ความเข้าใจผิดของคนสายตาสั้น (คนหนึ่ง)
อโรคยา ปรมา ลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ใครเป็นคนคิดคำนี้นะ ช่างเป็นคำที่แน่นอนที่สุด โดยไม่ต้องการพิสูจน์ ต่อให้เป็นเศรษฐ๊พันล้าน แต่เป็นโรคนั่นโรคนี่ ผมเป็นยาจกที่แข็งแรง กินอิ่ม นอนหลับ อย่างนี้ดีกว่า
ผมเป็นคนที่แข็งแรง ไม่เคยล้มหมอนนอนเสื่อ ไม่เคยต้องไปนอนโรงพยาบาลซักครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดอ่อนในชีวิต ก็คือ สายตาสั้นมาก แบบว่าถอดแว่นก็ทำอะไรไม่ได้เลยล่ะ
ความเข้าใจผิดเรื่องที่หนึ่ง
ผมก็ไม่เคยสนใจอะไรมากเรื่องสายตา สั้นมากแว่นหนาก็ใส่คอนแทคเลนส์ สายตาเท่าไหร่ ก็กะๆ เอา ดูแล้วชัดๆ ก็ใช้ได้ เพราะคิดว่าแก่ตัวลง คนเราจะสายตายาว เราสายตาสั้น ก็ได้เปรียบคนปกติ เพราะว่ามันจะหักลบกัน เช่น จาก -9.0 พอสายตายาวมันก็อาจจะลดลงเหลือแค่ -6.0
อะไรประมาณนี้
จนเมื่อไม่นานมานี้ถึงได้รู้ว่า มันไม่เกี่ยวข้องกันเลย สาตาสั้นคือกระจกตาโค้งเกินไป ทำให้ภาพตกไม่ถึงจอรับภาพ แต่สายตายาวเกิดจาก กล้ามเนื้อทำงานล้าลงตามวัย เพราะฉนั้นเมื่อแก่ตัวลง ก็ต้องใส่แว่นสายตาสั้น เมื่อจะอ่านหนังสือก็ต้องใส่แว่นสายตายาว สลับกันไปมา
ฉนั้น นึกภาพตัวเองแก่ๆ ต้องใส่คอนแทคเลนส์มือสั่นๆ แล้ว ไม่น่าจะไหว ผ่านไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เห็นโปรโมชั่น Lasik และ PRK 45,000 บาทรวมทุกอย่างแล้ว ลองไปคุยรายละเอียด แล้วก็รอวันไปตรวจสายตา
ความเข้าใจผิดเรื่องที่สอง
หลังจากตรวจวัดสายตา จากเครื่องมือ ผมจึงรู้ว่า ตัวเองเป็นคนสายตาเอียง ก็ได้ยินคำนี้บ่อยๆ ว่าคนนั้นใส่แว่นสายตาเอียงเท่านั้น เท่านี้ ก็นึกว่า สายตาเอียงคือการที่ภาพทั้งสองมันไม่เท่ากัน (เอียงไง) ฉนั้นคนที่สายตาเอียงตั้องใส่แว่น ไม่งั้นคงมึนหัวแย่
ซึ่งผิดถนัด ผมเป็นคนสายตาเอียงอย่างรุนแรง แต่กลับไม่รู้ตัวมาก่อน เนื่องจากเข้าใจผิด ทั้งที่จริง สายตาเอียงนั้นทำให้ภาพไม่ชัดต่างหาก นั่นเอง ทำให้ผมเข้าใจว่า ทำไมตาขวาผมถึงอ่านไหนังสือไม่ชัดเลย ก็มันเอียงไปซะตั้ง 400 นี่นา โชคดีที่ตาข้างซ้ายไม่มีปัญหา ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมเลยเป็นคนที่ใช้สายตาข้างเดียวมาตลอดชีวิต
วันตัดสินชะตาชีวิต
หลังจากวัดความหนาของกระจกตาแล้ว หมอบอกว่ามันบางกว่าปกติ แถมผมเป็นคนสายตาสั้นมาก เมื่อยิงเลเซอร์อย่างไรก็ไม่ปกติ มันจะยังคงสั้นอยู่ -3.0 แต่มีอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถทำให้หายได้แบบปกติ ก็คือ การทำ Toric ICL ซก็คือการใส่คอนแทคเลนส์พิเศษ ที่แก้สายตาทั้งสั้นและเอียงได้ ไว้ระหว่างกระจกตาและเลนส์ตา
แต่ราคาก็บาดใจเหลือเกิน ประมาณว่าดาวน์รถเก๋งได้คันหนึ่ง
ผมยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะทำอย่างไรต่อไปในชีวิต
แต่ตอนนี้ที่รู้ ก็คือ ผมใส่ใจดวงตาที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตกว่าเดิม พยายามถอดคอนแทคเลนส์ อย่างน้อยก็ช่วงวันหยุด ไปซื้อคอนแทคเลนส์ที่แก้สายตาเอียงมาใส่ หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ แล้วก็เวลาไปไหนมาไหนก็ใส่แว่นตากันแดดตลอด
อย่างน้อยตอนนี้ก็พยายามรักษามันไว้ เพราะในอนาคตข้างหน้า เมื่อวิทยาการก้าวหน้ากว่านี้ มันอาจมีวิธีที่ดีกว่านี้และก็ราคาถูกกว่านี้ก็ได้
Create Date : 02 มิถุนายน 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 30 มิถุนายน 2553 14:27:13 น. |
Counter : 1969 Pageviews. |
|
|