|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
คนขายตั๊กแตน [กระทู้แนะนำของห้องเฉลิมไทย]
เพิ่งมีโอกาสได้อ่านกระทู้แนะนำสองกระทู้นี้
คุณคนขายตั๊กแตน โดย คุณลูกคิดแห่งความยุติธรรม
และ
คนขายตั๊กแตน (2) โดย คุณ Angel_Gracious
แล้วรู้สึกดีมากๆ เลยเก็บมาไว้ในบล็อกค่ะ ^^
รูปทั้งหมดมาจากกระทู้ทั้งสองนะคะ โดยที่ไอซ์ย่อรูปของคุณ normal mantis ลงมาเล็กๆ และตัดส่วนชื่อออก เพราะพื้นที่ขาวมันกว้างอะค่ะ แหะๆ เป็นการเสียมารยาทอยู่เหมือนกัน ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
คุณคนขายตั๊กแตน โดย คุณลูกคิดแห่งความยุติธรรม
หลายเดือนก่อน ผมเดินผ่านไปธุระแถวมาบุญครอง บังเอิญได้เจอ ผู้ชายคนนึงนั่งพับตั๊กแตนที่ทำจากใบลานอยู่ข้างทาง เลยอุดหนุนไปหนึ่งตัว ผู้ชายคนนี้ยิ้มให้ผมด้วยอารมณ์แบบดีใจแล้วดูใจดีมาก เป็นรอยยิ้มที่ผมไม่ได้เห็นแบบนี้มานานมากแล้ว ป้ายที่เขาห้อยบนหน้าอก มีข้อความว่า
''ท่านที่มีใจเมตตาสงสาร ช่วยซื้อ ของผมหน่อย หาเงินรักษาแม่ ผมเป็นคนใบ้พูดไม่ได้ ขายตัวหละ 20 บาทครับ''
ผมไม่รู้หรอกนะว่าเขา Fake หรือไม่ แต่ผมก็ยังอยากให้หลายๆท่านได้เห็นรอยยิ้มดีๆแบบนี้ซึ่งหายากในสังคมไทยปัจจุบัน
เสาร์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเจอเขาอีกครั้งที่คลองถม ผมอยู่ชั้นสองบนลานจอดรถ บังเอิญมองลงมาเห็นคุณคนขายตั๊กแตนเดินขายของ มือนึงถือก้านกล้วยที่เต็มไปด้วยตั๊กแตนยื่นให้คนเดินผ่านไปผ่านมาตลอด อีกมือนึงถือไม้เท้าค้ำจุนตัวเอง ไม่มีใครสนใจ หรือเหลียวมองกันเลย
บ่อยครั้งที่ผมมักจะได้ยินประโยคที่ว่า ''ทำไมขอทานพวกนี้ วันๆถึงไม่ทำมาหากิน มานั่งขอเงินชาวบ้านใช้ไปวันๆ" แต่พอกลุ่มบางคนสู้ชีวิตไม่มานั่งขอทาน ทำไมถึงเดินหนีกันซะส่วนใหญ่ ไม่เห็นช่วยกันบ้างหละครับ อย่าปล่อยให้คนกลุ่มนึงสิ้นหวังกันเลย ช่วยกันนิดกันหน่อยก็ยังดีครับ เอาเป็นว่าท่านใดอยากเห็นรอยยิ้มที่ดูแล้วสดชื่นๆ เห็นคุณคนขายตั๊กแตนเดินผ่านเมื่อไหร่ก็ฝากอุดหนุนเขาด้วยละกันครับ ขอบคุณครับ
จากคุณ : ลูกคิดแห่งความยุติธรรม - [ 27 ก.ค. 50 18:51:12 ]
คนขายตั๊กแตน (2) โดย คุณ Angel_Gracious
ที่มา :
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อมกราคม 2550 เขียนโดย คุณตี๋ Flash Bang
และได้รับการตีพิมพ์เรื่องเดียวกันนี้ลงคอลัมน์ Online for You นิตยสาร Weekly Online ฉบับที่ 199 ในหัวข้อ มหาเศรษฐีแห่งสยาม เขียนโดยคุณ Ethan B
*************************
เหนื่อยครับ ล้าสุดๆ ไปเลย
ความเมื่อยและอ่อนล้าเข้าสิงทุกส่วนของร่างกายกันเลยทีเดียว แม้จะยืนไม่นานเท่าน้องๆ ร่วมทีมซึ่งมาด้วยกัน แต่สังขารเหมือนจะฟ้องว่าร่างกายผมไม่แข็งแรงมากพอจะทนต่อการยืนท่ามกลางอากาศร้อนและผู้คนที่เดินขวักไขว่พลุกพล่านไปมา
วันเสาร์ที่ 27 มกราคม พวกเรายกทีมกันไปปักหลักที่บริเวณสยามสแควร์ ตรงสะพานทางลง BTS และเซ็นเตอร์พอยด์ มีทีมงานประมาณ 5-6 ชีวิต และน้องพริตตี้ SF Girls ยืนเรียกให้ผู้คนในละแวกนั้นที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ซื้อดอกป๊อปปี้ที่พวกเราตั้งใจรับมาจากมูลนิธิทหารผ่านศึกเพื่อจำหน่ายหารายได้สมทบเพื่อพี่ๆ ทหารไทย
ไปกันตั้งแต่ช่วง 10 โมงเช้า ถึงเวลา 5 โมงเย็นโดยประมาณ ในมือมีตะกร้าบรรจุดอกไม้จำลองกลีบเด่นด้วยสีแดง เกสรทำจากผ้าสีเขียว ซึ่งดูจากภายนอกเป็นของที่ระลึกซึ่งหาค่าใดๆ ไม่ได้ เป็นดั่งของตอบแทนสำหรับผู้มีใจบุญช่วยกันอุดหนุนเพื่อนำรายได้เข้ากองทุน เพียงดอกละ 10 บาท เท่านั้น
แต่เบื้องหลังคือเงินที่จะมีส่วนช่วยทหารผ่านศึกที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสู้รบจนทุพพลภาพไม่สามารถช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้ ซึ่งบ่อยครั้งพวกเขาเป็นเหมือนผู้ปิดทองหลังพระ ทำคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดินเกิดโดยไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทน นอกจากรอยยิ้มและความสงบสุขของคนไทย
ตลอดทั้งวันได้มีผู้คนให้ความสนใจเข้ามาแวะเวียนพูดคุยกับพวกเรา อีกทั้งยังช่วยกันทำบุญกันมากมายจริงๆครับ
ต้องขอขอบพระคุณสำหรับเงินทุกบาทที่ช่วยกันในครั้งนี้ด้วยครับ เพราะเงิน 10 บาท ที่ทุกท่านช่วยกันทำบุญอาจดูเล็กน้อย แต่เมื่อรวมกันเป็นปริมาณมาก จะกลายเป็นเงินที่มีส่วนช่วยเหลือเหล่าทหารผู้ยากไร้ ซึ่งเป็นผู้เสียสละและกล้าหาญในการออกสู้รบ เป็นรั้วแนวหน้าของชาติ นำมาซึ่งความสงบสุข
มีหลายท่านทีเดียวครับ ที่หยิบยื่นสตางค์ให้พวกเราโดยไม่ต้องการดอกป๊อปปี้ตอบแทน ขอให้บุญกุศลได้นำพาท่านพบพานแต่ความสุข และสมหวังในทุกประการครับ พวกเราซึ้งใจมากๆ ครับ
ตลอดทั้งวันพวกเราขายดอกป๊อปปี้ได้จำนวนเงินรวม 5,000 บาท! เกินคาดไปพอสมควรครับ เพราะในเบื้องต้นพวกเราคาดการณ์ว่าจะขายได้น้อยกว่านี้ สำหรับพวกเราแล้วความเหนื่อยล้านั้นหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อได้นับจำนวนเงินทั้งหมดซึ่งจะนำไปช่วยเหลือเพื่อการกุศลในครั้งนี้
ในบรรดาจำนวนดอกป๊อปปี้ที่พวกเราขายได้ มีอยู่ 1 ดอก ครับ ที่พิเศษกว่าดอกอื่น
พวกเรารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก เมื่อมีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งมายืนข้างๆ พวกเรา ไม่มีสำเนียงเสียงใดเปล่งออกจากปากของเค้า มือขวาของเค้ากำต้นกล้วยที่มีใบลานสานเป็นแมลงเสียบเต็มไปหมด
หน้าตาดูอิดโรย เปรอะเปรื้อนไปด้วยคราบไคล ผมหยิกยาวฟูเต็มศีรษะ ในมือขวากำเงินเป็นแบงค์สีเขียวบ่งบอกมูลค่า 20 บาท ผมถูกสะกิดจากน้องๆ ทีมงานให้มองไปที่ชายผู้นั้น การทรงตัวของเขาเซไปมา ด้วยเพราะขาข้างหนึ่งของเค้าไม่สมประกอบต้องอาศัยไม้เท้ายันหลักให้ยืนปักหลักอยู่ได้อย่างมั่นคง มือข้างที่กำเงินยังคงโบกไปมาพร้อมชี้ตรงมาที่ดอกป๊อปปี้สีแดงซึ่งวางเรียงรายอยู่ในตะกร้า
ใจหนึ่งพวกเราไม่กล้ารับเงินของเขา แต่ด้วยแววตาที่เป็นประกายสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่จะช่วยเหลือด้วยการซื้อดอกป๊อปปี้เพียง 1 ดอก หลังจากทอนเงินให้ ผมสังเกตเห็นรอยยิ้มของเขาที่พยายามบรรจงติดดอกไม้สีแดงอย่างตั้งใจ
