Interstellar หนังไซไฟที่สอดแทรกความรักข้ามห้วงอวกาศ มิติและกาลเวลา




ทะยานดาวกู้โลก Interstellar (2014)

"เราเคยเงยหน้ามองฟ้าและสงสัยว่า เราอยู่ที่ไหนในหมู่ดาว 
เดี๋ยวนี้เรามองลงมาและสงสัยว่า เราอยู่ไหนในกองดิน"

ในยุคสมัยที่การสำรวจอวกาศถูกมองว่าเป็นเพียงทฤษฎีสมคบคิดตำรับตำราเกี่ยวกับอวกาศในยุคนั้นถูกมองว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันยามที่ใครเอ่ยถึงมัน

ปัญหาเร่งด่วนที่สำคัญสุดยิ่งกว่านั้นคือ การขาดแคลนอาหารสร้างความอดอยากและพืชติดเชื้อโรคที่ทำให้ก๊าซไนโตรเจนเพิ่มสูงขึ้น ฝุ่นคละคลุ้งสร้างมลพิษทางอากาศ ทำให้โลกในอนาคตในรุ่นลูกรุ่นหลานอาจจะอยู่อาศัยไม่ได้ 

"คูเปอร์" อดีตนักบินอวกาศของ NASA ตกอับ ซึ่งทำไร่ทำฟาร์มอยู่กับลูกสาว "เมิร์ฟ" และลูกชาย "ทอม" โดยที่ภรรยาของเขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว 

วันดีคืนดีเมิร์ฟก็บอกพ่อว่ามีผีในห้องทำหนังสือและโมเดลในชั้นหนังสือตกหล่น
โดรนของอินเดียก็บินผ่านไร่ของเขา ทั้ง 2 สิ่งนี้นำพาเขาไปพบกับฐานลับของอดีตองค์กร NASA ซึ่งกำลังมีภารกิจลาซารัส แสวงหาดวงดาวใหม่ให้มนุษย์อพยพไปอยู่อาศัย ด้วยเกิดพบรูหนอน "การ์แกนทัว"ในบริเวณดาวเสาร์ รูหนอนที่เชื่อมต่อทะลุไปอีกกาแลกซี่หนึ่งที่พวกเขาค้นพบว่า มีดวงดาวที่น่าจะอยู่อาศัยได้อยู่ 3 ดวง 

คูเปอร์จำเป็นต้องไปกับยานเอนดูแรนซ์เพื่อปืนป่ายภูเขาแห่งอนาคตให้กับมนุษยชาติ ขณะเดียวกันก็ต้องข้ามเหวแห่งอดีตทิ้งลูกทั้ง 2 คนด้วยความรักไว้ข้างหลัง โดยมีความหวังว่าจะได้กลับมาพบลูกอีกครั้งหลังภารกิจสำเร็จ

"ถ้าเราจะก้าวไปข้างหน้า บางทีเราต้องทิ้งบางอย่างไว้ข้างหลัง"

เพราะ...

"เขาไม่ได้พาเรามาเพื่อแก้ไขอดีต"
..............................................................................

จำได้ว่าตอนดูรอบแรกในโรงชอบมากถึงขั้นยกให้เป็นหนังยอดเยี่ยมแห่งปีนั้นเลย เป็นหนังที่ชอบมากที่สุดเท่าที่เคยดูมาของผู้กำกับ Christopher Nolan พอๆกับ Inception เลย แม้มีโอกาสดูรอบ 2 ในหลายต่อหลายครั้ง แต่ส่วนมากจะไม่ได้ตั้งใจดูหรือดูไม่ปะติดปะต่อเท่าไหร่ คราวนี้ Mono 29 เอามาฉายอีกครั้ง เลยตั้งใจดูอย่างเต็มที่ หลังจากดู 2001 A Space Odyssey ในโรงไปแล้ว เลยเห็นอิทธิพลของหนังเรื่องนี้เต็มๆ

หนังดูสนุกและดูเพลินกว่าหนังแนวนี้หลายๆเรื่องๆ ทั้ง 2001 A Space Odyssey, Arrival มีการเล่าเรื่องที่ผสมวิทยาศาสตร์ลงมาในเรื่องได้เป็นอย่างดี ดูสมจริงไม่มีเสียงยานอวกาศเฟี้ยวฟ้าวเหมือน Star Wars, Star Trek ฉากดวงดาวที่ไปสำรวจอาจจะไม่ตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่ แต่ก็มีปริศนาให้หักมุมชวนให้สนุกขึ้นไปอีก แต่ฉาก 
รูหนอนการ์แกนทัวนี่สวยงามอลังการมากๆ ยิ่งพอเฉลยในตอนจบนี่ทึ่งกับไอเดียแนวความคิดมิติที่ 5 ในอวกาศ (ตอนดูครั้งแรกนี่ทึ่งจริงๆ รอบ 2 รู้แล้วล่ะ) ซึ่งเชื่อมต่อกับการเล่าเรื่องที่ดำเนินมาตั้งแต่ต้นได้เป็นอย่างดี 

