Group Blog
กุมภาพันธ์ 2564

 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
 
 
All Blog
วัยเลียนแบบ | ถนนสายนี้...มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 272 "เลียนแบบ"
"วัยเลียนแบบ"

ถนนสายนี้...มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 272 "เลียนแบบ"

โจทย์โดย คุณ "toor36"

- - - - - 


 

สมัยก่อนที่เรายังออกไปทำงานนอกบ้าน เราก็จัดว่า เป็นผู้หญิงที่แต่งตัวนิดนึง ไม่มาก แต่ก็ไม่ถึงกับไม่ทำอะไรเลย
เราสองคนเคยคิดว่า ถ้ามีลูก ก็คงจะส่งลูกไปให้ปู่ย่าเลี้ยง
แต่ก็มาคิดๆ อย่างละเอียดและรอบคอบอีกครั้ง  จึงได้ข้อสรุปว่า เลี้ยงเอง น่าจะดีกว่า
เราได้เจอลูกทุกวัน ได้อบรมสั่งสอนลูกได้ด้วยตัวเอง อยากให้ลูกเป็นเด็กแบบไหน เราปั้นเอง
ลูกก็ได้รับความรักความอบอุ่นจากเราเต็มที่ 
ไม่ต้องรอเจอพ่อแม่เฉพาะช่วงวันหยุดยาว (เพราะบ้านปู่ย่าไกลมาก)

แต่พอเราแต่งงาน แล้วย้ายตามสามีมาอยู่ที่นี่
พอมีลูก ก็เลยตัดสินใจลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง 
เป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ของตัวเองเลย
เพราะหน้าที่การงานก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี เป็น senior ด้านโปรแกรมเมอร์ เงินเดือน 4xxxx บาท 
แต่งานก็เยอะ เรียกว่า ทำงานทุกวัน 
กลับมาที่พักก็ยังหอบงานมาทำต่อ (บ้างานเต็มขั้น ชีวิตมีแต่ที่ทำงานกับที่พัก)
บางวันทำจนตี 1-2 บางทีทำ 3 วันติด ไม่หลับไม่นอน 
อารมณ์คนเขียนโปรแกรมฯ มันจะเป็นแบบนี้แหล่ะ 
เขียนเพลิน...มันก็จะหยุดไม่ได้ แต่ถ้ายังทำงานแบบนี้ มันเลี้ยงลูกเองไม่ได้นะ

เมื่อตัดสินใจออกมาเลี้ยงลูกด้วยตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ (คือ ไม่มีพี่เลี้ยง ไม่มีปู่ย่าตายายมาช่วยเลี้ยง)
จากที่เคยแต่งตัว ก็กลายเป็น ไม่แตะเสื้อผ้าสวยๆ หรือ เครื่องสำอางค์ใดๆ เลย 
ใส่แต่เสื้อให้นม กับกางเกงธรรมดาๆ เพราะเราเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ 
เรื่องแต่งหน้า แต่งตัว ไม่ต้องพูดถึง แค่มีเวลานอน ก็ดีมากแล้ว
แต่โชคดีที่ลูกเรา เป็นเด็กที่มีการนอนที่ดี นอนครั้งละ 2-4 ชม. 
ทำให้เรามีเวลาทำงานบ้าน และได้งีบยาวหน่อย 


 


 

ด้วยนิสัยที่เป็นคน ห้าวๆ ลุยๆ บวกกับการไม่แต่งตัว
เวลาไปไหนกับลูก คนจะคิดว่า เราเป็นแค่พี่เลี้ยง ไม่ใช่แม่เจ้าเด็กคนนี้
เพราะว่าสภาพเรานี่ เหมือนนังแจ๋วเลย 
ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ผิวพรรณไม่สดใส ตาโทรมๆ 
แถมหน้าก็เริ่มมีฝ้าจางๆ ที่เกิดจากการตั้งครรภ์
แต่เราก็ไม่เคยแคร์สายตาใคร 
จนคนแถวนี้ คิดว่า เราคงเป็นคนไม่แต่งตัวมั้ง (เพราะเราก็เพิ่งย้ายตามสามีมาอยู่แถวนี้)

