Group Blog
All Blog
|
"ทางแยกชีวิต" | ถนนสายนี้...มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 283 "จุดเปลี่ยนของชีวิต" "ทางแยกชีวิต" . ถนนสายนี้...มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 283 "จุดเปลี่ยนของชีวิต" . โจทย์โดย คุณ "blue_medsai" - - - - - - - - - - - - "เคยไหม... ที่เดินมาถึงทางแยกของชีวิต แล้วต้องเลือกเส้นทางใดเส้นทางหนึ่ง ... แล้วคิดว่า... ตอนนี้...คุณตัดสินใจถูกไหม อยากกลับไปเปลี่ยนใหม่หรือเปล่า - - - - - - ครั้งหนึ่งของชีวิต... ดั้นด้นเรียนจบพระจอมเกล้าฯ. เคยเป็นสาวมั่น ทำงานเก่ง ทำงานในองค์กรมีชื่อเสียง เป็น Senior Programmer เงินเดือน 4x,xxx บาท . . แต่เมื่อเดินมาถึงทางแยกของชีวิต เราเท่านั้น ที่จะเป็นคนเลือกว่า... จะไป "ทางซ้าย หรือ "ทางขวา" . . เมื่อต้องเลือกระหว่าง "ชีวิตครอบครัว" กับ "หน้าที่การงาน" คำถามว่า "จะทำยังไงต่อไปดี?" จะเข้ามาสร้างความลังเลให้เราเสมอ . . มันก็ตัดสินใจยากอยู่ แต่คำพูดเดียวที่ทำให้ไม่ล้งเล... นั่นคือ.. "เอาลูกเป็นหลัก" แม้จะต้องสละอนาคต และความมั่นคงของตัวเอง เพื่ออนาคตของลูก... แม่คนนี้ก็ทำได้... . . ตัดสินใจลาออก ย้ายตามสามี มาเลี้ยงลูกเอง ทำอาชีพ "แม่" เต็มตัว ปลูกผักสวนครัวไป เลี้ยงลูกไป . . ถามว่า...เสียดายไหม...ตอบว่า "เสียดาย" แต่ถ้าถามว่า... มันคุ้มไหม... ก็คิดว่า..."มันคุ้ม" . . เพราะถ้ายังทำงานอยู่ ก็คงกลับบ้าน 5 ทุ่ม - ตี 2 เอางานกลับมาทำต่ออีก เสาร์อาทิตย์...บางทีก็ต้องเข้าทำงาน เทศกาลไม่ได้หยุด คงไม่มีเวลาได้คุยกับลูก ไม่มีเวลาสอนลูก ไม่มีเวลาตรวจการบ้าน ไม่มีเวลาปั้มนม ลูกก็คงไม่ได้กินนมแม่ ไม่มีเวลาทำอาหารให้ลูก จะได้เล่านิทานรึเปล่าก็ไม่รู้ ไม่มีเวลาดีๆ แบบนี้กับลูก ลูกก็ต้องไปอยู่เนิร์ส ต้องกินนมผง กลับจากโรงเรียนก็เจอแต่พี่เลี้ยง ต้องจ้างพี่เลี้ยงอีก จะดีกับลูกเรารึเปล่าก็ไม่รู้ ต้องเรียนพิเศษฆ่าเวลา เราหาเงินจ่ายค่านมผง ค่ายา ค่ารักษา ค่าวัคซีน ค่าเรียนพิเศษ ค่าล่วงเวลาเรียน ค่าเนิร์ส ค่าพี่เลี้ยง ค่าเดินทาง คิดๆ แล้ว ก็พอๆ กับเงินเดือนที่ได้เลยเนาะ ส่วนต่างที่หักกลบลบกันได้ เทียบกับเราได้เลี้ยงลูกเอง ได้อบรมลูกเอง มันก็น่าจะดีกว่า . . ถ้าไปอยู่กับปู่ย่า เจอกันได้แค่เทศกาลหยุดยาว เพราะไกล...