Fragrance, Methylparaben, Butylene Glycol, Imperata Cylindrica Root Extract, Phenoxyethanol, Lauric Acid, Tea-Cocoyl Alaninate, Stearic Acid, Behenyl Alcohol, Sodium Pca, Urea, Avena Sativa (Oat) Kernel Extract, Peg-8, Phytosteryl/Octyldodecyl Lauroyl Glutamate, Polyquaternium-7, Hydroxypropyltrimonium Honey, Carbomer, Trehalose, Phenyl Trimethicone, Dipotassium Glycyrrhizate, Butylparaben, Ethylparaben, Polyquaternium-51, Isobutylparaben, Propylparaben, Panthenol, Proline, Hydrolyzed Rice Protein, Lecithin, Hydrolyzed Oats, Atelocollagen, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Extract, Sodium Hyaluronate, Glycine Soja (Soybean) Protein, Tocopheryl Acetate, Chamomilla Recutita Flower Extract, Chitosan, Dextrin, Cyclodextrin, Sphingolipids, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract, Ceramide 3, Beta-Sitosterol


Photobucket


Time Defiance Conditioning Toner


ก็ไม่แย่...

แต่ก็ไม่ดี...

เทียบกับจำนวนเงินที่จ่ายไปนั้น นี่ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่คุ้มค่ากับการลงทุนเอาเสียเลย เพราะคุณสมควรจะได้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมดีเลิศมากกว่าจะได้โทนเนอร์ที่มีแค่ น้ำ สารให้ความชุ่มชื้นนิดหน่อย สารแอนติออกซิแดนท์กระจึ๋งนึง กับสารกันเสียแล้วก็น้ำหอม... สารสกัดที่มีคุณค่าหลายตัว อย่างเช่น Dipotassium Glycyrrhizate (ต้านการระคายเคือง) Soybean Protein (แอนติออกซิแดนท์และลดการอักเสบของผิว) นั้นถูกใส่มาในปริมาณน้อยมากจนไม่ก่อประโยชน์อะไรกับผิว (ใส่มาหลังสารกันเสียและน้ำหอม)

ถึงจะมีสารก่อการระคายเคืองอยู่น้อยตัว แต่ปูเป้ให้ไฟเหลืองไปเพราะมันธรรมดาสุด ๆ


Ingredients :
Water, Butylene Glycol, Biosaccharide Gum-1, Glycerin, Arginine, Chlorphenesin, Ceteth-20, Ethoxydiglycol, Hydrolyzed Oats, Dimethyl Isosorbide, Methylparaben, Fragrance, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Panthenol, Benzoic Acid, Disodium Edta, Dipotassium Glycyrrhizate, Proline, Hydrolyzed Rice Protein, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Extract, Glycine Soja (Soybean) Protein, Lecithin, Chamomilla Recutita (Matricaria) Flower Extract, Sodium Hyaluronate, Ceramide 3, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract, Beta-Sitosterol


Photobucket


Time Defiance Day Protect Crème SPF 15


สิ่งที่ครีมกระปุกนี้ให้คุณได้จริงคือสารกันแดด SPF15 ที่ปกป้องผิวจาก UVA และ UVB ซึ่งสามารถช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและปัญหาผิวเมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเป็นประจำทุกวัน

แต่คำโปรยที่บอกว่าผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยปกปิองผิวจากอนุมูลอิสระได้ในระดับเทพนั้นล้วนแต่เป็นคำลวงโลกทั้งสิ้น (ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอกนะสำหรับแบรนด์ในเครือ Amway...) เนื่องจากสารแอนติออกซิแดนท์ที่มีความเข้มข้นพอที่จะเป็นประโยชน์กับผิวได้จริง มีอยู่ตัวเดียวคือวิตามินอี ซึ่งเสื่อมสลายได้ หลังจากคุณเปิดกระปุกให้ผลิตภัณฑ์สัมผัสแสงและอากาศ

ส่วนผสมที่มีประโยชน์จริงหลาย ๆ ตัว ก็ห้อยอยู่หลังสารกันเสียและน้ำหอม (อีกแล้ว) จึงมีความเข้มข้นไม่มากพอที่จะส่งผลดีกับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เหมือนจ่ายเงินแพง ๆ เพื่อให้ได้บินหรูในชั้นเฟิร์สคลาสแต่ดันได้บริการเทียบเท่าสายการบินต้นทุนต่ำ


Active Ingredients : Octinoxate (7.5%) Avobenzone (3%)

Other Ingredients : Water, Caprylic/Capric Triglyceride, Phenethyl Benzoate, Butylene Glycol, Arachidyl Alcohol, Behenyl Alcohol, Glycerin, Squalane, Glyceryl Stearate, Isostearyl Palmitate, Peg-100 Stearate, Tocopheryl Acetate, Hydroxyethyl Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer, Cetyl Alcohol, Arachidyl Glucoside, Methylparaben, Benzyl Alcohol, Chlorphenesin, Ozokerite Dimethicone, Fragrance, Hydrolyzed Rice Protein, Polysorbate 60, Glycine Soja (Soybean) Oil, Tocopherol, Panthenol, Tetrahexyldecyl Ascorbate, Tetrahydrodiferuloylmethane, Phospholipids, Disodium Edta, Bioflavonoids, Citrus Grandis (Grapefruit) Peel Extract, Stearyl Glycyrrhetinate, Vitis Vinifera (Grape) Seed Extract, Glutathione, Glycine Soja (Soybean) Protein, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Extract, Tetrahydrodemethoxydiferuloylmethane, Proline, Superoxide Dismutase, Lecithin, Tetrahydrobisdemethoxydiferuloylmethane, Camellia Sinensis Leaf Extract, Palmitoyl Hydroxypropyltrimonium Amylopectin/Glycerin Crosspolymer, Sodium Hyaluronate, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract, Hydrogenated Lecithin, Ceramide 3, Beta-Sitosterol


Photobucket


Time Defiance Day Protect Lotion SPF 15


นี่ก็คือ Time Defiance Day Protect Crème SPF 15 ที่จำแลงแปลงร่างมาอยู่ในรูปแบบโลชั่น นอกเหนือจากนั้นก็เหมือนกันทุกอย่าง ทั้งเรื่องที่กันแดดได้ครบทั้ง UVA กับ UVB และเรื่องที่มีสารบำรุงในระดับที่น่าสังเวชใจ

อ้อ... อย่างน้อยบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกว่าก็ช่วยให้วิตามินอีไม่เสื่อมสลายไปเหมือนแบบกระปุกครีมนะขอรับ


Active Ingredients : Octinoxate (7.5%), Avobenzone (3%)

Other Ingredients : Water, C12-15 Alkyl Benzoate, Glyceryl Polymethacrylate, Arachidyl Alcohol, Glycerin, Dipropylene Glycol Dibenzoate, Tocopheryl Acetate, Dimethicone, Butylene Glycol, Potassium Cetyl Phosphate, Peg-33, Phenoxyethanol, Behenyl Alcohol, Hydroxyethyl Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer, Peg-8 Dimethicone, Hydrogenated Palm Glycerides, Squalane, Peg-14, Arachidyl Glucoside, Fragrance, Ppg-15 Stearyl Ether Benzoate, Hydrolyzed Rice Protein, Methylparaben, Polysorbate 60, Panthenol, Citrus Grandis (Grapefruit) Peel Extract, Tocopherol, Glycine Soja (Soybean) Oil, Disodium Edta, Bioflavonoids, Tetrahexyldecyl Ascorbate, Tetrahydrodiferuloylmethane, Phospholipids, Iodopropynyl Butylcarbamate, Vitis Vinifera (Grape) Seed Extract, Butylparaben, Ethylparaben, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Extract, Glutathione, Glycine Soja (Soybean) Protein, Tetrahydrodemethoxydiferuloylmethane, Propylparaben, Isobutylparaben, Proline, Superoxide Dismutase, Lecithin, Tetrahydrobisdemethoxydiferuloylmethane, Camellia Sinensis Leaf Extract, Palmitoyl Hydroxypropyltrimonium, Amylopectin/Glycerin Crosspolymer, Sodium Hyaluronate, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract, Hydrogenated Lecithin, Ceramide 3, Beta-Sitosterol


Photobucket


Time Defiance Night Recovery Crème


นอกจากส่วนผสมที่ประกอบกันเป็นเบสครีมแล้ว ก็มี Glycerin ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น กับ Squalane ช่วยเคลือบผิวและเป็น Natural Moisturizing Factor ก็สามารถช่วยให้ริ้วรอยเล็ก ๆ จากความแห้งกร้าน (หรือ Fine Line) ลดเลือนลงไปได้ (ซึ่งมอยซ์เจอไรเซอร์ราคาถูกทั่ว ๆ ไปก็ทำได้) ส่วน Tocopheryl Acetate หรือวิตามินอีก็เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ตัวเดียวที่มีความเข้มข้นมากพอจะทำงานได้ (ซึ่งแน่นอนว่าบรรจุภัณฑ์แบบนี้จะทำให้มันเสื่อมสลายไปได้ง่าย ๆ) ตามติดมาด้วยน้ำหอมกับสารกันเสีย

ส่วนผสมที่มีประโยชน์กับผิวตัวอื่นอีกหลาย ๆ ตัวถูกใส่มาน้อยนิดเหมือนเศษฝุ่น ทำให้โดยรวมนี่จึงเป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีแค่ราคาคุยมากกว่า ไม่ต้องพูดถึงเรื่อง Anti-Aging เลย... แค่ต้านอนุมูลอิสระยังไม่รู้จะได้เรื่องรึเปล่า...

ความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆที่จะนำมาฝากเพิ่มก็คือ Diazolidinyl Urea ที่เป็นสารกันเสียแบบ Formaldehyde-Releasing ที่มีข้อมูลว่า เมื่อผสมเข้ากับ Triethanolamine จะทำให้เกิด Nitrosamines ที่เชื่อว่าเป็นสารก่อมะเร็ง แต่กับปริมาณไม่มากในเครื่องสำอางก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาขนาดนั้นหรอกนะขอรับ (แต่ก็ไม่น่าจะใส่มา เพราะมีสารกันเสียตัวอื่นอีกเยอะแยะที่ปลอดภัยกว่า)


Ingredients :
Water, C12-15 Alkyl Benzoate, Glycerin, Caprylic/Capric Triglyceride, Isostearyl Palmitate, Butylene Glycol, Squalane, Dipropylene Glycol Dibenzoate, Peg-100 Stearate, Glyceryl Stearate, Behenyl Alcohol, Arachidyl Alcohol, Tocopheryl Acetate, Dimethicone, Aloe Barbadensis Leaf Juice, Phenoxyethanol, Ppg-15 Stearyl Ether Benzoate, Fragrance, Triethanolamine, Arachidyl Glucoside, Diazolidinyl Urea, Cetyl Alcohol, Carbomer, Centella Asiatica Extract, Tocopherol, Glycine Soja (Soybean) Oil, Panthenol, Bioflavonoids, Tetrahexyldecyl Ascorbate, Tetrahydrodiferuloylmethane, Phospholipids, Ubiquinone, Vitis Vinifera (Grape) Seed Extract, Glutathione, Tetrahydrodemethoxydiferuloylmethane, Lecithin, Citrus Grandis (Grapefruit) Peel Extract, Laminaria Digitata Extract, Proline, Superoxide Dismutase, Zea Mays (Corn) Kernel Extract, Iodopropynyl Butylcarbamate, Tetrahydrobisdemethoxydiferuloylmethane, Camellia Sinensis Leaf Extract, Palmitoyl Hydroxypropyltrimonium Amylopectin/Glycerin Crosspolymer, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract, Sodium Hyaluronate, Hydrogenated Lecithin, Ceramide 3, Beta-Sitosterol


Photobucket


Time Defiance Night Recovery Lotion


นี่ก็เป็น Time Defiance Night Recovery Crème ที่แปลงกายมาอยู่ในรูปแบบ Lotion ที่บางเบากว่าเหมาะกับผิวธรรมดาออกมันนิดหน่อย (แต่เยิ้มไปนิดสำหรับผิวมัน)

นอกเหนือนจากบรรจุภัณฑ์เหมาะสมที่ช่วยเก็บรักษาวิตามินอีได้ดีกว่าแบบกระปุกครีมแล้ว นี่ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้แต่คุยโม้โอ้อวดเหมือน Time Defiance Night Recovery Crème ที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าเบสโลชั่นช่วยเคลือบผิวธรรมดากับวิตามินอี ก็เป็นตัวเลือกที่พอใช้ได้ แต่แพงเกินไปมากสำหรับสิ่งที่คุณได้รับ

สำหรับผู้ที่กังวลจนจิตตกเรื่องสาร(อาจจะ)ก่อมะเร็ง ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของ คือ Diazolidinyl Urea นะขอรับ


Ingredients :
Water, C12-15 Alkyl Ethylhexanoate, Glyceryl Polymethacrylate, Butylene Glycol, Arachidyl Alcohol, Glycerin, Tocopheryl Acetate, Potassium Cetyl Phosphate, Hydroxyethyl Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer, Peg-33, Phenoxyethanol, Behenyl Alcohol, Peg-8 Dimethicone, Squalane, Hydrogenated Palm Glycerides, Peg-14, Arachidyl Glucoside, Fragrance, Polysorbate 60, Methylparaben, Panthenol, Centella Asiatica Extract, Disodium Edta, Glycine Soja (Soybean) Oil, Tocopherol, Tetrahexyldecyl Ascorbate, Tetrahydrodiferuloylmethane, Phospholipids, Iodopropynyl Butylcarbamate, Ubiquinone, Vitis Vinifera (Grape) Seed Extract, Ethylparaben, Butylparaben, Glutathione, Tetrahydrodemethoxydiferuloylmethane, Lecithin, Isobutylparaben, Propylparaben, Citrus Grandis (Grapefruit) Peel Extract, Laminaria Digitata Extract, Bioflavonoids, Proline, Superoxide Dismutase, Tetrahydrobisdemethoxydiferuloylmethane, Zea Mays (Corn) Kernel Extract, Palmitoyl Hydroxypropyltrimonium Amylopectin/Glycerin Crosspolymer, Camellia Sinensis Leaf Extract, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract, Sodium Hyaluronate, Hydrogenated Lecithin, Ceramide 3, Beta-Sitosterol


Photobucket


Skin Refinishing Lotion


ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ใช้ Acetyl Glucosamine เป็นจุดขาย (เหมือนกับ Estee Lauder : Idealist) โดยเชื่อว่าสารตัวนี้ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้โดยปราศจากความเป็นกรดจึงไม่ทำให้ผิวระคายเคือง แต่ไม่มีหลักฐานอ้างอิงแน่นหนาว่า Acetyl Glucosamine มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวทดแทน AHA หรือ BHA ได้แต่อย่างใด (มีแต่บอกว่ามันช่วยเรื่องความชุ่มชื้น แล้วก็เร่งกระบวนการรักษาบาดแผลถ้าใช้ในความเข้มข้นสูง)

ถึงโลชั่นตัวนี้จะไม่สามารถผลัดเซลล์ผิวได้อย่างที่โฆษณา (ที่โม้เหลือเกิน) แต่นี่ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวธรรมดา ผิวผสม และผิวมัน เพราะเนื้อค่อนข้างบางเบาดี โดยมี Hydrolyzed Oat Protein ช่วยต้านการระคายเคือง สารสกัดจากสาหร่าย ชาเขียว และวิตามินอีเป็นแอนติออกซิแดนท์ นอกจากนี้ยังอัดแน่นไปด้วย Natural Moisturizinf Factor และ Cell-Signaling Substance อย่าง Phospholipids, Sphingolipids, Cholesterol ส่วนเจ้า Sugar Derivative Complex ก็เป็นแค่ Water-Binding Agent ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นธรรมดา ไม่ได้วิเศษหวือหวาตรงไหน...

สรุปแล้ว มันก็คือมอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบาที่มีส่วนผสมดีกับผิวจริงและค่อนข้างปลอดภัยจากการระคายเคืองจึงสมควรจะได้รับมงกุฏจากปูเป้ไป แต่เทียบราคาขาย 1,825 บาทต่อปริมาณ 30 ml. แล้วก็ถือว่าแพงเกินจริงไปหน่อยนะ


Ingredients :
Water, Dimethicone, Cyclomethicone, Hydrolyzed Oat Protein, Polysilicone-11, Gylcereth-26, Acetyl Glucosamine, Algae Extract, Tocopheryl Acetate, Phospholipids, Sphingolipids, Cholesterol, Camellia Sinensis Leaf Extract, Glycerin, Glucose, Hydrogenated Lecithin, Chondrus Crispus (Carrageenan), Propylene Glycol, Butylene Glycol, Isohexadecane, Sodium Acrylate / Acryloyldimethyl Taurate Copolymer, Ammonium Polyacryloyldimethyl Taurate, Polysorbate 80, Polysorbate 20, Palmitoyl Hydroxypropyltrimonium Amylopectin/Glycerin Crosspolymer, Hydroxyethylcellulose, Xanthan Gum, Diazolidinyl Urea, Methylparaben, Propylparaben, Fragrance


Photobucket


Time Defiance Wrinkle Relax


Botox นั่นย่อมาจาก Botulinum Toxin type A ที่ได้มาจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ในปริมาณเข้มข้นสูงนี่จัดเป็นสารพิษที่มีความรุนแรงที่สุดในโลก แต่กับปริมาณเล็กน้อยที่ใช้เพื่อเสริมความงามนั้นไม่มีอันตรายแต่อย่างใด

การทำงานของ Botox นั้น เริ่มต้นด้วยการฉีดสารดังกล่าวเข้าไปที่กล้ามเนื้อ สาร Botox จะไปทำให้กล้ามเนื้อกลุ่มเล็ก ๆ บริเวณที่ฉีดนั้นเป็นอัมพาตและคลายตัวลง ส่งผลให้ริ้วรอยจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณนั้นดูจางลงในพริบตา แต่ผลที่ได้รับนั้นเป็นเพียงการชั่วคราว (ประมาณ 4 – 6 เดือนโดยเฉลี่ย) ผลข้างเคียงก็มีบ้าง อย่างการฉีดไม่ดี ฉีดผิดจุด ทำให้ขอบตาตก มุมปากห้อย ใบหน้าแสดงอารมณืได้อย่างไม่เป็นธรรมชาติ หรืออื่น ๆ ถ้าฉีดเกิน 3000 Unit ก็มีสิทธิไปสวยในโลงได้ (แต่ไม่มีแพทย์คนไหนฉีดมากขนาดนั้นหรอกขอรับ)


จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เพื่อให้คุณผู้อ่านเห็นว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ “ทา” และอ้างว่าจะมีประสิทธิภาพได้เหมือน Botox เนี่ย... มันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์นั้นไปถึงชั้นกล้ามเนื้อที่ซึ่งสารสำคัญใน Skincare ไม่สามารถลงไปถึงได้ (ที่เราทาทั้งหมดเนี่ย ก็บำรุงแค่ผิวชั้นนอกสุดเท่านั้นแหล่ะ ไอ้ที่บอกว่าเซรั่มช่วยบำรุงผิวชั้นในอะไรนั้นเป็นความเชื่อที่คนเข้าใจผิดอย่างรุนแรง) และถ้าเครื่องสำอางสามารถทำงานได้เหมือน Botox จริงแท้แน่นอน 100% การันตีเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกจริง คุณคิดว่าจะมีคนทำ Botox อยู่อีกรึขอรับ?

แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ที่ผสม Acetyl Hexapeptide-3 หลอดนี้ไม่สามารถลดเลือนริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์และหดเกร็งของกล้ามเนื้อได้แม้แต่นิดเดียว (แต่อย่างน้อยการมีมันอยู่ก็คงทำให้ผู้ที่เชื่อรู้สึกอุ่นใจขึ้น) นอกเหนือจากเปปไทด์แล้ว เซรั่มเบสน้ำกับซิลิโคนหลอดนี้ก็ยังมีสารให้ความชุ่มชื้นดีอย่าง Glucosamine ส่วน Centella Asiatica Extract เป็นแอนติออกซิแดนท์ และ Antiseptic ตามธรรมชาติช่วยลดการอักเสบของผิว Pea Extract ก็เป็นสารแอนติออกซิแดนท์อีกตัวหนึ่ง ทางด้าน Retinyl Palmitate และ Adenosine ก็เป็น Cell-Signaling Substance ช่วยส่งสัญญาณให้เซลล์ผิวทำงานได้เป็นปกติ Anthemis Nobilis หรือ Chamomile ก็ช่วยต้านการระคายเคือง

บรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทก็สามารถเก็บรักษาสารบำรุงให้มีประสิทธิภาพได้ยาวนาน และการที่มันไม่น้ำหอมมาด้วยก็เป็นสิ่งที่ดีมาก ถึงราคาเมื่อเทียบกับปริมาณแล้วจะแพงขนแข้งร่วง แต่อย่างน้อยมันก็มีดีพอที่จะทำให้คุณไม่รู้สึกว่าใช้เงินเสียเปล่าซะทีเดียว


Ingredients :
Water, Dimethicone, Cyclopentasiloxane, Polymethyl Methacrylate, Butylene Glycol, Polysilicone-11, Tricaprylin, Nylon-12, Silica, Glycereth-26, Acetyl Hexapeptide-3, Glucosamine Hcl, Centella Asiatica Extract, Pisum Sativum (Pea) Extract, Bambusa Vulgaris Extract, Retinyl Palmitate, Adenosine, Anthemis Nobilis Flower Extract, Squalane, Isohexadecane, Benzyl Alcohol, Hydroxyethyl Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer, Ammonium Polyacryloyldimethyl Taurate, Peg-10 Dimethicone, Sodium Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer, Polysorbate 40, Polysorbate 60, Polysorbate 80, Hydroxyethylcellulose, Methylparaben, Chlorphenesin


Photobucket


Time Defiance 3D Lifting Serum


ยกกระชับแบบสามมิติในที่นี้คืออะไร ปูเป้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ที่เข้าใจอย่างแน่นอนคือผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสม 17 อันดับแรกเป็นแค่ น้ำ กลีเซอรีน Slip-Agent (ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์ลื่นทาง่ายและเป็นตัวนำพาสารบำรุงให้ซึมลงผิว) ซิลิโคน Thickener (ทำให้ส่วนผสมข้นขึ้น) กับ Emollients (เคลือบผิวให้เนียนลื่น) กับสารปรับสภาพผิวและให้ความชุ่มชื้นนิดหน่อย

ส่วนผสมอันดับที่ 18 คือสารกันเสียตัวแรก (Chlorphenesin) ตามมาด้วยThickener (Cetyl Alcohol) กับสารกันเสียตัวที่สอง (Methylparaben)

ที่โผล่ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 21 คือ Caffeine ที่เป็นสารบำรุงตัวแรก มีคุณสมบัติเป็นแอนติออกซิแดนท์ แต่ก็อาจก่อการระคายเคืองได้ (แต่มันมีจิ๊ดเดียวเอง คงไม่ก่อทั้งประโยชน์และปัญหาอะไร) ส่วนผสมที่ตามมาก็มีทั้งตัวที่มีประโยชน์และก่อการระคายเคืองผิวได้ แต่ก็เหมือนกันกับ Caffeine อีกนั่นแหล่ะ เพราะมันมีปริมาณน้อย~~~ยมาก

เซรั่มกลวงโบ๋แบบนี้จะยกกระชับผิวได้อย่างไรปูเป้ก็จนปัญญาจะหาคำตอบได้ อาจจะต้องทำตาเบลอ ๆ มองกระจกเหมือนมองภาพสามมิติสมัยก่อนก็เป็นได้...

ไม่รู้จะทาไปทำไมให้หนักหน้าเปล่า ๆ ถ้าจะแค่ช่วยเคลือบผิวให้ความชุ่มชื้นของราคาไม่กี่ร้อยก็ทำได้ไม่แพ้กัน


Ingredients :
Water, Glycerin, Butylene Glycol, Cyclopentasiloxane, Caprylic/Capric Triglyceride, Di-C12-15 Alkyl Fumarate, Depalmitoyl Hydroxyproline, Polydiethylsiloxane, PVP, Hdi/Trimethylol Hexyllactone Crosspolymer, Sorbitan Stearate, C12-15 Alkyl Benzoate, Palmitoyl Hydrolyzed Wheat Protein, Hydrogenated Lecithin, Hydroxypropyl Methylcellulose Stearoxy Ether, Pullulan, Chlorphenesin, Cetyl Alcohol, Methylparaben, Caffeine, Dipropylene Glycol Dibenzoate, Ethoxydiglycol, Polyacrylate-13, Arginine, Dipropylene Glycol, Hydrogenated Vegetable Oil, Fragrance, Glucosamine Hcl, Hydroxypropyl Chitosan, Pisum Sativum (Pea) Extract, Centella Asiatica Extract, Disodium Edta, Panthenol, Citrus Unshiu Peel Extract, Polyisobutene, Squalane, Bambusa Vulgaris Extract, Algae Extract, Ppg-15 Stearyl Ether Benzoate, Polygonum Fagopyrum Seed Extract, Sphacelaria Scoparia Extract, Chlorella Vulgaris Extract, Sodium Methyl Stearoyl Taurate, Silica, Polysorbate 20, Lecithin, Dipotassium Glycyrrhizate, Proline, Dipeptide Diaminobutyroyl Benzylamide Diacetate, Laminaria Digitata Extract, Hydrolyzed Rice Protein, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract, Sodium Hyaluronate, Heliathus Annuus (Sunflower) Seed Extract, Glycine Soja (Soybean) Protein, Zea Mays (Corn) Kernel Extract, Evodia Rutaecarpa Fruit Extract, Ceramide 3, Beta-Sitosterol.



Photobucket


Time Defiance Vitamin C + Wild Yam Treatment


ผลิตภัณฑ์ตัวนี้แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนที่เป็นหลอดบีบปลายแคบนั้นเป็นส่วนผสมของ น้ำ Slip Agent และ กลีเซอรีน ส่วนสารสกัดมันเทศป่านั้นไม่มีคุณสมบัติในการเป็น Anti-Aging และ Hydrolyzed Wheat Protein ก็เป็น Skin Conditioning ช่วยเคลือบให้ผิวให้นุ่มลื่น หลอดนี้ก็เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ธรรมดาซึ่งมีส่วนผสมสำคัญไม่สามารถระบุประสิทธิภาพได้

ส่วนที่เป็นขวดใสก็เป็นที่สิงสถิตของวิตามินซีกับสารสกัดจากเชอรี่ (ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีตามที่เขาบอก... แต่ในเมื่อคุณใส่วิตามินซีบริสุทธิ์มาแล้ว จะใส่สารสกัดที่มีวิตามินซีมาอีกทำไมล่ะนั่น)

เพียงแค่เห็นขวดบรรจุภัณฑ์...ปูเป้ไม่คิดจะซื้อเซรั่มราคาแพงชุดนี้แล้ว เพราะวิตามินซีในรูปของ Ascorbic Acid นั้นถึงจะมีประสิทธิภาพมากและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลาเจนได้จริง แต่มันก็เสื่อมสลายได้ง่ายเมื่อโดยออกซิเจนและ “แสง!!!!”

ขวดใสแจ๋วแสงส่องผ่านทะลุทะลวงแบบนี้ก็ทำให้วิตามินซีโดนกระหน่ำยิงจนพรุนและเสื่อมประสิทธิภาพไปโดยปริยาย (เว้นแต่คุณจะเก็บผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไว้ในที่มืดตลอดเวลา...แม้แต่ขณะใช้)

และด้วยความที่วิตามินซีแบบนี้จะมีประสิทธิภาพดีที่สุดเมื่อค่า pH ของผลิตภัณฑ์เป็นกรด ส่วนผสมที่ช่วยต้านการระคายเคืองได้จึงเป็นสิ่งที่ควรจะผสมมาให้ด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้ “ไม่มี”

ไฟแด๊ง~ไฟแดง เพราะนอกจากวิตามินซีแล้ว ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ แถมบรรจุภัณฑ์ก็ไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรงอีกด้วย...


Treatment 1 (Tube) Ingredients : Water, Butylene, Glycol, Glycerin, Propylene Glycol, Wild Yam Extract, Hydrolyzed Wheat Protein, Carrageenan, Zinc Chloride, Dimethylsilanol Hyaluronate, Ferric Chloride, Agar, Phenoxyethanol, Hydroxyethylcellulose, Stearic Acid, Edta, Bht, Methylparaben, Ethyparaben, Butylparaben, Propylparaben


Treatment 2 (Bottle) Ingredients : Ascorbic Acid, Acerola


Photobucket


Time Defiance Intensive Repair Serum


จากการดูโทรทัศน์ อ่านคำโปรยในเวปไซท์ และราคาที่แพงจนทำให้บัตรแตกได้ง่าย ๆ (บัตรเครดิตที่ใช้จนเต็มวงเงิน ปูเป้เรียกว่า “บัตรแตก” น่ะขอรับ) กระผมก็คงเหมือนผู้บริโภคคนอื่น ๆ ทั่วไปที่คาดหวังว่าเซรั่มหลอดเล็ก 14 หลอดในกล่องเรียบหรูนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทรงคุณค่าเปี่ยมล้นไปด้วยส่วนผสมทรงประสิทธิภาพระดับเทพอย่างที่โฆษณา

ด้วยความตื่นเต้นและกระหายใคร่รู้ ปูเป้เริ่มอ่านส่วนผสมไล่ทีละตัวด้วยความระทึกใจ... เริ่มต้นจาก Water เหมือนผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ มี Glycerin เป็นอันดับสองให้ความชุ่มชื้นก็เป็นเรื่องปกติ ส่วนผสมอันดับสามเป็น Butylene Glycol เป็น Slip Agent ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดความคาดหมาย แต่การที่ส่วนผสมหลังจากนี้ไล่ไปจนถึงลำดับที่ 14 นั้นมีแค่ Thickener, Emollients, Water-binding, pH-Adjuster แล้วก็สารกันเสียนั้นเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังสุด ๆ เพราะส่วนผสมที่มีประโยชน์กับผิวจริงนั้นถูกใส่มาในปริมาณที่น้อยนิด แถมไม่มีสักตัวที่ข้อมูลบอกว่าเป็นสาร AntiAging …ส่วนผสมของเซรั่มที่ติดป้ายราคามากกว่าเงินเดือนขั้นต่ำเกือบสองเท่า.. มีแต่เบสเซรั่มกับสารกันเสียแค่นี้อ่ะนะ!!! (ปูเป้เกิดอาการคลั่ง)

ของแบบนี้มัน Intensive ตรงไหน? มันจะไปช่วย Repair อะไรได้บ้าง? ทำไมต้องใช้ปีละ 3 – 4 ครั้ง? ทำไมต้องใช้ช่วงเปลี่ยนฤดูกาล? คำตอบคือ ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเรื่องของการตลาดและการสร้างภาพทั้งนั้น

หากคุณใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้แล้วรู้สึกว่ามันดีเลิศแล้วล่ะก็... ขอแสดงความยินดีด้วยขอรับ... คุณได้รับประสบการณ์ของ Placebo Effect เข้าไปอย่างจัง...

90% ของเงินที่คุณจ่ายไป เป็นค่าการตลาด ค่าคิดค้นและวิจัย (วิจัยอะไรได้มาแค่นี้? ลาออกไปขายเฉาก๊วยดีกว่ามั้ยพี่) ส่วนแบ่งอัพไลน์ ค่าน้ำมันรถผู้จัดการ และค่าใช้จ่ายให้ระดับ Diamond ไปเที่ยวถลุงฟรีที่ต่างประเทศ อีก 9 % เป็นค่าขวดและกล่องบรรจุภัณฑ์ ส่วนอีก 1 % ที่เหลือ (หรือน้อยกว่า) เป็นต้นทุนของวัตถุดิบส่วนผสม (ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณได้จริง ๆ)

“ริ้วรอย” จะลดเลือนไปได้รึเปล่านั้นคงยากที่จะหวังได้ แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ “เงิน” ในบัญชีคุณจะลดลงไปเยอะเลยทีเดียว


Ingredients :
Purified Water, Glycerin, Butylene Glycol, Bis-Peg-18 Methyl Ether Dimethyl Silane, Glycereth-26, Biosaccharide Gum-1, Peg-7 Glyceryl Cocoate, Phenoxyethanol, Hydrolyzed Oats, Triethanolamine, Benzyl Alcohol, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Cross Polymer, Acetyl Glucosamine, Methylparaben, Ethoxydiglycol, Cucumis Sativus (Cucumber) Extract, D-Panthenol, Hydrogenated Lecithin, Lecithin, Sodium Citrate, Citrus Medica Limonum (Lemon) Fruit Extract, Propylene Glycol, Sericin, Micrococcus Lysate, Disodium Edta, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Extract, Centella Asiatica Extract, Ethylparaben, Ricinus Communis (Castor) Seed Oil, Tetrahexyldecyl Ascorbate, Butylparaben, Alpinia Speciosa Leaf Extract, Propylparaben, Isobutylparaben, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract, Caprylic/Capric Triglyceride, Sodium Hyaluronate, Dipotassium Glycyrrhizinate, Phospholipids, Sphingolipids, Cholesterol, Glucose, Echinacea Angustifolia Extract, Chondrus Crispus (Carrageenan), Glycyrrhiza Glabra (Licorice) Root Extract, Xanthan Gum, Sd Alcohol 40-B




 

Create Date : 12 สิงหาคม 2551
147 comments
Last Update : 29 พฤษภาคม 2552 18:05:43 น.
Counter : 16374 Pageviews.

