ก่อนปลูกต้นรักในออฟฟิศ...คิดให้รอบคอบ
แม้จะมีใครบอกว่าต้นรักนั้นปลูกขึ้นได้ทุกที่ ทว่าหลังจากโลกเปลี่ยนไป ความรักในสถานที่อย่าง ที่ทำงานนั้นกลับกลายเป็นทางสองแพร่งระหว่าง “เรื่องดีๆ” กับ “เรื่องควรระวัง”
ใครต่อใครเฝ้าเตือนกันนักหนาว่าหากคิดจะปลูกต้นรักสักกอละก็ อย่ามองหาในออฟฟิศอยู่เลย เพราะต้นอาจเฉาตายหรือกลายพันธุ์เป็นพิษได้ในภายหลัง ถ้าไม่เชื่อก็ลองฟังทั้งข้อดีและ ข้อเสียสักหน่อยก็แล้วกัน เพื่อชั่งใจก่อนจะกระโจนดิ่งลงห้วงรักในออฟฟิศครั้งนี้
เรื่องดีๆ
1.ความรักจะทำให้คุณอยากตื่นเช้าไปถึงที่ทำงานเร็วๆ ออฟฟิศน่าเบื่อจะกลายเป็นเกาะสวรรค์มัลดีฟส์ไปโดยพลัน คุณจะรูสึกมีความสุขกับการทำงานตลอดวัน แถมมีแรงทำโอทีต่อโดยไม่ปริปากบ่นอีกต่างหาก 2.แค่สบตาเขาก็ชื่นมื่นไปทั้งวัน กลายเป็นหญิงเก่งทำงานดีจนเจ้านายชมเปาะ 3.สามารถส่งของขวัญให้ถึงมือไม่ต้องจ้างเมสเซนเจอร์ แอบส่ง sms ให้กันข้ามโต๊ะก็ได้ ความรักพัฒนาเร็วกว่าอยู่คนละที่ 4.ผู้ชายบางคนอาจดูแสนดีถ้าเรามีโอกาสเห็นแต่มุมที่เขาอยากให้เราเห็น แต่ถ้าอยู่ในที่ทำงานเดียวกัน คุณจะได้เห็นตัวตนครบทุกด้านของเขาก่อนตัดสินใจ ซึ่งดีกว่าเลือกแล้วค่อยมารู้ทีหลัง 5.ตอนอยู่กับคุณกับตอนอยู่ในหมู่เพื่อนผู้ชายกันน่ะไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่นักหรอก ถ้าอยู่ในที่ทำงานเดียวกันคุณจะรู้ว่าเขาคิดอะไร มีทัศนคติเรื่องต่างๆ แบบไหน เพื่อนสนิทที่เขาคบก็พอจะบอกได้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร เชื่อเถอะว่าคนที่ไม่ได้ชอบอะไรคล้ายกันไม่คบกันซี้ปึ้กหรอก 6.คุณจะมีคนปลอบโยนให้กำลังใจคอยให้คำปรึกษาได้เสมอเวลาอยู่ในที่ทำงาน และเวลาเขามีปัญหาคุณก็จะรู้เรื่องราวดีและคอยปลอบใจเขาได้เสมอเช่นเดียวกัน 7.ถ้าเขาเป็นหนุ่มฮอตประจำออฟฟิศ แล้วคุณสามารถคว้าหัวใจเขาได้ คุณก็จะรู้สึกปลื้มและยังกลายเป็นสาวเก๋ มีสาวๆ หลายคนต้องอิจฉาตาร้อนทีเดียว 8.ช่วยขจัดปัญหาอุปสรรคเรื่องรักแท้แพ้ระยะทาง ฝนตกรถติดก็ไม่เป็นปัญหานัดเดทไปดินเนอร์ หรือไปดูหนังสองต่อสองของคุณก็ยังมีโอกาสสูงอยู่เสมอ
เรื่องควรระวัง
จะมีเรื่องไหนในออฟฟิศน่าสนใจเท่ากับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ยิ่งถ้ามีคนเห็นคุณกุ๊กกิ๊กกันเกินขอบเขตในช่วงเวลาทำงาน ภาพลักษณ์ของคุณก็จะติดลบได้
คำนินทาว่าร้ายจากพวกชอบซุบซิบจะทำลายโอกาสก้าวหน้า ยิ่งถ้าหัวหน้าของคุณได้ยินข่าว ลอยเข้าหูว่าคุณอินกับเรื่องรักมากกว่างาน ก็อาจเริ่มจับผิด ยากที่เขาจะมอบความไว้วางใจให้รับผิดชอบในหน้าที่การงานทั้งที่คุณมีฝีมือ
