|
ผู้เลี้ยงสุนัขย่อมรู้ดีว่าหนึ่งในปัจจัยหลักของการดูแลสุนัขให้มีสุขภาพดีและเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ย่อมเกิดจากการเลือกอาหารให้เข้ากับช่วงวัยและสายพันธุ์ค่ะ แต่นอกเหนือจากนั้นยังมีปัจจัยเรื่อง “สุขภาพของสุนัข” ที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการเลือกอาหารที่เข้ากับความต้องการของสุนัข ไม่ว่าจะเป็น สุนัขมีปัญหาผิวหนังบอบบาง, สุนัขเลือกกิน, สุนัขมีปัญหาระบบทางเดินอาหาร และสุนัขน้ำหนักเกิน จะมีส่วนช่วยให้สุขภาพของสุนัขแข็งแรง อีกทั้งยังห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ ได้ ครั้งนี้แอดมินจะมาแชร์สาระน่ารู้เกี่ยวกับการเลือกอาหารสุนัขให้เหมาะสมกับโภชนาการและและความต้องการเฉพาะ รู้แบบนี้แล้ว มาเริ่มต้นดูแลสุขภาพของสุนัขแสนรักของเรากันเถอะ  ผิวหนังบอบบาง
อาหารที่ดีที่สุดสำหรับสุนัขที่มีปัญหาด้านผิวหนังควรมีส่วนประกอบของวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพค่ะ เพราะสาเหตุหนึ่งของอาการระคายเคืองทางผิวหนัง เช่น อาการผิวหนังแห้ง คัน หรือ ติดเชื้อ ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการขาดโภชนาการนั่นเอง ดังนั้นควรเลือกอาหารสุนัขที่มีส่วนผสมเช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี-5 ไบโอติน และ สังกะสี พบได้ในน้ำมันเมล็ดแฟล็กซ์ น้ำมันปลา น้ำมันคาร์โนลา น้ำมันปลาแซลมอน ไขมันจากไก่ และ ไข่ ส่วนผสมเหล่านี้ล้วนอุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 กรดไขมันโอเมก้า 6 และวิตามินอี ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงผิวหนังสุนัขให้ชุ่มชื้น ขนสวยงามเปล่งประกาย และยังลดการอักเสบและการระคายเคืองได้อีกด้วย
เบื่ออาหารและเลือกกิน
สำหรับสุนัขเลือกกินอาหารหรือกินอาหารยากเป็นพิเศษ แอดมินแนะนำว่าให้ปรึกษากับสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อวินิจฉัยว่า สุนัขควรกินอาหารแบบไหนที่เหมาะสม เพราะปัญหานี้อาจเกิดจากพฤติกรรมเฉพาะตัวของสุนัขหรืออาจเกิดจากอาการเจ็บป่วยค่ะ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีวิธีการอื่นที่จะช่วยให้สุนัขหันมาสนใจและกินอาหารได้มากขึ้น หากต้องการฝึกให้สุนัขกินอาหารเม็ด ลองผสมอาหารชนิดเปียกด้านบนเป็นท้อปปิ้ง (topping) เพื่อกระตุ้นความอยากอาหาร และควรงดให้อาหารคน เช่น ไก่ย่าง ตับย่าง เพราะอาจติดพฤติกรรมกินอาหารรูปแบบเดิมๆ ได้ นอกจากนั้นยังควรฝึกวินัยให้สุนัขกินอาหารตรงเวลา หากปฏิบัติเป็นประจำควบคู่ไปกับคำแนะนำของสัตวแพทย์ ปัญหาสุนัขกินอาหารยากหรือเลือกกินก็จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้
สุนัขมีปัญหาทางข้อต่อ
อาหารสำหรับสุนัขมีปัญหาข้อต่อและกระดูกจำเป็นต้องมีส่วนประกอบของโปรตีนจากสัตว์เป็นสำคัญ โดยต้องมีปริมาณโปรตีนขั้นต่ำราว 18 เปอร์เซ็นต์ หรือ 22-25 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งควรมีส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรตชนิดย่อยได้ง่าย เช่น ธัญพืชเต็มเมล็ดที่ไม่มีส่วนผสมสังเคราะห์อื่นๆ และ กรดไขมันโอเมก้า 3 อีพีเอ (EPA) ดีเอชเอ (DHA) กลูโคซามีน (Glucosamine) ซึ่งมีส่วนช่วยฟื้นฟูสุขภาพข้อต่อของสุนัขอย่างเป็นธรรมชาติ และคอนโดรอิทิน ซัลเฟต (Chondroitin Sulfate) มีคุณสมบัติรักษาอาการข้อเข่าเสื่อม โดยทั่วไป สุนัขสูงอายุจะพบปัญหาทางข้อต่อมาก เนื่องจากการผลิตไกลโคซามิโนไกลแคน (Glycosaminoglycan) ในร่างการเสื่อมสภาพ ส่งผลให้การซ่อมแซมส่วนสึกหรอตามข้อต่อต่างๆ ช้าลง ดังนั้นควรมองหาอาหารสุนัขที่มีส่วนประกอบของสารอาหารดังกล่าว