 

ยกกระชับแบบสามมิติ<<<55555 แปลออกมาอ่านแล้วตลกมากเลยค่ะ (แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหมายความว่าอะไร )

 

โดย: kisekimeru 12 สิงหาคม 2551 7:21:28 น.  

 

เย้ๆๆๆๆๆๆ ดีใจ คุณปูเป้อัพแล้ว

รอดูรีวิวอื่นๆอีกนะคะ อิอิ

 

โดย: เด็กอยากสวย IP: 125.24.239.175 12 สิงหาคม 2551 9:34:32 น.  

 

555

เห็น Time Defiance Intensive Repair Serum แล้วได้อารมณ์ทะมึ้นนนนนนนนนนนนทะมึน

แม่เราเป็นสมาชิก Amway แต่ไม่ได้ไปขายใครหรอก เป็นเพราะว่าซื้อน้ำยา LOC กับของบางอย่างใช้เป็นประจำ ออกแนวเป็นสมาชิกเพราะซื้อของได้ส่วนลดมากกว่า

สำหรับ Artistry เคยใช้สครับหลอดสีม่วงๆ น้ำเงินๆ ก็โอเคนะคะ แต่เราใช้แล้วรู้สึกว่ามันแห้งเกินไป ส่วนคุณภาพ มันไมุ่ค่อยคุ้มกับเงินที่จ่ายไป(ในราคาเต็ม)หรอก ราคา 1200 เอาไปซื้อสครับดีๆ ได้หลอดกว่าๆ หรือสองหลอดเลยล่ะมั้ง

อีกตัวคือ Replenishing Eye Cream ตัวนี้ราคาเต็ม 850 ต่อ 15 ml. ก็ไม่แพงนะ ได้ส่วนลด 25% เหลือหกร้อยกว่าบาท เผลอๆ จะเป็นสินค้า skincare ที่ราคาสมเหตุสมผลที่สุดของ Artistry เลยล่ะมั้ง ก็เรียกว่าใช้ได้ดีทีเดียวแหละ แต่ก็ออกแนวทาแล้วชุ่มชื่น ไม่ได้ช่วยเรื่องตาดำตาเหี่ยวอะไรเท่าไหร่ เ้ว้นแต่ริ้วรอยที่เกิดจากผิวแห้ง... แต่เราไม่ค่อยชอบอ่ะ ทาแล้วตามันมาก

แต่ที่เหลือ.........เอ่อ.....
(กรุณาเติมคำในช่องว่าง)

 

โดย: AntiSpam (อันตราคนี ) 12 สิงหาคม 2551 11:53:25 น.  

 

เค้าเป็นใครมาจากไหนครับ ?

ทำไมรู้ส่วนความสามารถของสารแต่ล่ะอย่างดีจัง

america เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว คุ้มครองผู้บริโภค

ผมว่าพวกคุณควรฟังหูไว้หูดีกว่าครับ

สิ่งที่นักวิทยศาสตรพูด กับ ใครก้อไม่รู้ น้ำหนักมัน คนละเรื่องกัน ครับ

ปล.ลองเองแล้วจะรู้ครับ จาก คน ที่ใช้อยู่

 

โดย: จะรอดู IP: 168.120.93.43 12 สิงหาคม 2551 12:43:08 น.  

 

จริง ๆ ปูเป้อ่านข้อมูลไป ขำไป ทำรีวิวไปเหมือนกันนะขอรับคุณ kisekimeru

แล้วก็เห็นด้วยกับคุณ AntiSpam ตรงที่ไลน์ Basic ของ Artistry ก็มีสินค้าที่ดีอยู่เหมือนกัน แถมมีราคาสมเหตุผลด้วย แต่ว่าไลน์ Time Defiance ดูจะ Overprice อย่างแรง และโฆษณาเกินจริงไปมากทีเดียว

จริงอยู่ที่ทุกผลิตภัณฑ์มีสารสกัดและส่วนผสมที่มีประโยชน์กับผิวอยู่จริง แต่น่าเสียดายที่มันถูกใส่มาหลังสารกันเสียและน้ำหอมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบอกได้เลยว่ามันมีปริมาณน้อยมากและไม่ก่อประโยชน์กับผิวได้ในระดับที่เขาโฆษณาเอาไว้

ถ้าหากแย้งว่า ถึงจะอยู่ท้าย ๆ แต่จริง แล้วมันเข้มข้นมากนะ นั่นก็แปลว่าสารกันเสียและน้ำหอมก็ต้องเข้มข้นมากเหมือนกัน... ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยเนื่องจากมันยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะระคายเคืองและเป็นอันตรายกับผิวมากขึ้นไปอีก (ที่ได้ไฟเหลืองอาจจะเป็นไฟแดงแทน)

การปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เอาส่วนผสมที่ใส่มาน้อยนิดมาไว้เป็นอันดับต้น ๆ ของ List ก็สามารถปรับจากไฟเหลืองหรือแดง เป็นไฟเขียวได้ไม่ยากเย็น


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ปูเป้ก็เป็นผู้บริโภคธรรมดา ๆคนหนึ่งขอรับ ที่เริ่มใช้ Skincare มาตั้งแต่อายุ 12 ปี จนถึงวันนี้ก็ล่วงมาเกือบจะ 15 ปีแล้วที่ได้ขลุกอยู่กับเรื่องนี้ โดนคำโฆษณา การตลาด และ Placebo Effect หลอกมาเป็นสิบปี จนสุดท้ายได้ค้นพบทางสว่างและความจริงของวงการเครื่องสำอางในที่สุด


Internet เป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดสำหรับมวลมนุษย์ เนื่องจากมันเปิดประตูสู่ความรู้ที่กว้างขวางไม่สิ้นสุด แม้แต่กับคนที่อยู่ห่างไกลความเจริญมาก ๆ

ข้อมูล ความรู้ และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสารและส่วนผสมสำคัญต่าง ๆ ในเครื่องสำอาง รวมถึง เรื่องพื้นฐานที่คุณคนน่าจะรู้ว่า Ingredients List จะถูกไล่จากมากสุดไปน้อยสุดเสมอ นั้นสามารถหาได้จาก Internet ทั้งหมด เพียงแค่ใช้ความรู้ภาษาอังกฤษที่ดีหน่อยประกอบกับความอดทนในการค้นหา

ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทุกคนสามารถรู้เรื่องเหล่านี้ได้ เพียงแต่คุณอยากจะรู้จริง ๆ รึเปล่าล่ะ?


ประเทศอเมริกาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว... มันไม่ได้เกี่ยวกับว่า ประเทศอเมริกาจะมีแต่สิ่งดี ๆ ออกมาขายนี่ขอรับ ของห่วย ๆ หลวงลวงชาวบ้านก็ Made in USA ก็เยอะ การที่บอกว่าสินตค้าตัวนี้มาจากอเมริกาไม่ได้หมายความว่าสินค้าตัวนี้เป็นสินค้าที่ดีเสมอไป

ประเทศอเมริกาเป็นประเทศผู้คุ้มครองผู้บริโภค แต่ก็มีข่าวเรื่องการหลอกลวงเหมือนกันกับประเทศอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนา และกฏหมายก็มีช่องว่างเสมอ ข้อนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณภาพของสินค้าอีกเหมือนกัน

กฏของ FDA ก็มีลู่ทางให้ผู้ประกอบการสามารถซิกแซกได้ และ FDA ก็แค่ดูว่าในผลิตภัณฑ์มีสารอันตรายต้องห่ามอยู่รึเปล่า (อย่างตะกั่ว ปรอท หรือสารที่อยู่ในทะเบียนยาที่เครื่องสำอางไม่สามารถผสมได้) การผ่าน FDA มาไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้น ๆ จะมีประสิทธิภาพเหมือนคำกล่าวอ้างทุกประการแต่อย่างใด

และถูกที่คุณบอกว่า "ควรฟังหูไว้หู" นั้นปูเป้เห็นด้วยขอรับ เพราะกระผมเองก็เป็นคนตัวเล็ก ๆ อีกคนหนึ่งที่ออกมาบอกให้คนอื่นในสังคมได้ตระหนักว่า "คุณก็ควรจะฟังหูไว้หูกับคำโฆษณาของบริษัทเครื่องสำอางเหมือนกัน" และ "อย่าเชื่อโดยที่ไม่ได้หาข้อมูลและไตร่ตรองให้ดีก่อน"

ปูเป้ใช้ข้อมูลที่มีแหล่งที่มายืนยันได้ทั้งหมด ไม่ได้มีสิ่งไหนเลยที่นั่งเทียนโมเมมั่วนิ่มเขียนขึ้นมาเอง อะไรที่ดีก็ว่าดี อะไรที่ว่าไม่ดีก็คือไม่ดี คุณสามารถเอาข้อมูลสารแต่ละตัวไปลองเทียบดูใน Internet หรือไปเปิดในห้องสมุดใหญ่ ๆ ที่มีหนังสือ International Cosmetic Ingredients Dictionary ดูได้ (มันแพงขอรับ ชุดนึงมี 4 เล่มตั้งหมื่นกว่าบาท)

PS. ถ้าอ่านทุกบทความโดยละเอียด กระผมไม่เคยบอกให้ใครเชื่อทุกคำพูดของผมหรอกนะขอรับ แต่จะเน้นย้ำเสมอว่านี่เป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งที่ช่วยประกอบในการตัดสินใจ ทุกท่านที่อ่านต้องนำไปคิดและพิจารณาด้วยตัวเองเสมอ

อีกอย่าง... นี่ก็เป็นพื้นที่เล็ก ๆ ส่วนตัวที่กระผมทำขึ้นเป็นงานอดิเรก ถ้ามันไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้คุณก็ปิดทิ้งไปก็ได้นิขอรับ

แต่อย่างไรก็ตาม กระผมขอขอบคุณที่ช่วยแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมนะขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 12 สิงหาคม 2551 14:45:52 น.  

 

"เค้าเป็นใครมาจากไหนครับ ?

ทำไมรู้ส่วนความสามารถของสารแต่ล่ะอย่างดีจัง"

คงต้องให้คุณปูเป้มาตอบเอง

==================
แต่อ่านแล้วอดไม่ได้ค่ะ

ถูกต้องค่ะ ทุกอย่างต้อง "ฟังหูไว้หู"

รวมถึงคำพร่ำพรรณสรรพคุณจากตัวแทนจำหน่ายจากแอมเวย์ด้วย

ส่วนที่คุณบอกว่า "ลองเองแล้วจะรู้" แล้วทำไมเราต้องลองด้วยล่ะคะ ถ้าเราสามารถคาดเดาความน่าจะเป็นได้จากส่วนผสม แล้วแอมเวย์ไม่ได้ให้ผลิตภัณฑ์มาลองฟรีๆ เสียเมื่อไหร่ แพงอยู่มาก

สำหรับ "ทำไมรู้ส่วนความสามารถของสารแต่ล่ะอย่างดีจัง" นั้น ถ้าคุณใฝ่จะรู้ รักการค้นคว้า และใช้อินเทอร์เน็ตเป็น มันไม่ได้ยากเกินจะรู้เลย อยู่ที่คุณอยากจะรู้หรือเปล่า ถ้าคุณอ่านรีวิวผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ต่างประเทศ การรีวิวจากส่วนผสมเป็นเรื่องปกติมาก

เอาล่ะ ถ้าว่าถึงประสบการณ์จริง แต่เราและแม่เรานี่แหละ เคยผ่าน Artisty มา คงจะเหมาะสมที่เสวนากับคุณ "จะรอดู" ได้

ตอบตรงๆ ค่ะ คนที่ซื้อแอมเวย์ส่วนใหญ่ ซื้อเพราะระบบเกรงใจ ซื้อเพราะเจอคำชวนเชื่อที่มโหฬารอลังการเกินพอดี แล้วเผลอเชื่อ แล้วก็เจอคำว่า "เครื่องสำอางที่ขายดีที่สุดในโลก เป็นเครื่องสำอางจากอเมริกา ฯลฯ" อย่างที่คุณพูดมานั่นแหละ

ยกตัวอย่าง eye cream ที่เราเคยใช้ เราคิดว่าถ้าคนขายบอกว่า มันชุ่มชื่นดี ลดริ้วรอยได้นิดหน่อย มันก็คงไม่จูงใจอย่างที่มนุษย์แอมเวย์ต้องการ พวกเขาจะต้องบอกว่ามันเป็นอายครีมชั้นเทพ แก้ไขได้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับดวงตา แต่ดูส่วนผสมแล้ว มันก็ดีค่ะ ไม่ใช่ไม่ดี อย่างที่บอกไปแล้ว ถ้าคุณสนใจเรื่องส่วนผสม คุณก็จะตั้งความคาดหวังไว้อย่างพอดี สามารถใช้วิจารณญาณได้เต็มที่ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อโดยไม่โดนมนุษย์แอมเวย์เป่าหูเอาจนหูเบาเกินจริง


ส่วนนักวิทยาศาสตร์ที่ออกมาบอกว่าแอมเวย์ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ เขาเป็นมนุษย์แอมเวย์ หรือเป็นนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันที่เชื่อถือได้และเป็นกลางคะ

เท่าที่ดิฉันทราบ กฎหมายสหรัฐ "ห้าม" นักวิทยาศาสตร์เอาความเป็นนักวิทยาศาสตร์ออกมารับรองผลิตภัณฑ์นะคะ อย่าลืมโฆษณาออรัลบีสิคะ :p


พูดมากไปแล้วค่ะ เกรงใจคุณปูเป้ ไปดีกว่าค่ะ

 

โดย: AntiSpam (อันตราคนี ) 12 สิงหาคม 2551 15:01:14 น.  

 

อ่าว พิมพ์ค้างไว้แล้วเพิ่งกดส่ง ก็เลยไม่ทราบว่าคุณปูเป้มาตอบแล้ว

 

โดย: AntiSpam (อันตราคนี ) 12 สิงหาคม 2551 15:01:52 น.  

 

ดิฉันชอบคุณค่ะ คุณ AntiSpam (อันตราคนี ) ^^

ใครไม่เข้าใจอ่านหลาย ๆ รอบก็ได้นะคะ
---------------------------------------------------
มาแนวนี้อีกแล้ว รบกวนคุณ "จะรอดู" ไปดูความเห็นของคุณ "พลอยสวย" ใน ask pupe ตอน 2 นะคะ ไม่ได้ต่างกันเลย

พอเถอะค่ะเรื่องสาวกแบรนด์เนี่ย

 

โดย: bluestormy IP: 58.8.197.133 12 สิงหาคม 2551 15:37:57 น.  

 

มาเอาความรู้เช่นเคยค่ะ ยังไม่เคยใช้สกินแคร์ของอาร์ทิสทรี เพราะเหตุผลคือ มันแพง บวก กับรำคาญตัวแทนค่ะ

 

โดย: บุ๋ม (ชลบุรีมามี่คลับ ) 12 สิงหาคม 2551 20:12:26 น.  

 

ใช้แล้ว แพ้แล้ว ไม่เอาอีกแล้ว
อยากให้คุณเป้ รีวิว ชุดเพียวไวท์อ่ะ อยากรู้ว่ามันมีส่วนผสมอะไรทำให้เราแพ้ยับเยินเลย 2 อาทิตย์กว่าแล้วยังไม่หายเลยเนี่ย
แค้นนี้จะชำระกะใครดี...555
อ่านแล้วคุณเป้สับได้สะจายจัง

 

โดย: โอเล่ IP: 125.24.157.112 12 สิงหาคม 2551 22:02:23 น.  

 


ชุด Pure White ที่ออกใหม่ได้ทำการ mail ไปขอส่วนผสมแล้วขอรับ ถ้าเขาใจดีก็คงยอมให้มา

จะได้รู้กันว่าเพราะอะไร หรือถ้าคุณโอเล่นยังเก็บกล่องเอาไว้ก็พิมพ์ส่วนผสมมาให้ก็ได้นะขอรับ


PS. ปูเป้ก็รีวิวตามส่วนผสมนะขอรับ ถ้ามันดีก็ว่าดี ถ้ามันธรรมดาก็บอกว่าธรรมดา ถ้ามันห่วยก็บอกว่าห่วย ไม่เอาอคติมาตัดสินนะขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 13 สิงหาคม 2551 0:02:33 น.  

 

มาให้กำลังใจคุณปูเป้อีกคนค่ะ

เราก็เป็นคนหนึ่งที่เคยหลงเชื่อคำโฆษณาของแบรนด์ดังหลายๆ ยี่ห้อ แต่พอใช้จริงๆ ก็แอบด่าตัวเองว่า "ตรูซื้อมาได้งัยว่ะ" แต่บางตัวก็ดีกับผิวเราจริงๆ และอย่างที่คุณปูเป้บอก "นี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัว" ซึ่งคนที่อ่านก็ใช้เป็นแนวทาง คุณปูเป้ไม่ได้บอกหรือบังคับให้คุณใช้หรือไม่ใช้สินค้าแบรนด์นั้นๆ นี่ค่ะ น่ากลับไปอ่าน "หมายเหตุของการ review" ดูอีกครั้งนะค่ะ
อ้อ..เห็นด้วยกับคุณบุ๋มค่ะ รำคาญตัวแทนมาก (ขนาดพี่ชายตัวเองเป็นสมาชิก เขาเองยังไม่ใช้ product ของ amway เลยเป็นสมาชิกเพราะความเกรงใจ หุหุหุ)

คุณปูเป้สู้ๆ นะค่ะ จะติดตามอ่านบล็อคคุณตลอดไป

 

โดย: อวบระยะสุดท้าย IP: 203.113.101.120 13 สิงหาคม 2551 0:31:11 น.  

 

ตอนแรกก็ใช้ยี่ห้อนี้อยู่ ไปๆมาๆ รู้สึกว่าใช้แล้วสิวเรียกหา
เลยลองถอดบางตัวออกแล้วลองเปลี่ยนยี่ห้อดู อาการเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย
สุดท้ายตอนนี้กำลังทยอยเปลี่ยน เพราะเสียดายของเดิมยังไม่หมด แพง T^T

ชอบบล็อคของคุณปูเป้มากๆ เลย ที่เราเปลี่ยนๆ ได้ ก็เลือกที่มาจากคุณปูเป้รีวิวทั้งนั้นเลย ^^
รู้สึกดีที่ซื้อมาแล้วได้ผล คุ้มกับเงินที่เสียไป
ขอบคุณ คุณปูเป้มากๆ เลยนะคะ เป็นำลังใจให้รีวิวต่อไป สู้สู้ ^^

 

โดย: Shejung IP: 124.121.172.220 13 สิงหาคม 2551 16:54:01 น.  

 

รอฟังชุดเพียวไวท์เหมือนกันคะ
เห็นเพ่อนบอกว่าดีนักดีหนา เค้าเปนคนขายหนะคะ
จนไม่กล้าจะเจอหน้าอยุ่แล้วคะ เพราะตื๊อมากๆ

 

โดย: รอฟังคะ IP: 118.172.35.91 13 สิงหาคม 2551 18:38:41 น.  

 

+++Artistry เป็นแบรนด์เครื่องสำอางของ Amway ที่โฆษณาว่ามียอดขายติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก... แต่ยอดขายเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการตลาดทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์จะมีคุณภาพดีเสมอไป (แมคโดนัลก็ขายดีมีสาขาทั่วโลก แต่มันก็ไม่ได้เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพซะหน่อย +++ใช่ครับ ถ้ามันแพงเกินผลที่ได้ ไม่ดีจริง เขาคงไม่ซื้อซ้ำมั้ง คงไม่หลอกคนเป็นล้านๆได้ 70 ประเทศ 50 ปี มาแล้วทั่วโลกมั้ง ละก็อินเตอร์เนทคงไม่ได้เข้าถึงพวกเขาด้วย ก็คงจะใช้ดีบอกต่อตามแผนการตลาด +++ใช้แล้ว แพ้แล้ว ไม่เอาอีกแล้ว
อยากให้คุณเป้ รีวิว ชุดเพียวไวท์อ่ะ อยากรู้ว่ามันมีส่วนผสมอะไรทำให้เราแพ้ยับเยินเลย 2 อาทิตย์กว่าแล้วยังไม่หายเลยเนี่ย
แค้นนี้จะชำระกะใครดี...555
อ่านแล้วคุณเป้สับได้สะจายจัง+++ใช้สารเคมีกดสิวใว้มาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว จะมาให้มันหายภายใน 2 สัปดาห์ ท่าจะยากครับ แอมเวย์เน้นตรงไปตรงมาขับสิ่งสกปรกและสารเคมีออก ไม่เลี้ยงใข้ คนป่วยกินโจ๊กแล้วอ๊วก โจ๊กไม่ผิด ผิดที่ป่วย ++++ส่วนที่คุณบอกว่า "ลองเองแล้วจะรู้" แล้วทำไมเราต้องลองด้วยล่ะคะ ถ้าเราสามารถคาดเดาความน่าจะเป็นได้จากส่วนผสม แล้วแอมเวย์ไม่ได้ให้ผลิตภัณฑ์มาลองฟรีๆ เสียเมื่อไหร่ แพงอยู่มาก ++++++ ผิวที่ไม่ป่วย ลองแล้วจะรู้สึกดีมาก ผมก็ใช้แล้ว ดีจริง ๆ ถ้าใช้ด้วยความเชื่อมันจะดีแน่นอน ใช้แบบจับผิด ก็เจอผิดแน่ ผิวใครที่ป่วย มักมีผลข้างเคียง ส่วนมากไม่ทราบหรอกแค่ว่าผิวป่วย แค่ถูกเลี้ยงใข้ใว้ ต้องใช้ชุดพื้นฐานที่เขาเตรียมใว้รักษาก่อน ส่วนมากคนชอบ ริอาจใช้ ข้ามขั้น นักธุรกิจมาแนะนำก็ไม่ฟัง อีกอย่างผมว่าไม่แพงนะ ได้ผลดีกว่าซื้อของที่ถูก ๆ มาทามีแต่ส่วนผสม กล้าเอามาทาหน้าเหรอครับหลอด 2-3ร้อย น่ะ เป็นผมกลัวนะ ไม่คุ้มอ่ะ ++ หลายยี่ห้อคุณภาพก็ดีนะครับ แต่ใช้แล้วก็หน้าดีงั้น ๆ ใช้มาชาติกว่าก็ไม่เห็นชีวิตจะดีขึ้นมา แต่ใช้แอมเวย์แล้วได้ตังค์ ชีวิตเปลี่ยน ยี่ห้ออื่นในโลกไม่มีให้ รู้มั้ยเรื่องนี้ สิ่งที่ทำให้พวกเขาใช้กัน

 

โดย: ความข้างอื่น IP: 118.173.224.208 13 สิงหาคม 2551 19:00:46 น.  

 

พอดีว่าเอาไปคืนพร้อมกล่องอ่ะค่ะ คืนก่อนมาเจอบล็อคคุณเป้ แหมเสียดายจัง

 

โดย: โอเล่ IP: 125.24.112.133 13 สิงหาคม 2551 20:18:39 น.  

 

ปูเป้จะมาข่าวว่า เขาไม่ยอมให้ข้อมูลส่วนผสมมาน่ะขอรับ บอกว่า "มันพิมพ์อยู่ข้างกล่องอยู่แล้วนะคะ"

คงยังรีวิว Pure White ไม่ได้ซะแล้ว ต้องไปค้นหากันต่อปาย....

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ถึงคุณ ความข้างอื่น

ก่อนอื่นต้องขอบคุณนะขอรับ ที่ร่วมแสดงความคิดเห็น เราถือว่ามาแลกเปลี่ยนความเห็นที่แตกต่างกันก็ดีนะขอรับ เพื่อที่จะได้เปิดหูเปิดตาให้กว้างขึ้น


"ถ้ามันแพงเกินผลที่ได้ ไม่ดีจริง เขาคงไม่ซื้อซ้ำมั้ง คงไม่หลอกคนเป็นล้านๆได้ 70 ประเทศ 50 ปี มาแล้วทั่วโลกมั้ง ละก็อินเตอร์เนทคงไม่ได้เข้าถึงพวกเขาด้วย ก็คงจะใช้ดีบอกต่อตามแผนการตลาด "

ปูเป้ขอแสงความคิดเห็นส่วนตัวว่า

เรื่องนี้เพราะเป็นไปตามแผนการตลาดไงขอรับ เขาถึงขยายสาขาไปให้คนเป็นล้าน ๆ ได้ (ไม่อยากใช้คำว่า "หลอก" นะขอรับ เพราะจะเป็นการดูถูกสมาชิก Amway เกินไป)

คุณภาพสินค้าดี การตลาดไม่เจ๋งพอ ก็เจ๊งขอรับ มีตัวอย่างมาเยอะแล้ว ของสินค้าคุณภาพธรรมดา แต่การตลาดอย่างหรู มันก็รุ่งเรืองได้ไม่ยาก เป็นเรื่องปกติของ "การตลาด" ตัวอย่างก็มีกันเกลื่อนอีกเหมือนกัน

+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +


"ใช้สารเคมีกดสิวใว้มาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว จะมาให้มันหายภายใน 2 สัปดาห์ ท่าจะยากครับ แอมเวย์เน้นตรงไปตรงมาขับสิ่งสกปรกและสารเคมีออก ไม่เลี้ยงใข้ คนป่วยกินโจ๊กแล้วอ๊วก โจ๊กไม่ผิด ผิดที่ป่วย "


ปูเป้รู้สึกว่าจะแฟนตาซีไปหน่อยนะขอรับ... ดูเป็นคำโฆษณาที่เป็นการตลาดมาก ๆ ซึ่งไม่มีในโลกของความเป็นจริง... ส่วนผสมของเครื่องสำอาง Artistry ก็เป็นส่วนผสมที่ใช้กันทั่วโลกกับเครื่องสำอางยี่ห้ออื่น ๆ ทั่วไป (และแน่นอนว่าเขาก็ใช้ Cosmetic Grade กันทั้งนั้น) สารเคมีที่กดสิวเอาไว้ มันไม่มีหรอกขอรับ มีแต่สารเคมีที่กระตุ้นสิว หรือทำให้อุดตันผิวได้

ถ้ามันมีสารที่กดสิวเอาไว้ได้จริง สุดยอดขอรับ ปูเป้จะขอใช้เป็นคนแรกเลย ใช้มันจนตายสิวจะได้ไม่ขึ้น...


+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +


"ผิวที่ไม่ป่วย ลองแล้วจะรู้สึกดีมาก ผมก็ใช้แล้ว ดีจริง ๆ ถ้าใช้ด้วยความเชื่อมันจะดีแน่นอน ใช้แบบจับผิด ก็เจอผิดแน่ ผิวใครที่ป่วย มักมีผลข้างเคียง ส่วนมากไม่ทราบหรอกแค่ว่าผิวป่วย แค่ถูกเลี้ยงใข้ใว้ "


ผิวที่ไม่ป่วย หรือผิวธรรมดา ที่มีสุขภาพดีอยู่แล้ว ใช้ครีมกันแดดธรรมดา กับครีมขวดละไม่กี่ร้อยผิวก็เด้งได้ แล้วคนที่มีผิวธรรมดาเนี่ย ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมากนะขอรับ

ถ้าคุณพูดแบบนี้ หมายความว่าผลิตภัณฑ์ที่คุณเทิดทูนเนี่ย มีไว้เฉพาะคนที่ผิวไม่ป่วยเท่านั้น ถึงลองใช้แล้วจะรู้สึกดี อยากรบกวนกรุณาช่วยเข้าใจหัวอกของคนที่มีผิว "ป่วย" บ้างก้ดีนะขอรับ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีมีผิว "ไม่ป่วย" แบบคุณ

ส่วนตัวแล้วปูเป้คิดว่า ความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ เป็นสิ่งที่ "คนขาย" ต้องมีขอรับไม่ใช่กับผู้บริโภค

กับผู้บริโภคนั้น ตัวสินค้าต่างหากที่ต้องบอกเล่าตัวเองด้วยประสิทธิภาพและผลที่ได้ เพื่อให้ผู้บริโภค "มั่นใจ" ที่จะใช้สินค้าตัวนั้นต่อไป

ถ้าคุณบอกว่า ต้องเชื่อมั่นในสินค้ามาก ๆ ถึงจะใช้แล้วได้ผลจริง นั่นเป็น Placebo Effect นะขอรับ ไม่ใช่ประสิทธิภาพของสินค้าจริง ๆ

จากความรู้สึกส่วนตัว ปูเป้รู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ที่ดีเฉพาะสำหรับผิวไม่ป่วยเท่านัน ผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้ความเชื่อมั่นเท่านั้นถึงจะเห็นผล ลบหลู่ไม่ได้ของจะเสื่อมไม่ขลัง ดูจะไม่เหมาะกับกระผม

เพราะสำหรับคนที่เคยมีผิวป่วย ๆ มาก่อนอย่างปูเป้ ผลิตภัณฑ์ที่ดีคือผลิตภัณฑ์ที่สามารถให้ความหวังกับผู้ใช้ได้ แม้กระทั่งอาการป่วยจะร่อแร่เต็มทนก็สามารถช่วยพยุงให้กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง


ขอทิ้งท้ายว่า

กระผมทำเรื่องทั้งหมดนี้้โดยไม่มีธุรกิจหรือเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย ทุกตัวอักษรและภาพที่มีใน Blog นี้ออกมาจากความรักในเครื่องสำอางล้วน ๆ โดยหวังว่าสิ่งที่กระผมนำเสนอจะสามารถเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่มีใจรักในเครื่องสำอางเช่นเดียวกันได้นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง

แต่ของคุณนั้นผมไม่ทราบ แต่หวังว่าคุณก็จะมีความรักในเครื่องสำอางเหมือนกัน และสามารถมองภาพรวมแบบเป็นกลางได้โดยไม่มีธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

โดย: PuPe_so_Sweet 13 สิงหาคม 2551 22:22:28 น.  

 

ตามมาอ่าน

 

โดย: วีไอพี IP: 58.9.165.226 13 สิงหาคม 2551 22:38:31 น.  

 

ปูเป้รู้สึกว่าจะแฟนตาซีไปหน่อยนะขอรับ... ดูเป็นคำโฆษณาที่เป็นการตลาดมาก ๆ ซึ่งไม่มีในโลกของความเป็นจริง... ส่วนผสมของเครื่องสำอาง Artistry ก็เป็นส่วนผสมที่ใช้กันทั่วโลกกับเครื่องสำอางยี่ห้ออื่น ๆ ทั่วไป (และแน่นอนว่าเขาก็ใช้ Cosmetic Grade กันทั้งนั้น) สารเคมีที่กดสิวเอาไว้ มันไม่มีหรอกขอรับ มีแต่สารเคมีที่กระตุ้นสิว หรือทำให้อุดตันผิวได้
ถ้ามันมีสารที่กดสิวเอาไว้ได้จริง สุดยอดขอรับ ปูเป้จะขอใช้เป็นคนแรกเลย ใช้มันจนตายสิวจะได้ไม่ขึ้น... นี่คุณปูเป้ ไม่รู้จัก พวกยาหมอ หรือ พวก เวชสำอางค์ จริง ๆ เหรอครับ คนเครื่องสำอางค์เขารู้กันหมด ทำรีวิวมาซะหลายเรื่องขนาดนี้ พลาดเรื่องนี้ได้ไง ลองท่องอินเตอร์เนทไปเรื่อยๆ ดูนะครับ อาจจะเจอ ถ้าคุณบอกว่า ต้องเชื่อมั่นในสินค้ามาก ๆ ถึงจะใช้แล้วได้ผลจริง นั่นเป็น Placebo Effect นะขอรับ ไม่ใช่ประสิทธิภาพของสินค้าจริง ๆ ----------------------------------------------------------------------------------------- เขาเรียก paraboce Effect พาราโบซี่ เอฟเฟกครับ ทางการแพทย์ มีผลในการทำให้จิตใจรักษาตัวเองร่วมกับการใช้ยา ยาจริงมีผลการรักษาแค่ ไม่เกิน 40 เปอร์เซนต์ แต่พาราโบซีเอฟเฟก รักษาได้เกิน40เปอร์เซน มียาไม่กี่ชนิดในโลก ที่ได้ผลสูงกว่า พาราโบซี่เอฟเฟก แล้วการใช้ยาที่มีผลการรักษาสูง ร่วมกับพาราโบซี่เอฟเฟก เป็นการรักษาที่ดีที่สุดเท่าที่มีตอนนี้ เรื่องนั้นรู้ดีครับ 555+

 

โดย: ความข้างอื่น ๆ IP: 118.173.224.208 14 สิงหาคม 2551 11:24:12 น.  

 

90% ของเงินที่คุณจ่ายไป เป็นค่าการตลาด ค่าคิดค้นและวิจัย (วิจัยอะไรได้มาแค่นี้? ลาออกไปขายเฉาก๊วยดีกว่ามั้ยพี่) ส่วนแบ่งอัพไลน์ ค่าน้ำมันรถผู้จัดการ และค่าใช้จ่ายให้ระดับ Diamond ไปเที่ยวถลุงฟรีที่ต่างประเทศ อีก 9 % เป็นค่าขวดและกล่องบรรจุภัณฑ์ ส่วนอีก 1 % ที่เหลือ (หรือน้อยกว่า) เป็นต้นทุนของวัตถุดิบส่วนผสม (ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณได้จริง ๆ)
--------------------------------- คิดว่ารู้จริง ๆรึ แล้วมาเขียนเนี่ย คนรู้เรื่องเขาจะหัวเราะใส่นะครับ 55555+

 

โดย: โด่ นึกว่ารู้มากกก IP: 118.173.224.208 14 สิงหาคม 2551 11:40:51 น.  

 

ขอบคุณนะค่ะ เราเคยหน้าแหกเพราะ อาร์ทิสตี้ ที่บอกว่าขับออกมานี่แหละ ไอ้เราก็ทนใช้ไป อึ่งเต็มหน้าเลย ทนใช้ไปอีกตั้งสองเดือน ทนไม่ได้เลยเลิกใช้ ตอนนี้แผลคีรอยส์ที่คางเป็นสิบ เนื่องจากเป็นสิวอักเสบและอุดตันนานมาก จนเป็นแผลเป็นอะค่ะ

 

โดย: นุ่น IP: 125.26.86.207 14 สิงหาคม 2551 12:18:41 น.  

 

โดย: ความข้างอื่น ๆ

โดย: โด่ นึกว่ารู้มากกก

^
^
ขอดูหน้าคนที่ใช้แอมเวย์อย่างคุณหน่อยเถอะ ว่ามันดีเลิศประเสริฐศรีอย่างที่ว่าหรือเปล่า เห็นเชียร์จัง ระวังคนอื่นอ่านแล้วจะขำนะ

เห็นในพันทิพย์ก็มีคนแพ้ชุดพื้นฐานเยอะแยะไปค่ะ ตัวแทนขายก็บอกว่าขับสิว ๆ อย่างนี้คุณก็ว่าเขาผิวป่วยเหรอคะ ใครที่ใช้ไม่ได้ก็ป่วยงั้นสิ

อ่านความคิดเห็นของคุณ ประกอบกับรีวิวของคุณปูเป้ พูดตามตรงมันจะยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้คุณปูเป้มากขึ้นอีกนะคะ เพราะที่คุณพูดมา ไม่ได้มีเนื้อหาอะไรเชิงวิชาการ อ้างอิงหาสาระไม่ได้ นอกจาก

"คิดว่ารู้จริง ๆรึ แล้วมาเขียนเนี่ย คนรู้เรื่องเขาจะหัวเราะใส่นะครับ 55555+"

"แต่ใช้แอมเวย์แล้วได้ตังค์ ชีวิตเปลี่ยน ยี่ห้ออื่นในโลกไม่มีให้ รู้มั้ยเรื่องนี้ สิ่งที่ทำให้พวกเขาใช้กัน"

"ใช้สารเคมีกดสิวใว้มาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว จะมาให้มันหายภายใน 2 สัปดาห์ ท่าจะยากครับ แอมเวย์เน้นตรงไปตรงมาขับสิ่งสกปรกและสารเคมีออก ไม่เลี้ยงใข้ คนป่วยกินโจ๊กแล้วอ๊วก โจ๊กไม่ผิด ผิดที่ป่วย"

" ผิวที่ไม่ป่วย ลองแล้วจะรู้สึกดีมาก ผมก็ใช้แล้ว ดีจริง ๆ ถ้าใช้ด้วยความเชื่อมันจะดีแน่นอน ใช้แบบจับผิด ก็เจอผิดแน่ "


"ส่วนมากไม่ทราบหรอกแค่ว่าผิวป่วย แค่ถูกเลี้ยงใข้ใว้"


ไม่อยากว่านักธุรกิจแอมเวย์หรอกนะคะ ยกเว้นนักธุรกิจแอมเวย์อย่างคุณนี่ สมกับเป็นพวกขายตรงค่ะ แถไถสีข้างไปเรื่อย หาแต่ข้ออ้างผลิตภัณฑ์ระดับเทพเจ้า โฆษณาเกินจริง

ใช้แอมเวย์ชีวิตดีขึ้น ก็เชิญใช้ของคุณต่อไปเถิด ยอดขายมันจะตกหรือไงถึงได้ออกมาออกโรงปกป้องถึงขนาดนี้ ถ้าของมันดีจริงจะกลัวอะไรล่ะคะ ใช่มะ ใครใช้ไม่ได้ก็เพราะคนใช้มันไม่ดีเองมาโทษอะไรผลิตภัณฑ์ล่ะ

ดีเลิศประเสริฐจริง ๆ ตอนแรกว่าจะไม่พูดอะไรแอมเวย์ ๆ กะแล้วว่ายังไงคุณปูเป้ก็ต้องโดน แต่เห็นความบ้าคลั่งของนักขายคนนี้แล้วมันทนไม่ได้ (ไม่ได้พูดถึงทุกคนหรอกนะคะ) ถ้าอยากอวย ป่าวประกาศว่ามันดี คุณก็ไปสรรหาเหตุผลเชิดชู บูชา เทิดทูนในที่ ๆ ของคุณสิ นี่มันรีวิว ไม่ใช่โฆษณาขายแอมเวย์

จะความข้างไหนก็ไปเถอะค่ะ แล้วไอ้ที่ว่า โด่นึกว่ารู้มาก อย่างน้อยที่นี่ บล็อคนี้ ทำให้คนอื่นตาสว่างได้ ไม่เหมือนคุณ ไม่เกิดประโยชน์อะไร มีแต่จะดัน ๆ ๆ แอมเวย์

ถ้าอ่านแล้วไม่เกิดประโยชน์ คุณจะมาอ่านทำไม

หรือถ้าจะบอกว่ากลัวคนอื่นหลงเชื่อคุณปูเป้ นั่นก็เพราะตัวคุณเองนี่แหละค่ะ ทำให้คุณปูเป้ดูดีมากขึ้นอีกเป็นกอง น่าสงสาร โดนนักธุรกิจแอมเวย์อย่างคุณทำร้าย

อนาถ เอาเถอะคะ เขียนแบบข้างบนอีกเยอะ ๆ ชีวิตของคุณก็คงจะมีความสุขมากขึ้นล่ะมั้ง

 

โดย: bluestormy IP: 58.8.204.175 14 สิงหาคม 2551 12:45:06 น.  

 

ตัวสุดท้ายนี้แพง แต่ม่ายได้เรื่องเลยแฮ่ะ

 

โดย: supergaye 14 สิงหาคม 2551 12:47:56 น.  

 

คุณ IP: 118.173.224.208 นี่ใช่ตัวแทนขายอาร์ทิสตรีหรือเปล่า (น่าจะใช่นะ)
รบกวนขอส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ในไลน์ Pure White หน่อยได้ไหมเอ่ย?

พอดีว่าสนใจไลน์นี้น่ะ เห็นบอกว่าออกใหม่
อยากรู้ว่าดีไหม รบกวนหน่อยนะ^^

 

โดย: Sei IP: 118.174.177.168 14 สิงหาคม 2551 15:21:13 น.  

 

ถึงคุณ.....-----------------โด่นึกว่ารู้มาก อย่างน้อยที่นี่ บล็อคนี้ ทำให้คนอื่นตาสว่างได้ ไม่เหมือนคุณ ไม่เกิดประโยชน์อะไร มีแต่จะดัน ๆ ๆ แอมเวย์

ถ้าอ่านแล้วไม่เกิดประโยชน์ คุณจะมาอ่านทำไม

หรือถ้าจะบอกว่ากลัวคนอื่นหลงเชื่อคุณปูเป้ นั่นก็เพราะตัวคุณเองนี่แหละค่ะ ทำให้คุณปูเป้ดูดีมากขึ้นอีกเป็นกอง น่าสงสาร โดนนักธุรกิจแอมเวย์อย่างคุณทำร้าย

อนาถ เอาเถอะคะ เขียนแบบข้างบนอีกเยอะ ๆ ชีวิตของคุณก็คงจะมีความสุขมากขึ้นล่ะมั้ง
------------------------------------------------------------------------ ไม่มีความสุขหรอกครับ คุณก็รำคาญ ผมก็รำคาญ อยากให้ใครไม่มายุ่ง ก็อย่าพล่ามอะไร พล่อย ๆ ที่ไม่รู้จิงสิครับ อย่างเช่น ท่อนนี้ -------------------***********90% ของเงินที่คุณจ่ายไป เป็นค่าการตลาด ค่าคิดค้นและวิจัย (วิจัยอะไรได้มาแค่นี้? ลาออกไปขายเฉาก๊วยดีกว่ามั้ยพี่) ส่วนแบ่งอัพไลน์ ค่าน้ำมันรถผู้จัดการ และค่าใช้จ่ายให้ระดับ Diamond ไปเที่ยวถลุงฟรีที่ต่างประเทศ อีก 9 % เป็นค่าขวดและกล่องบรรจุภัณฑ์ ส่วนอีก 1 % ที่เหลือ (หรือน้อยกว่า) เป็นต้นทุนของวัตถุดิบส่วนผสม (ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณได้จริง ๆ)******** ปากปี..อมักกกกก ๆ คุณเป็นใคร ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ โปรเฟสเซอร์มั้ย รู้ดีจัง******** พอเถอะนี่มันที่ของคุณนี่ ตัดส่วนให้คนคอมเมนท์นี่ออกมั้ย ก็ทำเป็นบทความพอ ถ้ารับการโต้แย้งอธิบายไม่ได้

 

โดย: .......... IP: 118.173.224.208 14 สิงหาคม 2551 16:06:06 น.  

 

จะยังไงก็ช่าง ไม่เห็นต้องสนใจไรเลย

มีเงินอยากใช้อะไรก็ใช้ไปดิ แล้วแต่ใจเรา ส่วนข้อมูลที่เราได้รับทราบมาก็เอาไปเปรียบเทียบดิ ว่าจะใช้อะไรแล้วเหมาะแก่หน้าของเรา

555+

อีกอย่างพี่ปูเป้ก็ให้ความรุว่า ในสินค้าตัวนั้นๆมีส่วนผสมอะไรที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้าเราบ้าง

อีกอย่างหน้าคนเราไม่ได้มีสภาพผิวเหมือนกันสักหน่อยดิ

ขนาดเราเองอ่ะ ยังใช้ พวก SK-II Vichy Aviance Laneige ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย มันแล้วแต่ผิวหน้าคนด้วย

ส่วนข้อมูลคือครื่องตัดสินใจ

อยากจะบอกว่า อเมริกา ไม่ได้ให้ ของดีๆแก่เราไปซะทุกอย่าง ไม่มีของฟรีในโลกด้วย



 

โดย: bell IP: 61.7.175.207 14 สิงหาคม 2551 16:11:58 น.  

 


คุณ IP: 118.173.224.208 นี่ใช่ตัวแทนขายอาร์ทิสตรีหรือเปล่า (น่าจะใช่นะ)
รบกวนขอส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ในไลน์ Pure White หน่อยได้ไหมเอ่ย?

พอดีว่าสนใจไลน์นี้น่ะ เห็นบอกว่าออกใหม่
อยากรู้ว่าดีไหม รบกวนหน่อยนะ^^--------------------------------------------- ออกใหม่ครับ ผมน่ะบอกว่าดี แต่แถวนี้ไม่แน่ใจ ติดต่อ นักธุรกิจแอมเวย์ใกล้บ้านคุณ หรือ ที่ทำงานเดียวกันดีกว่าครับ เขาดูแลและให้ข้อมูลได้ดีกว่า

 

โดย: ........ IP: 118.173.224.208 14 สิงหาคม 2551 16:12:22 น.  

 

โธ่เอ๊ยยย พูดมานิดนึงหางก็โผล่แล้ว...

 

โดย: purplestormy IP: 58.136.58.68 14 สิงหาคม 2551 16:22:46 น.  

 

ขอบคุณที่บล๊อคของคุณปูเป้ ได้ให้ความรู้ใหม่ๆ อย่างน้อยก็รู็ว่าการเรียงลำดับสาขจองเครื่องสำอาง คือจำนวนปริมาณมากไปหาน้อย ก็จริงนะคะ ที่เครื่องสำอางสมัยนี้ พอมีลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรขึ้นมา ก็ยากแก่การตรวจสอบคุณสมบัติอันแท้จริง *สิ่งหนึ่งที่พอได้อ่านๆมาบ้าง บางทีส่วนผสมบางตัว หรือสารสกัดบางชนิด ก็ไม่อาจใส่ได้ในปริมาณที่เข้มข้นเกินไป เพราะอาจเป็นผลเสียแทนที่จะเป็นผลดีมากกว่า บางชนิดใส่เพียง 0.005% ก็เพียงพอ อะไรประมาณนี้ โดยเฉพาะสารสกัดจากพืชและผลไม้ ไม่อาจใส่ได้ในปริมาณที่เข้มข้นเกินไปใช่ไหมคะ บางทีดูการรีวิวแล้วก็รู้สึกว่า เขาอาจใส่ได้แค่นั้นจริงๆก็ได้ อีกอย่างสารสกัดใหม่ๆจากสถาบันวิจัยพวกนี้ เราก็ไม่อาจรู้ได้ว่า ปริมาณที่เพียงพออยูี่่ที่เท่าไรใช่ไหมคะ การตัดสินปริมาณส่วนผสมจากการเรียงลำดับแบบนี้ บางทีก็อาจไม่ถูกเสมอไปใช่ไหมเอ่ย หรือยังไง รบกสนตอบทีนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: คนผ่านมา IP: 124.120.178.95 14 สิงหาคม 2551 19:11:07 น.  

 

อยากถามคุณปูเป้ว่า เวชสำอางค์ ดีไหมคะ
พอจะรุ้จักผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อ แพรร์ ไหมคะ
อยากให้ช่วยรีวิวให้อ่านด้วยคะ
ขอบพระคุณมากคะ

 

โดย: เม IP: 118.172.33.200 14 สิงหาคม 2551 19:15:40 น.  

 

อีกนิดนึง... ได้ข่าวมาว่า สถาบันวิจัย ของเครื่องสำอาง... ของฝรั่งเศส ชื่อดัง และยังเป็นเจ้าของเครื่องสำอางท้องตลาดชื่อดังทั้ง L.. และ G... มีนักวิจัยคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ถึง 3พันกว่าคน อันนี้ไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่ถ้ามีขนาดนั้นแล้วคิดค้นครีมซึ่งมีประสิทธิภาพได้แค่นี้ ก็รู้็สึกผิดหวังนะคะ แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้เป็นคนศึกษามาในแขนงนี้ตรงๆยังรู้เลยว่า มันมีข้อบกพร่องมากมาย แบบนี้แล้ว นักคิดค้นเหล่านั้นทำอะไรกัน -*- น่าสงสารคนที่เชื่อในคำโฆษณามากเกินไปจริงๆแบบนี้

 

โดย: คนผ่านมา IP: 124.120.178.95 14 สิงหาคม 2551 19:18:14 น.  

 

เขาเรียก paraboce Effect พาราโบซี่ เอฟเฟกครับ ทางการแพทย์ มีผลในการทำให้จิตใจรักษาตัวเองร่วมกับการใช้ยา ยาจริงมีผลการรักษาแค่ ไม่เกิน 40 เปอร์เซนต์ แต่พาราโบซีเอฟเฟก รักษาได้เกิน40เปอร์เซน มียาไม่กี่ชนิดในโลก ที่ได้ผลสูงกว่า พาราโบซี่เอฟเฟก แล้วการใช้ยาที่มีผลการรักษาสูง ร่วมกับพาราโบซี่เอฟเฟก เป็นการรักษาที่ดีที่สุดเท่าที่มีตอนนี้ เรื่องนั้นรู้ดีครับ 555+
ูู^
^
^
การรักษาโดยใช้ความเชื่อ เรียกว่า "Placebo" ถูกแล้วครับ =3=

ลองเอาคำว่า Placebo ไปถาม google ดูนะครับ

 

โดย: Pillow IP: 58.9.2.223 14 สิงหาคม 2551 19:51:41 น.  

 

โอ้.... มีผู้ให้ความสนใจเยอะเลยทีเดียว

ยังไงก็ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็นนะขอรับ


ก่อนอื่นเลยปูเป้ต้องขอบอกว่าไม่เคยรู้จักคำว่า "paraboce Effect" มาก่อนเลยนะขอรับ


"paraboce Effect พาราโบซี่ เอฟเฟกครับ ทางการแพทย์ มีผลในการทำให้จิตใจรักษาตัวเองร่วมกับการใช้ยา ยาจริงมีผลการรักษาแค่ ไม่เกิน 40 เปอร์เซนต์ แต่พาราโบซีเอฟเฟก รักษาได้เกิน40เปอร์เซน มียาไม่กี่ชนิดในโลก ที่ได้ผลสูงกว่า พาราโบซี่เอฟเฟก แล้วการใช้ยาที่มีผลการรักษาสูง ร่วมกับพาราโบซี่เอฟเฟก เป็นการรักษาที่ดีที่สุดเท่าที่มีตอนนี้ เรื่องนั้นรู้ดีครับ 555+"

ความข้างอื่น ๆ IP: 118.173.224.208 วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:11:24:12 น.


ยังไงถ้าคุณจะกรุณาทำทานให้กระผมได้รู้อะไรกว้างขึ้น ช่วยมอบ Link ข้อมูลเกี่ยวกับ Paraboce Effect ที่คุณว่ามานี้ให้ปูเป้สักหน่อยได้รึเปล่าขอรับ เพราะหาข้อมูลไมได้เลยจริง ๆ แม้แต่ใน Google (ปูเป้โทรไปถามคุณหมอ คุณหมอก็บอกว่าไม่รู้จัก ปูเป้จนปัญญาที่จะหาแล้วขอรับ)

ยังไงก็รบกวนแสดงข้อเท็จจริงและความน่าเชื่อถือของ Paraboce Effect ที่คุณ "ความข้างอื่น ๆ" (IP: 118.173.224.208 วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:11:24:12 น. ) มาด้วยนะขอรับ

ส่วนเรื่อง Placebo Effect ของปูเป้เนี่ย ข้อมูลหาง๊ายง่าย แม้แต่ใน Wikipedia ( //en.wikipedia.org/wiki/Placebo )

- - - - - - - - - - - - - -


ส่วนเรื่องข้อความนี้ในรีวิว Time Defiance Intensive Repair Serum


"90% ของเงินที่คุณจ่ายไป เป็นค่าการตลาด ค่าคิดค้นและวิจัย (วิจัยอะไรได้มาแค่นี้? ลาออกไปขายเฉาก๊วยดีกว่ามั้ยพี่) ส่วนแบ่งอัพไลน์ ค่าน้ำมันรถผู้จัดการ และค่าใช้จ่ายให้ระดับ Diamond ไปเที่ยวถลุงฟรีที่ต่างประเทศ อีก 9 % เป็นค่าขวดและกล่องบรรจุภัณฑ์ ส่วนอีก 1 % ที่เหลือ (หรือน้อยกว่า) เป็นต้นทุนของวัตถุดิบส่วนผสม (ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณได้จริง )"

ปูเป้ประมาณเอาจากสิ่งที่หาข้อมูลมาได้นะขอรับ

ข้อมูลเรื่องราคาของส่วนผสมในเครื่องสำอางเนี่ย สามารถหาได้จาก Google ตามเวปไซท์ของผู้ผลิต ถ้าอยากรู้ราคาของสารส่วนผสมที่นำเข้ามาขายในประเทศไทย สามารถสอบถามได้ที่

บริษัท Namsiang

Head Office
19 Sukhumvit70 Bangna Bangkok Thailand 10260
Tel: (662) 3617301-4, (662) 7448257-60
Fax: (662) 3617305

บริษัทนี้เป็นรายใหญ่ที่นำเข้าพวกสารส่วนผสมในเครื่องสำอาง พวกแพทย์ผิวหนัง นักเคมี หรือคนที่มีความรู้ในการผสมเครื่องสำอางใช้เองได้ ก็มักจะซื้อที่นี่แหล่ะขอรับ (แต่สาขาเยาวราชที่เป็นสาขาย่อยเนี่ยจะเป็นจุดกระจายสินค้า คนก็ไปเยอะเหมือนกัน แถมมีแบ่งขายด้วย แต่ขั้นต่ำต้อง 100 กรัมนะขอรับ)

จากราคาเต็ม 10,350 บาทเนี่ย ปูเป้ตี 1% ให้เป็นต้นทุนส่วนผสมแบบเพียว ๆ เลย ก็คือประมาณ 103.50 บาท ซึ่งถือว่าประมาณให้สูงมากแล้วสำหรับครีมที่มีส่วนผสมหลักเป็นเบสเซรั่มและสารบำรุงปริมาณน้อยนิดที่ใส่ลงมาให้

ยกตัวอย่างส่วนผสมที่แพงมาก ๆ อย่างเช่นวิตามินซีแบบ MAP เขาแบ่งขาย 100 กรัม 2,200 บาทขอรับ

แต่ในปริมาณน้อยนิดที่ใส่ในเผลิตภัณฑ์แบบต่ำกว่า 0.5% แบบนี้ มันก็ไม่กี่มิลลิกรัมเอง เฉลี่ยหารมาก็ตกไม่กี่บาท ต้นทุนครีม 14 หลอดเล็ก ๆ ปริมาณมาณรวมไม่ถึง 30 ml. แบบนี้.... ให้ต้นทุนส่วนผสมเพียว ๆ ไป 103.50 บาท ก็ถือว่า Overprice แล้ว

9 % ที่ว่าตีให้เป็นค่าบรรจุภัณฑ์ ก็ล่อไปประมาณ1000 บาทได้ ถือเป็นค่าบรรจุภัณฑ์ที่ตีราคาแพงมากอีกเหมือนกัน แต่ปูเป้ตีราคาให้เพราะเห็นว่ากล่องน่าจะแพง (มั้ง) (จริง ๆ น่าจะถูกกว่า 9% แน่นอนขอรับ)

อีก 90 % ที่เหลือ ก็เป็นอย่างที่บอก ส่วนของต้นทุนแฝงอย่างค่าการตลาด โฆษณา ค่าวิจัย ค่าขนส่ง ค่านำเข้า ภาษี ส่วนแบ่งสมาชิก กำไร (แน่นอนว่าการเอาผู้ที่ทำยอดได้ถึงระดับ มันก็รวมอยู่ในต้นทุนแฝงเหมือนกัน) และบลา ๆ ๆ

หรือคุณคิดว่าต้นทุนของส่วนผสมครีมตัวนี้เนี่ย มันควรจะแพงกว่า 1 % ถ้าคุณคิดแบบนั้นไม่ต้องเชื่อปูเป้ก็ได้ขอรับ ลองไปถามนักเคมี แพทยืผิวหนัง หรือคนที่รู้เรื่องการผสมเครื่องสำอางดี ๆ ว่าครีมที่ปริมาณไม่ถึง 30 Ml. และมีส่วนผสมแต่เบสครีมกับการมีสารบำรุงที่อยู่หลังสารกันเสียเนี่ย ต้นทุนสารส่วนผสมเพียว ๆ มันควรจะเกินร้อยบาทเชียวหรือ

แน่นอนว่าปูเป้ไม่ถอนข้อความนั้นออกจากรีวิวนี้ เพราะจากข้อมูลที่หามาได้ ประกอบกับการปรึกษาบุคคลที่รู้จักซึ่งทำในงานในแวดวงนี้มา นี่เป็นการประมาณที่สมเหตุผลแล้ว

- - - - - - - - - - - - - - - -

ถ้าข้อมูลของปูเป้ผิดพลาด กระผมก็มีสปริตที่จะออกมายอมรับความผิดพลาดและขอโทษกับสิ่งที่ผิดพลาดไป ไม่แถไถไปเรื่อยหรอกนะขอรับ และก็ยินดีรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างเสมอ ตราบใดก็ตามที่มันมีพื้นฐานอยู่ที่ความเป็นจริง

ปูเป้ทำรีวิวมาเยอะ เจอเหตุการณ์ "สาวกแบรนด์ถล่ม" แบบนี้มาก็บ่อย ปูเป้เลยต้องระวังรัดกุมและต้องหาข้อมูลเยอะมากทีเดียวกว่าจะทำเป็นรีวิวออกมาแต่ละครั้งได้

ถ้ากระผมโมเมมั่วนิ่มนั่งเทียนเขียนขึ้นมาเอง ก็ไม่มีใครให้ความสนใจหรือเชื่อถือข้อมูลของปูเป้หรอกนะขอรับ

และถ้าคุณสงสัยว่าสิ่งที่กระผมพูดมาเป็นจริงรึเปล่า ลองหาใน Internet หรือใน Google ได้ขอรับ คุณจะเจอได้ไม่ยาก ไม่เหมือนกับ Paraboce Effect ของคุณ " ความข้างอื่น ๆ "

ถ้าคุณรับความจริงไม่ได้ ก็ไม่ต้องคิดมากขอรับ ปิด ๆ หน้าต่างของ Blog นี้ไปเสีย เพราะการที่คุณเอาข้อมูลที่ไม่เป็นจริงมากล่าวอ้างแบบนี้ จะทำให้ภาพลักษณ์ของนักธุรกิจ Amway ดูย่ำแย่ลงนะขอรับ (ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย)

- - - - - - - - - - - - - - -


ส่วนเรื่อง Pure White ออกใหม่เนี่ย Ingredients List สามารถบอกได้ทุกอย่างของรับ

ของดีจริงต้องเป็น State-of-the-art Formular ไม่ใช่หวัง Placebo Effect . . .

PS. ปูเป้เกิดปีจอขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 14 สิงหาคม 2551 19:52:47 น.  

 

ตอบคุณ คนผ่านมา

ส่วนผสมต่าง ๆ นั้นมีระบุความเข้มข้นในการใช้เอาไว้ขอรับ โดยเขาจะระบุเอาไว้ใน เอกสารข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ หรือ Material Safety Data Sheets (MSDS)

อย่างเช่น Retinol จะไม่ให้ใส่เกิน 1% เป็นต้น ( 1% นี่ทำให้ระคายเคืองได้มากเหมือนกันนะขอรับ ถึงจะมีประสิทธิมากมาก็เถอะ)

ส่วนใหญ่ส่วนผสมที่เขาเขาแนะนำให้ใส่น้อยมาก ๆ จะเป็นพวก Additives อย่างเช่น สารกันเสีย สี เพราะในปริมาณมากสารพวกนี้จะก่ออันตรายได้มาก

แต่ส่วนผสมของสารบำรุงที่ปูเป้บอกว่าอยู่หลังสารกันเสียและมีน้อยมากจนไม่เกิดผลเนี่ย อย่าง Tetrahexyldecyl Ascorbate หรือ วิตามินซีรูปแบบใหม่เนี่ย ใส่เกิน 10% ยังได้ (แต่โน๊ตเอาไว้ว่า ใส่เยอะมาก ผิวบอบบางก็จะระคายเคืองได้ง่ายเหมือนกัน) และใส่มาน้อยกว่า 0.1 % แบบในผลิตภัณฑ์ตัวที่บอกมานี้ มันไม่มีประโยชน์หรอกขอรับ

ลองหา Material Safety Data Sheets เอาได้ใน Internet นะขอรับ หรือถ้าจะลงทุนก็สามารถสมัครสมาชิกเวปที่เขารวบรวม Material Safety Data Sheets ก็ได้

 

โดย: PuPe_so_Sweet 14 สิงหาคม 2551 20:07:59 น.  

 

ก็น่าจาจริงแบบคุณปูเป้นั่นล่ะ
เพราะค่าภาษีนำเข้าสินค้าที่เป็นเครื่องสำอางค์ก็ 40% แล้วนะครับ
ส่วนค่าอื่นๆที่คิดรวมทั้งหมดแล้วขายตัวสินค้าผมไม่รู้
แต่ตอนนี้รัก Puala's Choice ครับ
ปล. ผมเคยใช้อาร์ทิสทรีนะ ผมว่าก็ดีนะสำหรับบางตัว นานาจิตตัง และผิวผู้ใช้ครับ ^^

 

โดย: 100PIPERS IP: 202.91.19.192 14 สิงหาคม 2551 20:48:11 น.  

 

คุณปูเป้ สุดยอดเลยคร๊า ชอบๆๆ
คนแบบคุณปูเป้นี่แหละ ที่ไม่ได้หวังผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น
ไม่เหมือนกะบางคน ที่มาบอกว่าต้องใช้ชุดนี้ก่อนนะ แล้วตามด้วยชุดนั้น ห้ามข้ามขั้น แต่พอใช้ไม่ได้ขึ้นมา ก็จะบอกว่า ไม่ได้กินอาหารเสริมก่อนยังไง ยังงี้ เพราะผิวภายในไม่แข็งแรง จึงใช้เครื่องสำอางไม่ได้ น่าน!!! โทษเราอีกว่าหน้าบางมาก เพราะใช้ยาหมอมานานทำให้หน้าบางงะ ซะงั้น ไหลไป

 

โดย: นุ่น IP: 125.26.85.225 14 สิงหาคม 2551 21:00:59 น.  

 

ถึงคุณ IP: 118.173.224.208 (หลายชื่อจัดขอเรียกไอพีแทนนะ)

ถ้าคุณยืนยันว่าดีจริง แสดงว่าคุณต้องได้ลองใช้หรือใช้อยู่ ณ ตอนนี้ใช่ไหม
ยังไงช่วยพิมพ์หรือถ่ายรูปของส่วนผสมข้างกล่อง มายืนยัน
เอาให้รู้ไปเลยว่า นี่ของดีจริงเค้าใส่อะไรบ้าง น่าจะดีนะ

นักธุรกิจแอมเวย์ ใกล้บ้านก็มีนะ แต่ไม่น่าไว้ใจน่ะ
เค้าเคยให้ซื้อโทนเนอร์ใช้บอกว่าดี เหมาะกับผิวมัน มันช่วยควบคุมความมัน "และไม่มีแอลกอฮอล์"

เราก็เชื่อนะว่าไม่มี ใช้อยู่นานจนวันนึงได้เห็นส่วนผสมเข้า ก็เลยรู้ว่า...
"เค้าพูดปด" เราก็ไม่ดีเองที่ไม่เคยตระหนักเลยว่า ที่ใช้ๆอยู่เนี่ย ผสมอะไมั่ง

ที่อยากให้คุณบอกส่วนผสมของ Pure White Line เนี่ย
เพราะเชื่อว่าคุณคงไม่ "พูดปด" เป็นแน่

นี่เราจะได้เห็นส่วนผสมจาก คุณ IP: 118.173.224.208 ก่อน
หรือว่าจะได้อ่านสับแหลก Pure White จากคุณปูเป้ก่อนน้าาาา

^^

 

โดย: Sei IP: 125.26.28.58 14 สิงหาคม 2551 21:19:19 น.  

 

แบบว่ากลัวจะเข้าใจยากเกินไป เรื่องการตลาดและต้นทุนของครีม

ปูเป้จะลองอธิบายอะไรที่เข้าใจง่ายกว่านั้นหน่อย

ยกตัวอย่างของ "ชาเขียว" บรรจุขวด


ชาเขียวขวดราคาท้องตลาด 20 บาทต่อ 550 ml ที่ขายกันทั่วไปนั้น

- ค่าน้ำชาจริง ๆ ตีไป 1 บาทก็เหลือแหล่

- ค่าขวด PET ปูเป้เคยไปถามที่งาน IFHS (International Food and Hospitality Show) เมื่อปี 2007 (ตอนนั้นจะไปซื้อมีดกะหัวบีบครีมเค้ก) เขามีเครื่องผลิตขวด PET มาโชว์ ไปถามเขาก็บอกว่าต้นทุนเนี่ยจะประมาณ 4 - 8 บาทต่อขวด แล้วแต่ขนาด ปูเป้ตีให้เป็น 5 บาทต่อต้นทุนขวด PET เปล่า ๆ ละกัน

- อีก 14 บาทที่เหลือก็เป็นต้นทุนแฝง โดยมากที่สุดก็คือค่าการตลาด ค่าโฆษณาทีวี นิตยสาร วิทยุ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย เจอฝานำโชคเอาได้ล้านนึงแบบนี้เป็นต้น และก็ยังเหลือเป็นกำไรอีกแน่ะ....

----------------------------------------

การที่บริทเครื่องสำอางจะออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกมาแต่ละตัวเนี่ย ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์เป็นคนเริ่มนะขอรับ แต่ นักการตลาดต่างหากที่เป็นคนวางแผน กำหนดว่าต้นทุนของครีมควรจะไม่เกินกี่บาท ควรจะทำการขายยังไง เน้นจุดขายแบบไหน แล้วพวกนักเคมีเขาก็จะทำส่วนผสมต้นแบบออกมาหลาย ๆ ตัว ตัวไหนโอเค อยู่ในต้นทุนที่วางไว้ก็เตรียมทำการตลาดออกวางขาย

นักเคมีเขารู้ดีขอรับ ว่าอะไรที่ดีหรือไม่ดีกับผิว แต่เขาไม่มีสิทธิที่จะไปกำหนดอะไรได้ เพราะหลาย ๆ อย่างถูกควบคุมโดย "ธุรกิจ"

แพทยืผิวหนังที่ไหนก็รู้ดีว่าน้ำหอมไม่มีประโยชน์กับผิว แถมทำให้มีโอกาสระคายเคืองได้ด้วย แต่ผู้บริโภคชอบครีมกลิ่นหอม ๆ เขาก็ต้องใส่ไปเพื่อตอบสนองตลาด

ผู้เชี่ยวชาญก็รู้ดีว่าสารสกัดจากพืชบางตัวเป็นอันตรายกับผิวได้ แต่ความต้องการของตลาดที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมีสูงขึ้น เมื่อ Demand มาแรง เขาก็ต้อง Supply ไปตามนั้น

โลกนี้มันหมุนไปด้วยธุรกิจและเงินตราขอรับ...

ถ้าอยากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมบำรุงผิวเข้มข้น คงต้องจ้างให้ Lab หรือ คุณหมอ เขาช่วยผสมให้ หรือถ้าขยันหน่อย ลองศึกษาหาข้อมูลเรื่อง DIY Skin Care แล้วผสมใช้เองโลด (ปูเป้ก็กำลังเริ่มศึกษาอยู่เหมือนกันขอรับ)

 

โดย: PuPe_so_Sweet 14 สิงหาคม 2551 22:58:58 น.  

 

แต่ใช้แอมเวย์แล้วได้ตังค์ ชีวิตเปลี่ยน ยี่ห้ออื่นในโลกไม่มีให้ รู้มั้ยเรื่องนี้ สิ่งที่ทำให้พวกเขาใช้กัน


โดย: ความข้างอื่น IP: 118.173.224.208 13 สิงหาคม 2551 19:00:46 น.


โปรดฟังอีกครับ........
แต่ใช้แอมเวย์แล้วได้ตังค์ ชีวิตเปลี่ยน ยี่ห้ออื่นในโลกไม่มีให้ รู้มั้ยเรื่องนี้ สิ่งที่ทำให้พวกเขาใช้กัน

โปรดฟังอีกครั้ง
แต่ใช้แอมเวย์แล้วได้ตังค์ ชีวิตเปลี่ยน ยี่ห้ออื่นในโลกไม่มีให้ รู้มั้ยเรื่องนี้ สิ่งที่ทำให้พวกเขาใช้กัน
.
.

แปลว่า ถ้าใช้แอมเวย์เพราะมัน"ได้ตังค์" ไงครับ
ไม่ได้ใช้เพราะของมันดี

ฮี่ๆๆๆๆๆ

 

โดย: Pillow IP: 58.9.2.223 14 สิงหาคม 2551 23:13:28 น.  

 

สนุกดีจัง

 

โดย: เม IP: 118.172.33.200 14 สิงหาคม 2551 23:20:35 น.  

 


อ๊ะ ลืมตอบเรื่องเวชสำอางของ คุณเม

ขออภัยนะขอรับ

จากข้อมูลของ //www.emedicine.com/derm/topic509.htm และ //en.wikipedia.org/wiki/Cosmeceutical และ //www.gpo.or.th/rdi/html/Cosmeceuticals.html

“เวชสำอาง” หรือ "cosmeceuticals" เกิดจากการรวมคำของ Cosmetic (เครื่องสำอาง) และ
Pharmaceutical (ยา) เข้าด้วยกัน โดยพยายามสื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่า เครื่องสำอางตัวนี้มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนแปลงผิวหนังได้ใกล้เคียงกับการใช้ยา (แต่ยังไม่จัดเป็นยา)

คำว่า "เวชสำอาง" อาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้ว่า เครื่องสำอางแบบเวชสำอางนี้ จะต้องผ่านกระบวนการทดสอบประสิทธิภาพและการควบคุมคุณภาพในระดับเดียวกับกันกับการผลิตยา (ซึ่งไม่จริงเสมอไป)

ปัจจุบันคำว่า "เวชสำอาง" ยังไม่เป็นที่ยอมรับของทั้ง อย. ในไทย และ US FDA ของสหรัฐอเมริกา

นี่หมายความว่า ปัจจุบันยังไม่มีกฏระเบียบข้อบังคับที่ชัดเจน ว่าผลิตภัณฑ์ที่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็น "เวชสำอาง" นั้นต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง (ก็ FDA ยังไม่ยอมรับ เขาก็เลยยังไม่มีกฏหมายมากำหนดในเรื่องนี้ ผู้ผลิตสามารถยกมาเคลมได้ถ้าต้องการ)

สรุปง่าย ๆ คือ... “เวชสำอาง” หรือ "cosmeceuticals" นี่ก็เป็นกลยุทธทางการตลาดอีกแบบหนึ่ง

แต่อย่างไรก็ดี หากผลิตภัณฑ์เวชสำอางถูกผลิตขึ้นในห้องแลปและโรงงานผลิตที่มีมาตรฐานเดียวกันกับโรงงานผลิตยา อย่างน้อยเราก็มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จะสะอาดและโอกาสปนเปื้อนจากสิ่งแปลกปลอมต่ำมาก แต่ไม่ได้การันตีว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นจะดีหรือผ่านการทดสอบผประสิทธิภาพเหมือนกับ "ยา"

ถ้าจะเลือกเวชสำอาง ก็เลือกตัวที่อ่อนโยนจริง ๆ จะดีกว่านะขอรับ พววกที่บอกว่าเป็นเวชสำอางที่เหมาะกับผิว sensitive แต่ยัดมาทั้งน้ำหอมและสีเนี่ย... ไม่ค่อยน่าคบเท่าไหร่ : )

สนใจผลิตภัณฑ์ตัวไหนของแบรนด์อะไร ลองหาส่วนผสมโดยละเอียดมาให้ปุเป้รีวิวให้ก็ได้นะขอรับ ในหัวข้อ :-: Review Request :-: กระผมจะช่วยกรองพวกสารก่อการระคายเคืองให้ได้เบื้องต้น และดูด้วยว่ามีสารบำรุงดีจริงอย่างที่โฆษณารึเปล่า




 

โดย: PuPe_so_Sweet 14 สิงหาคม 2551 23:46:32 น.  

 

คุณปูเป้อย่ายอมแพ้ คนขี้แพ้ชวนตีพวกนี้นะ

นิสัยคนเราก้อเงี้ยยอมรับความจริงไม่ได้ ข้อมูลก้อไม่มีมีแต่ปาก สมองหามีไม่ คิดไม่ได้ว่าจุดประสงค์ของการทำรีวิวของคุณปูเป้คืออะไร ทั้งที่เค้าก้อเขียนไว้ด้านบนแล้วแท้ๆๆ น่ารำคานและน่าสังเวชคนแบบนี้

สู้ สู้ นะคะ
เป็นแฟนพันธ์แท้คุณปูเป้มานานแล้วค่ะ

 

โดย: ManIa IP: 125.25.33.187 16 สิงหาคม 2551 14:28:43 น.  

 

เปงแฟนพันธ์แท้พี่ปูเป้เช่นกานงับ
ยิ่งอ่านก็ยิ่งได้ความรู้ งิ ^.^

 

โดย: Rom IP: 124.121.188.83 16 สิงหาคม 2551 23:29:33 น.  

 

เพิ่งเข้ามาอ่าน...เป็นประเด็นร้อนแรงไปเลย...ความจริงก็ใช้ Artistry อยู่นะสมัครนักธุรกิจด้วยเพราะได้ส่วนลดเยอะ ชื่นชมคุณปูเป้นะคะศึกษาข้อมูลกว้างมากเลย อยากสนับสนุนค่ะพอดีมีแต่กล่อง pure white รุ่นเก่าค่ะถ้าสนใจจะเอาข้อมูลมาให้นะคะ
เราว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นความชอบของแต่ละคนนะ แล้วก็แล้วแต่ผิวแต่ละคนด้วย...ชอบไม่เหมือนกันใช้แล้วได้ผลต่างกัน...ก็ไม่เห็นต้องเถียงกันเลย ถ้าจะแย้งก็ควรแย้งด้วยข้อมูลที่น่าเชื่อถือนะคะอย่าแย้งด้วยอารมณ์เลยมันดูไม่ดีค่ะ

 

โดย: ppk IP: 161.200.255.162 17 สิงหาคม 2551 16:42:51 น.  

 

ขอบคุณที่เข้าใจนะขอรับ ปูเป้ยินดีต้อนรับทุกความคิดเห็นอยู่แล้ว (ตราบใดที่เขามีเหตุผลและสุภาพนะขอรับ)

เดี๋ยวคราวหน้าจะมีรีวิวไลน์ Basic ของ Artistry มาให้ด้วย ปูเป้ว่าไลน์ Basic นี่น่าใช้หลายตัวเหมือนกัน และราคาก็ไม่แพงมาก (บางตัว)

รอติดตามนะขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 17 สิงหาคม 2551 17:58:12 น.  

 

ใช้ของอาทริสตี้แล้วแพ้ทุกชิ้นเลยค่ะ แปลกจัง
ตั้งแต่ครีมทาตัวที่เป็นมูสโฟม อันที่ฉีดออกมาแล้วพองๆนะ่ค่ะ ชอบมาก สนุกดี แต่ชั่วโมงผ่านไปผื่นขึ้นเลย
ครีมก็สิวบุก เสียดายมากๆ

 

โดย: Yagio IP: 202.28.248.134 17 สิงหาคม 2551 21:09:10 น.  

 

น้องปูเป้ ข้า ใครอย่าแตะ !!!!! 555+
เข้าใจว่าทุกคนที่เข้ามาอ่านใบล็อคของน้องเค้า ก็คงจะมาเพื่อศึกษาหาความรู้ เพื่อที่จะเอาไปประกอบการพิจารณา
เพื่อเลือกใช้ อะไรที่สามารถดูแลผิวพรรณของเราให้ดูดี เป็นที่พอใจของเรา และผู้พบเห็น
ดิฉันอ่านแทบทุกตัวอักษร ที่น้องเค้าช่วยค้นคว้า หาข้อมูลมาสงเคราะห์ให้รู้มากกว่าที่รู้มา
ไม่เห็นว่ามีคำไหนเลยที่น้องเค้าลำเอียง หรือเชียร์แบรนด์อะไรเป็นพิเศษเลย แม้แต่น้อย
ใครที่ทำตัวเป็นกบในกะลา จงกลับไปทบทวนตัวเองดูนะคะ
ดิฉันก็มีความรู้แค่หางอึ่งค่ะ แต่เพราะอยากมีความรู้ในสิ่งที่ตัวเองต้องใช้ในชีวิตประจำวัน
จึงได้เข้ามาศึกษาหาข้อมูลที่นี่ค่ะ
น้องเป้รู้มั๊ย..กลองน่ะ ยิ่งตี มันก็ยิ่งดัง..5555+

 

โดย: อ้อย IP: 222.123.117.35 18 สิงหาคม 2551 12:56:39 น.  

 

มาเชียร์ ว่า ถึงคุณปูเป้จะไม่ได้ เป็นนักเคมี ผสมครีมส่งตามแบรนด์ต่างๆ

แต่ที่อ่านนี่ได้ความรู้เพื่อประกอบกับการตัดสินใจ ซื้อครีม ปุกนึกก็หลายพัน ถ้าใช้แล้วแพ้ ก็เสียดายเงินที่ซื้ออยู่ดีแหละคะ

------- มีเพื่อนขายamwayอยู่ ก็พยายามจะมาบ้าน มานวดหน้าให้เสมอๆ แต่ก็ปฏิเสธตลอด เคยใช้โฟมล้างหน้าของแม่ ก็ตัวBasic นี่แหละคะ ผื่นขึ้น สิวรุกราม

พอไปถามเพื่อน ก็ได้คำตอบเหมือนที่คุณปูเป้บอกเลยว่า..
คุณใช้กับผิวผิดประเภทบ้าง// เดี๋ยวใช้ไปสักพักก็ดีเอง กำลังปรับสภาพผิวหน้าอยู่ อะไรทำนองนี้ ตลอดแหละคะ

คือพูดง่ายๆว่าคุณเซลล์กำลังจะบอกว่า Artistry ไม่เคยทำให้ผู้บริโภคแพ้ หรือ ทำให้ระคายเคืองเลยหรอคะ อ้างไปเรื่อยย..อยากเป็นคนขายระดับ Diamond ได้ไปต่างประเทศบ่อยๆ งั้นหรอคะ?

 

โดย: QB IP: 203.156.70.72 18 สิงหาคม 2551 23:19:50 น.  

 

พวกแอมเวย์นี่แตะไม่ได้เลยนะ อย่างว่าละ ก็มันโดนล้างสมองไปแล้ว

 

โดย: anti amway IP: 61.7.190.205 20 สิงหาคม 2551 2:15:21 น.  

 

ขอบคุณที่เข้าใจและให้กำลังใจนะขอรับทุกท่าน

 

โดย: PuPe_so_Sweet 20 สิงหาคม 2551 21:13:01 น.  

 

ขอออกตัวก่อนเลยนะครับที่เข้ามาดูBlogนี้ เข้ามาดูรีวิวที่เจ้าของBlogนำส่วนผสมของผลิตภัณฑ์มาลงไว้ครับ + กับมีลิงค์ที่อ้างถึงแหล่งที่มา
ทีนี้สำหรับสิ่งที่มีคนถกเถียงมา ความน่าเชื่อถือของข้อมูลคุณอยู่ที่ไหนครับ
ตัวอย่างง่ายๆ placebo effect หาใน google ผลการค้นหา 1 - 10 รายการจากประมาณ 1,360,000 สำหรับคำว่า placebo effect (0.28 วินาที)
กับ paraboce effect หาใน google แสดงผลลัพธ์ 1 - 1 ของ1 เพื่อ paraboce effect (0.25 วินาที)
อู้วว เจอแล้ว....ในหน้านี้นี่เอง....555+

พอเถอะครับกับการเถียงแบบข้างๆคูๆ แล้วเรื่องส่วนแบ่งการตลาดถ้าบอกว่าเจ้าของ blog ไม่รู้จริง เอาหลักฐานข้อมูลมาโชว์ครับว่ารู้จริงน่ะ เท่าไหร่ ผมเองก็ไม่อยากคาดหมายว่าคำตอบของคุณจะบอกว่าเป็นความลับนะครับเพราะนักธุรกิจแรงจูงใจคือเงิน+ผลกำไร คนที่อยู่ไลน์สูงต้องบอกอยู่แล้วเพื่อให้คนต่ำกว่าเกิดความทะเยอทะยานในการขายจะได้ๆส่วนแบ่งแบบนั้นบ้าง

หวังว่าคงกลับมาอ่านนะครับ คุณนักธุรกิจ

ข้อมูล สิ่งอ้างอิง และหลักฐานครับที่ทำให้Blog นี้หน้าเชื่อถือ
อนึ่งเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

 

โดย: pandaboy IP: 203.121.164.58 21 สิงหาคม 2551 11:42:47 น.  

 

คุณปูเป้ค่ะพอดีดิฉันใช้ครีมPURE WHITE รุ่นใหม่อยู่ใช้มา4เดือนแล้วค่ะ แต่ก็รู้สึกเฉยๆไม่ได้ขาวขึ้นอ่ะค่ะ อยากรู้ว่าครีมตัวนี้ดีจริงหรือเปล่า เพราะดูสรรพคุณที่เค้าบรรยายเลิศมาก แค่เป็นคนใช้แต่ไม่ได้ขายแต่อย่างใดฝากเพื่อนซื้อค่ะ ราคาแพงอ่ะ ส่นผสมมีดังนี้ค่ะ water,ethylhexyl,methoxycinnamate,zinc oxide,carrylic/capric triglyceride,isononyl isononanoate,c12-15alkyl benzoate,polysorbate 60,glycereth26,polyglyceryl-2 triisostearate,glycerin,polyacrylamide,fragrance,c13-14 isoparaffin,methyl methylacrylate/glycol dimethacrylate crosspolymer,diazolidinyl urea,butylene glycol, disodium edta,triethoxycaprylylsilane,ethoxydiglycol,butyl avocadate,laureth-7,propylene glycol,panthenol,hydrolyzedoats,alcohol denat.,arctostaphylos uva ursi leaf extract,camellia sinensis leaf extract,dipotassium glycyrrhizate,proline,magnesium ascorbyl phosphate,asparagus officinalis stem extract,cimicifuga racemosa root extract,methyparaben,iodopropynyl butylcarbamate,sodium pca,urea,lactobacillus/acerola cherry ferment,trehalose,lecithin,sodium hyaluronate,yeast extract,hydrolyzed potato protein,polyquaternium-51,citrus aurantium amara( bitter orange) peel extract,chamomilla recutita(matricaria)flower extract,ceramide3,ergothioneine,rosmarinus officinalis (rosemary)leaf extract,beta-sitosterol,akebia trifoliata stem extract
ส่วนผสมทั้งหมดอ่ะค่ะ ปริมาณต่อขวด 100ml ราคา1870ค่ะ คิดว่าคุ้มค่าต่อการใช้รึเปล่าช่วยดูส่วนผสมให้ทีค่ะว่าเป็นอย่างไรขอบคุณมากค่ัะ

 

โดย: strong IP: 203.107.203.49 21 สิงหาคม 2551 19:59:38 น.  

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ

ชอบมากมากเลยค่ะ คุณปูเป้รีวิวได้ละเอียดดีค่ะ

 

โดย: Praew_AC IP: 125.24.11.237 23 สิงหาคม 2551 22:35:48 น.  

 

เป็นอีก 1 คนค่ะ ที่เกือบจะถูก"ล้างสมอง"จากธุรกิจขายตรงพวกนี้
ถูกคำพูดขับกล่อมในทำนองเดียวกับคุณไอพีที่(เหมือนว่าจะ)เป็นนักธุรกิจ
แต่ยังมีสติพอที่จะหาความคิด ข้อมูลมาก่อนจะเชื่อ
อยากลองให้คุณไอพีดังกล่าวลองดูเหมือนกับเรานะจะได้เปิดกว้างชีวิตตนเอง

ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นไม่เคยหาข้อมูลเองนะ เคยหาแต่เจ้าเซรั่มตัวสุดท้าย เพราะสงสัยว่ามันวิเศษมาจากไหนถึงได้แพงขนาดนั้น

ปล.เรื่องส่วนผสมของTime Defiance Intensive Repair Serum นั่น ที่ศึกษามาข้อมูลเหมือนกับที่คุณปูเป้บอกทุกประการค่ะ (หาข้อมูลได้ตามเวปไซต์ หรือ หนังสือ และคิดว่าห้องสมุดคณะวิทยาศาสตร์เกือบทุกมหาวิทยาลัยในโลกนี้ช่วยคุณได้ค่ะ)

ปล.2 เราไม่ได้จะบอกว่าของบริษัทนี้ไม่ดี เพราะเรายังทานเจ้าโปรตีนเสริมของเค้าอยู่ แต่แค่รู้สึกไม่เห็นด้วยกับการโฆษณาเกินจริง และการขายแบบพยายามยัดเยียดลูกค้า หรือหาเงินกับครอบครัว เพื่อน และคนรู้จักค่ะ

 

โดย: [...Ton~Kaow..] IP: 58.8.85.213 25 สิงหาคม 2551 15:42:42 น.  

 

ขอบคุณที่แนบส่วนผสมมาให้นะขอรับ คุณ strong

จากส่วนผสมปูเป้บอกได้เพียงว่ามันเป็นครีมกันแดด ที่กันได้ครบทั้ง UVA และ UVB เพราะมี Zinc Oxide ธรรมดาตัวหนึ่งที่มีน้ำหอมและสารกันเสียมากกว่าสารบำรุง


diazolidinyl urea <--- สารกันเสีย

จะคุ้มค่ารึเปล่า? ก็ต้องตัดสินใจเองว่าครีมกันแดดราคา 1,870 บาท ต่อ 100 ml. แพงไปสำหรับคุณรึเปล่า

 

โดย: PuPe_so_Sweet 26 สิงหาคม 2551 15:31:55 น.  

 

ดีแต่วิจารณ์นู่นนี่ ถามว่าเคยใช้เองรึยัง อย่างนี้ต้องล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าไปละกัน ไม่ต้องใช้อะไรบำรุงหรอก ถ้าอยากจะใช้ก็ต้องไปผลิตเองท่าจะดี

 

โดย: Danielle IP: 58.9.68.109 29 สิงหาคม 2551 16:52:01 น.  

 

คุณรีวิวยี่ห้อนี้ซะยับเยินเลยนะครับ
้้
ความจริงยี่ห้อนี้ ช่วยผมให้หายจากสิวที่เรื้อรังมา สามปี

ใช้สองชุดรู้สึกเลย สิวหายหมด

ตอนนี้หน้าดีขึ้นจากเดิมมากๆๆๆๆๆ

แม่ก็ใช้ มีแต่คนทัหว่าหน้าเด็ก ไม่เห็นมีใครแพ้เลย


แต่มันก้แล้วแต่ละคนนะครับ

 

โดย: doy IP: 118.174.106.200 29 สิงหาคม 2551 23:42:25 น.  

 

ส่วนผสมมันมาแบบไหน ก็รีวิวออกมาได้ตามนั้นแหล่ะขอรับ

ปูเป้ไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีนะขอรับ แต่ถ้าอ่านดี ๆ กระผมบอกว่ามันโฆษณาเกินจริงไปมาก เพราะส่วนผสมหลักแค่ช่วยเคลือบผิวให้ความชุ่มชื้น และส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวได้จริงนั้นใส่มาเท่าหางอึ่ง จึงบอกว่ามันไม่สมกับคำโฆษณาและราคาเท่านั้น

และเป็นธรรมดาที่เครื่องสำอางทุกแบรนด์จะมีทั้งของที่ดีและไม่ดีปะปนกันไป ยี่ห้อนี้ก็เช่นกัน...

PS. ถ้าคุณอ่านรีวิวยี่ห้ออื่นก็เหมือนกันแหล่ะขอรับ มีทั้งตัวที่ดีและไม่ดี ถ้าคุณคาดหวังให้กระผมรีวิวยี่ห้อที่คุณชื่นชอบว่าดีสุดยอด ทั้ง ๆที่ส่วนผสมไม่ได้เป็นจริงอย่างนั้น... ไม่มีทางขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 30 สิงหาคม 2551 0:37:02 น.  

 

โห่ แบรนด์ นี้ ดู ดุเดือด จัง มีรีวิว แบรนด์ บ้านๆ บ้าง มั๊ย คับ ซัด นี๊ดๆๆ ก็ ยังดี เผื่อ คนที่อยู่ ห่างไกล ความศิวิไล ซัก นิด

 

โดย: ชอบดู IP: 202.149.25.234 31 สิงหาคม 2551 12:41:28 น.  

 

เคยใช้ยี่ห้อนี้มาก่อนค่ะ และสมัครเป็นนักธุรกิจด้วยน้องชายเป็นคนชวน แต่ตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไรมาก ซื้อใช้ซะมากกว่า ลองใช้มาเยอะ

ความรู้สึกจากที่ใช้ก็คือ ยี่ห้อนี้ดีเป็นบางตัวค่ะ
และพอเข้าเว็บมาดูคุณปูเป้รีวิว ก็เห็นว่าสว่นใหญ่อันที่ใช้ดีจะได้ไฟเขียว
อย่าง eye&lip ใช้ดีมากๆ
eye cream ดีน้อยๆ
skin refinishing lotion ตัวนี้ก็ดีมากๆ เป็นตัวที่ประทบใจสุดแล้วมั่งในบรรดาสกินแคร์ของอาทิสทรี(ยังไม่มีรีวิว)
ิ belmish control รักษารอยสิว(อันนี้ได้ไฟแดง) แต่ส่วนตัวใช้แล้วดีนะคะ ทาได้อาทิตย์นึงรอยสิวจางลงจนแทบไม่เห็น

และเคยใช้ชุดพื้นฐานสำหรับผิวมัน(ไฟแดง) ซึ่งก็ทำให้สิวขึ้นจริงๆ เค้าว่าขับของเสียก็ทนใช้ เพราะมันก็ไม่ถึงกับแพ้มากมาย
แต่สิวอุดตันขึ้นอยู่เรื่อยๆ
ใช้มาจนหมดชุดเกือบปี ไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่สิว(เลยคิดไปว่าตัวเองอาจแพ้แอลกอฮอล์ในโทนเนอร์ ตอนหลังมาใช้คลีนิค โทนเนอร์มีแอลกอฮอล์เหมือนกัน แต่ใช้แล้วหน้าใสปิ้ง งงเลย แสดงว่าไม่ได้แพ้แอลกอฮอล์ สงสัยจังว่าแพ้อะไรกันแน่ใ่นนั้น)

หลังจากนั้นก็หันมาใช้เพียวไวท์(รุ่นเก่า เห็นเพื่อนใช้แล้วดีนะ)แต่ก็ไม่เวิร์คอีกตามเคย
ก็เลยบอกลาชุดพื้นฐานของอาทิสทรี ไม่ว่าชุดไหนๆก็ตาม (พึ่งจะเห็นว่าชุดผิวแห้งได้ไฟเขียว แต่ตัวเองหน้ามันก็คงไม่เวิร์คอยู่ดี)

และพอหยุดใช้ปุ๊บสิวก็หายปั้บ (ทำไมไม่หยุดให้เร็วกว่านี้นะ)
แต่ก็ยังลองตัวอื่นอยู่เรื่อยๆ ด้วยความอยากรู้อยากลอง


++อันไหนดีก็ใช้ อันไหนไม่ดีก็คืน ยี่ห้อนี้ดีตรงคืนได้++


ชุดเพียวไวท์ยังใช้ไม่ถึงครึ่ง ก็จะเอาไปคืน ได้อย่างอื่นมาแทน
ซึ่งส่วนใหญ่จะแลกเป็นพวกเมคอัพ เพราะรู้สึกจะเวิร์คกว่าสกินแคร์

ตอนนี้กำลังสนใจตัว wrinkle relax เข้ามาดูว่าจะติดไฟแดงรึป่าวจะได้เลิกคิด
แต่พอเข้ามาดูเห็นคุณปูเป้รีวิวให้ไฟเขียว ก็พอจะเอามาไตร่ตรองดูได้

พล่ามมาเยอะ ไม่ค่อยได้สาระอะไร
ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณปูเป้ด้วยละกัน ที่ทำให้เราได้รู้ข้อมุล และได้ความเห็นในหลายๆมุมมอง ซึ่งก็จะ็ช่วยให้ได้มีข้อมูลที่หลากหลายไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อ

แต่ช่วงแรกๆเข้ามาอ่านแล้วก็มีบ้างที่รู้สึกว่าแรงไป
ีอ่านแล้วทำให้รู้สึกว่าไม่อยากใช้อะไรทั้งนั้นแล้ว แต่อนนี้เริ่มชิน เริ่มเข้าใจ
เข้ามาแล้วได้ความรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบได้มากทีเดียว เหมือนก่อนจะซื้ออะไรก็ดูส่วนประกอบนะ อ่านไปพอรู้ว่ามีอะไรมั่งแต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร พอตอนนี้ก็ อ๋อ ไอนั้นมันคือไอนี้นี้เอง สงสัยคงต้องแวะเข้ามาอ่านบล็อกนี้บ่อยๆซะแล้ว

 

โดย: kiyomi IP: 119.42.85.18 1 กันยายน 2551 3:43:07 น.  

 

skin refinishing lotion มีรีวิวแล้วขอรับ แต่ไปอยู่ใน [ Miscellaneous Review ]

 

โดย: PuPe_so_Sweet 1 กันยายน 2551 13:00:00 น.  

 

Artistry ต้องใช้โดยมีคนที่มีความรู้จริงเรื่องผิวเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่เหมือนสินค้าแบรนด์เนมอื่นที่คิดจะซื้อก็เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางค์ซื้อใช้ก็จบ จากที่ใช้อยู่มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลดีมาก ๆ เริ่มตั้งแต่ซักประวัติการใช้เครื่องสำอางค์ก่อนหน้านี้ ปัญหาผิว สภาพผิว รวมถึงความคาดหวังหลังการใช้ เชื่อแน่ว่าถ้ามีมืออาชีพคอยดูแลเรื่องการใช้ปัญหาเรื่องอาการแพ้ สิวเห่อ คงไม่มี ที่เห็นใช้แล้วไม่ประทับใจเนื่องจากไม่มีมืออาชีพคอยดูแลแน่ ๆ
คิดอยากใช้ซื้อใช้เอง ผิวอะไรไม่สนใจอยากใช้ตัวนี้ใช้ไม่ดีก็โวยวาย สินค้าArtistry ใช้ไม่ประทับใจก็คืนได้นี่คะไม่ชอบคนขายยังคืนได้เลย เราเคยคืนมาแล้ว คุ้มนะถ้าเทียบกับการจ่ายค่าสินค้าเทียบกับการดูแลแบบVIP ถึงบ้านไม่ต้องเปลืองน้ำมันรถ เสียใจด้วยกับคนที่ใช้Artistry แต่ไม่มีมืออาชีพคอยดูแล ช่วยไม่ได้ของอย่างนี้บุญทำกรรมแต่งมาต่างกัน

 

โดย: ชอบArtistry IP: 61.19.65.195 12 กันยายน 2551 0:36:43 น.  

 

ขอบคุณคุณปูเป้มากๆ สำหรับรีวิวดีๆ ที่ทำให้หูตาสว่างครับ

ผมเองแม้ว่าจะเป็นหมอ แต่ก็ยังไมได้ศึกษาลึกซึ้งถึงขนาดนี้เลย ที่ใช้เครื่องสำอางก็อย่างที่คุณปูเป้ว่า "ผิวป่วย" ก็เลยอยากใช้ดูบ้าง จากที่ไม่เคยยุ่งอะไรกับมันเลย

แล้วตอนนี้ ผมก็เป็นนักธุริกิจแอมเวย์อยู่ด้วย แต่จะบอกว่า ก็เป็นเพราะ "ระบบเกรงใจ" นั่นแหละ เนื่องจากเพื่อนสนิทที่คบหากันมานาน ทำแอมเวย์อยู่ ความที่อยากจะลองใช้เครื่องสำอางดู และก็อยากช่วยเพื่อนด้วย ก็เลยตกลงใจซื้อชุด Pure white แบบยกชุด หมื่นกว่าบาท แถมยังสมัครนักธุรกิจแอมเวย์ไปอีก

แต่คาดว่าคงเป็นแค่ปีเดียวพอ 555 เพราะผมขายอะไรไม่เป็น ...

ใช้มาได้ 3 เดือนแล้ว ถามว่า Pure white โอเคมั้ย ก็พอจะทำให้ดูดีขึ้น ..นิดหน่อย.. อิอิ อย่างที่คุณว่ามาแหละ มัน Overprice เทียบกับผลที่ได้อ่ะนะ ผมเอาเงินไปทำ Derma roller ยังทำให้หน้าเนียนขึ้นมากกว่าเยอะเลย

อีกอย่าง อ่านกระทู้นี้แล้วทำให้รู้ว่า นักธุรกิจแอมเวย์ ที่โง่แล้วอวดฉลาดมีอยู่มากครับ อย่างคำว่า paraboce effect เนี่ย ผมขำแทบจะตกเก้าอี้แน่ะ ตั้งแต่เป็นหมอมายังไม่เคยได้ยินเลย เหอๆ

 

โดย: กำลังใช้Artistryอยู่ IP: 58.8.9.228 14 กันยายน 2551 23:43:43 น.  