(อธิบายเพิ่มนิดนึง ด้วยสถานะ แถวนี้จะเรียกเราว่า คุณนายผู้พัน
ซึ่งคุณนายแถวนี้ เค้าแต่งหน้าแต่งตัว หิ้วแบรนด์เนมกัน
บางคนก็เป็นคุณหนูมาจากตระกูลร่ำรวย มียศฐาบรรดาศักดิ์ มีบารมีของพ่อแม่หนุน
ซึ่งต่างกับเรามากนะ ส่วนเราเป็นคุณนายแบบชอบเอามือจกดิน
ปลูกต้นไม้ ดอกไม้ ปลูกเยอะมาก โดยเฉพาะบัวดิน และทำด้วยตัวเองทุกอย่าง
ทั้งยกแปลงบัว หมักปุ๋ย ผสมดิน ไม่เรียก ไม่จ้างใคร
ซึ่งแถวนี้ก็จะมีเราคนเดียวนี่แหล่ะ ที่เป็นคุณนายแบบนี้ //แค่บรรยายเพิ่มให้เห็นภาพชัดขึ้นค่ะ)


 


 

จนกระทั่งลูก 3.8 ขวบ เข้าอนุบาล 1 
เราไม่เอาลูกเข้าโรงเรียนเร็ว เพราะเราต้องการให้ลูกได้กินนมแม่เต็มที่ (ลูกเลยได้กินนมแม่จนถึง 4.6 ขวบ)
เราก็เลยงัดเครื่องสำอางค์ออกมาทาปิดฝ้าจางๆ ที่หน้านิดนึง เวลาออกไปรับส่งลูกที่โรงเรียน
พอลูกเห็นเรากำลังแต่งหน้า ลูกก็ถามว่า คุณแม่ทำอะไร อันนี้คืออะไร อันนี้ไว้ทำอะไร 
หลังจากนั้น ก็มักจะเห็นลูกไปวนเวียนรอบชั้นเครื่องแต่งหน้าของคุณแม่
หยิบนั่นหยิบนี่ขึ้นมาดู มาเล่น บางทีก็วิ่งมาถาม คุณแม่ อันนี้ไว้ทำอะไรนะ
พอเห็นคุณแม่ใส่ชุดสวย ก็อยากจะใส่แบบนี้บ้าง 
คือเด็กเค้าคิดว่า นี่คือของเล่นของคุณแม่ เค้าก็อยากจะเล่นมั่ง
เจอไป 3-4 ครั้ง คุณแม่เลิกแต่งหน้า แต่งตัวเลยค่ะ กลับไปเป็นนังแจ๋วเหมือนเดิม
เก็บทุกอย่างลงกล่อง จะหมดอายุก็หมดไป ไว้ค่อยหาซื้อเอาใหม่


 


 

เพราะ...ไอดอลคนแรกของลูก ก็คือ แม่ (หรือคนที่เลี้ยงเค้า)
แม่ทำแบบไหน ลูกก็จะทำตามแบบนั้น
เพราะเค้ากำลังอยู่ในช่วง...วัยเลียนแบบ
คุณแม่ก็เลยไม่แต่งหน้า ไม่แต่งตัว ไม่ทำให้ลูกเห็นอีกเลย
เสื้อลูกไม้ ระบายๆ สวยๆ กระโปรง ชุดแซก เครื่องสำอางค์ เก็บลงกล่องหมด 
ใส่แต่กางเกงยีนส์ เสื้อยืด เสื้อมีปก