ความประทับใจในส่วนลึกก้นบึ้งของหัวใจเปลี่ยนให้ผมมองเห็นชายคนนี้ในมุมมองใหม่ เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่คนพิการที่หาเลี้ยงชีพด้วยการจำหน่ายใบลานสานเพียงตัวละ 20 บาท อีกทั้งเป็นใบ้พูดไม่ได้ ขาเสียไปหนึ่งข้าง
ผมเห็นความยิ่งใหญ่ของน้ำใจ มองผ่านเข้าไปเห็นตัวตนที่แท้จริงของบุคคลที่ควรได้รับการยกย่องและชื่นชมจากใจจริงจากการแสดงออกที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่นแม้ตนเองจะยากลำบากเพียงใดก็ตาม "คุณค่า" ที่ชายผู้นี้ซ่อนมันไว้ภายในรูปลักษณ์ด้านนอกส่องประกายออกมาจากใจของพวกเราทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น
พวกเรายืนมองเค้าเดินกระเผลกจากไปได้ไม่นานนัก ก็ต้องประหลาดใจมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว กับการกระทำของชายคนเดิม
เขาเดินไปหาหญิงชราอีกคนที่เดินร้องเพลงหาเลี้ยงชีพด้วยแววตาที่เกือบบอดสนิท จากนั้นบรรจงหยิบเงินที่เขาหามาได้อย่างยากลำบากจากการขายใบลานสานลงในกล่องของหญิงชราผู้นั้น
เสียงเหรียญกระทบกับกล่องโลหะ อาจไม่ดังพอกับเสียงรถยนต์ในระแวกนั้น แต่มันดังก้องเข้ามาที่หูของพวกเรา
ความช่วยเหลือเพื่อเพื่อนร่วมโลกได้เดินทางมาถึงจากน้ำมือของคนธรรมดาคนหนึ่ง ความยากลำบากสอนให้ทั้งเขาและพวกเราได้รู้ซึ้งถึงการ มองเห็น ซึ่งกันและกันในสังคม ให้พวกเราได้เรียนรู้ว่าอีกด้านหนึ่งของความโหดร้ายจากทุกสิ่งทุกอย่าง มีด้านสว่างที่ส่องมาถึงเสมอ
เขาอยู่ในสถานะที่ยากลำบากทั้งความเป็นอยู่และกายใจ พวกเราที่ยืนอยู่และเดินผ่านไปเป็นปุถุชนที่สมประกอบ ซึ่งบ่อยครั้งละเลยที่จะหยิบยืนความช่วยเหลือให้แก่คนที่ด้อยโอกาสกว่า และคิดว่าเป็นวิบากกรรมที่พวกเขาได้ก่อร่างสร้างไว้แต่ชาติปางก่อน
ใครที่อยู่ในสถานะที่ช่วยเหลือได้ หากไม่เป็นภาระจนเกินไป เงินเพียง 10-20 บาท สร้างโอกาส เพิ่มอนาคตให้กับคนที่ยังต้องการความช่วยเหลือเหล่านี้อยู่
ดอกป๊อปปี้ในวันนี้สร้างเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ให้กับพวกเรา ความช่วยเหลือนั้นไม่ได้มาจากเพียงกำลังเงินที่มีเหลือเฟือและใจที่เอื้อเฟื้ออยากเผื่อแผ่ แต่มากจากโอกาสที่เราเป็นผู้สร้างให้กับตัวเราเอง เรื่องเล็กน้อยนี้ดูยิ่งใหญ่ในใจของพวกเราเป็นอย่างมาก
วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ผมนอนหลับอย่างมีความสุขครับ หัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก ลืมแม้กระทั่งความเหนื่อยที่ร่างกายมันชอบฟ้องว่าไม่ไหวอยู่บ่อยครั้ง
แต่วันนี้หายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้เห็นคนที่ลำบากกว่าแสดงถึงพลังน้ำใจที่น่ายกย่องเช่นนี้ ที่โต๊ะทำงานของผมก็พลอยประดับไปด้วยใบลานเป็นรูปตั๊กแตนต้องลมไหวไปมา ยามผมท้อใจเรื่องใด หันไปมองเจ้าแมลงที่สร้างจากธรรมชาติตัวนี้ ก็เหมือนมีแรงได้ลุกขึ้นสู้ต่อไป
27 มกราคม 2550 ตี๋ Flash Bang
จากคุณ : Angel_Gracious - [ 7 ส.ค. 50 11:44:36 ]
เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ เราได้จัดงานอีเว้นท์ ขายน้ำดื่มน้ำใจให้บริษัทหนึ่งตรงทางขึ้นรถไฟฟ้าสยาม ทางบริษัทเราจ้างน้องโบ โอโซนกับน้องจั๊กจั่น อคัมย์สิริมาช่วยขายน้ำ เอารายได้ช่วยการกุศล ขวดละ 20 บาท เราเห็นน้องจั๊กจั่นถือขวดน้ำเข้าไปชักชวนคนที่ผ่านไปมาช่วยการกุศล บางคนซื้อ บางคนไม่ซื้อเป็นเรื่องธรรมดา มีสาวๆแต่งตัวดีมากกลุ่มนึงเดินมา น้องจั๊กจั่นเลยตรงเข้าไปชวนเค้าทำบุญ ทั้งกลุ่มขอถ่ายรูปน้องจั่นแต่ไม่ร่วมทำบุญ ระหว่างนั้น พี่คนขายตั๊กแตนคนนี้แกเดินเข้ามาหาน้องจั่น แล้วควักแบงค์ 20 มายื่นให้น้องจั่น บอกว่าขอร่วมทำบุญด้วย 1 ขวด เชื่อไม๊คะ น้องจั๊กจั่นยืนร้องไห้กลั้นไม่อยู่อยู่ตรงนั้นเลย แล้วน้องจั่นเค้าก็หยิบเงินให้พี่คนขายตั๊กแตนไป 2000 บาทบอกว่าช่วยรักษาคุณแม่และให้พี่ไว้ซื้อข้าวซื้อน้ำทาน คราวนี้พี่คนขายตั๊กแตนน้ำตาใหลไปด้วยอีกคน น้องจั่นพูดว่า คนหน้าตาดี แต่งตัวสวยจิตใจยังแพ้พี่ชายคนนี้เลย
วันนั้นพวกเราเห็นความแตกต่างทางจิตใจของคนชัดเจนเลย ขอบคุณ จขกท ที่ทำกระทู้นี้นะคะ เราเองเจอพี่เค้าทีไรก็ช่วยอุดหนุนทุกทีเหมือนกัน :)
จากคุณ : หน้าสวยใจดำ (devillish girl) - [ 7 ส.ค. 50 12:48:50 ]
อ่านแล้วรู้สึกดีค่ะ มีกำลังใจทำดีขึ้นอีกเยอะ 555 ^^
คนที่ลำบาก พิการ ยังทำดีได้เลย ใครๆ ก็ทำดีได้นะคะ ไม่ต้องรอเวลา ^^
Create Date : 09 สิงหาคม 2550 |
Last Update : 9 สิงหาคม 2550 13:40:14 น. |
|
14 comments
|
Counter : 8431 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ann_269 วันที่: 9 สิงหาคม 2550 เวลา:13:00:41 น. |
|
|
|
โดย: wanwitcha วันที่: 9 สิงหาคม 2550 เวลา:13:09:26 น. |
|
|
|
โดย: ปัญญ์ปรียา IP: 124.120.27.176 วันที่: 9 สิงหาคม 2550 เวลา:14:38:03 น. |
|
|
|
โดย: s.o.s วันที่: 9 สิงหาคม 2550 เวลา:15:10:43 น. |
|
|
|
โดย: ณ มน วันที่: 9 สิงหาคม 2550 เวลา:15:42:28 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าคงสั่งมา วันที่: 9 สิงหาคม 2550 เวลา:18:42:22 น. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 9 สิงหาคม 2550 เวลา:23:33:03 น. |
|
|
|
โดย: Crystal IP: 221.128.85.50 วันที่: 10 สิงหาคม 2550 เวลา:10:14:20 น. |
|
|
|
โดย: ปูจ๋า IP: 222.123.17.240 วันที่: 11 สิงหาคม 2550 เวลา:15:34:02 น. |
|
|
|
โดย: noodamri IP: 125.26.18.254 วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:14:55:30 น. |
|
|
|
โดย: กระปุกกลิ้ง วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:15:31:29 น. |
|
|
|
โดย: กริดสะหนา IP: 202.69.140.6 วันที่: 15 สิงหาคม 2550 เวลา:15:19:03 น. |
|
|
|
โดย: นางกอแบกเป้ วันที่: 19 สิงหาคม 2550 เวลา:23:46:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ ว่าคนที่เขาลำบากกว่าเรายังมีอีกเยอะ ถึงเขาลำบากแต่ยังมีน้ำใจให้กับเพื่อนมนุษย์ที่แย่กว่าเขาอีก ตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก ขนาดคนพิการยังทำดี แล้วเหตุใดคนที่สมประกอบอย่างเราๆ ยังไม่ทำอีก