Matthew McConaughey เล่นได้ดีเหมือนสมัยหนุ่มๆที่เล่น Contact ดนตรีประกอบของ Hans Simmer ก็โดดเด่นไม่แปลกใจทำไมถึงได้ไปทำดนตรีต่อใน Blade Runner 2049 

หนังยังมีสิ่งที่ตัวละครจะต้องเลือกว่าจะทำสิ่งไหนดี คูเปอร์จะต้องเลือกว่าจะไปเพื่อปกป้องอนาคตของมนุษย์ รวมถึงปกป้องลูกทั้ง 2 ของเขาทางอ้อมด้วยหรือจะอยู่ปักหลักเพื่อถนอมความรักที่มีต่อลูก แม้แต่ตอนจะเลือกดาวที่จะลงไปสำรวจก็ต้องเลือกระหว่างเหตุผลทางวิทยาศาสตร์กับเชื่อเสียงของหัวใจเรียกร้อง เมื่อเลือกแล้วเราก็ต้องรับผิดชอบกับการตัดสินใจของเรา ไม่ว่ามันจะผิดหรือถูกเหมือนที่คูเปอร์เคยเอ่ยกับเมิร์ฟถึงที่มาของชื่อลูกที่มาจากกฎของเมอร์ฟี่ 

"สิ่งใดก็ตามหากผิดพลาดได้ มันก็จะผิดพลาด"

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น...

"อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด"

พร้อมทั้งหนังยังทิ้งท้ายไว้ว่าความรักเป็นสิ่งทรงอานุภาพ ยิ่งเป็นความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก มันคงเหมือนแรงโน้มถ่วงที่ข้ามผ่านมิติกาลเวลาและห้วงอวกาศได้ ไม่ว่าจะเปลี่ยนสถานที่ไปเช่นไร ไม่ว่าจะห่างไกลกันแค่ไหน ไม่แม้แต่พวกเขาจะจากไปแล้วหรือไม่ 

"เราอยู่เพื่อเป็นความทรงจำของลูก"

แม้มันจะแปลกที่เวลาที่เราอยู่ด้วยกันอาจจะมีแสดงออกไปในทางตรงข้ามกันบ้าง แต่เมื่อยามอยู่ห่างกันไกลกลับโหยหาถึงกัน ความรักมันคงเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก

"วิทยาศาสตร์คือการยอมรับในสิ่งที่เราไม่รู้"

หนังยังตอกย้ำเรื่องทฤษฎี "โลกหายาก" ด้วย ถ้าเราไม่รู้จักทะนุถนอมใส่ใจโลกใบนี้ที่เราอาศัยอยู่ ใช่ว่าเราจะมีหนทางที่ง่ายดายในการแสวงหาสำรวจดวงดาวอีกสักดวงในจักรวาลที่เราจะอยู่อาศัยได้ซึ่งมันหาได้ยากเต็มที 

"เราเกิดบนโลกใบนี้ แต่ใช่ว่าเราจะตายบนโลก" 

แม้มนุษย์จะมีสติปัญญาและความหวังในการแสวงหาเอาตัวรอดได้เสมอมาก็ตาม 

"ยุคเก่าเผาไหม้เป็นธุลีเมิ่อถึงเวลา สู้สุดแรงแข่งกับแสงสุดท้ายของดวงตะวัน เพื่อให้เราได้พบกับยุคใหม่ในรุ่งอรุณที่สวยงาม"

ป.ล.มีหนังสือที่อธิบายวิทยาศาสตร์ในหนังของ Kip Thorne เรื่อง The Science Of Interstellar ที่น่าสนใจทีเดียว แต่สงสัยผมจะอ่านไม่รอดแน่ๆ เท่าที่อ่านรีวิวจากบล็อกคุณศล ซึ่งคุณศลรีวิวไว้หลายประเด็นทีเดียว

ต.ย.หนึ่ง

คะแนน 10/10



Create Date : 06 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2560 17:53:20 น.
Counter : 1273 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 755059
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]



New Comments
พฤศจิกายน 2560

 
 
 
1
2
3
4
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog