Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
13 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
อจีรัง คือ โอกาส Perishable Beauty






อจีรัง คือ โอกาส Perishable Beauty

สร้างธุรกิจจากความโรยรา

เปิดตาหาโอกาสจากความไม่เที่ยง


อจีรัง คือ โอกาส

Perishable Beauty

นิทรรศการแรกที่จะตาย.. ต่อหน้าคุณ

Exhibition@TCDC

28 พฤศจิกายน 2551- 22 กุมภาพันธ์ 2552

28 November 2551 - 22 February 2009

ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ชั้น 6 ดิ เอ็มโพเรียม 10.30 - 21.00(ปิดวันจันทร์) เข้าชมฟรี

TCDC, 6th Fl.,The Emporium, 10.30 -21.00 (Closed on Monday),Free Admission





ย่าเห็นว่าเป็นนิทรรศการที่ดีมากๆ และเห็นว่ายังมีเวลาอีกนานเหมาะ

สำหรับคนมีเวลาน้อย เพราะงานนี้เขาจัดข้ามปี หาเวลาไปชมกันนะคะ


เข้ามาก็พบสิ่งอจีรังแรกเลยค่ะ สิ่งที่แปรเปลี่ยนได้ในเวลาอันรวดเร็ว


ล้มตาย เสื่อมสลาย บูดเน่า เหี่ยวเฉา จุดยึดเหนี่ยวท่ามกลางความเสื่อมสลาย

Feast of the Living Dead

How we try to escape the rot

เมื่อขนมปังอบใหม่จะขึ้นราภายใน 4 วัน ขณะที่เนื้อแล่สดๆ จะเริ่มเน่าเสียในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมง

แล้วเราจะไปยึดติดกับอะไรได้ อาหารมื้อค่ำแสนพิเศษที่เราเสพสุขบนโลกคือ หนึ่งในสัญลักษณ์

การแสวงหา สิ่งยึดเหนี่ยวของมนุษย์ เพื่อหนีความเป็นจริงที่ทุกชีวิตล้วนมีจุดจบและเราเองก็ไม่

ต่างจากเนื้อที่กำลังเน่า





ขนมปังที่ขึ้นรา





ผลไม้ที่เริ่มเน่า





ล้มตายเสื่อมสลาย





ความกลัวสู่วิทยาการหนีตาย

จากมัมมี่ สู่ พุซซี่ หมาโคลนฯ ลูกแม่

The Economics of Fear and Escapism

From Egyptian mummies to darling Poochie, my cloned poodle

หากตีมูลค่าความกลัวตายออกมาเป็นจำนวนเงินคงสูงกว่าผลิตภัณฑ์มวล

รวมภายในบางประเทศด้วยซ้ำ การทำมัมมี่ของฟาโรห์อียิปต์เพื่อรอการกลับ

มาของวิญญาณเจ้าของร่างต้องใช้แรงงานนับแสน

ตั้งแต่ช่างทอผ้าลินินที่ต้องทอผืนผ้ายาวถึง 4 กิโลเมตรสำหรับการห่อร่าง ไปถึง

หมอปรุงยาอาบศพ และน้ำหอมสูตรพิเศษจากมดยอบเพื่อกลบกลิ่นความตาย

ยังไม่รวมถึงหินแต่ละก้อนที่ต้องใช้แรงงานคนเข็นขึ้นไปสร้างเป็นพิระมิด





จนถึงปัจจุบัน วิทยาการหนีตายสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้สูงลิบสวน

ทางกับภาวะเศรษฐกิจโลกตั้งแต่การโคลนนิ่งสัตว์เลื้ยงแสนรักไปจนถึงการทำ

เพชรจากอัฐิ เหตุผลสำคัญก็คือความตายนั้นเป็นส่วนหนึ่ง

ของทุกชีวิตที่ไม่อาจหลีหนีได้


เมื่อคุณยายกลายร่างเป็นแหวนเพชร

Honey, can I wear great granny to the gala fundraiser tonight?

อยากให้โหลนยุคปี ค.ศ. 2008 ผูกพันกับยายทวดสมัยสงครามโลกก็แสนง่าย

แค่มีเถ้ากระดูกของคุณยายเพียงหยิบมือกับ

เงินเพียง 200,000.-840,000 บาท ก็สามารถเปลี่ยนอัฐิคุณยายให้กลายเป็นเพชร

ที่ได้ทั้งมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางจิตใจที่ประเมินไม่ได้


อัลเกอร์แดนซ่า ก่อตั้งในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 ปัจจุบันมี

สาขากว่า 20 แห่งทั่วโลกรวมทั้งประเทศญี่ปุ่น และไทย"อัลกอร์แดนซ่า"

มีความหมายว่า"การไว้ทุกข์" ดำเนินธุรกิจเพชรแปรรูปคาร์บอนที่สกัดจากอัฐิ 100%


ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบขอแสดงความขอบคุณครอบครัวผู้ไม่ประสงค์ออก

นามจากประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างสูงในการอนุเคราะห์เพชรจากเถ้าของผู้เป็นที่รักเพื่อ

นำมาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้

(หมายเหตุ เพชรจากกระดูกคุณยาย ต้องไปชมเองนะคะ เพราะเม็ดจิ๋วเดียวเอง

ไม่สามารถถ่ายมาให้ชมได้ ประกอบกับมีแสงสะท้อนจากกระจก)





ภายในตกแต่งเป็นลายอียิปต์เข้ากับคอนเซป





ประเทศสหรัฐอเมริกา ทุกๆ สองในห้าดอลล่าร์จะถูกจับจ่ายไปกับเครื่องประทินโฉม

Two out of every five dollars is spent by Americans on beauty products.





ราคาของการทำศัลยกรรมเสริมความงาม





เตียงผ่าตัดเสริมความงาม





ตรงจุดนี้ย่าชอบมากทีเดียว การทำรีทัชด้วยโฟโตช๊อป

slide ด้านซ้าย คือก่อนการทำรีทัช slide ด้านขวา คือทำเสร็จแล้ว

เราค่อยๆเลื่อนจากซ้ายไปขวา ก็จะเห็นขั้นตอนการทำรีทัชเป็นสเต็ปๆ

เลยทีเดียว ย่าไปยืนเล่นอยู่สองสามรอบพอเก็ทไอเดีย อิอิ


สวยหลอกๆ อย่าบอกใคร

เนรมิตความงามด้วยคลินิกศัลยกรรมจากปลายเมาส์

Photoshop Beauties

Profiting from the insecurities of others

ผิวนวลเนียนไร้รอยสะดุด บั้นท้ายงอนงามปราศจากเซลลูไลท์ หรือรักแร้ขาวกิ๊ก

ยิ่งกว่าก้นเด็กที่ปรากฎตามเสื่อคือ เบื้องหลังปฎิบัติการจากมือขยันของนักทำรีทัช

ด้วยโปรแกรมโฟโตชอปเกือบทั้งสิ้น ภาพมายาจากสื่อผลักดัน

ให้"คนธรรมดา" อยากคว้าความงามตามภาพฝันตั้งแต่การใช้เครื่องสำอางค์ เปลี่ยน

ทรงผม เคลือบฟันเซรามิกเปลี่ยนสีคอนแทคเลนส์ ผ่าตัดศัลยกรรม ไปถึงดูดไขมัน

หน้าท้อง รายการอย่าง What Not to Wear(2001),

Extreme Makeover (2002), Queer Eye for the Straight Guy (2003), Pimp My Ride (2004),

และ How to Look Good Naked (2008) ที่ฮิทถล่มทลายทั้งในสหรัฐอเมริกาและ

อังกฤษส่งผลให้นักธุรกิจหัวใสใช้เป็นช่องทางสอดแทรกโฆษณาผลิตภัณฑ์ได้อย่าง

แนบเนียน แต่ใครจะรู้ว่าสวยไร้การเติมแต่งอาจเป็นกระแสที่มาแรงในปีหน้าก็เป็นได้





display สื่อให้เห็นถึงความอจีรัง (ดอกไม้ที่เหี่ยว) และความงาม (ภาพสาวงาม)

ซึ่งต้องใช้เงินก้อนโตแลกมันมา





พร่ำเอ่ยนามพระพุทธ

เป็นความพึงใจอันลึกล้ำ

ของคนยามแก่เฒ่า


เรียนรู้ที่จะตาย

จงมองซาคุระผลิบาน

แลดูดอกคิคุ


Chanting Buddha nonstop

Is deep happiness,

To see life's final point,

Watch cherry blossoms,

observe chrysanthemums.


การชมดอกไม้ หรือ ฮานามิ เริ่มขึ้นในสมัยเฮอันปี ค.ศ. 794 - 1191 เนื่องจากมีระยะเวลา

ผลิบานเพียงไม่นาน ดอกซาคุระจึงเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตงดงามอันไม่จีรังยั่งยืน ปราชญ์

ชาวญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 18 โมโตโอริ โนรินาง่า ได้เชื่อมโยงแนวคิดดังกล่าวเข้ากับงาน โมโนะ

โนะ อวาเระ ซึ่งอรรถาธิบายถึงความรู้สึกเศร้าแบบญี่ปุ่น

หรือความรู้สึกหวานปนขมที่มีให้กับความอจีรังของสรรพสิ่ง โมโนะ หมายถึงสิ่งต่างๆ

และอวาเระ เป็นคำโบราณยุคเฮอันแสดงความประหลาดใจ คล้าย"อา" หรือ "โอ" นักวาด

มังงะญี่ปุ่นอย่าง ฮิโตชิ อชินาโนะ โคซุเอะ อามาโนะ และคาโอรุ โมริ ยังคงใช้แนวคิดนี้

ในผลงานมังงะของพวกเขา





ย่าชอบไอเดียการนำเสนอ เงินสกุลต่างๆอยู่ภายในบ๊อกซ์สีขาว มีตัวพัดลมเป่า

ให้เงินกระจายตัวออกไปอยู่ตามส่วนต่างๆของบ๊อกซ์(สิ่งจำลองธุระกิจ

ซึ่งขายความโรยรา)





ยุทธศาสตร์ฟื้นเมืองตาย ที่ไหนใช้ความอจีรังได้เก๋ากว่ากัน


Conserving heritage sites is good business strategy

ขณะที่ลี่เจียงประกาศให้ถุงพลาสติกเป็นสิ่งต้องห้ามและเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชมอีกคนละ

100 บาทเพื่ออนุรักษ์เมืองมรดกโลก ส่วนอัมพวายังมีปัญหาขยะล้นผลพวงากจำนวนนัก

ท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกวี่วัน แต่รถขยะยังมีสองคันเท่าเดิม เท่านี้ก็เห็นแล้วว่าเมืองไหนจะ

ขายความเก่าได้เก๋ากว่ากัน


เมือโบราณสุดฮิปอย่างอัมพวาและลี่เจียงแม้จะอยู่ไกลกันหลายร้อยลี้ แต่ทั้งสองที่มีดีในการ

จัดการฟื้นฟูเมืองเก่าให้เป็นแหล่งทำเงิน อัมพวาปลุกตลาดน้ำเมื่อ 90 ปีที่แล้ว ชูจุดขายเด่น

เป็น"ตลาดน้ำยามเย็น"แห่งเดียวในเมืองไทยพร้อมสินค้าขายดีคือ ความทรงจำและบรรยากาศ

จากหิ่งห้อย สกัดร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงให้ไกลหูไกลตา เหลือแค่ร้านค้าปลีกของคุณลุง

คุณป้าเอาไว้ ด้านลี่เจียงทุ่มจ่ายกว่า 15,000 ล้านบาท ขายวัฒนธรรมชนเผ่าดองบาและรักษาภูมิทัศน์

"เมืองเก่าที่ปราศจากของเก๊" ฉกเงินจากกระเป๋านักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่าวันละ 25 ล้านบาท




เบื้องหลังภาพสวยๆ

บนโปสการ์ดเหล่านี้ มีธุรกิจหลายพันล้านซ่อนอยู่


What business vision lies behind these postcard perfect images?


โมเสส ปาฎิหารย์ปกป้องธุรกิจท่องเที่ยวเวนิส

How Moses will protect Venice's tourism revenues

โปรเจคโมเสส โครงการขนาดยักษ์จัดทำโดยรัฐบาลกลางอิตาลีด้วยงบประมาณกว่า 180,000 ล้านบาท

เพื่อพยุงเมืองเวนิสที่กำลังจะหายไป เมื่อปีค.ศ. 1966 น้ำท่วมครั้งใหญ่ในเมืองเวนิสทำให้งานศิลปะและ

เศรษกิจของเมืองต้องเสียหาย ย่อยยับ ก่อให้เกิดกระแสวิตกกังวฃไปทั่วโลกว่าถ้าหากระดับน้ำขึ้นสูงไป

กว่านี้เมืองที่ทรงอำนาจทางการค้าในอดีตอาจจมลงใต้ทะเลภายในระยะเวลาไม่ถึง 20 ปี เขื่อนใต้น้ำขนาดยักษ์

ซึ่งทำจากบานพับเหล็กเคลื่อนที่ 80 ชิ้นจึงถูกออกแบบขึ้นเพื่อรักษาสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่

สุดแสนโรแมนติคซึ่งทำเงินจากนักท่องเที่ยว 20 ลานคนต่อปีได้มากกว่าปีละ 30,000 ล้านบาท




ส.ค.ส. ส่งความสด

กระบวนการค้าส่งความอจีรังระดับโลก

The World's Largest Flower Exchange

The secret success of Dutch logistics

เนเธอร์แลนด์ส่งออกดอกไม้ประดับเป็นอันดับหนึ่งของโลกด้วยมูลค่า 290000 ล้านบาทต่อปี โดยผ่าน

ตลาดค้าส่งความสดที่เป็นระบบขนาดเท่าโมนาโค สองในสามของดอกไม้ประดับที่ส่งออกนำเข้าจาก

ประเทศในทวีบแอฟริกาและอเมริกาใต้ ผ่านกระบวนการประมูลกับผู้จัดจำหน่ายก่อนกระจายไปขาย

ทั่วสหภาพยุโรป


ประเทศไทยส่งออกดอกกล้วยไม้เป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่ 5 ปีที่ผ่านมายอดการส่งออกดอกกล้วยไม้ไทย

ยังเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 5000 ล้านบาทต่อปี ทั้งที่เรามีโอกาสจะขยายการส่งออกได้ถึงปีละ 10,000 ล้านบาท

เนื่องจากปัจจุบันดอกไม้และใบไม้รูปทรงแปลกตาที่พบเฉพาะในเขตเส้นศูนย์สูตรเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง

ในตลาดโลก ถ้าเพียงแต่เรารู้จักบริการจัดการความได้เปรียบจากพื้นที่ตั้งของประเทศ ทำไทยให้เป็นศูนย์กลาง

การส่งออกไม้ดอกไม้ประดับเมืองร้อนอย่างเต็มศักยภาพ

ที่มา: Flora Council of Holland สมาคมส่งออกกล้วไม้และกรมส่งเสริมการส่งออก


ตลาดกลางประมูลดอกไม้เนเธอร์แลนด์ส่งออกดอกไม้ปีละ 290,000 ล้านบาท



ใบไม้รูปทรงแปลกตาที่พบเฉพาะในเขตเส้นศูนย์สูตรเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง

ในตลาดโลก





การสื่อง่ายๆตรงๆแบบนี้ถูกใจย่าเป็นที่สุด





ความงาม,อจีรัง และโอกาส





แล้วคุณหล่ะจะแลกไหม





บริการแบบไทยๆ ถูกทั้งใจทั้งราคา

Get Stitched Up, with a Smile

Raising the GDP with medical tourism

คำนวนดูสิว่าจีดีพีจะเพิ่มขึ้นแค่ไหน จากการซ่อมแซมมนุษย์

แม้จะมีคู่แข่งรอบด้านในการเป็นศูนย์สุขภาพแห่งภูมิภาคเอเซียแต่ด้วย

ค่ารักษาที่ถูกแต่มาตรฐานการบริการระดับเกินห้าดาว พร้อมทั้งความ

เชี่ยวชาญทางการแพทย์ครบทุกสาขา บวกกับความได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์

