Bloggang.com : สมาชิกหมายเลข 755059 - The Little Women สายใยไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

The Little Women สายใยไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

สี่ดรุณี The Little Women (1994)

"สักวันพวกเราต้องโตเป็นผู้ใหญ่ เราควรรู้ความต้องการของตนเอง"

เรื่องราวของสี่สาวพี่น้องตระกูลมาร์ช เม็ก โจ เบธและเอมี่ที่อยู่กับแม่ ในระหว่างที่พ่อของพวกเธอต้องออกไปร่วมรบในข่วงสงครามเหนือใต้ของอเมริกา ท่ามกลางความอัตคัตขัดสนของครอบครัวที่มาพร้อมกับเพื่อนบ้านใหม่หนุ่มหล่ออย่าง ลอรี่ ที่ดูจะเป็นต้องตาต้องใจของสาวๆ

พวกเธอทั้งสี่จะเติบโตไปตามหนทางของแต่ละคน ทั้งด้านความฝันและความรัก แต่มีสิ่งหนึ่งที่เชื่อมโยงพวกเธอเอาไว้ นั่นคือ สายใยแห่งความผูกพันฉันพี่น้องที่ไม่มีวันเสื่อมสลาย

.................................................................................

เวอร์ชั่นที่ 4 ของหนังที่ดัดแปลงจากหนังสือวรรณกรรมเยาวชนชื่อเดียวกันอันสุดคลาสสิกของลุยซ่า เมย์ อัลค็อตต์ ที่เขียนขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1868-1869 แล้ว เวอร์ชั่นนี้รวมดาราดังเพียบทั้ง Winona Ryder (Jo), Claire Danes (Beth), Kristen Dunst (Amy วัยเด็ก), Susan Sarandon (แม่), Christian Bale (Laurie) รวมถึง Gabriel Byrne (Bhaer)

หนังมาในสไตล์การเล่าเรื่องที่เรียบง่าย เคารพต้นฉบับ (เท่าที่ผมอ่านเริ่องย่อนะ ยังไม่เคยอ่านนิยายจริงๆ) แต่มีอะไรที่สอดแทรกไปตลอดทางให้เห็นความงดงาม ความสนุกสนานซุกซน ความเป็นห่วงเป็นใยกันของพี่น้องทั้งสี่ แม้จะมีทะเลาะกันน้อยเนื้อต่ำใจบ้างแต่ก็ตามประสาพี่น้อง สักพักก็กลับมาคืนดีกัน

เด่นสุดในเรื่องก็ต้อง "โจ" ลูกคนที่ 2 ของตระกูลมาร์ชที่แม่ของเธอบอกว่า เธอมีความสามารถมากจึงมักจะสับสน ไม่แน่ใจในหนทางมากกว่าพี่น้องคนอื่นๆ เหมือนมีเรื่องราวๆต่างในหัวมากเกินไป เพราะเธอฝันอยากเป็นนักเขียนนั่นเอง ซึ่ง Winona Ryder ก็เล่นได้โดดเด่น แววตา สายตาและท่าทาง ความก๋ากั่น แสดงให้เห็นถึงคนที่มีความคิดรอวันระเบิดจินตนาการความฝัน ให้อิสรภาพทางความคิดเจิดจรัสให้โลกได้รับรู้

อาภัพที่สุดก็คือ "เบธ" น้องสาวคนที่ 3 ที่ฝันอยากเป็นนักเปียโน แต่ปกติไม่ค่อยจะแข็งแรงอยู่แล้ว ต้องเรียนหนังสืออยู่ที่บ้าน เธอผูกพันกับโจมากอาจจะด้วยวัยที่ใกล้เคียงกัน แถมคอยสนับสนุนโจในด้านการเขียนทางอ้อมด้วยการอ่านเรื่องที่โจเขียน แล้วถามไถ่ว่าถึงไหนแล้วต่อไปจะเป็นยังไง จึงเป็นการผลักดันโจไปในตัว ฉากที่สะเทือนใจที่สุดก็คือ ฉากที่เธอรอโจกลับมาบ้านพร้อมกับประโยคเหล่านี้

"ฉันไม่เสียใจหรอก ฉันไม่เหมือนพวกพี่ๆน้องๆที่วางแผนใหญ่โต ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองสำคัญ"

"ทำไมทุกคนอยากไปจากบ้าน ฉันชอบอยู่บ้าน แต่ไม่อยากถูกทิ้งไว้คนเดียว ตอนนี้ฉันเลยต้องไปก่อนใคร"

แก่แดดที่สุดก็คือ "เอมี่" ที่โตขึ้นมาเป็นศิลปินวาดรูป ด้วยความที่เป็นน้องเล็กสุดจึงอาจจะพยายามทำตัวให้เข้าพวกกับพี่ๆ ซึ่ง Kristen Dunst เล่นได้น่ารักแก่แดดจริงๆถึงขนาดมีฝันว่า ถ้าก่อนที่เธอจะตายขอจูบผู้ชายสักครั้งนึง 55 และประโยคแรกสุดของรีวิวนี้ก็คือ

คำพูดของเธอเอง

ส่วนพี่สาวคนโตอย่าง "เม็ก" จะค่อนข้างเรียบง่าย ด้วยความที่เธอต้องรับผิดชอบหาเงินนอกบ้านมาจุนเจือในระหว่างที่พ่อไปรบและสุดท้ายก็ได้แต่งงานก่อนพี่น้องทุกคน

นอกจากจะเน้นเรื่องสายใยความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องแล้ว ยังมีเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณีในยุคนั้นเติมเข้ามาให้เห็นภาพ

ผู้หญิงยังต้องปฏิบัติตนตามจารีต ไม่รื่นเริงเกินเหตุดั่งผู้ชายไม่เช่นนั้นจะถูกตำหนิได้ บางฉากก็จะเห็นภาพการช่วยเหลือพ่อแม่เพื่อจุนเจือน้องทั้ง 2 คนของทั้งเม็กและโจในฐานะพี่สาวที่โตกว่า และคำสอนของแม่ต่อลูกสาวที่น่าจะนำมาใช้ได้แม้นในยุคปัจจุบันก็ตามที

"แม่สนใจแต่ว่า ลูกคิดกับตัวเองยังไง ถ้าลูกรู้สึกถึงคุณค่าของตัวเองเป็นแค่สิ่งสวยงาม สักวันลูกจะพบว่า คุณค่าของลูกมีแค่นั้นจริงๆ

เวลาทำลายความงามของผู้หญิงเรา แต่มีสิ่งหนึ่งที่มันไม่อาจทำลาย นั่นคือ ความงดงามของจิตใจ"

คะแนน 8.5/10

Create Date : 28 เมษายน 2561
Last Update : 28 เมษายน 2561 19:04:32 น.
Counter : 793 Pageviews.

0 comments