La La Land เรื่องราวของความฝันและความรัก




นครดารา La La Land (2016)

"นครดวงดารา 
เจ้าส่องประกายให้ฉันเพียงคนเดียวหรือเปล่า

นครดวงดารา
ยังมีอีกมากมายที่ฉันมิอาจเห็น

ใครเล่าจะรู้?
ว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งมหัศจรรย์ หรือเป็นอีกฝัน...ที่มิอาจเป็นจริง"

มีอา (Emma Stone) สาวสวยพนักงานร้านกาแฟ ไปคาสติ้งงานแสดงทุกครั้งเท่าที่มีโอกาส แต่ยังไม่เคยประสบความสำเร็จสักครั้ง ไม่ว่าจะบทบาทไหนๆ

เธอ...ฝันอยากเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง

เซบาสเตียน (Ryan Gosling) ชายหนุ่มนักเปียโนผู้ชื่นชอบดนตรีแจ๊สเป็นชีวิตจิตใจจนถึงรากเหง้าของมัน เล่นดนตรีตามใจตนเองจึงมักไม่มีใครจ้าง

เขา...ฝันอยากเปิดผับที่มีจิตวิญญาณของดนตรีแจ๊สตลบอบอวลเท่านั้น

เส้นทางของทั้งคู่มาพานพบเจอกัน ณ นครดวงดาราแห่งนี้
คนหนึ่ง บทบาทการแสดงไม่เคยเข้าตาใคร อีกคนหลงใหลในดนตรีที่นับวันมีแต่เสื่อมความนิยมลง

ความฝันและความรักของทั้งคู่จะลงเอยเช่นไร

หนังเพลงที่บทสนทนาไม่ได้ร้องออกมาเป็นเพลงเกือบทุกคำพูดเหมือนเรื่อง Les Miserables, The Phantom Of The Opera ถึงแม้จะมีเพลงเป็นองค์ประกอบหลักเหมือนกันก็ตาม ความรู้สึกเหมือนหนังเรื่อง Once, Begin Again, Sing Street มากกว่า (จะไปเทียบกับหนังเพลงคลาสสิกสมัยก่อนๆก็ไม่ได้ เพราะผมไม่เคยดู) แต่บรรยากาศจัดมาเต็มชวนย้อนยุค สีสันและแสงสีชวนให้หวนคิดถึงวันเก่าๆ ทำให้เคลิบเคลิ้มมากกว่า 

ฉากเปิดตัวอลังการชวนคึกคักสุดๆ มีฉากสวยๆประกอบการเดินเรื่องเยอะ แต่ดูเหมือนฉากโรแมนติกทั้งหลายจะไม่ค่อยมีที่มาที่ไปชวนให้เคลิ้มให้เชื่อ ประมาณว่าตัวละครทั้ง 2 คน นั่นแหละที่พาเราไปเจอ แล้วก็เปิดฟลอร์ เปิดฉากให้เราดู แต่ถือว่าเป็นหนังที่ดูได้เพลินมากเรื่องนึง จบได้แบบชีวิตจริงสุดๆ

Ryan Gosling ยามอยู่บนเปียโนดูได้อารมณ์ เข้าถึงฟีล แสดงได้แบบเล่นน้อยแต่ได้มาก ชวนให้ติดตาม

Emma Stone เสน่ห์ ความโก๊ะ เธอแสดงได้ดีมาก สายตา การแสดงออกทางสีหน้า ยิ่งเวลาเธอร้องเพลงสุดยอดมาก 

พล็อตหลักของเรื่องก็ไม่ได้ออกแนวเอปิกอลังการเหมือน Les Miserables ไม่ชวนให้ขมขื่นผสมความละมุนละไมแบบ The Phantom Of The Opera มากับเรื่องที่เป็นสเกลเล็กๆอย่างเรื่อง "ความฝัน" ของตัวละครหลัก 2 คน แต่จับจิตใจผู้คนได้เป็นวงกว้าง...ใครบ้างล่ะ ไม่เคยมีความฝัน

ความฝันกับความรักบางทีอาจจะไม่ได้เดินบนเส้นทางเดียวกัน แต่ความรักในสิ่งที่ทำอาจจะนำไปสู่ความฝันที่เป็นจริงในที่สุด ไม่ว่าจะผ่านความลำบาก ความพยายาม หรือเดินทางอ้อมเพื่อมาเจอกับมันก็ตาม

แล้วที่สำคัญที่สุดที่หนังเหมือนจะสื่อกลายๆ ก็คือ ความฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราอาจจะต้องเล่นไปตามบทบาทที่ใครสักคนกำหนด หรือเล่นตามคีย์ตามโน้ตที่กำหนดมา แต่ถึงวันหนึ่ง เราจะต้องเล่นตามบทบาทของตนเองหรือด้นสด อิมโพรไวส์ เหมือนดนตรีแจ๊สกันเอาเอง บนความเป็นตัวของตัวเองนั่นแหละที่จะนำเราไปถึงฝั่งฝัน...

คะแนน 8.5/10



Create Date : 17 มีนาคม 2560
Last Update : 17 มีนาคม 2560 18:50:37 น.
Counter : 913 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 755059
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]



New Comments
มีนาคม 2560

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog