Bloggang.com : ดา ดา : เที่ยวญี่ปุ่น เมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. 2560 ตอนที่ 2 เที่ยววัดเมจิ,เดินเล่นแถบฮาราจุกุ

เที่ยวญี่ปุ่น เมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. 2560 ตอนที่ 2 เที่ยววัดเมจิ,เดินเล่นแถบฮาราจุกุ

ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง อับบล๊อกเที่ยวที่แล้วข้ามตอนไป จากตอน 1 กระโดด ไปตอน 3 เลย

มาเช็คหาตอน2 ถึงได้ทราบว่ายังไม่ได้อับบล๊อกตอนที่ 2 บล๊อกนี้จึงขอย้อนมาตอน2 ก่อนนะคะ

1.รุ่งขึ้นอีกวัน ออกจากห้องพักในตอนเช้า แวะถ่าย ดอกซากุระโซ่ ที่บานสวยใกล้ที่พัก

2.Sakurasou (Primula sieboldii) ฤดูใบไม้ผลิ

ที่เรียกว่าซากุระโซ่ ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า ดูเหมือนซากุระ เพราะมันมีรูปร่างเหมือนซากุระนั่นเองค่ะ

มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะแล้ว แต่ดอกนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักในญี่ปุ่น

ความหมายของดอกซากุระโซ่ในภาษาดอกไม้คือ ความปราถนา และ ความรักที่ยาวนาน

https://www.sugoijp.com/knowledge_details.php?id=61

3.หงส์ฟู่ข้างทาง เพิ่งเริ่มบานนิดหน่อย

หงส์ฟู่, หงส์ฟ้าจีมู่

ชื่อวิทยาศาสตร์ Loropetalum chinense (R. Br.) Oliv.

วงศ์ HAMAMELIDACEAE

4.ร้านนี้อร่อยหรือไม่ดูได้จากคิวอันยาวเหยียด

5.เปิดร้านประมาณ10โมงเช้าคิวก็หนาแน่นอย่างงี้ทุกวัน

6.วิวระหว่างทาง

7.เดินหาร้านอร่อยยามเช้า

8.ร้านนี้เพิ่งเปิดร้านพอดี แนะนำโดยอู่ชวนชิม

9.เรียกพลังด้วยเมนูนี้

10.หมี่เย็นก็อร่อยไม่แพ้กัน

11.จากนั้นก็เดินไปที่ ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) กัน ระยะทางไม่ไกลนัก

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) วัดที่คนโตเกียวเคารพนับถือและมาขอพรช่วงปีใหม่มากที่สุด

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu / Meiji Shrine) นั้นสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์อุทิศถวายแด่สมเด็จ

พระจักรพรรดิเมจิ (Emperor Meiji) และพระจักรพรรดินีโซเค (Empress Shoken)

ภายหลังจากที่ทั้งสองพระองค์นั้นสวรรคต

ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1920 โดยการร่วมมือของประชาชนทั่วญี่ปุ่นที่ช่วยกันบริจาค

ต้นไม้กว่า 100,000 ต้น เพื่อสร้างป่าแห่งนี้ขึ้น ศาลเจ้าเมจินั้นเป็นศาสนสถานในศาสนาชินโต

อันเป็นศาสนาเก่าแก่และดั้งเดิมของญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นศาลเจ้าแห่งนี้ถูกทำลายอย่างหนัก

ศาลเจ้าปัจจุบันนั้นได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ราวปี ค.ศ.1958

ด้วยงบประมาณที่เกิดจากการระดมทุนสาธารณะอีกครั้งนั่นเอง

อ่านข้อมูลเต็มได้จากเวบด้านล่างค่ะ

https://roojingjapan.com

12.

13.ชื่นชมธรรมชาติ ที่สมบูรณ์ ต้นไม้สูงใหญ่

14.แผ่กว้างทุกตารางของแผ่นฟ้า

15.โคมไฟ

16.ทางเดินด้านซ้ายเป็นทางสำหรับรถเข็น ปรับปรุงขึ้นมาใหม่ สำหรับอำนวยความสะดวก
สำหรับผู้ที่มีปัญหาในการเดิน

17.จุดไฮไลท์ที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปกัน

18.ตรงจุดนี้ ใครไม่ได้มาถ่ายรูป ถือว่าพลาดค่ะ

19.เป็นถังเหล้าที่ถูกส่งมาบูชาที่ศาลเจ้าแห่งนี้

20.เนื่องจากฝั่งขวามือที่เป็นถังเหล้า มีคนถ่ายรูปหนาแน่น ย่าจึงถ่ายที่ฝั่งซ้ายซึ่งเป็นถังเบียร์ไปก่อน

กะมาเก็บช๊อตถังเหล้าตอนขากลับ

21.แผนที่บอกเส้นทางรอบนอกซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการเดินนานมากกว่าจะถึงจุดหมาย

เหมาะสำหรับผู้มีเวลาทั้งวัน สำหรับกรุ๊บเราแพลนไว้ว่าวันนี้จะเก็บสองจุด คือศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)

และแหล่งช๊อปปิ้ง ฮาราจุกุ จึงขอผ่าน เดินเส้นทางสั้นๆเอา

22.ฤดูใบไม้ผลิsumi 墨 (น้ำหมึก) และ Ire いれ (ที่ใส่ของ )ที่ขอบทางเดิน

23.เก็บบรรยากาศ เสาโทริ Torii กับโฟร์กราวน์ต้นไม้ที่สูงใหญ่

24.ศาลาชำระล้าง ก่อนเข้าไปไหว้พระ ต้องมาล้างมือที่นี่ก่อนค่ะ

25.ปฎิบัติตามธรรมเนียม

26.แต๊กกับหลังคาสวยๆ

27.อาคารด้านใน

28.แต๊กกับบานประตูโบราณ สวยคลาสสิคมาก

29.หลังคาสุดเก๋

30.โชคดีที่ได้เห็นพิธีแต่งงานแบบโบราณภายในวัดแห่งนี้

31.เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยว ฝรั่งพกกล้องกระบอกยาวๆ ไปเก็บช๊อตกันใหญ่

ส่วนย่า พกกล้อง NX-3N ตัวจิ๋ว กล้องพอเพียงที่พกไปออกทริปครั้งนี้

32.เจ้าสาวในชุดครีมขาว

33.ตื่นเต้นมาก ได้มาเก็บช๊อตแบบนี้ ขอซูมอินเจ้าสาวหน่อย เครื่องแต่งกายเธอสวยมาก

34.ตามไปถ่ายอย่างไม่ลดละ มีทั้งกล้องใหญ่ กล้องเล็ก รัวกันไม่หยุดเลยทีเดียว

35.กำลังจะเดินลับไปแล้ว พ้นเขตุประตูนี้ไป ผู้ไม่เกี่ยวข้อ ห้ามเข้าค่ะ

36.โซนเขียนคำอธิฐาน

ซุ้มนี้ก็คือซุ้มสำหรับแขวนบนแผ่นไม้ Ema สำหรับขอพร

ใครที่ต้องการเขียนคำขอพรสามารถซื้อแผ่นไม้ได้ในราคา 500 เยน ค่ะ

38.เขียนคำขอพรลงบนแผ่นป้าย

ทางศาลเจ้ามีปากกาให้พร้อม เขียนเสร็จแล้วอธิษฐาน จากนั้นก็เอาแผ่นไม้มาแขวน

จะเห็นว่า คำขอพรบนแผ่นไม้มีหลากหลายภาษา

39.วัดด้านในมีคนมาถ่ายพรีเวดดิ้ง

40. ชุดเจ้าสาวสวยจัง

41.ที่จำหน่ายป้ายขอพรและของที่ระลึก

โซนทำนายโชคชะตา เรียกว่า Omikuji (คล้ายๆ กับการเสี่ยงเซียมซีในบ้านเรา)

42.ตรงนี้ห้ามเข้าค่ะ เขากำลังเซทเพื่อจะถ่ายรูปหมู่งานแต่งค่ะ
<
ใช้ซูมอินเข้าไปกะจังหวะผู้จัดคิวเดินออก เก็บช๊อตอย่างรวดเร็ว

43.ถ่ายกับภาพถ่ายประวัติวัด เสียดายว่าอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก จึงได้แค่เก็บช๊อตไว้เป็นที่ระลึก

44.ระหว่างทางเดินกลับ พิสูจน์อีกครั้งกับความหนาแน่นของต้นไม้

45.ขากลับฝั่งเหล้าสาเก คนก็ไม่น้อยลงเลย

46.ก็ฝั่งถังเหล้าสาเก ลายสวยกว่าตั้งเยอะ คนเลยหนาแน่นเป็นพิเศษ

47.จึงแก้ปัญหาด้วยการ ถ่ายแนวตั้งเพื่อจะได้ไม่ติดคนรอบข้าง

48.เก็บช๊อตขำๆ อย่าห้ามซิเค้าจะเอา เค้าจะเอา

49.เดินทะลุมาถนนนี้เพื่อไปยังถิ่นฮาราจุกุ

50.เด็กสาวใส่มาลัยดอกไม้กันเป็นทีม น่ารักดี

51.กร๊าฟฟิตที่มูลี่ร้าน

52.ดอกไม้สวยๆกับทางเก๋ๆ

53.ดอก mimoza ออกดอกบานพรูมาก สวยสุดใจ

54.รถสวยดอกไม้(mimoza)สวยนางแบบก็สวย อิอิ

55.ภาพวาดเก๋ๆที่บันใด

56.ถิ่นสุดชิค ถ่ายรูปเล่นกัน เพราะเราไม่ช๊อป

57.อีกแห่งลายสวยดี

58.ทรงตัวเก่งจัง ชอบ ๆ

59.ย่าน-Shibuya-Jingumae

60.สนุกสนานกับการถ่ายรูปเล่น

61.ร้านนี้สีหวานเชียว

62.ซากุระดอกแรกของทริปนี้ ฮา

63.ดอกชิบะซากุระ (Shibazakura) หรือดอกไวท์มอส (White Moss)

64.Tak-กับแบคกราวน์อาร์ดๆ

65.กับแบคกราวน์เขียวๆ

66.ซากุระเพิ่งจะเริ่มแย้มบาน

67.นายแบบและนางแบบประจำทริป

68.แวะกินเกี้ยวเจ้าอร่อย

69.ร้านค้าส่วนใหญ่จะมีกระถางดอกไม้ไว้เป็นจุดดึงดูด

https://f.ptcdn.info/105/056/000/p3y0fngs7yPPGAQo5ld-o.jpg'>

70.เดลฟิเนี่ยม Delphinium เพิ่งแย้มบาน

71.กะหล่ำดอกออกดอกแล้วรูปทรงน่ารัก

72.ไซคลาเมน-กับกะหล่ำดอก

73.สวยมาก ขอบอก

74.ร้านนี้เอาสเก็จบอร์ดมาทำม้านั่ง

75.ดิสเพลย์เก๋ๆหน้าร้าน

76.ユキヤナギ（雪柳)หรือ Spiraea thunbergii

ยูกิยานางิ (Yukiyanagi) เป็นดอกไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองจีน ดอกเป็นสีขาวเล็กๆ บานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

ตามข้อมูลในวิกิพีเดีย ยูกิยานางิ เป็นต้นไม้ที่โตได้โดยไม่ต้องประคบประหงมมาก ต้นสูงได้ถึง 1.5 เมตร

กิ่นก้านยาวๆเรียวๆ ย้อยลงมา และมีใบเล็กไปเต็มไปหมด

ดอกยูกิยานางิจะบานช่วงเดือนมีนา ถึง พฤษภา ตอนที่ออกดอกจะเป็นสีขาวไปทั้งกิ่งเลยค่ะ

ดอก 5 กลีบ สีขาวหิมะ ก็เลยได้ คำว่า ยูกิ ที่แปลว่าหิมะเข้ามาในชื่อญี่ปุ่นด้วย

ยูกิยานางิ นี้มีอยู่ 3 พันธุ์

1. fuji no Pink ดอกตูมจะเป็นสีชมพูและค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวเมือบาน

2. โออุกน ยูกิยานางิ (Ougon Ukiyanagi)ใบจะเหลือง ยาวและแหลมกว่ายูกิยานางิพันธุ์อื่น

พอเข้าฤกูใบไม้ร่วงใบก้เปลี่ยนเป็นสีแดง มีดอกสีขาวเลย

3. Kamatawase เป็นพันธู์ที่เอามาทำเป็นดอกไม้ตัดกิ่งขาย

ส่วนกิ่งก้านจะย้อยๆ ห้อยๆลงมา ดูคล้ายต้นหลิว ที่แปลว่า ยานางิ ในภาษาญี่ปุ่น

77.ร้านน่ารัก

78.เดินถ่ายรูปเล่นแถวนี้ รอเพื่อนไปช๊อป

79.ไอเดียการเก็บจักรยาน

80.ร้าน Flamingo ใกล้ค่ำ แสงไฟเริ่มมีสีสัน

81.Tak-ทำท่า Mini Heart ถ่ายกับป้ายร้านหวานๆ

82.All-in-blue

83.ป้ายชื่อร้านเก๋ๆ Happyness

84.เทรนเสื้อผ้านักเรียนกำลังฮิต

85.ร้านเก๋ๆ กับแสงไฟยามค่ำ

86.ฝาท่อระบายน้ำลายซากุระ

87. Tsubaki (Camellia) คามิเลียดอกแย้ม

88.แต๊กกับโคมใหญ่หน้าร้าน

89.เจ้าตูบแสนรัก

90.จบproject-เดินถ่ายรูปเล่น

91.โคมไฟประดับด้านหลังเก๋ดี

92.ดูวิธีเดินสายไฟของเขาชัดชัด เก๋ไหม

93.ขากลับแวะซื้อdenish-Bar-อร่อยมาก

ขอจบตอนสองแต่เพียงเท่านี้ bye bye พบกันใหม่ตอนสาม ถ้ายังไม่เบื่อกันซะก่อน

คลิ๊กดูดอนแรก กับตอนสามได้จากลิงค์ด้านล่างค่ะ
เที่ยวญี่ปุ่น เมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. 2560 ตอนที่ 1

เที่ยวญี่ปุ่น เมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. 2560 ตอนที่ 3 ชมซากุระริมน้ำ,เที่ยวเมืองโบราณ

Create Date : 10 เมษายน 2561

Last Update : 28 เมษายน 2561 22:53:58 น.

7 comments

Counter : 1156 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณtoor36, คุณKavanich96, คุณข้ามขอบฟ้า

เย้ อับได้แล้ว

โดย: ดา ดา

วันที่: 10 เมษายน 2561 เวลา:20:16:59 น.

ลงรูปเยอะจุใจมาก ผมค่อนข้างชอบฝั่งโอซาก้ามากกว่า (รู้สึกว่ามันเดินง่ายกว่า ไม่ได้ทำการบ้านมาก

ผมสายช็อป + กิน (ฮา) กินตลอดทางครับ ชุดนักเรียนเค้าน่ารักดีเนอะ