และแล้วในวันที่เรามีโอกาสไปเที่ยวชะอำ เราก้อแวะไปเที่ยวกันที่นี่ค่ะ

เราไปถึงช่วงก่อนเที่ยง แวะเข้าไปแล้ว นึกว่าเข้าฟรีค่ะ

เพราะว่าเป็นวันธรรมดา เคยได้ยินมาว่าเข้าฟรีนี่นา

ปรากฎว่าหมดเขตเข้าฟรีไปแล้ว แดดกำลังเริ่มร้อนแรงขึ้นทุกที

เลยลงมติว่า ไปกินปูที่ชะอำกันก่อน บ่ายๆเย็นๆค่อยกลับมาใหม่

หลังจากกินปูกันเป็นที่เรียบร้อยสมใจแล้ว

ท้องฟ้ามืดมัว เหมือนฝนจะตกเลยค่ะ

เรากลัวว่าถ้าฝนตกเราจะไม่ได้เข้าไปแน่ๆ

เราเลยรีบบึ่งกันมาเลยค่ะ มาถึงฝนเริ่มลงเม็ด

โปรยปรายเล็กๆ ต้องไปซื้อตั๋วก่อนค่ะ คนละ 50 บาท

เข้ามาด้านในแล้ว ไม่รู้จะเดินไปทางไหนก่อนดี

เพราะมีทั้งซ้ายและขวา

แถมมีซอยแยกไปอีก ก้อเดินกันไปมั่วๆค่ะ

ถ่ายภาพมามากมาย มั่วๆกันไป เบี้ยวมั่ง เอียงมั่ง คัดทิ้งไปก้อเยอะ

แต่พอมาทำบล๊อก...โอ้แม่จ้าว....ยังเยอะอยู่ดี ขนาดรวมภาพก้อแล้วนะคะ

บล๊อกนี้เลยขอเสนอภาพถ่ายแบบรวมๆของสถานที่แห่งนี้ มาให้ดูกันค่ะ

ห้องน้ำสุนัข น่ารักดี ใครพาน้องหมามาเที่ยว หายห่วงได้เลยค่ะ

ไม่ได้เล่นนะคะ เข้าไปนั่งถ่ายรูปเฉยๆ เครื่องเล่นนี้มีชื่อว่า กำแพงตัวหนอน (Wallholla)

นำเข้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้รับรางวัล Dutch Design Award 2008

เด็กๆ สามารถเข้าไปเล่นได้ฟรี แต่จำกัดให้เล่นได้เฉพาะ

เด็กอายุ6-10 ปีเท่านั้น ผู้ใหญ่ห้ามเข้าค่ะ

เป็นเครื่องเล่นที่หวาดเสียวที่สุดใน Santorini Park มีชื่อว่า G-Max Giant Swing

เครื่องเล่นนี้นำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ ค่าบัตรคนละ 480 บาท (แพงมาก)

มีป้ายวัดส่วนสูงทั้งผู้หญิงและผู้ชายด้วยค่ะ

เสียดายว่าตอนที่เข้ามาฟ้ามืดมัว

ภาพเลยออกมา ไม่สวยใสเหมือนที่เห็นของคนอื่นเลยค่ะ

แต่ก้อยังโชคดี ที่ฝนไม่ตก ทำให้เราได้เดินถ่ายรูปสบายๆไม่ร้อนด้วย