มาก ต้องทนเห็นลูกร้องไห้ตาม..เมื่อพ่อแม่จะกลับ เลี้ยงเด็กคนนึง มันเหนื่อยนะ ขนาดเราวัยกลางคนยังเหนื่อยมาก แล้วถ้าวัยชราต้องเลี้ยงเด็ก...จะเหนื่อยขนาดไหน . . เมื่อต้องเลือกตัดสิ่งหนึ่ง เพื่ออีกชีวิตหนึ่ง จะได้เติบโตอย่างมีคุณภาพต่อสังคม ก็ไม่ได้ร่ำรวย แค่ใช้เท่าที่เรามี ถึงต้องปลูกสะระแหน่ ปลูกผักกินเองบ้าง อยู่นี่ไง . . ถ้าย้อนเวลากลับไปที่ "จุดเปลี่ยนของชีวิต" ใหม่อีกครั้ง เราก็คงจะเลือกเหมือนเดิม เพราะเราคิดว่า เราเลือกทางเดินที่ถูกแล้ว . . #มุ่งมั่นปลูกผักและเลี้ยงลูกต่อไป #ขอแค่รอยยิ้มของลูกเป็นสิ่งตอบแทน #อนาคตถ้าต้องขายกล้วยทอดก็มาอุดหนุนกันบ้างนะคะ #เขียนไว้..เผื่อจะมีใครที่กำลังตัดสินใจมาทางเดียวกับเรา จะได้รู้..ข้อดี&ข้อเสีย... ปล.ข้อเสียคือ ความมั่นคงทางการเงินของตัวเอง = 0 และเหนื่อยมั่กๆๆๆ การกินการนอนจะผันแปรตามเวลาลูกตื่นลูกหลับ Dialist Blog
40,000 บาท
คุ้มเกินค่าที่ให้ความรักความอบอุ่น เลี้ยงดูลูกน้อยด้วยตัวเอง เลือกได้ถูกต้องอย่างยิ่งค่ะ ส่งการบ้านเช่นกันนะคะ โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 8 สิงหาคม 2564 เวลา:8:59:02 น.
สวัสดีมีสุขค่ะ
เลือกถูกต้องแล้วค่ะ ลูกสำคัญสุดๆเลยนะคะ นี่คือหัวใจของคนเป็นแม่ค่ะ เข้าใจที่สุด โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 8 สิงหาคม 2564 เวลา:9:01:16 น.
ใช่เลยค่ะ ถ้าพลาดช่วงลูกเกิดจนเป็นเด็กตัวน้อยๆ ต่อให้มีเงินกี่ล้าน รวยแค่ไหนก็ซื้อวันเวลากลับมาไม่ได้เลยค่ะ
โดย: sweetstar (7Flowers ) วันที่: 8 สิงหาคม 2564 เวลา:9:34:52 น.
เอาลูก (หลาน) เป็นตัวตั้งเหมือนกันครับ ถึงจะไม่รวยเหมือนอย่างคนอื่นๆ แต่มีความสุขมว๊ากกก
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 8 สิงหาคม 2564 เวลา:9:51:00 น.
ทุกวันนี้เป็นแม่บ้าน 100% ลาออกจากงานประจำมาเลี้ยงลูกเหมือนกันค่ะ
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 8 สิงหาคม 2564 เวลา:10:32:08 น.