 

ปล. ผมยังเก็บกล่อง Pure white ทุกตัวอยู่นะครับ เดี๋ยวไปหามาให้คุณปูเป้ช่วยดูให้ละกัน อิอิ

 

โดย: กำลังใช้Artistryอยู่ IP: 58.8.9.228 14 กันยายน 2551 23:45:22 น.  

 

โอ... ถ้ามีส่วนผสมให้จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลยขอรับ จะถ่ายรูปข้างกล่องมาก็ได้นะขอรับ ส่วนเรื่องเอาไปนั่งพิมพ์นี่เดี๋ยวกระผมจัดการเองก็ได้

 

โดย: PuPe_so_Sweet 15 กันยายน 2551 22:00:59 น.  

 

อย่าเอาแค่ ส่วนผสมข้างกล่องมาใช้ในการตัดสินราคาเลยครับ มันอธิบายราคาไม่หมดหรอก ของมันจะแพง ไม่แพง มันอยู่ที่ขั้นตอนการผลิต ขั้นตอนการวิจัย ว่าสารนี้ขนาดเท่าใหร่ ใช้รวมกับสารนี้เท่าใหร่ มันจะให้ผลในการทำงานกับสารอีกตัวยังไง ไม่ได้อยู่ที่ขนาดที่มากน้อยหรือราคาของ ส่วนประกอบเป็นหลัก อย่างบางตัว มีราคาถูกมาก มีขั้นตอนการผลิตถึง 83ขั้นตอน คุณรู้มั้ยเขาทำขั้นตอนอะไรบ้าง หามารีวิวดูนะครับ

 

โดย: .......... IP: 118.173.224.7 22 กันยายน 2551 18:33:32 น.  

 

อย่าเอาแค่ ส่วนผสมข้างกล่องมาใช้ในการตัดสินราคาเลยครับ มันอธิบายราคาไม่หมดหรอก ของมันจะแพง ไม่แพง มันอยู่ที่ขั้นตอนการผลิต ขั้นตอนการวิจัย ว่าสารนี้ขนาดเท่าใหร่ ใช้รวมกับสารนี้เท่าใหร่ มันจะให้ผลในการทำงานกับสารอีกตัวยังไง ไม่ได้อยู่ที่ขนาดที่มากน้อยหรือราคาของ ส่วนประกอบเป็นหลัก อย่างสาร**บางตัว มีราคาถูกมาก มีขั้นตอนการผลิตถึง 83ขั้นตอน ราคผลผลิตที่ออกมาเลยราคาสูงบ้าง คุณรู้มั้ยเขาทำขั้นตอนอะไรบ้าง หามารีวิวดูนะครับ

 

โดย: ............แก้ไข IP: 118.173.224.7 22 กันยายน 2551 18:38:49 น.  

 

ขอบคุณคุณปูเป้ค่ะ สำหรับความรู้ที่นำมาแบ่งปัน

ของแบบนี้อยู่ที่ตัวผู้บริโภคค่ะ หาความรู้ ศึกษาข้อมูล และใช้สมอง+ประสบการณ์ของตัวเอง วิเคราะห์ พิจารณา ไตร่ตรอง ตัดสินใจ

คุณปูเป้ไม่ได้ไปบังคับใครให้ต้องมาเชื่อตามเธอ เป็นเพียงความเห็นจากผู้ที่สนใจศึกษาในสิ่งที่ตัวเองรักตัวเองชอบ

อะไรเป็นไงก็เอามาบอกเล่าตามที่รูเห็นมาแบเพื่อนฝูงที่จับกลุ่มเม้าท์ๆ ตามประสาคอเดียวกันคุยกันถูกคอ

ป.ล. ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ไว้จะมานั่งรอฟังจับกลุ่มเม้าท์กันใหม่ อิอิ

 

โดย: PP IP: 58.8.201.250 23 กันยายน 2551 16:54:51 น.  

 

ขอบคุณนะคะที่ทำให้เห็น รู้ อะไรดีๆ สำหรับคุณนักธุรกิจแอมเวย์ ถ้าของคุณดีจริง รีวิวนี้คงไม่ทำให้บริษัทคุณพังพินาทหรอกค่ะ (ถ้าดีสมกับราคา)

และพวกขับสิวนี้ก็ แผลเป็นรักษาให้ฟรีด้วยรึเปล่าคะ

แหมน่าสนจริงๆ ซื้อใช้แถมสิว และแผลเป็น

 

โดย: ผู้หญิงก็มีสมอง IP: 125.24.16.107 23 กันยายน 2551 21:58:28 น.  

 

อย่าเอาแค่ ส่วนผสมข้างกล่องมาใช้ในการตัดสินราคาเลยครับ มันอธิบายราคาไม่หมดหรอก ของมันจะแพง ไม่แพง มันไม่ได้ดูที่ข้างกล่อง มันอยู่ที่ขั้นตอนการผลิต ขั้นตอนการวิจัย ว่าสารนี้ขนาดเท่าใหร่ ใช้รวมกับสารนี้เท่าใหร่ มันจะให้ผลในการทำงานกับสารอีกตัวยังไง ไม่ได้อยู่ที่ขนาดที่มากน้อยที่ใสลงไปหรือ ราคาของ ส่วนประกอบเป็นหลัก อย่างสาร**บางตัว มีราค าถูกมาก มีขั้นตอนการผลิตถึง 83ขั้นตอน ราคผลผลิตที่ออกมาเลยราคาสูงบ้าง คุณรู้มั้ยเขาทำขั้นตอนอะไรบ้าง หามารีวิวดูนะครับ---------------------------------------------------------------------------สั้นๆ โดนใจจริง ๆ อ่านข้อความนี้แล้วย้อนไปอ่านรีวิวข้างบน ก็พอเข้าใจละ

 

โดย: คนใช้แล้วดีก็มีเยอะไป IP: 124.157.157.111 24 กันยายน 2551 23:35:08 น.  

 

ไม่ต้องเพ้อไปถึงขนาดขั้นตอนการผลิต การวิจัย หรือแม้แต่ขนาดโมเลกุลของครีมหรอกขอรับ เอาแค่เรื่องง่าย ๆ ให้เข้าใจก่อนดีกว่า

กระผมถามคุณก่อนละกันว่า

คุณรู้รึเปล่า ว่ากฏหมายกำหนดให้ว่า "Ingredients List ต้องเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยเสมอ"

คุณรู้หรือเปล่าว่าสารกันเสียในเครื่องสำอางนั้นปกติแล้วจะใส่มาเป็นปริมาณน้อยมาก

คุณรู้รึเปล่าว่าสารแอนติออกซิแดนท์หรือสารบำรุงที่มีประโยชน์แต่ละตัวจะมีประโยชน์ได้ก็ต่อเมื่อมันใส่มาในปริมาณที่เหมาะสม (ซึ่งส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้ 1 - 3 % ซึ่งมากกว่าสารกันเสียอยู่แล้ว)


ถ้าคุณไม่รู้ก็ช่วยรับรู้และไปอ่าน Ingredients List ของแบรด์ที่คุณเทิดทูนดี ๆ ละกันขอรับ ว่ามันออกมาเป็นยังไง แต่ถ้าคุณรู้อยู่แล้วกระผมก็จนปัญญาที่จะอธิบายอะไรเพิ่มเติม (เพราะถ้ารู้อยู่แล้วแต่ยังตีความข้อมูลจาก Ingredienst List ไม่ออกก็คงเกินเยียวยา)

 

โดย: คนใช้แล้วหน้าแหก แถมเจอคนขายไม่รับผิดชอบก็มีเยอะไป (PuPe_so_Sweet ) 25 กันยายน 2551 0:40:11 น.  

 

อ๊ะ ๆ ใบ้กิน ตอบไม่ได้ อย่าข้ามสิครับ หาข้อมูลขั้นตอนการผลิตมารีวิวประกอบด้วยสิครับ

 

โดย: ......... IP: 118.173.224.146 25 กันยายน 2551 12:52:31 น.  

 

ไร้สาระน่า รีวิว คุณภาพของ จากสารข้างกล่องเนี่ย 55

 

โดย: ....... IP: 118.172.56.36 25 กันยายน 2551 12:56:45 น.  

 

นี่ก็ความเห็นที่ไร้สาระ และไม่เป็นประโยชน์ยิ่งกว่ารีวิวนี้



ใครกันแน่ที่ใบ้กินแล้วแถได้เป็นทางขนาดนี้ .......

ถ้ามันไม่เป็นประโยชน์กับคุณแล้วจะมาอ่านทำไม ร้องแรกแหกกระเชอไปผลิตภัณฑืที่ไม่ดีมันก็ไม่ดีดีขึ้นมาหรอก ทำให้คนอื่นเขาเสื่อมศรัทธาเสียเปล่า ๆ

ยังไงซะ คนใช้แล้วหน้าแหกมีเยอะถมไป มีข้ออ้างอะไรนอกจาก ขับสิว ผิวไม่ถูกกับผลิตภัณฑ์ หรือมีพิษสะสมบ้างมั้ย

ไร้สาระน่า พวกที่ไม่ได้พึ่งพาหลักวิชาการเนี่ย คุณไม่ได้นำข้อมูลข่าวสารไปวิเคราะห์ พินิจพิจารณาดูบ้างเลยเหรอ หรือว่าพอเห็นเป็นแอมเวย์ก็ดีหมดเลิศหมด?

เอาเถอะ อยากใช้อะไรก็ใช้ไป พยายามมาแถไถคุณปูเป้เขาอยู่ได้ ไร้สาระ

ข้อมูลขั้นตอนการผลิตมันจะมีอะไร ก็แค่ใส่ลงไปแล้วปั่น ๆ เนื้อจะเนียนหรือไม่ ละเอียดหรือไม่ก็อยู่ที่การปั่น

แล้วตัวคุณเองรู้หรือเปล่าล่ะ ขั้นตอนการผลิตเนี่ย แล้วคุณรู้อะไรบ้างหรือเปล่า?

83 ขั้นตอน บ้าบอ ไร้สาระ เอาไรมาพูดก็ไม่รู้หลักฐานอ้างอิงก็ไม่มี

ไปหามาสิ อย่าใบ้กินนะ ขอ link ดูด้วย อยากอ่านเหมือนกัน บล็อคคุณปูเป้ อ่านจนทะลุแล้ว ขอดูบล็อคหรือข้อมูลของคุณ จุด จุด จุด จุด คนเก่งบ้าง

เอาเนื้อ ๆ ล่ะอย่ามัวแต่ไร้สาระ แถไปมาน่ารำคาญ

สาวกบ้า ๆ ทำนักขายคนอื่นเขาเสียหายหมด

อ๋อ อีกอย่าง กินยาก็คงไม่เคยอ่านฉลากเลยสินะคนแบบนี้ สกินแคร์เอาแบบเหม็นแอลกอฮอล์เยอะ ๆ ใส่สารกันเสียเยอะ ๆ ไว้ล่ะ ตายไปศพจะได้ไม่เน่า อยู่ได้นานทันยุคอุกาบาตพุ่งชนโลก

 

โดย: bluestormy IP: 58.8.204.170 25 กันยายน 2551 22:28:03 น.  

 

ก่อนอื่นต้องขอบคุณนะคะที่ทำรีวิวดี ๆ แบบนี้มาให้พวกเราได้อ่านกัน เราเองก็เป็นสมาชิกแอมเวย์อยู่ แต่พอดีเราไม่ได้จะไปขายใครอ่ะนะเลยไม่รู้สึกเดือดร้อนกับการที่มีรีวิวที่บอกข้อมูลตรง ๆ กับผู้บริโภคแบบนี้ ดีเสียอีกที่เราจะได้ซื้อของดีมีค่าสมกับเงินที่เราจ่ายไป ที่เราสมัครแอมเวย์เพราะว่าจะได้ส่วนลดเวลาซื้อของเนื่องจากเราชอบที่เช็ดเครื่องสำอางกับชุดเบสิคสำหรับผิวแห้งมากเลย

มาอ่านคอมเมนท์ยาวเหยียดในหน้านี้แล้วรู้สึกสมเพชมากกับนักธุรกิจแอมเวย์ที่ดีแต่หาเรื่องทั้งหลาย และเห็นใจคุณปูเป้มากที่เธออุตส่าห์ทำรีวิวหาข้อมูลและบทความมาให้พวกเราได้อ่านฟรี ใครมีคำถามเธอก็ใส่ใจตอบอย่างละเอียดให้ทุกคน แต่กลับมาเจอพวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำมาหาเรื่องแบบนี้

แล้วสาวกหรือนักธุรกิจแอมเวย์แต่ละคนที่ออกมาแหกปากเห่าหอนก็โชว์ความฉลาดมากเลยค่ะ ตั้งแต่ paraboce Effect แล้ว นั่งขำจนไส้บิดเพราะเราเรียนหมอมา 6 ปียังไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน แต่นี่เขาพูดแบบมั่นใจมาก ก็โชว์ความฉลาดกันเข้าไปเนอะ

รายล่าสุดนี่ก็ฉลาดมากเหลือเกิน กับประโยคที่ว่า "ไร้สาระน่า รีวิว คุณภาพของ จากสารข้างกล่องเนี่ย 55" ถ้าคุณเป็นกบในกะลาที่ไม่รู้เรื่องความเป็นไปภายนอกมาก่อน ก็อย่างมั่นใจไร้สติแบบนี้เลยนะ เพราะการอ่านส่วนผสมเครื่องสำอางและการรีวิวจากส่วนผสมเป็นเรื่องที่ธรรมดามากในต่างประเทศและได้รับการยอมรับกันอย่างกว้างขวาง ส่วนผสมที่ระบุข้างกล่องเนี่ยเขามีเอาไว้เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้บริโภคได้อ่านเพื่อที่าจะรู้ว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นมันผสมอะไรลงไปบ้างมากน้อยแค่ไหน คนฉลาดเลือกฉลาดใช้เขาก็ต้องอ่านฉลากก่อนซื้อกันทั้งนั้นแหล่ะ ถ้าคุณอยากทำตัวเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องโดยใช้ของแบบไม่อ่านฉลากและส่วนผสมก็ทำต่อไปสิ แต่อย่ามาบอกว่าคนที่เขาอ่านส่วนผสมก่อนซื้อว่าไร้สาระ คนที่เขามีความรู้มาอ่านแล้วจะสังเวชใจเปล่า ๆ

คุณปูเป้ก็อย่าไปสนใจคนพวกนี้เลยค่ะ ปล่อยให้เขาก้มหัวงมโข่งซุกกะลากันต่อไป ไม่ต้องไปอธิบายให้เสียเวลาและเปล่าประโยชน์ เพราะก่อนที่พระพุทธเจ้าจะไปโปรดสัตว์ ท่านเองยังต้องเลือก่อนเลยค่ะว่าโปรดไปแล้วจะได้ประโยชน์รึเปล่า

 

โดย: Jaa IP: 58.9.2.182 26 กันยายน 2551 3:36:11 น.  

 

แกะดำบางตัวของแอมเวย์ ทำให้ทั้งภาพลักษณ์และทัศนคติของนักธุรกิจแอมเวย์แย่ลงถึงขีดสุด คุณคงไม่รู้สินะว่าบล็อกนี้มีคนอ่านเท่าไร.....

หยุดเถอะ....

หยุดอวดฉลาด แถไปเรื่อยๆ สักที

 

โดย: โง่แล้วอวดฉลาด ชาตินี้ก็ไม่เจริญ IP: 125.24.156.56 26 กันยายน 2551 9:43:30 น.  

 

สวัสดีครับคุณเข้าของบล็อค ผมก็เป็นคนนึงนะที่ตามอ่านบทความของคุณมานานตั้งแต่เริ่มในกระทู้พันทิพแล้ว รู้สึกชื่นชมที่คุณถึงแม้จะไม่เคยเรียนทางด้านนี้โดยตรงแต่ก็ศึกษาด้วยตัวเองจนรู้อะไรเยอะขนาดนี้ แถมมีน้ำใจมาเผื่อแผ่ความรู้ให้คนอื่นด้วย ปกติผมอ่านอย่างเดียวไม่เคยมาคอมเมนท์ตอบเลยก็ต้องขอโทษด้วยเพราะผมพิมพ์ไม่ค่อยเก่ง แต่เจอความเห็นเกรียนๆที่มาก่อกวนแบบนี้ก็ขอซะหน่อยเหอะ

ไม่ทราบว่าพวกคุณนักธุรกิจแอมเวย์ข้างบนนี้ไปเอามาจากไหนหรอไอ้ 83 ขั้นตอนที่ว่าเนี่ย เพราะที่ผมทำอยู่ประจำมันยังไม่ยุ่งยากมากขนาดนี้

ยกตัวอย่างเลยนะ การทำครีมกันแดดแบบผสมสารบำรุงส่วนใหญ่จะแบ่งส่วนผสมไว้ 3 ส่วน หรือเรียกว่า phase A - B - C

Phase A เป็นพวกสารที่ละลายในน้ำ + น้ำ

Phase B เป็นพวกสารที่ละลายในน้ำมันอย่างพวกสารกันแดดกับตัวเคลือบผิวกับอีมัลซิไฟเออร์

Phase C ส่วนใหญ่เป็นพวกสารบำรุงที่เป็นผง ๆ สารกันเสีย หรือสารทำให้ข้นขึ้นอะไรพวกนี้แหล่ะ

วิธีทำก็ไม่ยากหรอกนะ เริ่มต้นจากการเอาส่วนผสม A ไปทำให้ร้อนถึง 71 องศา C ส่วนผม B ก็ทำแบบเดียวกันในอีกบีกเกอร์นึง คนให้ละลายทั้งคู่

เทส่วนผสม B ลงไปในส่วนผสม A ช้า ๆ แล้วก็คนไปเรื่อยๆจนฟอร์มตัวเป็นเนื้อครีม เอาสารทำให้ข้นมาใส่ แล้วก็คนไปเรื่อย ๆ จนอุณหภูมิมันลดลงเหลือประมาณ 40 องศา C ขั้นตอนนี้ถ้ามีเครื่องปั่นอ่ะจะสะดวกมากแล้วเครื่องปั่นยิ่งดีเนื้อที่ได้ก็ยิ่งเนียนอย่างที่คุณ bluestormy พูดเอาไว้แหล่ะ เพราะตอนเรียนไม่มีเครื่องปั่นยืนคนกันเมื่อยเลย หลังจากนั้นก็ใส่ส่วนผสม C ลงไปแล้วก็คนให้เข้ากันก็เป็นอันเสร็จ

ที่ยากกว่านี่้ก็จะมี 4 Phaseหรือมากกว่านิดหน่อยนะ แต่ยากที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมามันก็ประมาณสิบกว่าขั้นตอนเอง อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้ 83 ขั้นตอนมันมีอะไรบ้าง ถ้ารู้จริงรบกวนช่วยบอกเอาบุญหน่อยนะ

อย่าใบ้กินล่ะ มีปัญญาพูดก็ต้องมีปัญญาตอบด้วยนะ อย่าดีแต่พูดถ้าเกิดไม่รู้จริง เห็นแล้วมันอนาถ

 

โดย: กวนครีมขายเป็นอาชีพ IP: 58.9.3.131 26 กันยายน 2551 11:56:04 น.  

 

จะเป็น นมตราหมีราคา 20 บ. หรือ นมจีนแดง กล่องละ5 บ. ข้างกล่องก็เขียน ผลิตจาก
นมโค-----97%
น้ำตาล--------3%
เหมือนกันทุกยี่ห้อ
แล้วคุณรู้มั้ยตราหมีปรุงไง จีนแดงปรุงไง---------ไม่รู้หรอก

จิง ๆ ผมอยากให้คนเก่งของพวก คุณหามารีวิวนะ
แต่ถ้า ไม่รู้กันเลยจิง ๆ เด๋วผมจะมาเขียตอบให้ละกัน 83 ขั้นตอนเนี่ย รอชมนะ

 

โดย: .............. IP: 118.173.224.143 26 กันยายน 2551 12:58:00 น.  

 

รอชมอยู่ครับ เพราะผมไม่รู้เลยว่าว่า 83 ขั้นตอนมันมีอะไรบ้าง ไม่ต้องไปกระแนะกระแหนคุณเจ้าของบล้อกหรอกครับ ถ้าคุณรู้จริงรู้แจ้งก็แจงมาให้ครบเลย คนอื่นที่เขาไม่รู้จะได้รู้เหมือนที่คุณรู้กันบ้าง

 

โดย: กวนครีมขายเป็นอาชีพ IP: 58.9.3.131 26 กันยายน 2551 13:13:08 น.  

 



ขั้นตอนแรกของเป็นเปิดฝาขวดวัตถุดิบล่ะมั้ง เปิด ๆ ปิด ๆ กดปุ่มปั่นเปิด กดปุ่มปั่นปิด รวมเป็น 83 ขั้นตอนพอดี

แล้วอย่าโม้เกินจริงล่ะ เดี๋ยวมันจะขำ

แล้วก็นะ ถ้าแอมเวย์สูตรห่วย ๆ มันจะไปดีกับครีมส่วนผสมดี ๆ ได้ไง มันเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตตรงไหน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนมหมี

ส่วนประกอบอ่านซะ แล้วจะได้รู้ว่าใส่อะไรได้ กินได้มั้ย เหมือนกันสกินแคร์อันไหนระคายเคืองผิวหน้า ตัวเองแพ้อะไรก็จะได้เลี่ยงซะ หน้าจะได้ไม่แหก แค่นี้ไม่เข้าใจเหรอ

แล้วจะบอกให้นะ ที่คุณโคตรจุด เถียง ๆ อยู่มันไม่ได้เกี่ยวกับแอมเวย์เลย ของดี ๆ เขาก็มี ส่วนผสมไม่ดีก็มี จะบอกว่ามันดีทุกตัวได้ไง แบรนด์อื่นถูกสับยังเละกว่านี้อีก หรือโดนล้างสมองไปแล้ว หายใจเข้าแอมเวย์ดีเลิศ เปิดเพลงปลุกระดมฟังทุกเช้าหรือไง

โคตรแสดงความฉลาด อย่าทำให้แอมเวย์ดูแย่ไปกว่านี้เลย พูดไปมันก็ไม่ได้ช่วยให้ได้ยอดขายดีไปกว่านี้หรอก

แล้วจะรอดู 83 ขั้นตอน โคตรมหัศจรรย์ ไข่เจียวบ้านเธอทอดที 25 ขั้นตอนด้วยหรือเปล่าเนี่ย อย่างกับกระบวนท่าหนังกำลังภายใน


รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม นี่ไม่หามแล้วยังเขวี้ยงทิ้งอีก (แถมยังเถียงโดยใช้ตรรกะไม่เข้าพวก) ไม่มีทางเจริญคนแบบนี้ ขนาดคนกวนครีมมาตอบเองนะ ดูสิว่าแกจะเอาอะไรไปเถียงกับเขา กวนเป็นเรอะ เหมือนคนทำอาหารไม่เป็นอ่ะ แต่อยากจะเถียงทั้ง ๆ ที่ทำไม่เป็น


ใครกันแน่ที่ไร้สาระ คนอื่นอ่านเก็รู้ ๆ อยู่แล้ว

 

โดย: bluestormy IP: 58.8.202.211 26 กันยายน 2551 14:41:50 น.  

 



อีกอย่าง คุณปูเป้ เค้าก็ดีกว่าคุณ ทำประโยชน์ให้คนอื่น (ที่ไม่ใช่แก และคนประเภทเดียวกัน เพราะอ่านไปมันก็ไม่ซึมเข้าสมอง)

ถามจริงเถอะ คุณทำอะไรบ้างนอกจากเถียง ๆ แถ ๆ อยู่แบบนี้เนี่ย ไม่เกิดประโยชน์ยิ่งกว่า แล้วก็ไร้สาระที่สุด

 

โดย: bluestormy IP: 58.8.202.211 26 กันยายน 2551 14:47:39 น.  

 

ท่าทางรีวิวของแบรนด์นี้จะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องนะขอรับ น่าดีใจจริง ๆ เลย

กระผมบอกตามตรงเลยว่า เท่าที่กระผมเคยหาข้อมูล ไถ่ถามคุณหมอและพูดคุยกับคนที่ทำงานในวงการผลิตเครื่องสำอางแล้วก็อ่านในหนังสือ Beginning Cosmetic Chemistry มา กระผมไม่รู้เรื่องกระบวนการผลิต 83 ขั้นตอนนี้จริง ๆ ขอรับ ก็อยากจะรู้มากเลยเหมือนกันว่าที่คุณบอกมาเนี่ยมันเป็นยังไง

นอกจากขั้นตอนการผสมที่คุณ กวนครีมขายเป็นอาชีพ ได้บอกเอาไว้นั้น กระผมก็รู้เพิ่มอีกนิดหน่อยว่า ขั้นตอนการ launch ออกมาแต่ละตัวก็ต้องผ่านขั้นตอนคร่าว ๆดังนี้

1. ฝ่ายการตลาดวางแผนเรื่อง Product ตัวใหม่ กำหนด Concept และต้นทุนของส่วนผสมต่อสินค้า 1 ชิ้น

2. นักเคมีก็จะเอาโจทย์เรื่อง Concept กับต้นทุนที่กำหนด มาผสมเป็นสูตรต่าง ๆ เป็น Proto Type

3. เมื่อ Proto Type ตัวใดตัวหนึ่งได้รับการยอมรับแล้ว ก็จะมีการทดสอบกันต่อในหลาย ๆ ด้าน อย่างเรื่อง Efficacy Test กับ Safety Test

- Efficacy Test ก็ต้องทดสอบเรื่องประสิทธิภาพ ผลที่ได้โดยความน่าเชื่อถือของผลการทดสอบจะไล่มาจาก In Vitro (หลอดทดลอง) นั้นน่าเชื่อถือน้อยที่สุด น่าเชื่อถือขึ้นมาหน่อยก็เป็น Ex-Vivo Animal In- vivo น่าเชื่อถือสุดก็คือ Human In - vivo

- Safety Test ก็มีการทดสอบแยกย่อยไปอีกอย่าง Skin Irritation, Contact Dermatitist, Acne / Comedoners, Slin Sensitization, Eye Tolerance, Skin Photo-Irritation, Skin Photo-Sensitixation, Pigmentary Disorders

ยังไม่นับรวมเรื่องการทดสอบความคงทนของผลิตภัณฑ์ อายุการเก็บรักษา บลา ๆ เครื่องสำอางที่จะขายตลาดใหญ่หลาย ๆ ประเทศต้องทำการทดสอบพวกนี้เพราะกฏหมายเขากำหนดเอาไว้

3. เมื่อส่วนผสมเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็ตกอยู่ที่ส่วนของการตลาด ตั้งแต่การหาบรรจุภัณฑ์ การตั้งชื่อ การทำคำอวดอ้างสรรคุณ ยุทธวิธีการโฆษณา

4. มาถึงเรื่องของการผลิต แบรนด์ใหญ่ ๆ จะมีโณงงานผลิตเป็นของตัวเอง แน่นอนว่ากฏหมายต้องกำหนดให้ผ่านมาตรฐาน GMP ซึ่งสารแต่ละตัวเนี่ย บริษัทเครื่องำอสงไม่ได้ผลิตเองหรอก ก็ไปรับมาจากบริษัทเคมีภัณฑ์รายใหญ่ที่ผลิตสารพวกนี้ขายมาอีกที โรงงานผลิตใหญ่ ๆ ที่ทำขายเยอะ ๆ เขาจะใช้ระบบ Weighing System ที่ช่วยเรื่องการชั่งวัดส่วนผสมได้อย่างเที่ยงตรง และทำให้กระบวนการผลิตทำได้อย่างง่ายดาย เพราะใช้ระบบอัตโนมัติ แบรนด์ที่เล้กหน่อยก็จะไปจ้าง Lab ที่เขารับผสมเครื่องสวำอางอยู่แล้วอีกต่อหนึ่ง ขั้นตอนตรงนี้เป็นความลับของแต่ละบริษัท แต่ Concept การทำเครื่องสำอางก็มีพื้นฐานมากจากขั้นตอนที่คุณ กวนครีมขายเป็นอาชีพ ได้บอกเอาไว้แล้ว

5. ที่เหลือก็เป็นเรื่องของการบรรจุ ขาย กระจายสินค้า บลา ๆ ๆ ๆ ทำการตลาด ลงหน้าร้าน เยอะแยะมากมาย

ที่ผมรู้ก็มีเท่านี้แหล่ะขอรับ เป็น Concept กว้่าง ๆ ของวงการเครื่องสำอาง

กระผมไม่รู้หรอกครับว่าครีมนีเวียเขาผลิตด้วยกี่ขั้นตอน ครีมลังโคมผลิตกี่ชขั้นตอน ครีมแอมเวย์ผลิตกี่ขั้นตอน ของพวกนี้เป็นเรื่องที่ไกลตัวเราเกินไปและถ้าไม่ใช่คนที่ทำงานอยู่จริงๆ ก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าเขาทำกันยังไง

คุณยกตัวอย่างเรื่องนมตราหมีกับ นมจีนแดง ว่าถามว่ารู้รึเปล่าว่าผลิตยังไง ปูเป้ก็บอกว่าไม่รู้ 100% หรอกครับว่าผลิตยังไงไปทำอะไรมาบ้าง แต่ถามว่ารู้กรรมวิธีการผลิตคร่าว ๆ ไหม ก็ขอบอกว่ารู้เพราะว่าเคยเรียนมาก่อน

คุณไปซื้อคุกกี้ช็อคโกแลตชิพบรรจุถุงสำเร็จรูปสองยี่ห้อ บอกส่วนผสมมาว่า ใส่แป้ง น้ำตาล เนย ไข่ สีและกลิ่นสังเคราะห์ ช็อคโกแลต ถามว่าปูเป้ที่เรียนเบเกอรี่มาโดยตรงว่ารู้ไหมว่าเขาผลิตในโรงงานยังไง ใช้เครืองจักรยี่ห้อไหน มีขั้นตอนอะไรบ้าง กระผมก็บอกว่าไม่รู้ทั้งหมดหรอกครับ แต่ปูเป้รู้แน่นอนว่าการทำคุกกี้มันต้องผสมเนยกับน้ำตาลให้เข้ากันก่อน ใส่ไข่ลงไปตีทีหลัง ใส่สีและกลิ่นลงไป ใส่แป้งคลุกให้เข้ากันแล้วก็ตะล่อมช็อคโกแลต ขึ้นรูปทรงแล้วก็อบตามเวลาที่กำหนด

คุณจะไปโฆษณาว่าครีมแอมเวย์ผลิตด้วยกระบวนการซับซ้อน 83 ขั้นตอนในโรงงานมาตรฐานอุตสาหกรรมผลิตยา หรือจะโม้อะไรมากกว่านี้ก็ตามสะดวก แต่การมาดูถูกว่า Ingredients Lis เป็นเรื่องไร้สาระและพึ่งพาไม่ได้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

การอ่าน Ingredients List ก็ทำให้เรารู้ได้ว่าส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ตัวนั้นมัน "ขยะ" หรือ "ดีจริง"

กระบวนการผลิตมันก็คือกระบวนการผลิตอยู่วันยันค่ำ ถ้าคุณเอาขยะมารวมๆ กันแล้วปั่นในโรงงานระดับเทพเจ้าดีเยี่ยมที่สุดในโลก ผลที่ออกมาก็ได้เป็นขยะขอรับ ไม่ใช่ครีมวิเศษ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 26 กันยายน 2551 15:52:22 น.  

 

ถ้าส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ของคุณดีจริง และมันดันบังเอิญไปคล้ายกับแบรนด์ที่ราคาถูกกว่าสัก 10 เท่า แล้วคุณมาบอกว่าของคุณดีกว่า เพราะกระบวนการผลิตดีกว่าต้นทุนเลยแพงกว่า บลา ๆ ๆ ปูเป้ก็จะไม่เถียงหรอกนะขอรับ เพราะกระผมไม่รู้ว่าทั้งสองบริษัทมันผลิตแตกต่างกันยังไง ถ้าส่วนผสมมันเหมือนกันแต่ราคาต่างกันก็ให้ผู้ซื้อเขาเลือกใช้ตามฐานะการเงินไปดีกว่า

อ้อ กระผมรอดูการผลิต 83 ขั้นตอนอยู่นะ อยากรู้มากจริง ๆ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 26 กันยายน 2551 15:52:43 น.  

 


คุณนี่มันบัวเต่าถุย แปลว่าเป็นบัวที่แม้เต่าได้กินยังต้องถุยทิ้ง คุณไม่ได้อ่านข้อความอื่นๆ แล้วกลั่นกลองเข้าสมอง คิดตาม สำนึกบ้างเลยหรือไง จนปัญญากับคนแบบคุณ

สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น....

 

โดย: ยัง ยัง ยัง...จะแถถถถ IP: 125.24.1.167 26 กันยายน 2551 23:30:48 น.  