ในด้านความงดงามของทัศนียภาพและการประหยัดเวลาการเดินทาง ทำให้ในปี

ค.ศ. 2006 ประเทศไทยทำรายได้เข้าประเทศมากกว่า 40,000 ล้านบาทจากคนไข้

ต่างชาติจำนวน 1,450,000 คน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 2,000,000 คนในปี ค.ศ. 2009


โรงพยาบาลภายในประเทศไทยจำนวนมากกำลังบุกตลาดไปยังภูมิภาค

แถบตะวันออกกลาง ขณะเดียวกันบริษัทข้ามชาติด้านงานดูแลสุขภาพ

ต่างๆ ได้พยายามเข้ามาเจาะตลาดการบริการของไทย เราควรทำอย่างไร เพื่อรักษา

สภาพการเป็นผู้นำในตลาดนี้ไว้


ที่มา : กรมส่งเสริมการส่งออกและกระทรวงสาธารณสุข





เงินที่สะพัดไปทุกภาคทุกส่วนที่มีการซื้อขายจากความอจีรัง





มะนาวหยดสุดท้าย

คั้นความคิด ฟื้นชีวิตเศรษฐกิจ

Squeeze

A last drop of advice

มะนาวลูกนี้ถูกคั้นน้ำจนหมดแล้ว หรือยังคั้นได้อยู่

ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมองมันอย่างไร ความอจีรังอาจ

เป็นโอกาสหรือคำสาป เมื่อตลาดการเงินการลงทุน

กำลังละลาย น้ำทะเลขึ้นสูง ภูมิประเทศแปรเปลี่ยน

การจะหาโอกาสจากนิทรรศการที่นำเสนอความงาม

ของความไม่จีรังอันไม่รู้จบนี้ได้ ล้วนแต่ขึ้นอยู่กับคุณ





งานนี้นอกจากจะชมฟรีแล้ว ยังอนุญาตให้ถ่ายรูปได้

ย่าจึงถือโอกาสถ่ายดีเพลย์ด้านนอกมาให้ชม เผื่อจะได้ช่วย

ต่อยอดไอเดียของการผลิตผลงานของท่าน





ใครคือ ฆาตกรความงาม Did you ever meet the beauty murderer?

ผู้ลักพาความงามไปจากโลก

กาลิเลโอ...ถึงอาร์มสตรองค์

The Day Galileo Killed off the Beauty of the Moon

How science destroyed poetry

ปีค.ศ. 1619 กาลิเลโอส่องกล้องโทรทรรศ์เห็นผิวดวงจันทร์เต็มไปด้วยหลุ่มบ่อ

ปี.ค.ศ. 1969 นีล อาร์มสตรองค์ เขย่งเท้าเหยียบพื้นขรุขระบนดวงจันทร์เพื่อปักธง

แห่งชัยชนะของมวลมนุษย์ ภาพที่คนทั้งโลกเห็นพร้อมกันในวันนั้น

ไม่ใช่การโห่ร้องยินดี แต่คือโศกนาฎกรรมความงามของจันทราที่เหลือเพียงฝุ่นผงซึ่ง

"แห้งราวกระดูก" ทำลายความงามในอุดมคติที่มนุษย์แทบทุกอารยธรรมหลงใหลบูชา

เมื่อกว่า 9 ศตวรรษมาแล้ว


แท้จริง"ดวงจันทร์ไม่ได้นวลผ่องแต่คือพื้นผิวที่ถูกอุกกาบาทบดขยี้จนไม่เหลือสภาพ"

ไม่ต่างจากผิวหน้าของมนุษย์


"ความงามเป็นความมหัศจรรย์รูปแบบหนึ่ง กล่าวตามจริงเกินกว่า

ความมหัศจรรย์เสียด้วยซ้ำ เนื่องด้วยไม่ต้องการคำอธิบายใดๆ

หากคือความจริงแท้ของโลก เฉกเช่นแสงอาทิตย์ หรือวสันตฤดู

หรือเงาแสงเงินที่พาดผืนน้ำมืดมิดที่เราเรียกว่า พระจันทร์"

ออสการ์ ไวลด์


"Beauty is a form of genius - is higher, indeed, than genius,

as it needs no explanation. It is of the great facts in

the world like sunlight, or springtime, or the reflection

in dark water of that silver shell we call the moon."