บางครั้งชีวิตมันก็ขัดแย้งกัน ชีวิตอยู่ได้ด้วยเงิน ไม่มีเงินก็ใช้ชีวิตลำบาก แต่เพื่อหาเงินก็จะไม่ได้ใช้ชีวิตกับครอบครัว ในยุคปัจจุบันนี้การที่พ่อแม่ลูกจะนั่งทานข้าวพร้อมหน้า เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก สมัยเรียนเราอาจถูกปลูกฝังมาแบบนั้น นี่คือครอบครัวที่อบอุ่น แต่ในความเป็นจริง ทำแทบไม่ได้เลยครับ ยิ่งใน กทม. เดินทาง 1-2 ชั่วโมงเป็นเรื่องปกติ กว่าจะเลิกงาน 18.00 น.ถึงบ้าน 20.00 น. แล้วด้วยวัฒนธรมที่ล้าหลังของประเทศเราที่มองคนกลับบ้านตรงเวลาเป็นคนไม่ขยันทำงาน ยิ่งไปกันใหญ่กว่าจะได้ออกจากออฟฟิศ อย่างน้อยๆ ก็มี 18.30 น. ล่ะ ยังไม่รวมโอที หรือโอฟรีนะ
ไม่ว่ายังไงครอบครัวก็สำคัญที่สุดครับ เสียอะไรก็เสียไป แต่ที่แห่งสุดท้ายที่จะพักใจเราได้ ก็คือที่ที่ครอบครัวเราอยู่ เมื่อถึงจุดจุดหนึ่งคนเราก็ต้องเลือก แต่ไม่ว่าเราจะเลือกทางไหน ขอให้เป็นการเลือกตามที่เราต้องการ (เราเป็นคนเลือกเอง) ไม่ใช่เลือกเพราะถูกสถานการณ์บังคับ ไม่ว่าผลมันจะเป็นอย่างไร ผมว่าใจเรามันก็พอที่จะรับได้กับผลที่เกิดขึ้น โดย: toor36 วันที่: 8 สิงหาคม 2564 เวลา:13:31:17 น.
สวัสดีค่ะ...
ตามมาอ่านงานตะพาบของเจ้าของโจทย์ โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 8 สิงหาคม 2564 เวลา:14:15:09 น.
@ตอบทุกคนเลยนะคะ
วันนี้ไปฉีดวัคซีนแอสตร้ามาค่ะ เลยตอบช้าไปหน่อย ขอบคุณทุกคนเลยนะคะ ที่มาเป็นกำลังใจ และแบ่งปันเรื่องราว เล่าสู่กันฟัง เป็นอีกคนนึงที่ให้ความสำคัญกับคำว่า "ครอบครัว" ค่อนข้างมาก ดังนั้น จึงตัดสินใจเลือกทางนี้ แม้ว่า อาจจะต้องเจอกับอุปสรรคด้านการเงินในอนาคต แต่ขอแค่ให้ลูก เติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคม แค่นี้ก็พอใจแล้วค่ะ โดย: Love Memoirist (blue_medsai ) วันที่: 8 สิงหาคม 2564 เวลา:20:44:34 น.
เรียนจบที่เดียวกับคุณก๋าเหรอครับ..
การทำงานบางทีก็เสียดายที่เก่า ผมก็เคยแต่ อีกใจ งานมันมีปัญหาทำให้เราแกร่งจากมาแล้วทำให้ เรามีความสุขมากกว่าเดิม ก็ดีนะ เรื่องเงินเดือนได้ เยอะมากนะครับ 555 ผมเคยถูกลดเงินเดือนช่วงต้มยำกุ้งเหลือครึ่ง ตัดค่าน้ำมันค่ารับรองอีก ตอนนี้เจอโควิด ตัดลงอีก 25 % แย่เลย แต่ว่า ชีวิตเรา ๆ ยังดีกว่าอีกหลายคน เราต้อง สู้ต่อครับ โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:7:19:20 น.
@ไวน์กับสายน้ำ
เรียนจบคนละพระจอมเกล้าฯ กับคุณก๋าค่ะ คนที่ลำบากกว่าเรายังมีอีกมาก ชีวิตยังไม่สิ้น เราก็ต้องดิ้นกันไปนะคะ^^ โดย: Love Memoirist (blue_medsai ) วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:8:29:25 น.
ครอบครัวสำคัญที่สุด เห็นด้วยเลยครับผมว่าเลือกถูกนะครับ
โดย: The Kop Civil วันที่: 9 สิงหาคม 2564 เวลา:10:52:15 น.
@**mp5**
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ โดย: Love Memoirist (blue_medsai ) วันที่: 12 สิงหาคม 2564 เวลา:9:12:09 น.
|
Friends Blog
|
Good choice.
ส่งการบ้านครับ