 

มาปูเสื่อรอดู 83 ขั้นตอนด้วยคนค่ะ หวังว่าคุณ.....คงหามาให้เพื่อน ๆ และคุณปูเป้ได้ดูเป็นความรู้เพิ่มเติมนะคะ (อ๊ะ ๆ ๆ อย่าข้ามนะคะ....ทุกคนรอชมอยู่ค่ะ)

ดิฉันประทับใจมาตั้งแต่เรื่อง paraboce Effect ที่มาโชว์ความฉลาดตั้งแต่ครั้งก่อนแล้วล่ะค่ะ พอดีลองค้นใน google ดูก็เจอแต่คำว่า "พาลาโบล่า" กับ "พาลาโบซึมยอง" ไม่ทราบว่าใช่อันเดียวกันรึเปล่าคะ ???

พอคราวนี้ก็มาเจอเรื่องให้ดู "วิธีการผลิต" แทนดูส่วนผสมข้างกล่องอีก....โอ้แม่เจ้า !!!!

ก็ถ้า Artistry มีวิธีการผลิต 83 ขั้นตอนอย่างที่คุณ.....บอกจริง ถ้าอย่างนั้นพวก La mer, Lancome เขาไม่มีวิธีการผลิต "พันแปดร้อยขั้นตอน" เลยหรือยังไงกันคะ !!!! ถ้ายังไงช่วยหาขั้นตอนการผลิตมาลงเร็วๆ นะคะ จะได้รู้ว่าผลิตภัณฑ์นี้ มีวิธีการผลิตที่หรูเริ่ดอลังการขนาดไหน

ต่อไปนี้ทุกคนคงไม่ต้องดูส่วนผสมข้างกล่องแล้วล่ะค่ะ ต่อไปเวลาซื้อเครื่องสำอาง....ก็ถามคนขายเลยว่า

"ช่วยบอกขั้นตอนการผลิตของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ให้ฟังหน่อย ชั้นไม่สนใจเรื่องส่วนผสมว่าจะใส่อะไรลงไปบ้าง ถ้ามีต่ำกว่า 100 ขั้นตอน.....ชั้นไม่ซื้อย่ะ !!!"


ps. อ่ะ....ยังบ่นไม่จบเลย ขอตัวไปรับประทานอาหารก่อนนะคะ ถ้ายังไงหลังจากอาหารกลางวันแล้ว ดิฉันหวังว่าจะได้ชม 83 ขั้นตอนอย่างละเอียดนะคะคุณ .......

 

โดย: RabbitRose 27 กันยายน 2551 12:42:13 น.  

 

จะเป็น นมตราหมีราคา 20 บ. หรือ นมจีนแดง กล่องละ5 บ. ข้างกล่องก็เขียน ผลิตจาก
นมโค-----97%
น้ำตาล--------3%
เหมือนกันทุกยี่ห้อ
แล้วคุณรู้มั้ยตราหมีปรุงไง จีนแดงปรุงไง---------ไม่รู้หรอก

----------------------------------------------------------------------------
เอาเรื่องนมตราหมี กับ นมจีนแดงมาเทียบ.........ฆ่าตัวตายชัดๆ

นมตราหมี กับนมจีนแดง ถ้าทั้ง2ยี่ห้อ เป็นนมชนิดเดียวกัน(เช่นพาสเจอไรส์เหมือนกัน หรือเป็น UHT เหมือนกัน) มีส่วนผสมเหมือนกันหมด
แปลว่าสารอาหารที่ได้ ต้องเท่ากันครับ ถ้าไม่เท่า แปลว่าการผลิตไม่ได้มาตรฐานครับ
(ซึ่งปกติผลิตภัณฑ์ของจีน ก็ไม่เข้มงวดเรื่องมาตรฐานสักเท่าไหร่)

ส่วนเรื่องรสชาตอย่าเอามาพูดถึงเลยครับ เว้นแต่คุณจะเอายาทาหน้ามาซดกินประทังชีวิต


แล้วก็ที่นมจีนแดงมีข่าวว่าทำเด็กครึ่งประเทศจีนท้องเสีย
เพราะมันเสือกใส่สารเมลามีนลงไปเพื่อเพิ่มความข้นของนมครับ


อีกอย่าง........เล่นเทียบเครื่องสำอางแบรนด์อื่นเป็นนมจีนแดง
ของตัวเองเป็นนมตราหมี ..........โถ เต่าถุยโคตรๆ (ชอบอ่ะ คำนี้ ขอยืมหน่อย)

 

โดย: Pillow IP: 58.9.6.2 27 กันยายน 2551 22:44:31 น.  

 

83 ขั้นตอนการผลิตยังไม่มาอีกรึขอรับ? ปูเป้อยากอ่านจริง ๆ นะเนี่ย อยากรู้ว่ามันเป็นยังไง จะได้เปิดหูเปิดตาให้กว้างขึ้น

หวังว่าคุณนักธุรกิจแอมเวย์ที่มาพูดเรื่องนี้เอาไว้จะไม่ชิ่งหนีไปเหมือนแบบคนก่อน ๆ นะขอรับ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 30 กันยายน 2551 20:19:12 น.  

 

ไหนล่ะ พาราโบซี่เอฟเฟค

ไหนล่ะวิธีการผลิต 83 ขั้นตอน

แหกปากเห่ากันเหลือเกินแต่สุดท้ายก็หายเงียบ ละอายแก่ใจตัวเองกันบ้างมั๊ยเนี่ย

 

โดย: KP IP: 58.9.7.167 10 ตุลาคม 2551 16:29:18 น.  

 

ท่าทางจะไม่มาแล้วมั้งครับ ^ ^

ผมว่านักธุรกิจแอมเวทุกคนก็ไม่ได้จบเคมี ไม่ได้จบอะไรที่เกี่ยวกับผิวหนังทุกคนนี่ครับ

ba เครื่องสำอางค์ตามห้าง ก็ไม่ได้จบด้านนี้ทุกคน

แสดงว่าคำแนะนำของคนพวกนี้ก็เชื่อไม่ได้ แบบที่คุณว่าพี่ปูเป้มั่วนิ่มรีวิว

แล้วเห็นบอกว่าส่วนผสมข้างกล่องไร้สาระ เอามาดูว่าดีไม่ดีไม่ได้ แสดงว่าต่อไปไม่แน่ถ้ามีคนในแอมเวมาบอกคุณว่า ยาฆ่าหญ้ารุ่นใหม่เอามาล้างหน้าดีมากๆ ขั้นตอนการผลิต 108 ขั้นตอน ผมว่าคุณคงขวนขวายหามาใช่แน่ๆเรย

ผมว่าคุณเลิกแถเหอะ ไปหาหมอรักษาสีข้างซะ เดี๋ยวแผลจะอักเสบ

 

โดย: เบื่อพวกคนที่ชอบขายของแบบไม่มีความรู้แต่คิดว่าตัวเองมี IP: 118.172.251.162 13 ตุลาคม 2551 22:05:52 น.  

 

เรื่องนี้มีจริง ๆ มีชื่อว่าการผลิตอนุภาคขนาดเล็ก (Micro-texturing Manufacturing)
ครีม แอล/เอ็กซ์ ไม่เหมือนกับครีมชนิดอื่นที่อาร์ทิสทรีเคยผลิตขึ้น นับตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ไปจนถึงส่วนผสม กรรมวิธีในการบรรจุ อาร์ทิสทรีทำการวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อหาวิธีพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จากความท้าทายในการสร้างเนื้อครีมให้เข้มข้นและหรูหรา วิศวกรของอาร์ทิสทรีได้พัฒนากระบวนการพิเศษขึ้นมาถึง 87 ขั้นตอนในการสร้างครีมที่มีอณูเล็กที่สุดที่ได้เคยผลิตขึ้นมา อณูเล็กๆ เหล่านี้ช่วยเสริมให้ครีม แอล/เอ็กซ์ มอบสัมผัสที่นุ่มเนียน และซึมซาบสู่ผิวอย่างไร้ที่ติ กระบวนการนี้เรียกว่า การผลิตอนุภาคขนาดเล็ก (Micro-texturing Manufacturing) ซึ่งมีขั้นตอนการทำงานดังนี้

กุญแจสำคัญของกระบวนการนี้คือการรักษาระดับอุณหภูมิให้คงที่ตั้งแต่ขั้นตอนการผสมจนถึงการบรรจุ อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดคืออุณหภูมิที่สูงกว่าระดับอุณหภูมิปกติที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์โดยทั่วไป ดังนั้น จึงทำให้เกิดความท้าทายต่อกลุ่มผู้พัฒนา ส่วนผสมหลายชนิดมีความไวต่อความร้อน และจะเสียหายได้หากมีความร้อนสูงเกินไป เจ้าหน้าที่วิศวกรทำงานนานหลายเดือนเพื่อค้นหาระดับความร้อนที่เหมาะสมในการผลิตซึ่งไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนผสม ความท้าทายอีกข้อคือการรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมตั้งแต่เวลาที่ส่วนผสมถูกรวมเข้าไปในครั้งแรก จนถึงขั้นตอนที่เนื้อครีมถูกบรรจุลงในกระปุก วิธีแก้ไขปัญหา คือการผลิตในปริมาณที่น้อยลงซึ่งจะทำให้มั่นใจว่าเนื้อครีมนั้นถูกบรรจุอย่างถูกวิธี ผลิตภัณฑ์ปริมาณน้อยลงนี้จะถูกวัดน้ำหนักด้วยมือและเก็บรักษาอย่างระมัดระวังในอุณหภูมิที่เหมาะสมในทุกขั้นตอนจนถึงการบรรจุ ด้วยการรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมในการบรรจุภัณฑ์ขนาดย่อมลงนี้ทำให้ครีม แอล/เอ็กซ์ เป็นครีมเนื้อเนียนละเอียดดูหรูหรา ให้สัมผัสที่เพลิดเพลิน ซึ่งคุณไม่สามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นของอาร์ทิสทรี

---------ก๊อบมา----------


อธิบายคร่าว ๆได้แค่นี้ รายระเอียดลึกเป็นข้อมูลทางลิขสิทธิ์การผลิต ไม่ได้กวนครีมมั่ว ๆขายเป็นอาชีพส่งเดชว่าจะออกมาเต็มฤทธิ์ส่วนประกอบต่างๆที่ใส่ลงไป มันมีขั้นตอนจริง ๆ ส่วนเรื่องชื่อพาราโบซี่อะไรนั่นถึงจะเรียกผิดแต่ความหมายที่ผมว่าก็ตรงไม่ใช่หรือครับ จำชื่อผิด ผิดก็ผิดไม่ได้เถียง




ส่วนเรื่องนมตราหมีไรนั่นไม่ได้ว่ายี่ห้อใหน คุณคิดลบไปเปรียบเทียบเอง ไม่มีจุดที่นำเสนอแบบนั้น เขียนมาเพื่อแต่บอกเพื่อให้รู้ ขั้นตอนการผลิตทำให้ วัตถุดิบนมวัวดิบที่ราคาเท่ากัน มีผลผลิตที่ออกมาราคาต่างกัน



ที่ต้องตอบไปเรื่องอื่นก่อนก็แค่ช่วงแรกยังไม่รู้จะอธิบายกับพวกคุณเรื่องใหนดี ก็พยายามหาเหตุผลที่มาแสดงว่าผมค้านด้วยเรื่องนี้จะถูกต้องกว่า

 

โดย: เบื่อพวกคนโต้แย้งแบบไม่มีความรู้แต่คิดว่าตัวเองมี IP: 117.47.220.223 16 ตุลาคม 2551 1:21:49 น.  

 

ไม่ว่ามีวิธีการผลิตกี่ล้านขั้นตอนก็ไม่มีความหมายหรอกค่ะ เพราะความจริงมันปรากฎบนใบหน้าเราค่ะ ว่าใช้ยี่ห้อนี้แล้วแพ้ยับเยิน

 

โดย: bye bye artistry IP: 124.157.181.134 16 ตุลาคม 2551 10:36:18 น.  

 

ถามคุณ bye bye artistry

ตอนใช้ ๆ ยังไงบ้าง ใช้นานจนหมดคอร์สมั้ย เลือกแบบถูกกับผิวรึป่าว ได้ใช้ชุดพื้นฐานปรับสภาพก่อนใหม ครบทั้งชุดป่าว ล้างมือก่อนล้างหน้าป่าว ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือสำลี ๆลๆๆๆ แบบว่ามีคนแนะนำดูแลรึป่าว หรือหนีคนขายกัวเขาจะมายุให้ใช้ร่วมกับตัวนั้นตัวนี้ เลยแอบใช้บางตัว ไม่ครบ ตามทรรศนะผมนะ ถ้าใช้ไม่ครบ จะแอบใช้เองแบบไม่ถูกวิธี ไม่ต้องใช้ดีกว่า ไม่เป็นผลดี หน้าคุณก็ไม่ดีขึ้น เงินก็เสียเปล่า ของผมก็เสียชื่อ



อ้างอิง..
Artistry ต้องใช้โดยมีคนที่มีความรู้จริงเรื่องอาร์ทริสตรี้เป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่เหมือนสินค้าแบรนด์เนมอื่นที่คิดจะซื้อก็เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์เครื่อง สำอางค์ซื้อใช้ก็จบ จากที่ใช้อยู่มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลดีมาก ๆ เริ่มตั้งแต่ซักประวัติการใช้เครื่องสำอางค์ก่อนหน้านี้ ปัญหาผิว สภาพผิว รวมถึงความคาดหวังหลังการใช้ เชื่อแน่ว่าถ้ามีมืออาชีพคอยดูแลเรื่องการใช้ปัญหาเรื่องอาการแพ้ สิวเห่อ คงไม่มี ที่เห็นใช้แล้วไม่ประทับใจเนื่องจากไม่มีมืออาชีพคอยดูแลแน่ ๆ
คิด อยากใช้ซื้อใช้เอง ผิวอะไรไม่สนใจอยากใช้ตัวนี้ใช้ไม่ดีก็โวยวาย สินค้าArtistry ใช้ไม่ประทับใจก็คืนได้นี่คะไม่ชอบคนขายยังคืนได้เลย เราเคยคืนมาแล้ว คุ้มนะถ้าเทียบกับการจ่ายค่าสินค้าเทียบกับการดูแลแบบVIP ถึงบ้านไม่ต้องเปลืองน้ำมันรถ เสียใจด้วยกับคนที่ใช้Artistry แต่ไม่มีมืออาชีพคอยดูแล ช่วยไม่ได้ของอย่างนี้บุญทำกรรมแต่งมาต่างกัน


โดย: ชอบArtistry IP: 61.19.65.195 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:0:36:43 น.

 

โดย: ....... IP: 118.172.21.253 16 ตุลาคม 2551 12:15:29 น.  

 

เขาขายของไม่ออก ก็เลยต้องมาเต้นเป็นโดนน้ำร้อนลวกแบบนี้แหละ

คนที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร อย่างคุณเป้
เทียบกับคนที่เดือดร้อนเพราะมีคนมาแฉผลิตภัณฑ์

ก็น่าจะตัดสินใจง่ายๆ ว่าใครน่าเชื่อถือกว่ากัน

 

โดย: Pillow IP: 58.9.8.159 16 ตุลาคม 2551 20:46:02 น.  

 

นึกว่าจะไม่มาแล้วนะขอรับ :D

สรุปว่าเจ้า 83 ขั้นตอนที่ว่ามา เป็นเป็นข้อมูลจากการโฆษณาผลิตภัณฑ์นั่นเอง... งั้นแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับการฟังคำโฆษณาแล้วก็เชื่อมั่นว่ามันเป็นจริงตามนั้นสักเท่าไหร่ เพราะทุกบริษัทต่างก็โฆษณาว่าของตัวเองพิเศษสุดอย่างนั้น มีกรรมวิธีลับแบบนี้ ซึ่งทั้งหมด "เป็นความลับทางการค้า" มันก็เป็นกลยุทธทางการตลาดธรรมดาที่เห็นได้บ่อยไป ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่ (แอบเสียดายที่อุตส่าห์ตั้งความหวัง)

แล้วเจ้าครีม L/X ที่ว่าเนี่ย คำโฆษณาที่บอกเกี่ยวกับ (Micro-texturing Manufacturing) ก็มีความหมายว่า "เนื้อผลิตภัณฑ์" เนียนละเอียด ให้ความรู้สึกดีเป็นพิเศษ ซึมซาบไว ก็เท่านั้น ...

ใครอยากจ่ายเงินจำนวนมาก ๆ เพื่อผลิตภัณฑ์ที่มี "เนื้อสัมผัสสุดวิเศษ" ก็ตามใจละกันนะขอรับ เพราะกระผมยังไม่มี Ingredient List เลยบอกไม่ได้ว่าเขาใส่อะไรมาบ้าง

ส่วนตัวแล้ว กระผมไม่ได้อยากได้ครีมที่เขาพยายามอวดอ้างสรรพคุณว่าแสนมัศจรรย์นี้หรอกขอรับ เงินค่าครีมกระปุกนี้กระผมซื้อ Paula's Choice ได้ครบชุดในปริมาณที่ใช้ได้นานเกือบปี อาจจะไม่มีเนื้อสัมผัสสุดวิเศษ แต่กระผมไม่แคร์หรอกขอรับ เพราะผลิตภัณฑ์ธรรมดา ๆ บรรจุภัณฑืไม่หรูหรา ไม่มีคำโฆษณาชวนฝัน เหล่านี้ทำให้กระผมรู้สึกดีเมื่อมองผิวตัวเองในกระจก แถมประหยัดเงินไปได้มากมายมหาศาล มีเงินไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ




ประเด็น paraboce Effect

ขอยกคำพูดที่คุณพิมพ์เอาไว้ก่อนหน้านี้มานะขอรับ


"เขาเรียก paraboce Effect พาราโบซี่ เอฟเฟกครับ ทางการแพทย์ มีผลในการทำให้จิตใจรักษาตัวเองร่วมกับการใช้ยา ยาจริงมีผลการรักษาแค่ ไม่เกิน 40 เปอร์เซนต์ แต่พาราโบซีเอฟเฟก รักษาได้เกิน40เปอร์เซน มียาไม่กี่ชนิดในโลก ที่ได้ผลสูงกว่า พาราโบซี่เอฟเฟก แล้วการใช้ยาที่มีผลการรักษาสูง ร่วมกับพาราโบซี่เอฟเฟก เป็นการรักษาที่ดีที่สุดเท่าที่มีตอนนี้ เรื่องนั้นรู้ดีครับ 555+"

คุณบอกว่า "จำผิด" ก็จะพยายามเชื่อะขอรับ เพราะเห็นว่าคุณพิมพ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษมาให้เลย แบบว่ามั่นใจมาก มี 555+ ตบท้ายมาด้วย อ้อ...และความหมายที่คุณเข้าใจมันถูกแค่ "มีผลในการทำให้จิตใจรักษาตัวเองร่วมกับการใช้ยา" เท่านั้นนะขอรับ ไม่ใช่้ทั้งหมด

ส่วนที่เหลืออย่าง "ยาจริงมีผลการรักษาแค่ไม่เกิน 40 เปอร์เซนต์ แต่พาราโบซีเอฟเฟก รักษาได้เกิน40เปอร์เซน มียาไม่กี่ชนิดในโลก ที่ได้ผลสูงกว่า พาราโบซี่เอฟเฟก แล้วการใช้ยาที่มีผลการรักษาสูง ร่วมกับพาราโบซี่เอฟเฟก เป็นการรักษาที่ดีที่สุดเท่าที่มีตอนนี้" คุณลองไปหาข้อมูลที่ยืนยันคำพูดของคุณหน่อยเถอะขอรับ เพราะกระผมไม่เคยเจอจริง และเพื่อน ๆ ที่เรียนหมอมาก็บอกว่าไม่เคยได้ยินเหมือนกัน (แต่ถ้าบอกว่า ในยาเม็ดนึง มีตัวยาแค่ 40% อีก 60% ที่เหลือเป็นแป้ง อันนี้ก็พอจะจริงอยู่)

คุณไม่เคยออกมายอมรับสักครั้งว่าคุณ "จำผิด" เรื่อง paraboce Effec... คุณได้แค่ "ทำเป็นเงียบ" แล้วก็ "แถ" "เฉไฉ" "เบี่ยงประเด็น" ไปเรื่องอื่น ถึงตอนนี้อย่าทำเป็นพูดให้ตัวเองดูดีขึ้นเลยขอรับ มันออกจะสายไปหน่อย






ประเด็น นมหมี VS นมจีนแดง


เรื่องนมหมี นมจีน กระผมว่าคุณใช้ตระะกะในการเปรียบเทียบไม่ถูก และถ้าโบ้ยไปว่าต้องการชี้แจง "ขั้นตอนการผลิตทำให้ วัตถุดิบนมวัวดิบที่ราคาเท่ากัน มีผลผลิตที่ออกมาราคาต่างกัน" คุณก็ไม่ควรเปรียบเทียบ "นมหมี" ที่ผลิตในไทย กับ "นมจีนแดง"

ไม่ต้องเทียบนมคนละยี่ห้อละกัน เทียบเป็นนมยี่ห้อ "ก" เหมือนกัน การผลิตแบบเดียวกัน มาตรฐานเดียวกัน เข้มงวดเหมือนกัน แต่โรงงาน A ผลิตที่จีน โรงงาน B ผลิตที่ไทย

ต้นทุนน้ำนมดิบที่จีน กับ ต้นทุนน้ำนมดิบของไทย มันไม่เท่ากันอยู่แล้ว ต้นทุนน้ำนมดิบของจีนราคาถูกกว่าของไทย + ค่าครองชีพ + ค่าแรงถูกกว่าของไทย ผลผลิตที่ออกมามีขั้นตอนการผลิตแบบเดียวกัน มาตรฐานเดียวกัน แน่นอนว่าทำให้ต้นทุนรวมของนม "ก" ที่ผลิตจากโรงงาน A ในจีน ถูกกว่า นม "ก" ที่ผลิตจากโรงงาน B ในเมืองไทย ส่งผลให้ราคาของนม "ก" ที่ผลิตและขายในจีนราคาถูกกว่า นม "ก" ที่ผลิตและขายในไทย




ประเด็น ขั้นตอนการผลิต + Ingredient List

กระผมได้อธิบายไปแล้วนะ แต่จะขอเพิ่มรายละเอียดละกัน

ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ Artistry ที่ปูเป้อ่าน Ingredient List แล้วบอกว่าดีเลิศ อย่าง "Skin Refinishing Lotion" ละกัน

ถ้าสมมุติว่ามี Skin Refinishing Lotion ราคา 1,825 บาท ปริมาณ 30 ml มาเทียบกับผลิตภัณฑ์ No Name ที่มี Ingredients List เหมือนกันกับ Skin Refinishing Lotion อย่างกับแกะ แต่ราคาแค่ 250 บาท ปริมาณ 30 ml เท่ากัน

คุณจะมาบอกว่า Skin Refinishing Lotion ของ Artistry ดีกว่าผลิตภัณฑ์ No Name เพรระมีกระบวนการผลิตที่ดีกว่า ปูเป้จะไม่แย้งสักคำ เพราะถือว่ากระผมไม่ได้ไปรู้เห็นกับตาตัวเองว่าทั้งสองแบรนด์นี้ผลิตต่างกันอย่างไร กระผมก็จะบอกว่าทั้งสองตัวนี้ส่วนผสมดีทั้งคู่ น่าสนใจ ส่วนใครจะเลือกถูกหรือแพงก็แล้วแต่กำลังทรัพทย์และความเชื่อส่วนบุคคลละกัน

แต่ถ้าผลิตภัณฑ์ที่ Ingredients List บอกว่า "ห่วย" ไม่ว่ามันจะผลิตแปดล้านขั้นตอนในโรงงานมาตรฐานการกระสวยอวกาศ หรือผลิต10 ขั้นตอนในโรงงานร้างหลังป่าละเมาะ กระผมก็จะบอกว่ามัน "ห่วย" และไม่น่าใช้ทั้งคู่แหล่ะ




ทิ้งท้าย

ปูเป้ต้องการกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาสนใจศึกษาข้อมูลจาก Ingredient List กันมากขึ้น เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง จะได้รู้ว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นใส่อะไรมาบ้าง มีสารบำรุงเยอะและมีประสิทธิภาพจริงอย่างที่โฆษณารึเปล่า มีสารก่อการระคายเคืองบ้างไหม มีสารตัวไหนที่เราแพ้บ้าง จะได้หลีกเลี่ยงและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ "ดีจริง"

แต่พวกคุณกลับมาบอกว่า "ไร้สาระน่า รีวิว คุณภาพของ จากสารข้างกล่องเนี่ย 55" มันเป็นเรื่องที่สมควรแล้วรึ?

คุณจะทำพฤติกรรม "กินยาไม่อ่านฉลาก" ต่อไปกระผมไม่ได้สนใจหรอกนะ เพราะมันตัวคุณ เงินคุณ หน้าของคุณ แต่จะมาบอกว่าสิ่งที่ปูเป้ทำเพื่อส่วนรวมแบบฟรี ๆ โดยไม่หวังผลตอบแทนนั้นไม่ถูกต้องและไร้สาระเนี่ย กระผมไม่ได้เป็นเป็นคุณหนูอ่อนต่อโลกให้คุณยำได้ง่าย ๆ หรอกนะ (ถึงหน้าตาภายนอกจะดูเป็นอย่างนั้นก็เหอะ)

อยากจะเชื่อว่าทุกสิ่งที่ Amway อัพไลน์และเพื่อนนักธุรกิจบอก เป็น "ความจริง" หรือเป็น "ข้อเท็จจริง" มันก็เป็นเรื่องของคุณ เพราะคนเราเชื่อในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเชื่อเป็นธรรมดา ปูเป้ไม่ได้คาดหวังว่าคุณจะเห็นด้วยกับสิ่งที่กระผมนำเสนออยู่แล้วเพราะอ่าน ๆ Comment ของพวกคุณดูก็รู้ว่าแล้วแหล่ะว่า Amway เขามีระบบการอบรมที่มีประสิทธิภาพจริง ๆ ... แต่การจะให้ปูเป้เชื่อตามและเห็นด้วยกับความเชื่อของคุณมันต้องมีหลักฐานอ้างอิงที่พิสูจน์ได้ ไม่ได้ใช้แค่ "คำโฆษณา" "ลมปาก" หรือ "ตรรกะ" ประหลาด ๆ แบบนี้

ก็หวังว่าคุณจะหาเหตุผลที่รับฟังขึ้น และหลักฐานอ้างอิ่งที่น่าเชื่อถือมากกว่านี้ได้ ถือเป็นฝึกการขายและฝึกความน่าเชื่อถือไปได้ในตัว

ก็พยายามเข้าละกัน เพราะใครสามารถขายของให้ปูเป้ได้อ่ะ "โคตรเก่ง"




PS. จากความเห็นแรกยันสุดท้าย พวกคุณก็ยัง "แถ" และ "โบ้ยความผิด" ให้ผู้บริโภคตลอด...

PS. ขออภัยที่ยาวไปหน่อย


 

โดย: PuPe_so_Sweet 16 ตุลาคม 2551 23:59:23 น.  

 

เธเธฃเธฐเธซเธฃเธตเนˆเธซเธฒเน„เธ”เน‰เธกเธฒเธˆเธฒเธเธ„เธ™เธ—เธณamway เธ”เน‰เธงเธขเน€เธ›เน‡เธ™เธ™เธฑเธเธ‚เธฒเธขเธœเธกเธ•เน‰เธญเธ‡เธขเธญเธกเธˆเนˆเธฒเธขเน€เธ‡เธดเธ™เน„เธ› 100 เธเธงเนˆเธฒเธšเธฒเธ—เน€เธžเธทเนˆเธญเธ‹เธทเน‰เธญเธขเธฒเธชเธตเธŸเธฑเธ™เธ–เธถเธ‡เน„เธ”เน‰เน€เธญเธฒเธ„เธธเน‰เธกเธ™เธฐเธกเธฒเธ‚เธฒเธขเธ‚เธญเธ‡เธ—เธตเนˆเธซเน‰เธญเธ‡เธœเธกเธญเธตเธเธ™เธฐเธŠเธงเธ™เน€เธžเธทเนˆเธญเธ™เธกเธฒเธ”เน‰เธงเธขเธˆเธนเธˆเธธเนŠเธš

 

โดย: jim IP: 124.121.180.90 18 ตุลาคม 2551 23:02:30 น.  

 

ประเด็นเรื่อง ingredient list นี่เห็นด้วยมากๆค่ะ
วันก่อนก็ดูทีวี เค้ายังบอกว่าเวลาซื้อแชมพู หัดดูส่วนผสมบ้าง
อย่างน้อยๆ จะได้รู้ว่า ถ้ามันมีปริมาณที่เท่ากัน แล้วมียี่ห้อนึงแพงอีกยี่ห้อนึงถูก จะจ่ายแพงกว่าเพื่ออะไรกัน

ชอบบล๊อคคุณปูเป้มากค่ะ ให้ข้อมูลละเอียดดีจัง
เป็นกำลังใจให้ทำบล๊อคดีๆ ต่อไปค่ะ

 

โดย: Vita IP: 58.147.46.128 25 ตุลาคม 2551 14:00:43 น.  

 

นั่งอ่านมาทั้งหมด รู้เลยการว่า ใครรู้ ใครไม่รู้
ความคิดเห็นของคุณ...แต่ละครั้งมันบ่งบอกถึงระดับความรู้และสติปัญญาของคุณมากๆเลย เถียงข้างๆคูๆ ไม่มีความน่าเชื่อถือเเลย (แถวบ้านเรียก สะดัน ความหมายคล้ายๆ แถ) ยิ่งอ่านยิ่งตลก ภาพลักษณ์ของคุณก็ยิ่งดูแย่ พอเถอะ อับอายคนที่เค้าเข้ามาอ่านนนนนนน
คุณปูเป้ สู้สู้ เป็นกำลังใจให้

 

โดย: กนกกานต์ IP: 67.159.44.159 25 ตุลาคม 2551 19:26:15 น.  

 

วิธีการผลิต 83 ขั้นที่รอคอย เป็นการไปเอาคำโฆษณาของบริษัทตัวเองมา paste ไว้ เฮ้อออ..... artistry ทำอย่างนั้น artistry ทำอย่างนี้ บอกได้คำเดียวว่าเซ็งครับพี่น้อง ที่คุยไว้เยอะว่าวิเศษวิโสแต่สุดท้ายก็เอาแค่คำโฆษณามาลงโดยไม่ลงลิ้งค์ไว้ให้ด้วย

P.S. 14 สิงหาคม-16ตุลาคม กว่าจะยอมรับว่าพูดผิด ช่างเป็นคนที่เข้าใจช้าจริงๆนะครับ

 

โดย: pandaboy IP: 203.121.164.58 30 ตุลาคม 2551 19:22:00 น.  

 

บินไปดูห้องวิจัย+โรงงานเลย
o_0" ~~

 

โดย: seventeen IP: 58.8.183.140 30 ตุลาคม 2551 23:52:58 น.  

 

ฉลอง 100 comment

PS. ขออภัยที่ไร้สาระ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 31 ตุลาคม 2551 11:58:42 น.  

 

ป้าเราก็ทำแอมเวย์เหมือนกัน
เราก็มีบัตรสมาชิก
แต่เห็นด้วยกะคุณปูเป้นะเพราะเราลองใช้บางตัวก็เป็นแบบี่่คุณปูเป้ว่าไว้จริงๆแหละ
เราว่า
คุณ นักธุรกิจแอมเวย์อย่างคุณอย่าทำให้ภาพลักษณ์องค์กรเสียหายเลยดีกว่านะ
เพราะป้าเราที่เค้าเป็นได้ถึงระดับเพชรเนี่ย
เค้าไม่ได้เป็นอย่างคุณเลยอ่ะ
เค้าแนะนำอะไรที่ว่าดีก็บอกว่าดี
อะไรไม่ต้องซื้อก็บอกไม่ต้องซื้อ
คือเค้าตรงไปตรงมา ไม่หาผลประโยชน์อะไรเลยน่ะค่ะ

อีกอย่าง เค้าไม่ทำแอมเวย์ ชีวิตเค้าก็มีเงินเหลอใช้เหลือเก็บเยอะมหาศาลแล้ว

หยุดเถอะค่ะ
อย่ามาก่อกวนในนี้เลยนะ
มันทำให้ภาพแบรนด์เสียเปล่าๆ
ขาดเราเป็นลูกเป็นหลานคนที่ทำ
เรายังไม่เห็นด้วยกะคุณเลยนะ


ถือว่าเพื่ออนาคตของคุณเองละกันค่ะ
อินเอตร์เน็ตมันกว้างนัก
คุรไม่รู้หรอกว่าคนมาอ่านบล๊อกนี้เป็นคนรอบตัวคุณรึป่าว
ยิ่งคุณทำแบบนี้
คนรอบตัวคุณก้ไม่อยากจะซื้อ


อีกอย่างนะ
ป้าเราบอกไว้ว่า
จะประสบความสำเร็จได้ต้องอย่าหลอกลวง
ทำอะไรให้ซื่อสัตย์
หรือจะเถียงอะไรก็ให้เถียงแบบมีเหตุผล
นำหลักวชาการมา"ถก"กันดีกว่า

เถียงไปตามน้ำ มีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อ
มันNonsenseนะ

 

โดย: PaNDoRa_ParsellE IP: 58.137.54.56 8 พฤศจิกายน 2551 16:53:19 น.  