จนกระทั่งลูก 7.5 ขวบ เริ่มลงแข่งขันกอล์ฟเยาวชน
คุณแม่เลยแต่งหน้านิดนึง ขอหน่อยเหอะนะ ขอปิดฝ้าที่หน้านิดนึง
ลูกก็มาเห็นเข้าอีก เค้าก็ไม่สนใจเลยค่ะ ว่าเราจะทำอะไรอยู่
เราก็เลยลองยื่นบลัชออน กับลิปสติกให้เค้า
เค้าก็หลบ บอกว่า ไม่เอา มันเลอะ 
นี่มันของผู้หญิง ไม่ใช่ของผู้ชายนะ

อ่าาาาา พูดแบบนี้ แสดงว่า คุณแม่แต่งหน้าได้แล้วใช่ไม๊
แกะกล่อง หยิบกระโปรง หยิบชุดแซก ออกมาใส่ได้แล้ว
ตอนนี้ จะแต่งหน้า หรือจะใส่กระโปรง จะแต่งแบบไหน
ลูกก็ไม่สนใจอยากจะทำตามแล้วค่ะ 
แต่กลับชอบ บอกว่า คุณแม่สวย

7.5 ปีเลยทีเดียว +ท้อง 9 เดือน ที่เลิกแต่งหน้าแต่งตัวไป 
ในที่สุด คุณแม่ก็ได้กลับมาแต่งตัวแล้ววววววว

เพื่อลูก...ทำได้ทุกอย่าง




 



Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2564
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2564 8:55:14 น.
Counter : 785 Pageviews.

11 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณThe Kop Civil, คุณtoor36, คุณหอมกร

  
เจอโปรแกรมเมอร์ตัวจริงเข้าแล้ว...

การตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง ก็ดี บางครั้งก็
ไม่ดีเหมือนกัน 555
แต่ตัดสินใจเลี้ยงลูกด้วยตนเองผมว่าดีนะครับ
อยู่ใกล้ชิด ถ่ายทอดบางอย่างให้เขาได้

ผมก็เขียน เลียนแบบ นี้เหมือนกันเกี่ยวกับ
โปรแกรมเมอร์เหมือนกันครับ
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:31:18 น.
  
@ไวน์กับสายน้ำ

ตอนแรกก็คิดว่า คิดดีหรือยังนะ
แต่ตอนนี้ คิดว่า คุ้มค่ามากค่ะ ที่ลาออกมาเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง

โดย: Love Memoirist (blue_medsai ) วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:10:12:13 น.
  
พอมีลูก
ชีวิตส่วนตัวจะหายไปจริงๆครับ
ช่วงเลี้ยงลูกกันเองกับมาดาม
ผมว่ามันเหนื่อยมากๆแต่ก็มีความสุขมากๆด้วยเช่นกัน

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:31:29 น.
  
อยากเห็นนักกีฬากอล์ฟคนต่อไปละครับ
โดย: The Kop Civil วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:44:06 น.
  
@กะว่าก๋า

ชีวิตส่วนตัว หายไปจริงๆ ค่ะ
อะไรๆ เราก็จะคิดเพื่อลูก
เหนื่อย แต่ก็มีความสุขค่ะ

โดย: Love Memoirist (blue_medsai ) วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:14:15:14 น.
  
ขอบคุณครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:14:44:28 น.
  
เด็กเลียนแบบคนใกล้ตัวจริงๆ ครับ ดังนั้นพ่อแม่จึงอยากเลือกโรงเรียนดีๆ ให้ลูกจะได้เจอสังคมที่ดีหน่อย ไม่ต้องเจอพวกหยาบคาย เพราะเด็กมันก็เลียนแบบผู้ใหญ่นี่แหละ

ผมเคยนั่งคิดเล่นเหมือนกันว่าประเทศเราที่เขาบอกว่าคนขี้เกียจ มันขี้เกียจจริงหรือ? ทำไมเราทำงานหนักกันขนาดนี้ แล้วเป็นกันทุกบริษัทด้วย เราออกจากบ้านแต่เช้า 7 โมง กลับถึงบ้าน เกือบๆ 3 ทุ่ม

ในขณะที่มีการรณรงค์กันว่า เด็กอายุ 0-6 ปี เป็นวัยที่พ่อแม่ต้องเล่นกับเขานะ ช่วงนี้สำคัญมาก แต่ในขณะที่ทำงานหาเงินแทบตายแต่มันกลับไม่พอใช้ แถมเวบายังไม่ค่อยจะมี มาดูตอนนี้สิครับทำไม่คนไม่ค่อยอยากจะมีลูกล่ะ

เด็กไปโรงเรียนเข้าแถวตอนเช้า 7.30 น. บางที่อาจ 8.00 น. เลิกเรียนประมาณ 15.30 น. จะไปรับยังไง ยังไม่เลิกงาน (ต้องพึ่งพารถโรงเรียนสินะ + ต่าใช้จ่ายเข้าไปอีก) พอเด็กกลับถึงบ้าน ใครจะสอนเด็กทำการบ้านล่ะ พ่อแม่ยังไม่เลิกงานนะ และเวลา 20.30 น. เด็กควรจะต้องเข้านอน ในขณะที่บางครั้งพ่อแม่มันยังไม่เลิกงาน หรือติดอยู่บนท้องถนน

ประเทศเรามันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ แต่มันผิดพลาดที่ตรงไหนล่ะมันถึงเละเทะในเรื่องการเลี้ยงเด็กแบบนี้


อันนี้ที่มาแลกเปลี่ยนผมพูดในมุมมองของมนุษย์เงินเดือนทั่วไปนะครับ
โดย: toor36 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:15:09:41 น.
  
@toor36

เห็นด้วยทุกประการเลยค่ะ ^^

ประเทศเรามีอะไรที่ผิดพลาดเยอะมากกก...ค่ะ

ช่วงวัย 0-6 ปี เป็นช่วงวัยที่สำคัญมากจริงๆ

เพราะต้องการเป็นต้นแบบที่ดีให้ลูก ไม่อยากให้ลูกไปเอาต้นแบบจากพี่เลี้ยงหรือคนอื่น
เพราะต้องการมีเวลากับลูกช่วงวัยเด็กให้มากๆ ให้เค้าได้รับความอบอุ่นเต็มที่
โตมาจะได้เป็นคนที่มีนิสัยดี ความคิดดี ไม่เป็นปัญหาสังคม
ไม่อยากให้โตไปเป็นคนนิสัยไม่ดี แล้วถึงตอนนั้น จะไปสั่งสอนอบรม ดัดนิสัย มันก็ยากแล้วค่ะ

ถึงตอนนี้ ก็คิดว่า คุ้มค่าแล้ว ที่ลงทุนลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกด้วยตัวเองค่ะ



โดย: Love Memoirist (blue_medsai ) วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:15:25:39 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:6:34:41 น.
  
@The Kop Civil

ถ้าไม่เบื่อ ไม่ท้อไปซะก่อนนะคะ ^^



โดย: Love Memoirist (blue_medsai ) วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:11:56:57 น.
  
เยี่ยมมากค่ะคุณแม่
อย่างนี้เขาเรียกว่าเลี้ยงลูกด้วยความใส่ใจนะคะ

โดย: หอมกร วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:8:17:25 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

blue_medsai
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



✿♥‿♥✿ เขียนบทความเกี่ยวกับความรัก ข้อคิดดีๆ ในการใช้ชีวิต(★^∀^★) (✿♥‿♥)เรื่องย่อซีรีส์ที่ชอบ🌟🌟
🌸🌸และบัวดิน...ดอกไม้ที่ใช่🌸🌸
เรื่องย่อซีรีส์ by i-Jira
Love Memoirist
นางฟ้าเดินดิน-Rain Lily
The Reason Why Is
การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
My Bloggang
My Maggang
New Comments