Oscar Wilde


หลังจากออกมาด้านนอกแล้ว เซ็นต์สมุดเยี่ยมชมเพื่อให้กำลังใจผู้จัดงาน





ถ่ายรูปเล่นที่หน้างาน

โซนตรงกลางมีผลิตภัณฑ์จากศิลปินผู้ผลิตผลงาน ไอเดียเก๋ๆโชว์อยู่ด้วยค่ะ

ตรงส่วนนี้ห้ามถ่ายภาพ งานของพวกเขาน่าชมมาก อย่าพลาดชมนะคะ





งานที่ผ่านมาแล้วและงานที่โชว์อยู่





มักมีผู้กล่าวเสมอว่าเหตุจากความจำเป็นในชีวิตมักเป็นจุดเริ่มของอุตสาหกรรม

It has always bee noted that the prodigies of industry .. spring from the heart of necessity.


ผืนดินแห้งแล้งที่สุดของรัสเซียมักตกอยู่กับชาวนาอิสระที่ยากจน กระทั่งต้องนำเข้า

ธัญพืชเพื่ออยู่รอด พวกเขานี้เองเป็นผู้ริเริ่มหัตถกรรมอย่างเป็นกอบเป็นกำ

In Russia, the poorest land fell to the 'black' peasantry-free peasants who sometimes had to import

grain to survive. And It was among them that craft industry tended to develop.


ชาวเขาแถบทะเลสาบคอนสแตนซ์ ในเทือกเขาสวาเบียนจูรา หรือซิลิเซียน

ในเยอรมันนี เริ่มทอผ้าลินินตั้งแต่ศตรราษที่ 15 เพื่อชดเชยพื้นที่เกษตรอันแร้นแค้น

The mountain dwellers around Lake Constance, in the Swabian Jura or the Silesian hills,

were linen- workers from the fifteeenth





ร้านขายผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรด้วยไอเดียหน้าทางเข้า

ไม่ได้ซื้อขอแค่เข้าไปชมก็ชื่นใจ





ขอบใจน้องแต๊ก ลูกสาวคนเล็กของย่าที่ชวนไปงานนี้

สมัยที่เขายังเด็กย่ามักจะพาเขาไปงานต่างๆ โดยบอกเขาว่า

"เราไปเก็ทไอเดียกัน"

เดี๋ยวนี้กลายเป็นน้องแต๊กเป็นคนชวนย่าไปงานเหล่านี้เสียแล้ว อิอิ






สั่งซื้อสมุดมด

สั่งซื้อสมุดสร้างสุข


Create Date : 13 ธันวาคม 2551
Last Update : 14 พฤษภาคม 2559 22:34:36 น. 19 comments
Counter : 4362 Pageviews.

 
ดีจัง ที่ emporium ใกล้ๆบ้านนี่เอง ต้องไปดูให้ได้

ปล. โหวตให้ best photo blog ค่ะ


โดย: ป้ามด วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:14:00:22 น.  

 
ขอบคุณคุณย่าดามากค่ะที่นำสาระสำคัญและสวยงามมาให้ชม


โดย: ดอกไม้ สีขาว IP: 125.26.134.16 วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:20:44:47 น.  

 

ย่าดาจ๋า ....
หนี่ฯ แว๊บ ๆ มาโหวดให้ย่าดา สาขา best photo blog

รัก ๆ เสมอค่ะ จุ๊บ ๆ


โดย: หนี่หนีหนี้ (แพรวขวัญ ) วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:22:16:59 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

แวะเข้ามาโหวตให้ด้วยความคิดถึงจ๊ะย่าดา


โดย: อุ้มสี วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:22:33:01 น.  

 
น่าเข้ไปดูนะค่ะเนี่ย


โดย: Candydolls วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:2:10:41 น.  

