space
space
space
<<
มกราคม 2566
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
11 มกราคม 2566
space
space
space

เบกกิ้งโซดา vs ผงฟู เรื่องน่ารู้ในความเหมือนที่แตกต่าง
เบกกิ้งโซดา และผงฟู วัตถุดิบในการรังสรรค์เมนูเบเกอรีต่างๆ มีลักษณะเป็นผงสีขาวเหมือนกัน แต่ทุกคนรู้หรือไม่คำว่าภายใต้ความเหมือนนั้น มีสิ่งที่แตกต่างระหว่าง 2 วัตถุดิบนี้ ซึ่งในวันนี้ท็อปส์ พิกส์จะพาทุกคนไปไขข้อข้องใจค้นหาคำตอบถึงความแตกต่างของวัตถุดิบทั้งคู่กัน หากใครอดสงสัยไม่ไหวแล้วก็รีบตามแอดมินมาพบคำตอบกันเดี๋ยวนี้เลย

เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดาหรือโซดาทำขนม มีชื่อทางเคมีว่าโซเดียมไบคาร์บอเนต หรือโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต (NaHCO3) หนึ่งในส่วนผสมการทำเมนูเบเกอรีผงสีขาว มีฤทธิ์เป็นด่าง และไม่มีกลิ่น เบกกิ้งโซดาจะสลายตัวต่อเมื่อได้รับความร้อน ซึ่งความร้อนนั้นจะทำปฏิกริยากับส่วนผสมโดยการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นมา จึงทำให้ส่วนผสมขยายตัว และมีฟองอากาศ จนมีลักษณะเนื้อนุ่มฟู ขึ้นรูปสวยงามค่ะ

เบกกิ้งโซดา เหมาะสำหรับเป็นวัตถุดิบในการทำขนมที่มีส่วนผสมที่เป็นกรดอย่างผงโกโก้ บัตเตอร์มิลค์ ผลไม้ โยเกิร์ต หรือเบเกอรีที่ต้องการให้เน้นสีน้ำตาลอย่างเมนูคุกกี้ เพราะว่าเบกกิ้งโซดามีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นให้เกิดสีน้ำตาลได้เป็นอย่างดี

เบกกิ้งโซดาเป็นวัตถุดิบทำเบเกอรีที่มีอายุยาวนาน เพราะสามารถเก็บได้นานถึง 18 เดือน แต่หากเพื่อนๆ มีเบกกิ้งโซดาที่เก็บไว้นานแล้วก็ต้องทดสอบก่อนใช้งานเสมอๆ นะคะ โดยวิธีการทดสอบว่าเบกกิ้งโซดายังสามารถใช้งานได้อยู่หรือไม่ แอดมินแนะนำให้เพื่อนๆ ลองตักเบกกิ้งโซดาปริมาณ 1 ช้อนชา ใส่ลงในน้ำส้มสายชูที่ตวงใส่ภาชนะ หากเบกกิ้งโซดาทำปฏิกิริยากับน้ำส้มสายชูเกิดฟองฟู่ขึ้นมา แสดงว่าเบกกิ้งโซดายังสามารถนำไปใช้ทำขนมได้

ผงฟู
ผงฟู คือวัตถุดิบเบเกอรีผงสีขาวที่มีการผสมโซเดียมไบคาร์บอเนตกับกรดโซเดียมไพโรฟอสเฟต (Sodium Acid Pyrophosphate) และแป้งข้าวโพด เพื่อหลีกเลี่ยงการทำปฏิกิริยาต่อกันของสารทั้งหมด โดยผงฟูมีฤทธิ์เป็นกรด ไม่มีกลิ่น

และเนื่องจากผงฟูมีฤทธิ์เป็นกรด จึงไม่เหมาะกับการนำไปผสมกับวัตถุดิบอื่นๆ ที่มีฤทธิ์เป็นกรดเช่นกัน เพราะว่าการนำส่วนผสมที่มีฤทธิ์เป็นกรดมาปะทะกัน จะทำให้เนื้อของขนมไม่ขึ้นฟูได้ค่ะ โดยการใช้ผงฟูทำขนมขึ้นฟูได้ จะต้องเกิดปฏิกิริยาต่อเนื่องกันทั้งหมด 2 ครั้งด้วยกันค่ะ สเต็ปแรกคือการนำผงฟูผสมคนรวมกับวัตถุดิบของเหลว เพื่อกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สเต็ปต่อไปคือการนำวัตถุดิบไปทำปฏิกิริยากับความร้อน หรือผสมกับวัตถุดิบอื่นๆ เพื่อสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้ส่วนผสมนุ่มฟู ขึ้นรูปสวยงามเหมือนกับกระบวนการของเบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดา vs ผงฟู บทสรุปความเหมือนที่แตกต่าง
-เบกกิ้งโซดามีฤทธิ์เป็นด่าง ในขณะที่ผงฟูมีฤทธิ์เป็นกรด
-เบกกิ้งโซดาจะทำให้ขนมมีสีน้ำตาลที่เข้มกว่าผงฟู
-เบกกิ้งโซดาไม่สามารถใช้แทนผงฟูได้ แต่ผงฟูสามารถใช้แทนเบกกิ้งโซดาได้


ตามไปอ่าน เบกกิ้งโซดา vs ผงฟู เพิ่มเติมที่นี่ >>

 


Create Date : 11 มกราคม 2566
Last Update : 11 มกราคม 2566 15:02:58 น. 0 comments
Counter : 324 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 4352999
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 4352999's blog to your web]
space
space
space
space
space