 

ต้องแวะนานหน่อย รีวิวนี้ดุเดือดจังเลย

เราก็เป็นคนนึงนะที่ใช้ Artistry แล้วก็มีทั้งแพ้ แล้วก็ไม่แพ้
เราใช้ตัว cleasning ของ time แล้วเป็นผื่นแดงๆ อ่ะ

แต่พอหยุดใช้ไปซักพัก มันก็ค่อยๆดีขึ้น
(เปลี่ยนมาใช้ cleansing ของ Clinique ยี่ห้อแรกที่ใช้)
หน้าเนียน แต่รอยแดงยังอยู่

ต่อมา แม่ เราไปซื้อ Cleam LX ของ Artistry มา กระปุวนึง ก็แพงใช่เลนอยู่นะ แต่พอใช้แล้วมันก็หน้าดีขึ้นมาจริงๆ วู๊ๆๆๆ ดีจายๆๆ

เลยอยากบอกว่า มันก็แล้วแต่ ผิวหน้า ของแต่ละคนด้วยหละมั๊ง

ปล. รัก cleam LX ของ Artistry + Cleansing ของ Clinique แต่เกียจ Cleansing ชุด time ที่สุดเลย

 

โดย: คนผ่านมา เลยต้องแวะนานหน่อย IP: 58.136.95.138 17 พฤศจิกายน 2551 22:16:32 น.  

 

อยากทราบส่วนผสมและความสามารของ artistry cream L/X อ่ะค่ะ จะรักษาสิวและรอยแดงได้มั๊ยค่ะ ราคาครีมแพงอ่ะค่ะ เลยอยากศึกษาก่อนที่จะซื้อ

แล้วตัวเองก้อเป็นคนแพ้ง่ายมาก ไม่รู้ว่าถ้าใช้ครีมนี้จะแพ้รึป่าว

คุณปูเป้และเพื่อนช่วยตอบด้วยนะค่ะ

ขอบคุนมากๆค่ะ

 

โดย: เห็ดอมยิ้ม IP: 58.9.131.42 20 พฤศจิกายน 2551 19:59:34 น.  

 

แล้วคนที่จะใช้ artistry cream L/X ต้องมีอายุเท่าไหร่อ่ะค่ะ เห็นเขียนว่า 35 แต่ตอนนี้อายุ 20 จะใช้ได้มั๊ยค่ะ

 

โดย: เห็ดอมยิ้ม IP: 58.9.131.42 20 พฤศจิกายน 2551 20:42:59 น.  

 

ยังไม่มีส่วนผสมขอรับ เลยยังตอบอะไรไม่ได้

แต่ปกติแล้ว SKincare ไม่มีคำกัดอายุหรอกขอรับ แค่เลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการก็พอแล้ว

 

โดย: PuPe_so_Sweet 21 พฤศจิกายน 2551 0:16:53 น.  

 

คือแบบว่าปลาเน่าตัวเดียวเน่าไปทั้งเข่ง ไม่รู้จิงไม่น่าโต้แย้งอะไรเขาเรยนะ เหอๆ เสียไปทั้งหมด ไม่ไหวๆ ถึงว่าทำไมมีแต่คนเบือนหน้าหนี อย่างนี้เองสินะ แอมเวยืก็มีของทั้งดีและไม่ดีอ่ะ คนทำแอมเวย์ชอบไปยัดเยียด(บางคนเท่านั้น)

-------
แต่ที่เคยฟังมานะ เค้าบอกว่า ผลิตภัณฑ์ artistry ถ้าจะใช้ให้เห็นผลดี ต้องทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ (คนขายนี่แหละ ถ้าเจอดีๆก้ดีไป เจอไม่ถูกวิธีก็ซวย)
1. ต้องดูสภาพผิวว่า เป้นยังไง ผิวมัน ผิวแห้ง โดยดูจากสภาพรูขุมขน
2. ถ้าหากคนเคยใช้ยาหมอมา หน้ามันจะบางจิงๆ การใช้ผลิตภัณฑื artistry ต้องวมีการพักหน้าก่อน ถึงจะบำรุง การพักหน้าคือการ ล้างทำความสะอาดหน้า ให้ผิวเราฟื้นตัว สร้างเซลล์ผิวใหม่ที่ถูกกัดกร่อนด้วยยาหมอ
*** ตัวล้างหน้าของ artistry เค้ามีวิธีล้างแบบเฉพาะตัวไม่เหมือนการล้างหน้าโดยทั่วไป ต้องได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ***
3. หลังจากพักหน้าไปสักระยะแล้ว บำรุงหน้าและสคับหน้า


*** จากประสบการณ์ที่เคยใช้ eye cream + โปรตีนเชค ดีมากๆ สำหรับคนนอนดึก แพนด้าหายเร็วมาก

 

โดย: แย่นะ IP: 125.25.137.150 24 พฤศจิกายน 2551 15:41:10 น.  

 

ราคาแพงไม่แพงไม่แคร์หรอกอยู่ที่ว่าพอใจจะซื้อรึป่าว ของเค้าดีอ่ะ เราใช้แล้วชอบ - -

 

โดย: เหอะๆ IP: 118.173.42.59 27 พฤศจิกายน 2551 13:51:53 น.  

 

Could u review abt Artistry Creme L/X?I've just have it for 1 week.
Many thks....

 

โดย: jey IP: 82.22.11.200 30 พฤศจิกายน 2551 7:27:48 น.  

 

dear : jay

I'm sorry, but don't have the L/X Cream's Ingredients.

It would be great if you submit the ingredients List to me.

Thanks

 

โดย: PuPe_so_Sweet 30 พฤศจิกายน 2551 14:29:34 น.  

 

อยากเห็นรีวิวชุด Pure White ด้วยอะค่ะ คุณปูเป้

 

โดย: Toon IP: 58.10.140.179 7 ธันวาคม 2551 5:00:56 น.  

 

อ่านจบทั้งหมดแล้วคะ ยาวมากกกกก ได้ทั้งสาระและความบันเทิงครบถ้วนเลยคะ ยังไงก้อต้องขอขอบคุณคุณปู้เป้ ที่ให้ความรู้ ทำให้เราเข้าใจเรื่องที่ไม่เคยคิดเคยรู้มากก่อนได้อย่างดี ขอบคุณจริงๆๆคะ ส่วนด้านความบันเทิงที่มาก็สนุมากจริงๆๆคะ เอานะคนเรามองเห็นสิ่งตางๆๆแตกต่างกันได้ เลือกในสิ่งที่คุณชอบทำในสิ่งที่ไม่เดือดร้อนผู้อื่นก้อน่าจะดีนะคะ
อะอะ..แต่เราต้องเคราพในความแตกต่างของแต่ละคนด้วยนะคะ

 

โดย: katia IP: 125.24.25.210 9 ธันวาคม 2551 17:58:10 น.  

 

หัวข้อนี่ยาวดี ยาวมากๆๆๆๆๆๆ

เอาสั้นๆ แบบได้ใจความเลยนะ

"ถ้ามันดีจริง จะมาร้องโวยวายกลัวโดนแฉทำไม????"

เอาเวลาอันมีค่าของคุณไปทำยอดต่อเถอะค่ะ

เผื่อจะได้ไปอยู่ปลายบนสุดของห่วงโซ่อาหารได้ไวๆ

 

โดย: ChasSy IP: 124.121.47.250 17 ธันวาคม 2551 20:59:57 น.  

 

หลงอ่านอยู่เยอะ ที่แท้ก็ไม่ชอบเป็นการส่วนตัวนี่เอง
ไม่เป็นไรให้ อภัย แต่ว่าก็อย่าทำบ่อยๆแล้วกันมันไม่ดี คุณไม่เคยได้เห็นโรงงาน และสัมผัสนักวิทยาศาตร์ที่ทำการวิจัยอยู่ให้ห้อง Labที่อเมริกา ก็อย่าเอามาพูดเลย
เราต่างคนต่างความคิดค่ะ คุณก้อน่าจะเป็นคนฉลาด แต่ดิฉันก็เชื่อว่าเค้าคงไม่จ้างนักวิทยาศาตร์ก็คงไม่สมองกลวงมาหลอกค่ะ งานวิจัยระดับโลกขนาดนี้

 

โดย: love love IP: 58.10.125.26 18 ธันวาคม 2551 12:42:45 น.  

 

ดีจัยจังที่ไม่เห็นการคอมเมน ขัดแย้งกับคุณปูเป็
เพราะคนแอมเวย์ส่วนใหญ่ มีทัศนคติบวก
ไม่โต้ตอบกันสิ่งที่เป็นลบ เพราะวันหนึ่ง เรื่องลบๆเหล่านี้ก็จะหายไป เพราะกาลเวลากว่า50 ปี ของแอมเวย์ ได้พิสูจน์มาแล้ว ถ้าผลิตภัณฑ์ไม่เจ๋งจริง ก็ผ่านมาไม่ได้ถึง 50 ปี

 

โดย: plus IP: 58.10.125.26 18 ธันวาคม 2551 13:00:55 น.  

 

อวดรู้ จิงๆ บางอย่างเป็นข้อมูลที่ผิด

 

โดย: น่ารำคาญ IP: 58.10.125.26 19 ธันวาคม 2551 9:02:38 น.  

 

ถ้ามีข้อมูลที่ถูกต้องมากกว่า มีงานวิจัยอ้างอิงที่เชื่อถือได้มากกว่า ก็ส่ง Link มาได้ขอรับ ปูเป้จะได้เข้าไปอ่านเพิ่มความรู้ ถ้าปูเป้ทำผิดก็จะได้แก้ไขให้มันถูกต้อง ไม่เคยแถหรือเฉไฉอยู่แล้ว

แต่รบกวนเอาข้อมูลที่เชื่อถือได้นะขอรับ พวกคำโฆษณาหรือการวิจัยที่หาอะไรอ้างอิงไม่ได้ กระผมได้ยินจนเบื่อแล้ว

PS. เป็นคนเดียวกันไม่ต้องเปลี่ยนชื่อบ่อยก็ได้ขอรับ จะให้เนียนก็ใช้พวกโปรแกรม Proxy เปลี่ยน IP ซะหน่อยก็จะดูดีขึ้น ทำแบบนี้คนอื่นเขาจะยิ่งมองนักธุรกิจแอมเวย์ในแง่ลบนะขอรับ กระผมเตือนเอาไว้เพราะเป็นห่วงหรอกนะ...

 

โดย: PuPe_so_Sweet 19 ธันวาคม 2551 11:00:42 น.  

 



ขายไม่ออกก็เลยต้องมาป่วนสินะ ว่างก็ไปนั่งขายของต่อเหอะ

 

โดย: เบื่อแอมเวย์บางคน IP: 58.8.193.218 20 ธันวาคม 2551 9:22:34 น.  

 

ช่วยตอบความคิดเห็นที่29
สารสกัดจากพืชและผลไม้อะไรต่างๆ
ส่วนใหญ่จะมีสีที่ไม่ค่อยสวยนัก เช่น สารสกัดทับทิมที่มีellagic acid จะเป็นสารสกัดสีดำคล้ำออกเทา ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย ที่ครีมผสมสารสกัดทับทิมจะมีสีชมพูหรือสีขาว
แต่ที่เค้าอ้างว่าใส่ไปแค่0.001%แถมอ้างว่าเป็นโดสที่ปลอดภัยนั้น เป็นการโกหกทั้งเพ เพื่อจะได้ขายความเป็นfancy(การแต่งตัวให้สินค้า) ให้ฟังดูเป็นวิทยาศาสตร์ มีการอ้างวิจัยไร้จรรยาบรรณต่างๆ โดยที่ความเป็นจริงในกระปุกครีมนั้นไม่ได้มีตัวแปรในการทดลองเหมือนงานวิจัยที่มาอ้างเลย
สารสกัดหลายๆตัวต้องละลายในแอลกอฮอลล์ แต่คนส่วนใหญ่แพ้แอลกอฮอลล์ แต่กลับชอบใจที่จะซื้อครีมที่ผสมสารสกัดจากพืช นักการตลาดในคราบR&Dก็เลยต้องจัดสารสกัดเป็นตีมบนฉลากเด่นๆ แต่ความจริงสารพวกนี้กลับอยู่หลังสารกันเสียและน้ำหอม สารออกฤทธิ์จริงๆกลับไม่ใช่สารสกัดไปซะงั้น
ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการโกหกที่ดูเหมือนจริงใจ ตราบใดที่คนยังเชื่อในภาพลักษณ์ของบริษัทสินค้านั้น(ภาพลักษณ์ก็เช่น ผู้เชี่ยวชาญระดับสมมุติเทพ จบจากสถาบันระดับสามโลก งานวิจัยสวยหรูดุจดั่งมีอภิญญา ทำการทดลองเหมือนเพิ่งนั่งไทม์แมชชีนกลับมา ความประณีตในการผลิตแบบขี่ช้างจับตั๊กแตน) เมื่อผู้บริโภคขี้เกียจศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง เมื่อเจอกับภาพลักษณ์หรือเรียกอีกอย่างว่า มายา ก็เป็นเหตุให้หลงเชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตา
"วงการเครื่องสำอาง คือ วงการมายา"

 

โดย: กลับถึงบ้านงานก็ยังเข้า IP: 125.24.163.160 21 ธันวาคม 2551 1:15:22 น.  

 

รู้จักกับพี่ที่เป็นนักธุรกิจแอมเวย์อยู่คู่นึง (สามี ภรรยา) ที่ประสบความสำเร็จสุดๆ

เชื่อไหมว่า อายุ 30 ปลายๆ กันแล้ว แต่หน้าเด้งมาก (ไปจับหน้าเขามา)

ตัวผิวเนี่ย จับไปแล้ว รู้เลยว่า สุขภาพดีสุดๆ แถม ริ้วรอยตีนกานี่น้อยมากๆๆ

หน้าแข็งแรงอ่ะ แบบ อย่างเราใช้โน่นนั่นนี่เยอะๆ จนหน้าเราบางมาก แดง แพ้ง่าย

เขาทั้งคู่ใช้ของ Artistry อย่างเดียวมาหลายปีแล้ว อันนี้ยืนยันได้

เราเองก็ไม่ได้ใช้ Artistry สักตัวหรอก ใช้ยี่ห้ออื่น SK-II ลังโคม คลินิค ฯลฯ

แต่แค่มาเล่าสู่กันฟัง อื้มๆๆๆ

 

โดย: Pop IP: 58.9.95.50 23 ธันวาคม 2551 6:11:20 น.  

 

อ่านมาจนจบ เริ่มมีความรู้สึกแย่ๆให้กับนักธุรกิจแอมเวย์... แย้งมาแต่ละอย่างไม่ได้มีหลักฐานอะไรน่าเชื่อถือเลย... ว่าเขาอวดรู้ ว่าข้อมูลเขาผิด ก็ช่วยเอาข้อมูลที่ถูกต้องมาลงทีสิคะ เท่าที่เห็นข้อมูลที่ผิดในตอนนี้ก็คงจะมี พาราโบซี่ เอฟเฟค นี่แหละ 555+

 

โดย: ช่วยเหอะ IP: 125.24.244.251 2 มกราคม 2552 20:14:13 น.  

 

ฟังความคิดเห็นที่ 113,114 และ 115 ที่เป็นคนๆเดียวกันนี่ค่ะ ควันออกหูเลยนะคะ ประการแรก แสดงว่าคุณคนนี้ไม่มีความบริสุทธิ์ใจในการโพสต์
ดิฉันไม่ได้มาแวะดูกระทู้นี้ซะนาน นึกว่าที่นักธุรกิจแอมเวย์บ้าๆคนก่อนโต้คุณปูเป้อย่างแฉ แถไถไปเรี่ยเปื่อย และที่คุณปูเป้ โต้กลับชนะและใสสะอาดนั้น ดิฉันนึกว่าคนหลังๆที่ได้อ่านก็น่าจะรู้ความเป็นจริงซักทีว่ามันเป็นมายังไง
แต่...... ความคิดเห็นที่ 113,114 และ 115 ไม่ไหวค่ะ คงจะเป็นนักธุรกิจแอมเวย์ที่ดุเดือดเลือดพล่าน ใช้แต่ทัศนคติที่ได้อบรมมาเรียนรู้มาตอบ ไม่ได้มองให้สอดคล้องกับทัศนคติรวมในโลกของความเป็นจริง
ถ้าคุณบอกว่าหลงอ่านอยู่เยอะแล้วละก็ ภาพรวมทางทัศนคติคุณจะไม่เป็นอย่างนี้เลย
ดิฉันต้องบอกว่าดิฉันเข้าใจคุณค่ะ เมื่อคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมของเหล่าทัศนคติของนักธุรกิจแอมเวย์เยอะๆ ช่วงชีวิตส่วนใหญ่คุณก็ขลุกอยู่อย่างนั้น ต้องบอกว่าไม่แปลกเลยที่คุณย่อมที่จะมีทัศนคติอย่างพวกเขา เพราะพวกเขาพูดแต่ทัศนคติด้านดีๆ เลิศเลอเพอร์เฟ็กต์ทั้งนั้น คุณซึ่งอยู่ในแวดวงนั้นจะคล้อยตามมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ จนเมื่อหากคุณหาแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ดีกว่าเดิมคุณก็จะมีทัศนคติที่เปลี่ยนไปมิใช่อย่างนี้ ควรจะเปิดใจให้กว้างขึ้นกว่านี้นะคะ
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้ ล้วนขึ้นอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ธรรมชาติของความเป็นจริง ซึ่งก็คือทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่ที่จะมีข้อเสีย ข้อดี ด้านเลว ด้านดีในตัวของตัวเองทั้งสิ่งที่เป็นรูปธรรม และนามธรรม ไม่เว้น.....
คุณซึ่งอยู่ในแวดวงแอมเวย์นี้ได้ยินได้ฟังแต่ด้านดีๆ เพียงด้านเดียว ดิฉันบอกได้เลยว่า นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่เป็นอยู่จริง ไม่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติ
ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ย่อมที่จะมีข้อเสียในตัวของมันอยู่ เพียงคุณไม่ได้เห็น ไม่ได้ยินเท่านั้น ตรรกะลวงๆ คำพูดที่สวยหรูเหล่านั้นมีผลทางจิตวิทยาให้ชวนเชื่อได้ง่ายในธุรกิจแอมเวย์ นั้นมีอยู่เยอะแยะ เพียงแต่หากคุณลองนึกตริตรองดูดีคุณจะพบว่าจริงๆแล้ว มันผิด
เมื่อคุณมาโพสต์ยังบล็อกแห่งนี้คุณใช้ทัศนะคติด้านดีๆจากแอมเวย์มาพูดยังบล็อกที่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติ ซึ่งก็คือบล็อกคุณปูเป้แห่งนี้ ย่อมที่จะขัดแย้งกันเป็นธรรมดา ยิ่งชี้ให้เห็นว่าคุณเองเป็นฝ่ายที่ผิด
ความรู้ย่อมเรียนทันกันหมดค่ะ และไม่มีใครรู้น้อยไปกว่าใคร ฉะนั้นจึงอย่าเพียงแต่คิดว่าคุณเท่านั้น ทัศนะคติของคุณเท่านั้นที่ถูกเพียงอย่างเดียว อย่าตัดสินสิ่งใดๆ หากไม่ได้ศึกษา พิจารณาให้ถ้วนทั่วดีซะก่อน บางทีที่บ้านของคุณอาจจะมีอยู่ 100 แต่หากคุณมายังสถานที่ใหม่คุณอาจจะมี 0 ก็ได้นะคะ
แย่นะค่ะ......
ปล. ขอโทษคุณปูเป้ด้วยนะคะที่ถือสิทธิ์ของบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่เจ้าของกระทู้โต้ตอบค่ะ

 

โดย: ชมพู่ IP: 202.28.27.3 12 มกราคม 2552 17:55:01 น.  

 

เฮ้อ....อ่านกระทู้ที่มีแอมเวย์ที่ไรดุเดือดทุกที ที่จริงกระทู้นี้มีสาระมากนะคะ แต่การโต้กันไปมาระหว่างสองฝ่ายมันเลยทำให้แรงไป อยากจะบอกว่าเราก็เป็นแค่นักศึกษาคนหนึ่งที่อยากมีรายได้ และสนใจสมัครธุรกิจแอมเวย์กับกลุ่มเพื่อน ไม่มีใครมาตื๊อให้ทำทั้งนั้น และเราก็ไม่เคยไปตื้อใครให้มาซื้อ ถ้าเค้าชอบเดี๋ยวเค้าก็ซื้อเอง อย่างที่รู้ๆ กันใครใช้แล้วดีก็ว่าดี ใครใช้แล้วไม่ดีก็ว่าไม่ดี ไม่เห็นต้องเถียงกัน อย่างพี่เราหน้าเป็นสิวระยะที่สามแล้ว แต่ก็ดีได้เพราะ artistry แต่เค้าก็มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาตลอดนะ ไม่ได้ใช้มั่ว แต่ก็มีนักธุรกิจแอมเวย์หลายๆ คนทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เสียหาย คิดดูสิคะ เรามันก็แค่นักศึกษาธรรมดาจนๆ คนหนึ่งที่มีความฝัน และหวังกับธุรกิจนี้ แต่กลุ่มของเราไม่เคยตื๊อให้ใครมาซื้อหรือสมัดร เราใช้วิธีศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อคอยเป็นที่ปรึกษาให้กับคนที่มีปัญหา เช่นผิวหน้า แม้ว่าจะไม่ซื้อของๆ เราก็ตาม เราศึกษาอย่างจริงจัง แต่พอมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับแอมเวย์ทีไร มันทำให้แอมเวย์และคนที่ทำแอมเวย์เป็นเหมือนตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจ รู้ไหมค่ะว่ามันรู้สึกหดหู่ ท้อแท้มาก มันเหมือนว่าทั้งๆ ที่เราไม่เคยหลอกลวงใคร ทำร้ายใคร เราทำอาชีพสุจริต แต่สิ่งที่ได้รับมันทำร้ายเรากลับมา อย่างที่บอก เราเป็นแค่นักศึกษา สภาวะจิตใจเรายังไม่มั่นคงพอที่จะทำใจให้เลยผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้ มันไม่ใช่ความผิดของเจ้าของกระทู้ที่ต้องการให้ข้อมูลที่เป็นจริง แต่สาเหตุมันมาจากคนบางคนที่ใช้แต่อารมณ์ ไม่มีเหตุผล ถ้าเป็นคนที่ทำแอมเวย์ ก็อยากให้ศึกษาสิ่งที่คุณทำอย่างละเอียด และให้ข้อมูลที่ไม่เกินจริง อย่าไปตื๊อใครให้เสื่อมเสียเกียรติทั้งของเราและของแบรนด์เลย

 

โดย: เอ็ม IP: 124.121.175.235 25 มกราคม 2552 9:33:42 น.  

 

ดิฉันมาให้กำลังใจคุณเอ็มค่ะ
จริงๆแล้วก็เหมือนที่คุณว่ามานั่นแหละค่ะ ธุรกิจมันก็คือธุรกิจ อาร์ทิสทรีก็เป็นแบรนด์เครื่องสำอางค์แบรนด์หนึ่งในหลายพันแนรนด์ในโลกนี้นะค่ะ ที่ก็มีการโฆษณาชวนเชื่อ และมีการตลาดที่รุกให้ยอดขายกระเตื้องขึ้นไม่ต่างกันกับแบรนด์อื่นๆ
วงการเครื่องสำอางค์มันเป็นเช่นไรคุณก็คงได้รับรู้จากบล็อกของคุณปูเป้แล้วนะค่ะ
ทัศนคติของแต่ละบุคคลย่อมที่จะแตกต่างกันตามจุดที่ยืนอยู่ว่าสูงหรือต่ำ ลาดเอียงหรือไม่ และที่สำคัญอยู่สูงพอจนมองเห็นภาพรวมอะไรหลายๆอย่างหรือไม่ การมองทุกสิ่งทุกอย่างอย่างเป็นระบบก็สำคัญอีกเช่นกัน
ทัศนคติเป็นเรื่องที่ไม่มีใครถูกและไม่มีใครผิดเสมอไปค่ะ แต่ละคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันทั้งนั้น
แต่หากเป็นทัศนคติเรื่องเครื่องสำอางค์ การที่เราจะมองว่าทัศนคตินี้น่าเชื่อถือได้เพียงไรหรือไม่นั้น ต้องดูว่าทัศนคตินั้นมาจากความเป็นจริง ใกล้เคียง สอดคล้อง และอยู่ในโลกของความเป็นจริง ที่มีการพิสูจน์ ค้นคว้า ทดลอง หรือยอมรับโดยสากลมากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญต้องมีความเป็นกลาง ไม่มีผลประโยชน์ทางธุรกิจมาข้องเกี่ยว
คุณเอ็มสามารถเป็นนักธุรกิจที่ดีและประสบความสำเร็จได้ค่ะ โดยคุณไม่จำเป็นที่จะต้องเชื่อไปเสียทั้งหมด ขอเพียงแค่คุณเข้าใจลูกค้าให้มากๆก็เพียงพอแล้ว อย่าขายให้มันดุเดือดเลือดพล่านมากเกินไป
เหมือนที่คุณพอล่า บีกอนว่านะค่ะ เหล่านักธุรกิจแอมเวย์ต่างเชื่อและก็ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของตนเองนั้นดีมาก ซึ่งข้อนี้ผู้บริโภคไม่สามารถที่จะปฏิเสธ หรือท้วงติงได้เลย
การที่นักธุรกิจแอมเวย์คนก่อนได้มาโพสต์ไปนั้น เขาไม่เหมือนคุณนะค่ะ เขาไม่ได้ไปเปิดหูเปิดตาให้กว้างขวาง ไม่มีมุมมองที่กว้าง มองโลกอย่างไม่เป็นระบบ รวมถึงการใช้อารมณ์ดิบที่มีมากเกินไป เหล่านี้เมื่อมาโพสต์ ย่อมทำให้แอมเวย์ดูเป็นภาพลบมากยิ่งขึ้น
ทุกๆอย่างก็มีข้อดีข้อเสียนะค่ะ
ข้อดีของอาร์ทิสทรี ตามความเห็นของดิฉันก็มีนะค่ะ
อย่างเช่น ตัวอายครีม ส่วนผสมก็ดีมากๆ ราคาก็สมเหตุสมผลนะค่ะ ตัวเมคอัพ รีมูฟเวอร์ ก็เช็ดเครื่องสำอางค์ออกได้ทั้งหมด กระดาษซับมันสีเขียวๆ ที่เป็นแบบฟิล์มก็รู้สึกว่าจะราคาถูกที่สุดแล้วนะค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ

 

โดย: ชมพู่ IP: 202.28.27.3 27 มกราคม 2552 15:36:57 น.  

 

เคยเป็นคนหนึ่งที่เคยเชื่อ ในความมหัศจรรย์ของเครื่องสำอางแบรนด์นี้ แต่พอ ได้เปิดหูเปิดตาแล้วลองศึกษาเพิ่มเติมมากขึ้นแล้วก็พบว่า เออ จริงอย่างที่ปูเป้บอกเลย ...เครื่องสำอางแบรนด์นี้ผมเคยเห็นเพื่อนที่เป็นสิว และด่างขาวใช้แล้ว มันหายจริงๆนะ แต่ส่วนใหญ่ก็เพราะชุดพื้นฐานนั่นละ ที่ดีสุดแล้ว เหมือนกันว่า นักธุรกิจจะแนะนำให้ใช้ชุดพื้นฐานก่อน ก็เลยทำชุดพื้นฐานมาให้ดีๆหน่อยเพื่อคนจะได้ติดใจมั้ง เพราะหลฃังๆผมลองเปลี่ยนมาใช้ชุด ไทม์ดีฟายแอนด์สูตรใหม่ ไม่ไหวเลยๆ หน้าหมองมาก แถมแสบมาก ผิวผมก็ได้เกณฑ์ใช้แล้วนะ ทำไมกลับยิ่งใช้ยิ่งหมองๆลงเรื่อยๆ แถมแสบๆอีกต่างหาก ยิ่งตัวใหม่ๆออกมาเท่าไร คุณภาพไหงมันลดลงไปเรื่อยๆ ไม่ได้ดีกว่าตัวเก่าๆ ที่มีอยู่เลย ที่ชอบอีกตัวคือ สกิน ตัวนี้ดีมาก ใช้คู่กับ เพียวไวท์เอสเซนท์ จุดด่างดำ หายไวอยู่ แต่ก็นะ เพื่อนเอายาหมอตลับละ 100 มาให้ใช้ก็หายเหมือนกัน - -

 

โดย: *0* IP: 124.120.168.46 30 มกราคม 2552 0:48:30 น.  

 

พรุ่งนี้จะลงรายละเอียด ส่วนผสม purewhite ค่ะ แล้วว่างๆตามด้วยครีมแอลเอ็ก จะได้เป็นวิทยาทานแก่ผู้บริโภคที่จำตัดสินใจใช้ค่ะ

 

โดย: ว่าไปตามเนื้อผ้า IP: 118.172.166.5 2 กุมภาพันธ์ 2552 23:31:39 น.  

 

Artistry purewhite cleanser 125g -1450 Bอันนี้เปงคลีนเซอร์ค่ะ สำหรับผิวมัน
water,sodium lauroyl Glutamate,butylen glycol,glycerin,sodium C14-16 olefin sulfonate,peg-150 stearate coconut acid,peg-150 distearate,peg-160 sorbitan triisostearate,peg-40 hydrogenated castor oil PCA isostearate,bispeg/peg-20-20 dimethicone,disteareth-5 lauroyl glutamate,methylparaben,fragrance,magnesium aluminum silicate,sodium pca,polyethylene,ethoxydiglycol,propolyneglycol,panthenol,alcohol denate.,hydrolyzed oats,arctostaphylos UVA ursi leaf extract,camellia sinensis leaf extract,dipotassium glycyrrhizate,proline,acid blue 9 alluminium lake(CI 42090),magnesium ascorbyl phosphate,asparagus officinalis stem extract,cimicifuga racemosa root extract,urea lactobacillus/acerrola gherry ferment,trehalose,lecithin,sodium hyaluronate,yeast extract,polyquaternium 51, hydrolyzed potato protein,citrus aurantium amara (bitter orange) peel extract, ceramide 3, chamomilla recutita (matricaria) flower extract,rosemarinus officinalis(rosemary) leaf extract,ergothioneine,beta-sitosterol,akebia trifoliata stem extract
แฮ่กๆๆๆ เดวมาต่อตาลาย
เค้าบอกว่าใช้แล้วหน้าจะมันลดลง 90% ความคิดเห็นส่วนตัวต่อผลิตภัณฑ์ (ย้ำ ****ส่วนตัว***) โดยส่วนตัวเป็นคนผิวมันถึงมันมาก รูขุมขนกว้าง สิวอุดตัน สิวเสี้ยนบ้างเล็กน้อย หลังจากใช้มา 4 เดือน พบว่าหน้าหมองลงจนคนทัก ดิชั้นสมัครเปงนักธุรกิจด้วยนะ มะกล้าไปขายให้ใครเลยเพราะตัวเองใช้ยังรู้สึกว่าหน้ามันมาก อัพไลน์ก็บอกต้องใช้ให้ครบทุกตัว ก็เพิ่ม สกินรีฟินิชชิ่ง แล้วก็ เอสเซนส์ ไปอีก ยังมะรุสึกว่ามีความเปลี่ยนแปลงนะคะ นอกจากหน้ามันถึงมันมากที่สุด ใช้ซับมันวันละหลายแผ่น อยู่มาวันนึงอัพไลน์ก็พาไปขายชุดเพียวไวท์ ได้มา 1 ชุด คนซื้อหน้าเปงสิวอักเสบ (อยากสวยเหมือนกันค่ะ) แรกๆทุกอย่างสวยหรู แอบงง ตรูทะมายมะเปลี่ยนแปลงเลยวุ้ย อาทิตย์ที่ 2 ลูกค้าโทรมาเลยกองทัพสิวเห่อเต็มหน้า ต้องเรียกว่ากองทัพจริงๆ ตัวเองยังมะกล้ามองหน้าลูกค้าเลย ตาม step ค่ะ อัพไลน์บอกให้เค้าทานโปรตีน กาลิค (กระเทียมอัดเม็ด) แล้วให้ทนใช้อีกซักพัก รวมระยะเวลาประมาณ 3 เดือน (ในเวลา 3 เดือนต้องคอยไปปรับการใช้งานทุกอาทิตย์ เช่น ใช้โฟมอย่างเดียว หยุดโทนเนอร์ หยุดมอยเจอไรเซอร์ บีบโฟมเท่าขี้ตาแมว) เฮ้อ!! สารพัด ผู้ชำนาญการที่จะแนะนำมา ทำทุกวิธี แล้วเอ่อ สุดท้าย ลูกค้าทนไม่ไหวเนื่องจากกองทัพสิวมันมะยอมหยุดแถมหน้าเปงหลุมสิวและแผลเป็นอีกเพียบ ขอคืนผลิตภัณฑ์ ไอ้จากที่ใช้ไม่ดีคืนเงินกลายเปงว่าคืนเปงบัตรเงินสด ด้วยสปิริตอัพไลน์เลยหารคนละครึ่งกับเรา คนละ 2170 บาท ต้องเอาเงินสดไปคืนเค้าเนื่องจากฝอยไว้เยอะ บัตรที่เอาแลกสิ่งของก็เลยกลายร่างเปงแปรงชุดใหม่ของอีฟังเฮ้าไปโดยปริยาย จากนั้นตัวดิฉันเอง ก็หลุดออกจากวงโคจรด้วยความเข็ดขยาด ทุกวันนี้ยังได้แปรงไว้ดูต่างหน้า ...
ปล.ด้วยรักและคิดถึงงงงง หุหุ
ปล.2 ความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ

 

โดย: ว่าไปตามเนื้อผ้า IP: 118.173.227.232 3 กุมภาพันธ์ 2552 9:44:06 น.  