 
ภาพน่าสนใจมากเลยค่ะ ย่าจ๋า


โดย: โสมรัศมี วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:9:39:39 น.  

 
เข้ามาขอบคุณที่ไปเยี่ยมชมบล็อคค่ะ เพิ่งหัดทำ ยังไม่มีอะไรเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เห็นอะไรสวยๆหยิบใส่มั่วไปหมด

บล็อคน่าสนใจมากค่ะ อ่านวันเดียวคงไม่หมด ว่างๆจะแว๊ปเข้ามาชมบล็อคอีกนะคะ สวยดี ชอบไฟกระพริบที่เม้าท์ค่ะ ไม่ทราบว่าทำยังไงค่ะ


โดย: รักแท้มีอยู่จริง วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:10:03:55 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

แวะมาโหวตให้ย่าดาจ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:10:59:51 น.  

 
สวัสดียามบ่ายคะ

ขอบคุณกับงานดีดี ที่ควรไป




โดย: sysee วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:13:51:36 น.  

 
เพิ่งแวะไปดูมาวันนี้ค่ะ

จะบอกว่าอาหารวันนี้ปุกปุยมากๆเลย

น้องหมูขนปุยค่ะ

ชอบมัมมี่ม้ากมาก

จะตามไปดูทุกอาทิตย์เลยเพราะจะไปคอยส่องอาหารขึ้นรา

ดูเสร็จไปคิดบุฟเฟ่ต์เค้กต่อ...ห็นภาพมากๆ อึ๋ยยยยยส์

แต่เป็นนิทรรศการที่น่าดุมากเลยค่ะ จขบ.ไปมาวันไหนหรอคะ


โดย: littlephantom วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:21:44:48 น.  

 
แวะมาส่งเข้านอนคะ

ฝันดีนะคะ


โดย: weraj วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:22:40:25 น.  

 
แม่โสมมาโหวต 3 คะแนนเต็ม best photo block ค่า ย่าจ๋า


โดย: โสมรัศมี วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:8:38:53 น.  

 
วันนี้ได้ไปดูนิทรรศการนี้มา ตอนนี้ที่โต๊ะอาหารมีราขึ้นปกคลุมเต็มไปหมด เรียกว่าเห็นความอจีรังกันจะๆ ไปเลยค่ะ บรึ๋ย!!


โดย: น้องเอย IP: 61.90.141.2 วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:12:06:06 น.  

 
รูปมัมมี่น่ากลัวจังอ่ะค่ะย่าดา

ชอบนางแบบ น่ารักเหมือนเดิมนะค๊า

แวะมาโหวตให้เหมือนเดิมค่าย่าขา



คิดถึงเสมอ

เทคแคร์นะค๊า


โดย: Baby I love you วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:12:22:21 น.  

 

แวะมาชมภาพจ๊ะย่าดา
แล้วก็โหวตตามระเบียบจ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:14:22:02 น.  

 



แวะมาเยือนค่ะ
เชิญแวะเยี่ยมบล็อคลูกหมาหาบ้านบ้างนะคะ





โดย: ป้าตุ้ย (amornsri ) วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:15:25:15 น.  

 
ได้สาระดีจังค่ะย่าดา


โดย: Aisha วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:20:06:50 น.  

 
แวะมาขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตด้วยนะคะ ภาพนี้ได้รับรางวัลที่ 1 คะย่าดา
จริงๆต้องขอบคุณน้องคนในภาพที่จิตใจดี ที่ทำให้ชนะใจกรรมการมากกว่าเนอะ อิอิ

Linkภาพตอนรับรางวัลคะ
//www.pantip.com/cafe/camera/topic/O7278002/O7278002.html#59

เจิมไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวกลับมาอ่าน อิอิ ดึกทุกทีสิน่าพักนี้ อิอิ


โดย: eeh (คิตตี้น้อยสีชมพู) IP: 203.118.74.164 วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:21:32:18 น.  

 
โหวตให้แล้วค่ะย่า3รายการ


โดย: kai (aitai ) วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:23:15:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดา ดา
Location :
1 Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดา ดา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.