สุนัขมีปัญหาน้ำหนักเกิน
สุนัขก็สามารถประสบกับปัญหาน้ำหนักเกินได้เช่นเดียวกัน หากขาดการออกกำลังกายและกินอาหารมากเกินไป นอกจากนั้นยังมีสาเหตุจากความผิดปกติของฮอร์โมน ระบบการเผาผลาญ หรือแม้แต่กระทั่งสายพันธุ์ เมื่อสุนัขมีน้ำหนักเกินก็จะมีความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็ง ตามมา แอดมินแนะนำว่าก่อนเลือกอาหารที่เหมาะสมสำหรับสุนัขน้ำหนักเกิน ควรปรึกษาสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางโภชนาการสุนัขเพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีควบคุมน้ำหนัก ส่วนการเลือกอาหารให้สุนัขน้ำหนักเกิน ควรมีส่วนผสมของ แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) กรดอะมิโนจำเป็นที่จะช่วยเร่งการเผาผลาญ สลายไขมันให้เป็นพลังงาน และซีแอลเอ (CLA - Conjugated Linoleic Acid) ซึ่งจะช่วยลดมวลไขมัน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้สุนัขได้
สุนัขมีปัญหาระบบทางเดินอาหาร
อาหารสุนัขสำหรับสุนัขที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายควรมีส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องระบบทางเดินอาหาร เช่น โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตชนิดย่อยง่าย กรดไขมันโอเมก้า 3 กรดไขมันโอเมก้า 6 และพรีไบโอติกส์ (prebiotics) จุลินทรีย์ที่ส่งเสริมการปรับสมดุลของระบบลำไส้ของสุนัข เป็นต้น นอกจากนั้นสาเหตุที่ทำให้สุนัขมีปัญหาระบบทางเดินอาหาร อาจมาจากเอนไซม์ย่อยอาหารไม่เพียงพอ ใยอาหารทั้งชนิดละลายน้ำได้ (soluble fiber) และชนิดละลายน้ำไม่ได้ (insoluble fiber) จากพืชผัก ผลไม้ และธัญพืชยังมีส่วนช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ โดยทั่วไป อาหารสุนัขมักมีปริมาณไฟเบอร์ที่เพียงพอต่อความต้องการอยู่แล้ว แอดมินแนะนำว่าควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพราะปัญหาระบบทางเดินอาหารอาจเกิดจากหลายปัจจัยและมีวิธีการดูแลที่แตกต่างกันออกไป
สุนัขผ่านการทำหมัน
สุนัขที่ทำหมันใหม่ๆ จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะเพิ่งผ่านการผ่าตัด ดังนั้นอาหารสุนัขที่เหมาะสมควรเป็นอาหารที่เน้นเรื่องการดูแลสุขภาพองค์รวมของสุนัข นอกจากนี้สุนัขที่เพิ่งผ่านการทำหมันควรกินอาหารที่มีปริมาณแคลอรีต่ำ แต่มีปริมาณใยอาหารพอเหมาะเพื่อควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากหรือน้อยจนเกินไป ภายหลังการทำหมัน สุนัขอาจมีอาการซึม เคลื่อนไหวน้อย และระบบเผาผลาญลดประสิทธิภาพลงได้ การให้สุนัขกินอาหารที่มีไขมันและโปรตีนจะช่วยทำให้สุนัขได้รับพลังงานและช่วยฟื้นฟูร่างกายสุนัขให้กลับมาแข็งแรงขึ้นได้
>>ช็อปอาหารและผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง<<
ดู วิธีเลือกอาหารสุนัขให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะ>> ที่นี่
| Create Date : 29 มีนาคม 2564 |
| Last Update : 29 มีนาคม 2564 13:44:47 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 247 Pageviews. |
 |
|