 

ครีมมอยเจอร์มีคนลงส่วนผสมไปแล้วนะคะ ขอข้ามละกันตาลาย ต่อไปเปงโทนเนอร์ค่ะ
Artistry purewhite toner 150 ml-1900 B
โทนเนอร์สูตรผิวมันเช่นกันนะคะ
water,alcohol denate.,aloe barbadensis leaf juice,glycereth-26,glycerin,salix nigar (willow) bark extract ,propylene glycol,fragrance,diazolidinyl urea,zinc pca,alpha-glucan oligosaccaride,ethoxydiglycol,methyparaben,butylene glycol benzophenon-4,disodium edta,hydrolyzed oats,penthenol,arctostaphylos UVA ursi leaf extract propylparaben,camellia sinensis leaf extract ,dipotassium glycyrrhizate,magnesium ascorbyl phophate ,copper pca,proline,sodium pca,urea,lactobacillus/acerola cherry ferment,trehalose,lecithin,sodium hyaluronate,yeast extract,hydrolyzed potato protein,polyquaternium-51 citrus aurantium amara (bitter orange) ,peel extract,chamomilla recutita (matricaria) flower extract,ceramind 3,ergothioneine,rosmarinus officinalis(rosemary) leaf extract,beta-sitosterol,akebia trifoliata stem extract

รอคุณเป้มารีวิว ค่ะ

 

โดย: ว่าไปตามเนื้อผ้า IP: 118.173.227.232 3 กุมภาพันธ์ 2552 10:09:25 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณว่าไปตามเนื้อผ้า
ชื่อของคุณได้ใจชมพู่มากนะค่ะ ใช่ค่ะเวลาเราจะวิจารณ์เครื่องสำอางค์ส่วนใหญ่ต้องว่าไปตามเนื้อผ้าค่ะ ว่าตัวนั้นๆ มีส่วนผสมอะไรที่อยู่ข้างใน ตรงๆ เหมือนเลือกซื้อผ้าเลยค่ะ
ชมพู่เคยใช้นะค่ะ แต่ดันนำผลิตภัณฑ์ไปแลกเป็นเงินคืนแล้ว และก่อนที่จะมารู้จักกับคุณปูเป้ด้วย เลยไม่ได้ดูเลยจริงๆค่ะ
มาวันนี้ได้เห็นแล้ว ต้องบอกว่า เฮ้อ................... เป็นเช่นนี้อีก (ตามเคย) ค่ะ
ก็คือว่า ส่วนผสมที่อลังการ งานสร้าง เลศเลอเพอร์เฟ็คส์ หรือสิ่งที่นักธุรกิจแอมเวย์โม้ซะเหลือเกินว่า ธรรมช๊าต...... ธรรมชาติ เอ่อ ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาบรรยายแล้วค่ะ
มันดันไปอยู่หลังสารกันเสียและน้ำหอมเช่นเคยและ อีกแล้วค่ะ
เฮ้อ....... แค่ดูส่วนผสม ถึงยังไม่ได้บอกชื่อยี่ห้อ ชมพู่ดูปราดเดียวก็รู้ค่ะ เพราะชื่อยี่ห้อต้นๆ ที่เข้ามาในหัวก็ artistry นี่แหละ
มันช่างเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นดังมากๆ แต่ไม่ใช่เรื่องที่ดีนะค่ะ
ขอขอบคุณคุณว่าไปตามเนื้อผ้า ด้วยที่ช่วยเอาความจริงอันนี้มาตีแผ่ให้บุคคลทั่วไปได้รับรู้นะค่ะ
และจากประสบการณ์ที่คุณเล่ามา ชมพู่มองเห็นภาพเลยค่ะ ว่านักธุรกิจแอมเวย์ อัพไลน์คนนั้นทำหน้าทำตา หรือลักษณะท่าทางอย่างไรด้วย ตกอยู่ในห้วงภวังค์ค่ะ เพราะเคยโดนแบบนี้ในอดีตมาเยอะมากแล้ว
ถือว่าเป็นกรณีศึกษาอันหนึ่งที่ดีมากนะค่ะ เห็นได้ชัดว่าคำพูดพร่ำพรรณา ดีเลิศประเสริฐศรี หรือ placebo effect อย่างไรก็ไม่ที่จะสามารถโน้มน้าวลูกค้าให้กลับมาฟังน่าชื่น ตาแป๋วได้อีกแล้ว
และใช่จริงๆค่ะ เค้ามักจะขายคู่กับ Nutrilite ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของแอมเวย์ ซึ่งมันก็ไม่ได้แย่หรอกค่ะ แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย (แม้แต่น้อย)
รอดูส่วนผสม Artistry Creme L/X เช่นกันค่ะ แต่บอกได้เลยค่ะว่าตัวนี้ต้องมี petroletum เยอะมากๆค่ะ เพราะเคยลองใช้มาแล้ว

 

โดย: ชมพู่ IP: 202.28.27.3 3 กุมภาพันธ์ 2552 17:39:50 น.  

 

แหม่ ฟังคุณชมพู่แล้วดิฉันก็เห็นด้วยเต็มๆค่ะ เพราะจะมีใครบ้างหล่ะค่ะที่จะเป็นนักธุระกิจแล้วไม่ได้ขายของตัวเอง จิงๆแล้วนะค่ะดิฉันว่าการที่หลายท่านเข้ามาโพสข้อความต่างๆนั้นก็ย่อมมีอะไรที่แตกต่างกันนะค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่ดิฉันเห็นและตรงใจเลยคือคุณภาพยอดแย่ของเขาอ่าค่ะ แย่มากมาย ไม่เห็นเป็นอย่างที่เขาพูดว่าดีนักดีหนาหรอกค่ะ อาร์ทิสทรีเหรอค่ะ ให้ฟรีๆยังไม่เอาเลยค่ะน้ำหอมก็แรงมาก แอลกอฮอร์เยอะอีกต่างหาก นักธุระกิจก็จ่องแต่จะขายของ ดิฉันขอใช้คำอ่า " ลัทธิแอมเวย์ " แล้วกันนะค่ะสำหรับสาวกแอมเวย์ที่แสนจะสุดห่วย ชีวิตนี้กุหลาบจะไม่ขอใช้ของแอมเวย์อีกแล้วค่ะ เบื่อมากพวกชอบตื้อขายของ ดิฉันคิดว่าชีวิตนี้เราเป็นคนกำหนดเองนะค่ะ ถ้าใครจะเชื่อว่าทำธุระกิจแอมเวย์แล้วรวยก็เชื่อไปเถอะค่ะ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่ายากมากเลยค่ะเพราะมันเป็นหนทางอันสุดแสนไกลเลนะค่ะที่จะไปถึงสู่เราเอาเวลาไปทำงานนองเวลาซะจะดีกว่า ไม่ต้องนั้งรอว่าเมื่อไรจะถึงเป้า เมื่อไรจะได้ระดับ เมื่อไรจะได้เงิน เนื่อยนะค่ะ แต่ก็ให้กำลังใจนะค่ะกับพวกบ้าแอมเวย์ทั้งหลาย ผลิตภัณฑ์ก็ไม่เห็นจะดีเลิศอย่างที่พูดไว้หรอกค่ะ เป็นแค่สิ่งหรอกซะเท่านั้น เราเลิกกันค่ะแอมเวย์ บ๊ายบายนะค่ะพวกสาวกลัทธิแอมเวย์

 

โดย: กุหลาบ IP: 118.172.20.144 3 กุมภาพันธ์ 2552 22:04:29 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณกุหลาบ
ชมพู่ก็ได้ลงทัศนความเห็นว่าตำหนิติเตียนแบรนด์อาร์ทิสทรีนี้มาก็เยอะนะค่ะ
แต่อย่างไรก็ตามแต่แบรนด์นี้ก็ยังมีข้อดีอยู่หลายข้อเหมือนกันนะค่ะ
เหมือนแบรนด์ในท้องตลาดหลากหลายทั่วๆไปหนะค่ะ ที่มีทั้งข้อดีและมีข้อเสีย
แต่ก็อย่างว่านะค่ะ เพราะว่าแบรนด์นี้ดันมาผูกกับธุรกิจขายตรงอิสระ ที่เหล่าท่านนักธุรกิจแอมเวย์เห็นว่า ยิ่งใหญ่ ไม่มีใครเหมือน เป็นโอกาสที่ดีที่สุด หรือแม้แต่ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น อะไรทำนองนี้แหละค่ะ
ชมพู่ต้องบอกว่า อย่างไรก็ตามแต่ มิสามารถที่จะปฏิเสธได้นะค่ะ ว่าผลิตภัณฑ์นี่แหละที่เป็นจุดหลักของธุรกิจ ไอ้ที่บอกมาว่าเมื่อประสบความสำเร็จจะทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างโน้น อย่างนี้ ล่องเรือสำราญ ท่องเที่ยวต่างประเทศ หรืออะไรทำนองนี้ค่ะที่เหล่านักธุรกิจแอมเวย์ที่สำเร็จระดับสูงๆพยายามโน้มน้าว มันก็อีกเรื่องหนึ่งค่ะ คนละเรื่องกันเลย
ผลิตภัณฑ์เป็นจุดแข็งจริงๆค่ะ เป็นสิ่งที่จะต้องโฟกัส เมื่อผลิตภัณฑ์ก็ไม่มีอะไรโดดเด่น หรือมีข้อดีที่แตกต่างกว่าท้องตลาด มันก้จึงไม่แตกต่างอะไรกับ เสมือนคุณภาพทัดเทียมกับของ "ตลาด" ค่ะ
สิ่งที่แบรนด์นี้มีต่างจากท้องตลาดจริงๆ และก็มากมายเสียด้วย ก็แค่ คำโม้โอ้อวด ที่ไม่มีในโลกของความเป็นจริงค่ะ ทั้งเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์และคุณภาพ ที่ทำให้ดูเชื่อถือมากยิ่งขึ้นนะค่ะ อีกทั้งผสานกับการพูดถึงโลกแห่งความสวยงามทุกด้าน เมื่อสำเร็จกับธุรกิจนี้ จึงทำให้ดูน่าเชื่อถือ เท่านั้นเองค่ะ

 

โดย: ชมพู่ IP: 202.28.25.182 4 กุมภาพันธ์ 2552 14:21:18 น.  

 

สวัสดีคุณชมพู่ เช่นกันค่ะ ส่วนผสมของแอลเอ็ก รอสักพักนะคะหากล่องมะเจอ แงบๆๆ คือแพคเกจมันสวยมีคนขอไปดูแล้วไว้ไหนมะรุค่ะ ต้องไปตามถามก่อง แหะๆๆ รอคุณเป้มารีวิวไลน์เพียวไวท์ก่อนละกันค่า ตอนนี้สั่งพอลล่ามาทั้งชุดเลยค่ะ งุงุ พักหลังไปเสียเงินกับแบรดเกาหลีไม่น้อยเหมือนกัน พอมาอ่านบลอคคุณเป้ แล้วลองเลือกๆที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองมาลองใช้ดูค่ะ ตอนนี้ก็มี one step cleanser ตามด้วย2%BHA (กลางวัน)8%AHA(กลางคืน)แล้วSkin Balancing Moisture Gel ต่อด้วยSuper Antioxidant Concentrate Serum ปิดท้ายUltra-Light Weightless Finish SPF 30 Sunscreen Spray แล้วก็มีมารสคาร์บอน อาทิตย์ละครั้ง มากไปป่าวมะรุนะเนี่ย ซื้อdifferin มาแล้วแต่ยังมะกล้าใช้เพราะอยากใช้ AHA ก่อน งิงิ แบบว่ากำลัง in love ป้าพอลล่าง่ะ อ๊างงงงงงงค์

 

โดย: ว่าไปตามเนื้อผ้า IP: 118.172.166.48 4 กุมภาพันธ์ 2552 22:07:27 น.  

 

โอ... ไม่ได้แวะเข้ามาหลายวัน มีการแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างสร้างสรรค์เกิดขึ้น อ่านแล้วชื่นใจจริง ๆ :D

ต้องขอบคุณสำหรับส่วนผสมของ Pure White นขอรับ

ตอนนี้ปูเป้มีส่วนผสมของ Pure White Cleanser , Toner I และ Toner II

ส่วนมอยซ์เจอไรเซอร์ที่แนบมาใน Comment # 52 นั้นไมไ่ด้บอกว่าเป็น Pure White Moisture I หรือ II ก็เลยยังไม่แน่นอนขอรับ

ถ้าใครมีข้อมูลเรื่องส่วนผสมและอยากช่วยเหลือก็รบกวนพิมพ์ส่งมาหรือแนบเป็นรูปภาพที่เห็นส่วนประกอบชัดเจนมาแทนก็ได้นะขอรับ :D

จากส่วนผสมที่ได้มา Cleanser มีสารทำความสะอาดที่ไม่แรงไปหน่อย และ Toner-II สพหรับผิวมันก็แอลกอฮอล์ตรึม Toner - I ไม่มีแอลกอฮอล์ก็จริง แต่ก็ไม่มีอะไรนอกจากว่านหางจรเข้กับ Biosaccharide Gum-1 นอกนั้นก็เป็นน้ำหอมแล้วก็สารกันเสีย ส่วนผสมที่มีประโยชน์กับผิวอื่น ๆ มีน้อยมากจริง ๆ

 

โดย: PuPe_so_Sweet 4 กุมภาพันธ์ 2552 23:36:12 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณเป้ คือไลน์เพียวไวท์ขวดมันจะเหมือนกันหมดค่ะ แยกไม่ออกเลยต่างแค่ I และ II ขีด แค่นั้นเอง ส่วนรูปที่เห็นส่วนประกอบจะส่งให้ที่อีเมลละกันนะคะ
Cleanser ใช้ตัวเดียวกันค่ะ ผิวแห้งใช้ I ขีด โทนเนอร์และมอยเจอร์ค่ะ ส่วนผิวมันใช้ II ขีดโทนเนอร์และมอยเจอร์

 

โดย: ว่าไปตามเนื้อผ้า IP: 118.173.227.160 5 กุมภาพันธ์ 2552 10:27:38 น.  

 

แสดงความเห็นค่ะ
ชมพู่ลงความเห็นว่า
แพกเกจจิ้งของ Artistry Creme L/X นี้สวยงาม สง่ามากนะค่ะ ทางการตลาดถึงขั้นมาบอกว่าถูกดีไซน์ขึ้นโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดัง...... โอลิเวียร์ แวนดอน
จำๆ มาหนะค่ะ เป็นครีมที่อยู่ในกล่องพลาสติกทรงกลม แถมยังมีพายตักให้อีกต่างหาก โอ้ว..... หรูหรามาก ราคาก็ 12,000 บาท อลังการมากค่ะ
แต่อย่างไรก็ตามแต่ แพกเกจจิ้งที่ถูกรังสรรค์โดยดีไซน์เนอร์ชื่อดังนี้กลับเป็นแบบกระปุกค่ะ ซึ่งสารสกัดอันเยี่ยมยอด ถึงกับบอกว่าธรรมชาตินี้ เดิมก็ใส่มาเพียงแค่ซาก antioxidant เท่านั้น ยิ่งมาอยู่ในกระปุกอีกต่างหากจึงกลายเป็นวิญญาณไปทันใดค่ะ
ไม่พอดีไซน์เนอร์ยังดีไซน์ได้เยี่อมยอดมากอีก คือทำให้ฐานกระปุกแคบ ปากกระปุกใหญ่ ยิ่งหมายความว่าความน่าจะเป็นที่จะกลายเป็นวิญญาณ antioxidant ยิ่งมีมากไปอีก
โอ้ว..... ที่บอกกล่าวมานี่เค้าใช้เวลาตั้งหลายปีในการดีไซน์นะค่ะ
การนำความรู้ด้านการออกแบบมาใช้กับรูปลักษณ์เครื่องสำอาง จริงๆแล้วนักดีไซน์เนอร์ควรจะต้องรู้การเสื่อมสลายได้ง่ายของสารเคมีที่ใส่อยู่แล้ว นี่แสดงให้เห็นว่าการตลาดเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลมากในเรื่องนี้ ซึ่งบางทีดีไซน์เนอร์เค้าอาจจะรู้อยู่แล้วก็เป็นได้ แต่เค้าก็ไม่ใช่ผู้มีสิทธิขาดค่ะ
ส่วนเจ้า cardiolipin ซึ่งเป็น lipid ที่พบที่หัวใจ เป็นหนึ่งในจุดขายอย่างหนึ่งของตัวนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีผสมหรือปล่าว
ส่วนที่บอกว่า cardiolipin นี่แพงกว่าทองคำ 20 เท่าไหม คงต้องถามคุณปูเป้ค่ะ แต่มันคงไม่เป็นจริงหรอกค่ะ คงเป็นเพียงการตลาดอย่างหนึ่งของตัวนี้เท่านั้น ส่วนที่บอกมาว่า จะสามารถทำให้ mitochondria กลับมาทำงานให้ดีดังเดิมได้นั้น ไม่มีงานการวิจัยอิสระไหนบอกมาเลย จึงเป็นเพียงการตลาดอย่างหนึ่งอีกแล้ว
ที่บอกว่าสามารถย้อนอายุผิวได้สูงสุดถึง 15 ปี ก็ โอ้ว..... รู้ๆกันอยู่นะค่ะ impossible แน่นอนค่ะ
ส่วนไลน์ pure white นอกจากจะมี cleanser foam toner I,II moisturizer I,II ที่เป็นday creme SPF 20 PA +++ แล้วยังมี night creme , essence และ mask ด้วยค่ะ

 

โดย: ชมพู่ IP: 202.28.27.3 5 กุมภาพันธ์ 2552 15:41:58 น.  

 

คุณชมพู่ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่เป็นเกียรติแก่คณะมงกุดฑูตของแอมเวย์เป็นอย่างมากฮะ ทางผู้บริหานขอมอบผงนูทริไลท์ไว้พอกหน้า3วัน7วันเลยฮะ

 

โดย: เซ็นเตอร์มงกุดทูด IP: 125.24.130.66 6 กุมภาพันธ์ 2552 0:49:56 น.  

 

ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงดีสิค่ะ
คุณ เซ็นเตอร์มงกุดทูด.........
ดิฉันเกรงว่าเหล่า คณะมงกุดฑูตของแอมเวย์ คงจะตำหนิติเตียนดิฉันอย่างหนัก หากดิฉันเป็นนักธุรกิจของแอมเวย์อยู่ คงจะโดนไล่ให้ไปลาออกแล้วล่ะค่ะ
ทัศนคติของดิฉันต่อแอมเวย์ก็เป็นเช่นนี้แหละค่ะ เจอเรื่องลบๆมาเยอะ เลยพลอยให้มีความคิดเช่นนี้ แต่ก็รวมถึงความรู้ใหม่ที่ได้รับภายหลังด้วยนะค่ะ
ดิฉันกลับมาคิดแล้วคิดอีกก็ให้อดเสียใจ น้อยใจ เซ็ง และโกรธไม่น้อยเลยนะค่ะ ที่ที่ผ่านมาถูกข้อมูลทางการตลาดโฆษณา ชวนเชื่อเหล่านี้หลอก แต่จริงๆแล้วคงต้องโทษตัวเองมากกว่าค่ะที่หลงเชื่อ ไม่พิจารณาให้ถี่ถ้วนเสียก่อน
เงินดิฉันหนะเสียไปมากไม่ว่านะค่ะ แต่สภาพผิวหน้าดิฉันนี่สิ บาดลึกเข้าไปในจิตใจมากค่ะ
เอาล่ะค่ะ มันก็ผ่านมาแล้ว สิ่งที่ผ่านมาก็เอากลับคืน หรือหวนกลับไม่ได้แล้วค่ะ ก็ไม่อยากที่จะไปพูดถึงมันอีก จวบจนตอนนี้ดิฉันก็มีความรู้ที่มากขึ้นนะค่ะ มองทัศนคติอย่างเป็นกลางแล้ว
จริงๆแล้วนะค่ะ การที่ดิฉันเขียนติเตียนเกี่ยวกับแบรนด์และธุรกิจนี้ บางทีนะค่ะ มันอาจจะไม่ค่อยแฟร์กับทางโน้นมากซักเท่าไหร่ แต่มันก็อดไม่ได้หนะค่ะ ที่เห็นเค้าเขียนในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง กลัวว่าจะทำให้บุคคลเป็นกลางทั่วไปที่มาศึกษาข้อมูลพลอยไขว้เขวในความรู้ ก็เท่านั้นเองค่ะ

 

โดย: ชมพู่ IP: 202.28.27.3 6 กุมภาพันธ์ 2552 14:31:02 น.  

 

ฉลอง รอบ 2 เดือน ที่ไม่มีใครมา comment ค่ะ
PS. ขออภัยที่ไร้สาระนะคะ

 

โดย: ชมพู่ IP: 202.28.249.180 8 เมษายน 2552 20:19:58 น.  

 

อยากให้คุณปูเป้ ช้วยสรุปให้ด้วยครับว่า เกี่ยวกับ ครีบ แอล เอ็กซ ครับ ดีหรือไม่อย่างไร เพราะกำลังจะซื้อให้แฟน

ขอบคุณครับ

 

โดย: อยากทราบ IP: 125.24.82.42 25 เมษายน 2552 2:59:23 น.  

 

ผมเห็นว่า คนเขียนบล็อกไม่ได้มีความรู้อะไรแม้แต่น้อย แต่กล้าเขียน วิจารณ์ชาวบ้านอาคับ
เพราะคนที่ใช้จริงเค้าจะไม่พูดอย่างนี้

อีกอย่างอยากให้ทราบว่า ยาไมยาใดใช้วันเดียวแล้วหายขาด
ลองบำรุงก่อน อีกอย่างของแอมเวย์แพงจริงแต่ใช้ดีๆก้อใช้ได้หลายเดือนครับ ไม่ใช่เดือนเดียว ถ้าไม่ใช้อย่างโง่ ปราศจากการแนะนำ

 

โดย: อยากเล่าความจริง IP: 125.27.11.43 13 พฤษภาคม 2552 13:56:23 น.  

 

ครีม LX สามารถใช้ได้จริงและมีคุณภาพครับ

ทั้งนี้ในไทยมีนางแบบอย่างเกรซมาคอนเฟริมแล้วว่าดีจริง
ต่างประเทศ ก้อมีคนออกมาคอนเฟริมแล้วครับ

อยากให้เพื่อนมองที่ ความเป็นจริงกับการลองด้วยคำแนะนำจากคนเคยใช้ มากกว่าบุคคลอย่างนี้ครับ เพราะ เค้ามักจะใช้สื่อในทางที่ผิด และกลายเป็นว่าคุนเชื่อคนที่ไม่เคยรู้จักดีแต่เห็นทางเว็บคับ

 

โดย: อยากเล่าความจริง IP: 125.27.11.43 13 พฤษภาคม 2552 14:01:56 น.  

 

สำหรับคนที่ใช้แล้วแพ้
คนสามารถนำสินค้านั้นไปรับเงินคืนได้ แต่ไม่ใช่ว่าใช้จะหมดแล้วเอาเงินคืนครับ คนเรามันมีร่างกายต่างกัน แพ้ได้คับอย่าคิดมาก เกิดมาก้อต้องลองหลายๆอย่าง เด๋วก้อเจอที่ใช่เองอ่าคับ

อย่าวิจารณ์สินค้าอื่นอย่างโง่ๆอีกคับ
เพราะ ควรจะมองจากหลายๆด้านไม่ใช่มองจากด้านเดียว มันน่าอายกับตัวเอง

ปล.ชั้นเปงกลางไม่ได้อยู่ฝ่ายใคร

 

โดย: อยากเล่าความจริง IP: 125.27.11.43 13 พฤษภาคม 2552 14:10:01 น.  

 

ตอนแรกก็ว่าจะตอบนะขอรับ

แต่พออ่านเจอข้อความสุดท้ายว่า

"ปล.ชั้นเปงกลางไม่ได้อยู่ฝ่ายใคร"

แหม่... อยากหัวเราะเป็นภาษาดาวอังคาร

ปูเป้คงไม่ต้องอธิบายอะไรแล้วล่ะขอรับ เพราะมันคงไร้ประโยชน์

ไปนอนดีกว่า

 

โดย: PuPe_so_Sweet 14 พฤษภาคม 2552 3:29:07 น.  

 

ถึงคุณ อยากเล่าความจริง
ความจริงในมาตรฐานของคุณ ดูจะขัดๆ กับความจริงที่มีอยู่ในโลกของความเป็นจริงนะฮะ
สิ่งที่เหนือกว่าการโฆษณา มันมีอยู่เยอะแยะ แต่ทำไมถึงไม่ยอมโผล่พ้นขึ้นมาสักที
เหตุผลนี้ตอบได้อย่างเดียวคือ ความหลงมัวเมาจนมองข้ามและไม่ยอมฟังความจริง จากชาวบ้านชาวช่อง

 

โดย: Chompoo_X-ray 14 พฤษภาคม 2552 22:11:53 น.  

 

ช่วยรีวีว estee lauder idealist pore minimizing ทีคะ ว่าช่วยเรื่องกระชับรูขุมขนได้จิงๆ รึป่าว เหนผู้ใช้หลายคนบอกว่าดีจิง แต่ก้อยังไม่แน่ใจ พอดีผ่านมาเจอบล็อกของคุณปูเป้ก่อน เลยอยากขอคำแนะนำนะคะ

แล้วระหว่างเอสเต้ตัวดังกล่าว กับ artistry skin refinishing lotion ตัวไหนดีกว่ากันคะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ คุณปูเป้

Ingredients of EL Idealist Pore Minimizing:

Water(Aqua,Eau), Cyclopentasiloxane, Dimethicone, Polysilicone-11, Acetyl Glucosamine, Sodium Lactobionate, Morus Nigra (Mulberry) Root Extract, Yeast Extract De Levure, Serenoa Serrulata (Saw Palmetto) Fruit Extract, Triti*** Vulgare (Wheat) Germ Extract, Vitis Vinnifera (Grape) Fruit Extract, Scutellaria Baicalensis Extract, Castanea Sativa (Chestnut) Seed Extract, Camellia Sinensis (Green Tea) Leaf Extract, Hordeum Vulgare (Barley) Extract, Lavandula Angustifolia (Lavender), Amorphophallus Konjac Root Powder, Caffeine, Laminaria Saccharina Extract, Tocopheryl Acetate, Salvia Aclarea (Clary) Extract, Sodium Hyaluronate, Coriandrum Sativum (Coriander), Citrus Grandis (Grapefruit California), Cholesterol, Glycerin, Ethylhexylglycerin, Squalane, Decane, Polysorbate 20, Pantethine, Methyldihydrojasmonate, Acrylamide (Sodium) Acryolyldimethyltaurate Copolymer, Polysorbate 80, PEG 8, Ethyl 2,2, Dimethylhydrocinnamal, Phospholipids, Palmitoyl Oligopeptide, Butylene Glycol, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Gylceryl Polymetharcrylate, Sodium Glycyrrhetinate, Nordihydroguaiaretic Acid, Chlorphenesin, Phenoxyethanol, Limonene, Linalool, Iron Oxides, Mica, Titanium Dioxide

 

โดย: ติดใจบล็อกนี้จัง IP: 58.8.109.134 21 พฤษภาคม 2552 8:32:14 น.  

 

ถึงท่านผู้อ่านทุกท่าน

ปูเป้ได้ตัดสินใจ ทำให้กลุ่ม Blog ของ Artistry นั้นสามารถ Comment ได้เฉพาะผู้ที่เป็นสมาชิก Bloggang เท่านั้น เพื่อช่วยคัดกรองผู้ไม่ประสงค์ดีไปได้ส่วนหนึ่ง และปูเป้หวังว่าจะเป็นแค่การชั่วคราวเท่านั้น หลังจากเหตุการณืดีขึ้นปูเป้จะพิจารณาใหม่อีกครั้งว่าจะกลับไปเปิด Comment เสรีแบบก่าดีหรือไม่

ปูเป้ต้องขออภัยในความไม่สะดวก แต่ปูเป้ไม่มีทางเลือกขอรับ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นลามปามพาดพิงมาถึงเรื่องส่วนตัว

ปูเป้จะทำการแจ้งไปยังแบรนด์ต้นสังกัด ให้ได้ทราบเรื่องนี้และหาทางดำเนินการต่อไป สำหรับ Comment ที่ดูหมิ่นกระผม ปูเป้จะขอปรึกษาผู้รู้เพื่อดำเนินการทางกฏหมายต่อไป

 

โดย: PuPe_so_Sweet 28 พฤษภาคม 2552 22:50:57 น.  

 

แวะมาให้กำลังใจน้องปูเป้นะคะ รีวิวนี้อ่านนานมากกว่าจะจบ ตื่นเต้นและลุ้นระทึกตลอดเลย อยากขอบคุณและขอแสดงความชื่นชมน้องปูเป้จริงๆที่ได้ทำสิ่งดีๆที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆในสังคม ทั้งฉลาด เก๋ คารมดี เขียนสนุก น่าอ่านน่าติดตาม และใช้ภาษาสุภาพเสมอ

พี่ชอบ comment#94 ตรงทิ้งท้ายมากเพราะมันชัดเจน ตรง และฟังดูมีเหตุมีผลดี (ที่จริงก็ชอบทุกอันแหละค่ะ) ถ้าพี่มีบริษัทของตัวเอง พี่ก็อยากได้คนแบบปูเป้นี่แหละมาเป็นสมาชิกอยู่ด้วย เพราะพี่ว่าปูเป้เป็นคนมี"คุณภาพ" จริงๆค่ะ

 

โดย: หมูหันพันหน้า 30 พฤษภาคม 2552 16:55:03 น.  

 

สวัสดีค่ะ
เข้ามาดูรีวิวเพราะกำลังใช้ชุด Time defiance สำหรับหน้าแห้งอยู่พอดี
ตามความเห็นส่วนตัว คิดว่าคุณปูเป้รีวิวตรงกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์มากๆค่ะ

อยากขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ สามารถเป็นตัวช่วยในการพิจารณาซื้อและเลือกใช้เครื่องสำอางค์ได้ดีมากๆค่ะ ^^

ขอบคุณนะคะ
ปล. ชอบรีวิวของคุณปูเป้มากค่ะ แอบเป็นแฟนมานาน ^^

 

โดย: Maya (queenmaya ) 21 กรกฎาคม 2554 7:52:21 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


PuPe_so_Sweet
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1829 คน [?]




Advertisement


About Pupe_so_Sweet
Pupe_so_Sweet on facebook
Pupe_so_Sweet on Youtube
vr AHA project


หากมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา
สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่หน้า Wall ของ Facebook ครับ



Web Counter


Counter Start on 29 September 2008


Search by Google

ค้นหาข้อมูลและรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ต้องการภายในBlog ของปูเป้ได้ไม่ยากด้วย Google Search Box ด้านล่างนี้เลยขอรับ

Custom Search

Friends' blogs
[Add PuPe_so_Sweet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.