คนอื่นอาจมองว่าคุณลำเอียง ถึงแม้คุณจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ย่อมมีคนคอยต้องจับผิด
ถ้าคุณกับเขาอยู่ในช่วงสวีตหวานแหวว แล้วมัวเพลิดเพลินกันสองคนจนลืมเพื่อนฝูง คุณอาจไม่มีเพื่อนหลงเหลือเลย กลายเป็นคนนอกของสังคมออฟฟิศไป
คุณจะต้องพบหน้าเขาตลอดวัน วันละหลายชั่วโมง เพราะฉะนั้นคิดให้ดี โดยเฉพาะถ้าเป็นหนุ่มในแผนกเดียวกัน เมื่อช่วงมองเห็นโลกเป็นสีชมพูผ่านไปแล้ว ส่วนมากฝ่ายชายมักเริ่มเรียกร้องขอเวลาอยู่กับเพื่อนบ้าง
เวลาโกรธกันบรรยากาศในที่ทำงานจะพลอยน่าอึดอัดใจไปด้วย แถมยังมีพยานรู้เห็นเป็นตัวสร้างแรงกดดันดีๆ นี่เอง
นึกถึงเวลาเลิกกันดูสิ คุณภาพชีวิตของคนเราจะดีมาก ถ้าเลิกกับใครแล้วไม่ต้องเห็นหน้าเขา อีกต่อไป แต่นี่ต้องมาทนเห็นหน้ากันหรือต้องฝืนใจพูดคุยกันก็เป็นมลพิษชัดๆ
ถ้าเลิกกันแล้วเขาหันไปจิ๊จ๊ะกับสาวอื่นในออฟฟิศให้เห็นตำตา คุณก็มีเรื่องให้ทำใจอีกเรื่องถัดจากข้อที่แล้ว
ถ้าคุณเป็นคนขอเลิกแล้วทำให้เขาเจ็บใจ หากเขาเป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้นเขาก็อาจหาเรื่องเล่นงานคุณหรือพูดถึงคุณในทางเสียๆหายๆได้
ถ้าคุณไม่ใช่สาวจิตเข้ม ปัญหารักที่เกิดขึ้นอาจบั่นทอนสุขภาพจิตจนประสิทธิภาพการทำงานของคุณลดน้อยถอยลง ซึ่งคงไม่เป็นผลดีกับตัวคุณ และอาจเป็นไปได้ว่ากว่าจะฟื้นคืนก็สายเสียแล้ว
คำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ
1.ถ้าไม่ได้คิดจะจริงจังกับใครก็ทิ้งเรื่องนี้ไปแล้วรักษาภาพลักษณ์ของสาวทำงานไว้ดีกว่า 2.ระวังการแสดงความหวานของคุณจะทำให้คนอื่นรู้สึกอึดอัด อย่าแสดงออกมากเกินไป 3.แบ่งสัดส่วนเวลาให้ดีระหว่างคนรักและการสมาคมกับเพื่อนร่วมงาน 4.ถึงแม้คุณจะไม่ได้ทำผิดอะไรที่จะรักใครสักคน แต่ควรจะให้คนอื่นรับรู้น้อยที่สุด 5.ตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้ดีดังเดิม หรือดีกว่าเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นๆ รอบตัวคุณคิดว่ามีรักแล้วทำให้งานรวน 6.ถ้าเขาคือคนที่ใช่แล้วจริงๆ ก็อย่ากลัวมากเกินไป ถ้าคุณเป็นคนมีสติมีเหตุผลอยู่เป็นทุน แต่ถ้าคุณเป็นพวกอารมณ์อ่อนไหวและเอาแต่ใจตัวเอง เรื่องรักในที่ทำงานก็ไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไรเพราะว่าต้องจ่ายแพงเกินจำเป็น
โดย พรดี จันทรเวชชสมาน
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2552 12:36:23 น. |
Counter : 655 Pageviews. |
|
|
|